วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 1

บทที่ 1 - ถึงโซลแล้ว!

ร่างเขาถูกล้อมด้วยแสงที่ลอยมาจากแอดมินแห่งห้วงมิติ ทั้งตัวสลายกลายเป็นระดับเซลล์ จากนั้นก็ได้รับความรู้สึกแปลกพิกลเมื่อเซลล์กระจายตัวไปพร้อมกับสติเขาเข้าสู่ความมืด

เขาอยู่ในที่ๆหนึ่งที่ไกลแสนไกล ที่ๆแทบทำให้เขาหลงลืมเวลา เขาพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาสติไว้

'กัง-วูจิน! อย่าหลับนะ'

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่แสงเริ่มเรืองขึ้นจากความมืด แสงมุ่งมาทางเขาแล้วเขาก็ถูกมันโอบล้อม จากนั้น โลกก็สว่าง กลิ่นขยะเต็มจมูก

'อุ อูย'

เขาได้แต่คราง ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบากและเท่าที่เห็นคือหลังคาหินโทรมๆ รออีกนาน สัมผัสจึงกลับมาสู่ปลายนิ้ว

เขารับรู้สิ่งรอบตัว เขาอยู่บนกระสอบผ้า กลิ่นขยะก็ลอยมาจากกระสอบนี้

'ฉันกลับมาแล้ว'

เขาคิดว่ารู้ว่าที่นี่คือที่ไหน รู้เมื่อได้เศษเสี้ยวความทรงจำที่จมอยู่ลึกกลับมา

'เตาเผาขยะของโรงเรียน'

เขาถูกพาไป 'ที่แห่งนั้น' จากตรงนี้ แล้วเขาก็กลับมายังจุดเดิม

'ยี่สิบปีแล้ว แต่ทุกอย่างดูเหมือนเดิม'

ดูเก่ากว่าเดิมมาก แต่เตาเผายังดูเหมือนเดิม ขณะที่เขารอให้ประสาทสัมผัสกลับคืนมาให้ร่างกายฟื้นตัวอยู่นั้น

"เฮ้ยแม่ม เร็วสิไอ้สัตว์"

เขาขยับศีรษะไปได้นิดเดียวก่อนได้ยินเสียงโพล่งขึ้น นักเรียนกลุ่มหนึ่งใส่เครื่องแบบคุ้นตาเดินลงมาที่เตาเผาขยะ

'ชุดนักเรียนเหมือนเดิมเลย'

เขาจะไม่แปลกใจหรอกหากดีไซน์ชุดนักเรียนจะเปลี่ยนไปในเมื่อเวลาผ่านมายี่สิบปีแล้ว แต่ในเมื่อมันยังเหมือนเดิมเลยกลายเป็นภาพที่ทำให้อุ่นใจ เมื่อเห็นคนเขาก็แน่ใจว่ากลับมาแล้วจริงๆจนควบคุมอารมณ์ไว้ไม่ได้

มองแวบเดียวก็เห็นว่านักเรียนสามคนกำลังลากนักเรียนอีกคนหนึ่งมา เขาดูธรรมดาเกินกว่าจะถูกรุมแกล้ง ที่จริงแล้วเขาเป็นนักเรียนหน้าตาหล่อเหลาเลย

"สัตว์ ข้าจะอัดเอ็ง"

"ทำไมฉันต้องโดนอัด?"

"ห๊ะ ไอ้"

ทั้งสองเข้าฟัดกันหมัดเท้าลอยว่อน จากนั้นที่เหลือก็เข้าไปรุม แล้วการต่อสู้ก็กลายเป็นอัดเอาๆอยู่ฝ่ายเดียว

"ห่า กล้าท้าข้าเหรอ เอ็งมันเกะกะลูกตาฉิบ ทีหลังก็อยู่ให้มันเงียบๆ"

เขามองเด็กทั้งสามกระทืบเด็กอีกคนเพลินๆ มันทำให้เขานึกถึงอดีต อาจเป็นเพราะเขาผ่านประสบการณ์สุดโหดมายี่สิบปีก็ได้ทำให้ที่เด็กๆพวกนี้ทำอยู่ดูน่ารักดี

เด็กๆกระทืบต่อจนเขาคิดว่าเด็กอีกคนอาจจะตาย แต่สุดท้ายพวกเขาก็หยุดพักเหนื่อย เด็กคนนั้นเอาแขนปิดหัวไว้ ชักกระตุก บาดแผลเต็มตัว ถึงอย่างนั้นดวงตายังส่งประกายกล้า

หัวโจก ลี-ซูฮยุค ไม่ชอบแสงในดวงตาของ โด-เจมิน นักเรียนคนอื่นไม่กล้ามองเขาอย่างนั้น ถ้าไม่หลบตาก็มองเขาอย่างนับถือ แต่ไอ้เวรนี่ใช้ตาแบบนี้มองเขา

"เฮอะ เจมิน เจ็บไหมล่ะ? เจ็บสุดๆเลยสิ บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำตัวน่ารำคาญให้ข้าเห็น อยู่ให้มันเงียบเข้าใจไหม?"

"พ่องสิ"

ทำตัวน่ารำคาญ? เจมินนั้นเรียนเงียบๆและไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ปัญหาคือเขาหน้าตาดีเกินไป เขาถูกอัดเพราะเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาชอบเขา แล้วเธอก็ดันเป็นคนที่ลี-ซูฮยุคชอบ

"ฮะ ไอ้เปรตนี่ไม่ฟัง? ต้องโดนอีกมั้ง จับมันไว้นิ่งๆ"

อันธพาลจับเจมินกดไว้ ซูฮยุคง้างขาเตรียมเตะ ดูท่าเขาตั้งใจจะเอาศีรษะเด็กคนนั้นเป็นลูกฟุตบอล

ตอนนั้นเองที่ประสาทสัมผัสทั้งหมดของวูจินกลับคืนมา

"อ้า พอแค่นั้นแหละ"

เสียงที่โพล่งขึ้นทำให้เด็กๆมองรอบๆอย่างแปลกใจ พวกเขาเห็นชายในชุดประหลาดกำลังลุกขึ้นมาจากถุงขยะ

"ห่า อะไรของเอ็ง? อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?"

"ห่า? พบรุ่นพี่เหมือนพบเทพแต่ไอ้เด็กพวกนี้พูดได้แค่นี้?"

วูจินเหวี่ยงเท้าลงจากกระสอบด้วยท่าเหมือนกำลังขี่มันอยู่ อ้า พื้นโลก เขาไม่ได้เหยียบมายี่สิบปีแล้ว

ถึงจะเป็นอันธพาล แต่ต่อหน้าผู้ใหญ่ก็เป็นแค่เด็ก พวกเขาชะงัก มองหลุกหลิก ปกติอันธพาลนี่ล่ะที่เข้มงวดเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องที่สุด...

"ห่า รุ่นพี่แล้วไง ใครสนวะ?"

...ไม่ใช่แฮะ

"ทำไมไม่เลิกยุ่งกับพวกเราแล้วหลบไปล่ะ? ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมขอทานอย่างลุงต้องมายุ่งด้วย นักเรียนม.ปลายสมัยนี้น่ะไม่กลัวอะไรแล้วล่ะลุง ไปไหนก็ไปเถอะ"

ซูฮยุคพูดตรง ถ้อยคำคุยโตทำให้เพื่อนๆเลิกลังเล ซูฮยุคคำนวณไว้แล้ว ชายคนนี้มาอยู่ที่โรงเรียนในเวลานี้แสดงว่าเขาไม่ใช่ครู ยิ่งกว่านั้นเขายังอยู่ตรงที่เผาขยะ เขามั่นใจว่าชายคนนี้ก็แค่ไอ้โง่ที่ผ่านมา แถมยังใส่ชุดโทรมๆอีก

"ฮ้า ทำไมเด็กสมัยนี้หยาบคายนัก ยิ่งต่อหน้ารุ่นพี่แก่กว่าตั้งยี่สิบปี?"

คราวนี้ซูฮยุคยิ่งแน่ใจเข้าไปใหญ่เมื่อได้ยินเสียงบ่นของวูจิน อย่างมากหมอนี่ก็เป็นนักเรียนมหาวิทยาลัยอายุราวๆ 20 ปี เขาแน่ใจว่าหมอนี่บ้า

"ไม่อยากเจ็บตัวก็ไปซะ เจ้าหนู"

เขากะขู่ให้เด็กๆพวกนี้กลัวสักหน่อยจะได้หนีไป แต่แทนที่จะกลัว พวกเขากลับทำหน้างงๆเมื่อเห็นเขายกมือขึ้น

"เอ๊ะ ไม่ได้ผล"

วูจินผลักมือไปข้างหน้าอีกครั้ง ซูฮยุคสะดุ้ง

"..."

"..."

วูจินตกใจ ทำไมเวทย์ผูกมัดไม่ทำงาน? ซูฮยุคขมวดคิ้ว

"ชิ แกทำอะไร?"

"เอ๊ะ ทำไมล่ะ? ไบนด์!"

วูจิน ด้วยความตกใจ เหยียดแขนแล้วตะโกนต่อ แต่เวทมนตร์ก็ไม่ทำงาน ซูฮยุคถุยน้ำลายใส่

"ชิ ข้าโดนโอตาคุหลอกเปล่าๆ"

ซูฮยุคแน่ใจ

เขาถูกไอ้โง่นี่ทำให้กลัวไปชั่วขณะหนึ่ง ทำให้เขาเสียหน้า เขาแกว่งหมัดวิ่งเข้าใส่

ก่อนหมัดของซูฮยุคจะโดนหน้าวูจิน วูจินโยกหัวก้าวเท้าหลบ

ฟิ้ว

"ฮะ กล้าหลบเรอะ?"

ฟิ้ว

"พ่อง หาที่ตาย รุมมันเลย!"

ซูฮยุคตะโกนให้ลิ่วล้อวิ่งเข้ามา

'เฮ้ย ไม่รู้สึกถึงเวทมนตร์เลยวะ'

วูจินตกใจเมื่อพลังเวทย์ ซึ่งเป็นเหมือนแขนขาเขามายี่สิบปีไม่ตอบสนอง แต่ต่อให้เสียเวทมนตร์ไปเขาก็ไม่อ่อนแอขนาดถูกเด็กม.ปลายอัดได้

จอมเวทย์นั้นเป็นที่รู้กันว่าอ่อนแอกว่านักรบในด้านกายภาพ แต่นั่นจริงเฉพาะในอีกโลก ในที่นี้ ความสามารถด้านกายภาพของเขาพอให้เตะ SF ตกน้ำยังได้

ถ้าอยากเอาตัวรอดในโลกที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดก็ต้องมีความสามารถถึงขั้นนี้เท่านั้น

วูจินหลบหมัดน่ารำคาญของพวกลิ่วล้อ จากนั้นชกเบาๆไปที่ท้อง

ปัก ปัก ปัก

"อุ๊ก"

การจู่โจมที่แม่นยำสามครั้งส่งทั้งสามคนลงไปกองกับพื้น เร็วจนโด-เจมินลืมความเจ็บปวดบนร่างได้แต่มองมึนๆ

"สุด...สุดยอด"

พอวูจินล้มพวกเด็กน่ารำคาญเสร็จ เขาก็กดขมับ เป็นท่าทางที่เขาจะเผลอทำเมื่อเจอเรื่องยากๆ

"เออ ช่างมันก็ได้มั้ง?"

นี่อาจเป็นผลข้างเคียงของการเดินทางข้ามมิติ เขาไม่แน่ใจว่าเสียเวทมนตร์ไปหรือมันถูกผนึกไว้ แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหา

ที่นี่คือกรุงโซล

ไม่มีสัตว์ประหลาดมาทำร้ายเขา และเขาก็ไม่ต้องต่อสู้เอาชีวิตรอดอีกต่อไปแล้ว

หรือเปล่า...?



 ---------------------------------------------

กลับไปบทนำ                                 รอใส่สารบัญ                                    บทที่2











2 ความคิดเห็น:

  1. กลับมาอ่านค่าเวลาเนื่องจากต้องนั่งรถทัวร์ 12 ชม.
    ยิงยาวจบรอบ2(ยังสนุกเหมือนเดิม)
    #ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆครับ ;3

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เดินทาง12ชม.แน่ะ -0- รักษาสุขภาพและอย่าลืมใส่หน้ากากนะคะ ^^

      ลบ