วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 14

บทที่ 14 เนโครแมนเซอร์ในดันเจี้ยน

“ไปกันเถอะพวก”
โพละ โพละ!
ศพก็อบลิน 4 ศพระเบิด ทหารโครงกระดูกถูกเรียกออกมาตามคำของวูจิน
“กี๊ก”
“เคะๆๆๆ”
พวกก็อบลินกรีดร้องอย่างตกใจผสมเสียงตลกแปลกๆของทหารโครงกระดูก ระหว่างนั้นวูจินโยนกระบองของก็อบลินทิ้งแล้วดึงค้อนตอกตะปูออกมาจากคลัง
ค้อนมีน้ำหนักดีและมีพลังทำลายพอสมควร วูจินได้แต่เก็บมันไว้ใช้อีกจนกว่าจะหาอาวุธที่เหมาะกว่านี้ได้
“เอาเลย”
วูจินออกวิ่ง ทหารโครงกระดูกพุ่งไปข้างหน้าเพื่อเปิดทางให้เขาแล้วปะทะกับฝูงก็อบลิน ฮอบก็อบลินผงะจากนั้นสั่งการอย่างเร่งรีบ พวกก็อบลินพยายามโจมตีวูจิน แต่ถูกค้อนทุบหัวแหลก
“เคะๆๆๆ”
ทันทีที่ก็อบลินกลายเป็นศพก็ระเบิดเป็นทหารโครงกระดูก วูจินเพิ่มระดับให้ทักษะนี้พอสมควร ดังนั้นพลังด้านกายภาพของทหารโครงกระดูกจึงสูสีกับเราส์แรงค์ต่ำๆ
แถมมันยังอึดไม่ตายง่าย พริบตาเดียวเขาก็มีทหาร 14 ตัวถึงขีดจำกัดที่บงการได้ วูจินเงื้อค้อนชุ่มเลือดก็อบลินเข้าหาฮอบก็อบลินที่ยืนตะลึง
ไม้เท้าของฮอบก็อบลินส่งเสียงเปรี๊ยะๆ ประกายสายฟ้าปรากฏตรงปลายไม้เท้า ช่วงคูลดาวน์ของเวทย์สายฟ้าคงหมดแล้ว
วูจินใช้ด้านแหลมของค้อนปักใส่หัวฮอบก็อบลิน
มันทะลุกะโหลกของฮอบก็อบลิน ประกายสายฟ้าตรงปลายไม้เท้าสลายไปก่อนจะทันได้ยิง
“วิ้ว สู้กับฝูงมอนนี่ล่ะเหมาะกับการเก็บแต้มที่สุด”
ก็อบลินแต่ละตัวให้ค่าความสำเร็จ 2 แต้ม ฮอบก็อบลินให้ถึง 5 แต้ม นี่ยังแค่ดันเจี้ยนระดับสองดาว ถ้าเป็นดันเจี้ยนระดับสูงเขาจะได้ค่าความสำเร็จเท่าไหร่นะ
เขานึกถึงม้วนคาถาที่มีขายในร้าน ดูท่าไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะกลับไปถึงระดับที่เคยอยู่สมัยโลกอัลเฟนได้
ค่าประสบการณ์ก็ดี เขาเลเวลอัพอีกครั้ง
“ปาร์ตี้ไม่เหมาะกับฉัน”
เขามีทหารโครงกระดูกเป็นแทงค์ ที่ต้องการคือทักษะสำหรับสร้างความเสียหายจากแนวหลังซึ่งเขาจะสามารถเรียนทักษะพวกนั้นได้เมื่อเลเวลสูงกว่านี้หน่อย
ถ้าเข้าปาร์ตี้ มอนสเตอร์ที่มีให้ตีก็จะถูกแบ่งไป ทำให้ค่าประสบการณ์กับค่าความสำเร็จที่เขาได้น้อยลง
วูจินเปิดทักษะหาของตามร่างของก็อบลินที่ตายไป เขาไม่จำเป็นต้องชำแหละหาบลัดสโตนไปทีละศพๆ ทักษะหาของจะทำให้ไอเทมที่มีพลังมานาเรืองแสงออกมา เมื่อวูจินเห็นแสงจากศพของฮอบก็อบลินเขาก็ลงมือชำแหละ
“เอ๊ะ นี่มันม้วนคาถา”
วูจินมองม้วนคาถา แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นคาถาอะไร
“ยังไงก็ต้องเรียนเวทย์ส่องอยู่แล้ว งั้นก็เรียนมันซะตอนนี้เลย”
วูจินเรียกร้านแลกเปลี่ยนค่าความสำเร็จออกมา จากนั้นใช้ค่าความสำเร็จ 20 แต้มเพื่อเรียนคาถา ตรวจวิเคราะห์เขาจะใช้ใบตรวจวิเคราะห์ซึ่งเป็นไอเทมที่ใช้แล้วหมดไปก็ได้ แต่เขาตัดสินใจเรียนคาถาเพราะต่อไปคงต้องใช้คาถานี้บ่อยๆ
[ตรวจวิเคราะห์]
ข้อมูลที่ซ่อนอยู่ในไอเทมจะถูกเปิดเผยออกมา โอกาสล้มเหลวจะลดลงเมื่อค่าความรู้เพิ่มขึ้น
ใช้เวทย์ : 1
วูจินใช้คาถาตรวจวิเคราะห์กับม้วนคาถาทันที
[ยิงกระแสไฟฟ้า]
โจมตีเป้าหมายด้วยกระแสไฟฟ้า
ใช้เวทย์ : 1 เวลาร่าย : 20
“โฮ่ นี่มันที่หมอนั่นใช้”
วูจินดูรายการของในร้านและเจอม้วนคาถายิงกระแสไฟฟ้า มันมีค่า 100 แต้มความสำเร็จ
ม้วนคาถาธาตุระดับต่ำ เช่นสร้างไฟหรือน้ำ ซื้อได้ในราคา 30 แต้มความสำเร็จ
โจมตีด้วยสายฟ้าเป็นเวทโจมตีจึงมีประโยชน์กว่า ดังนั้นจึงเข้าใจได้ว่าทำไมจึงแพงกว่าธาตุอื่น 3 เท่า
“ถือว่ากลางๆล่ะนะ”
สู้ก็อบลิน 50 ตัวก็เก็บได้แล้ว ถ้าดูจากที่เขาจัดการกับก็อบลินได้เร็วขนาดไหนก็ไม่ถือว่าแพง แต่ถ้าต้องซื้อจริงๆก็ไม่รู้สึกว่าถูก
เขายังไม่ต้องใช้ตอนนี้ ดังนั้นวูจินจึงเก็บม้วนคาถาไว้ แล้วแงะบลัดสโตนที่ส่องแสงออกมาจากหัวของก็อบลินต่อ
“อุ อูย”
“หือ?”
วูจินหันมองรอบตัวเมื่อได้ยินเสียงคราง สีหน้าเคร่งเครียดแต่ไม่มีมอนสเตอร์ตัวใดออกมา วูจินมองรอบตัวอย่างระมัดระวังสุดท้ายก็สบเข้ากับสายตาเจ็บปวดของซุงกู
ดวงตาซุงกูขยับขึ้นลง ดูเหมือนเขาจะได้สติแล้ว หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนเจ็บปวด
วูจินเดินไปหาแล้วนั่งยองลงข้างๆ ดูเหมือนผลจากกระแสไฟฟ้าจะยังไม่หายไปหมด ซุงกูแค่นเสียงออกมาทั้งๆที่ลิ้นยังแข็งทื่อ
“ช่ ช่วย...”
“นายเห็นแค่ไหน?”
วูจินถามตัดบท ซุงกูมองอย่างอ้อนวอน แต่สีหน้าของวูจินไม่เปลี่ยนแปลง
วูจินเห็นคนตายมานับไม่ถ้วน ทั้งสหายทั้งศัตรู รวมทั้งเห็นผู้บริสุทธิ์ถูกพรากวิญญาณไป
“เออ ช่างเถอะ”
ที่นี่ไม่ใช่โลกอัลเฟน ซุงกูไม่ใช่สายลับจากประเทศศัตรู ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องฆ่าซุงกูปิดปาก
“ได้โปรด... ช่วยผม”
ซุงกูพูดชัดเจนขึ้นเมื่อลิ้นเริ่มหายแข็ง เขามีพลังสร้างลูกบอลไฟ เนื่องจากใช้เวทย์ได้จึงพอจะต้านทานเวทย์ได้เช่นกัน
ถ้าเขาเป็นคนธรรมดาไม่ใช่เราส์คงตายไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ต้องถูกมอนสเตอร์ฆ่าตายแน่
“ถ้าฉันช่วยนาย นายจะทำอะไรให้เหรอ?”
“ผมจะไม่บอกใคร”
“เรื่อง?”
“เรื่องที่พี่เป็นเราส์แรงค์ D
วูจินฟังแล้วยิ้มเหยียด ดูท่ามีแต่เราส์แรงค์ D ขึ้นไปจึงจะสังหารฮอบก็อบลินกับกลุ่มก็อบลินได้ง่ายๆ
แต่เขาไม่สนใจหรอกหากเรื่องของเขาจะเผยแพร่ออกไป เรื่องแบบนี้วูจินไม่สนใจเลย
“นายจะให้เท่าไหร่?”
“หา?”
นี่คือที่เขาเรียกว่าสับสนจนพูดไม่ออกใช่หรือไม่? ฮงซุงกูไม่รู้จะตอบอย่างไรเลยอ้ำอึ้ง
“ถ้าฉันทิ้งนายไว้ที่นี่คงไม่พ้นเป็นแบบหมอนั่น?”
วูจินชี้ไปทางซากเลือดเนื้อของจองชูล เขาถูกกระบองของก็อบลินฟาดใส่นับไม่ถ้วนเลยไม่ใคร่น่ามองนัก
“ผม...ผมให้”
ถ้าทำให้ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เรื่องเงินจะเป็นปัญหาได้อย่างไร ขอให้รอดไปได้เขายอมเสียเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต เงินเป็นสิ่งที่เขาจะหาได้มากขึ้นเมื่อระดับแรงค์ของเราส์เพิ่มขึ้น
“พี่... จะเอาเท่าไหร่?”
วูจินชูสองนิ้ว ซังกูตกใจจากนั้นก็ขบฟันกรอด
ถ้าสองพันก็ถือว่าคุ้มกับชีวิตเรา(TN-น่าจะยี่สิบล้านวอน)
เขาคงต้องใช้เงินเก็บทั้งหมด แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เขาเพิ่งจะเป็นเราส์ อนาคตเขายังหาเงินได้อีกมาก
“เข้าใจแล้ว”
วูจินยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบของซุงกู
สองร้อยพอให้ฉันเข้าเหมืองคนเดียว(TN-น่าจะสองล้านวอน)
เพิ่งกลับโลกได้สามวัน เราส์คัง-วูจินยังไร้เดียงสา



5 ความคิดเห็น:

  1. แอยไปมัั่่วอัังกิิตมา งงดีี

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช้กูเกิลแปลเหรอคะ เราก็เคยลอง งงจริงด้วย แต่ชอบที่มันแปลดันเจี้ยนว่ากรุแน่ะ ให้อารมณ์คนขุดสุสานดี :D

      ลบ