บทที่ 12 - ขึ้นทะเบียนเป็นเราส์ (2)
“พี่ชายมาคนเดียวเหรอ ไม่เข้าปาร์ตี้เราล่ะ? เราหาคนได้
7 คน ยังมีที่ว่างอีก 1”
“อ๊ะ ไม่เป็นไร ฉันจะเข้าคนเดียว”
ชายคนนั้นอึ้งเมื่อถูกวูจินปฏิเสธ
“จะเข้าคนเดียวให้เปลืองค่าเข้าทำไม
แล้วเวลาก็มีจำกัดนายจะเก็บบลัดสโตนได้ไม่มากนะ”
ชายคนนั้นหัวเราะเมื่อเห็นวูจินทำหน้างง
“สงสัยนายจะเพิ่งเป็นคนขุดเหมืองได้ไม่นาน”
เราส์ยังมีชื่อเรียกอื่นอีก
คนที่เน้นด้านพิชิตดันเจี้ยนเรียกนายพราน คนที่หาบลัดสโตนในดันเจี้ยนที่ถูกพิชิตและปลอดภัยแล้วเรียกคนขุดเหมือง
คนที่เน้นสู้กับมอนสเตอร์ร่วมกับกองทัพเมื่อดันเจี้ยนระเบิดเรียกผู้พิทักษ์
ชื่อนี้ตั้งตามลักษณะงานของพวกเขา
แต่นายพรานก็เป็นคนขุดเหมืองได้ คนขุดเหมืองก็เป็นผู้พิทักษ์ได้
เขาอธิบายกฎสำหรับคนขุดเหมืองแบบคร่าวๆ
คงนึกว่าวูจินเป็นเด็กใหม่
จำนวนคนที่เข้าดันเจี้ยนได้มีจำกัด
เมื่อนายพรานตัดสินใจจะตีดันเจี้ยน
พวกเขาจะตั้งทีมขึ้นโดยนับตามจำนวนคน คนเหล่านี้เรียกทีมหน่วยจู่โจม กิลด์ขาใหญ่ทั้งสามของเกาหลีนั้นโด่งดังเรื่องมีทีมจู่โจมที่มีประสิทธิภาพ
กับเหมืองก็เช่นเดียวกัน
จำนวนคนที่เข้าเหมืองได้ก็มีจำกัด ทีมจู่โจมส่งคนเข้าดันเจี้ยนเต็มจำนวนเพื่อให้ได้พลังต่อสู้สูงที่สุด
คนขุดเหมืองส่งคนเข้าไปเต็มจำนวนก็เพื่อให้หาของได้มากที่สุด
ค่าเข้าดันเจี้ยนก็คิดตามจำนวนคนที่ดันเจี้ยนรองรับได้สูงสุดเช่นกัน
จำนวนคนที่เข้าได้มากที่สุดของสถานีชินริมทางออกที่ 7
คือ 8 คน
“ถ้าอย่างนั้น ถ้าฉันอยากเข้าไปคนเดียวก็ต้องจ่ายค่าเข้าสำหรับ
8 คน? 800,000 วอน?”
“ใช่แล้ว แถมนั่นยังเป็นคิดเป็นรายชั่วโมงนะ”
ถึงดันเจี้ยนที่ถูกพิชิตแล้วจะมีแต่มอนสเตอร์พื้นฐาน
ข้อมูลในเหมืองก็ถูกเผยแพร่ออกมาทำให้ความปลอดภัยในชีวิตของคนขุดเหมืองมากขึ้น
แต่ก็ยังนับว่าเสี่ยงตายอยู่ดี
หินรีเทิร์นสโตนส่วนใหญ่จะพบได้แต่ในส่วนลึกสุดของดันเจี้ยน
ดังนั้นจะให้คนคนเดียวเคลียร์ดันเจี้ยนภายในหนึ่งชั่วโมงนั้นเป็นไปไม่ได้
ถ้าหากเข้าไปเกินเวลาจำกัดหนึ่งชั่วโมง ค่าธรรมเนียมก็เพิ่มขึ้นอีก
‘ถ้าใช้ดันเจี้ยนคนเดียว
2 ชั่วโมง ก็ต้องจ่ายหนึ่งล้านหกแสนวอน’
ถ้าจัดการมอนสเตอร์ทั้งหมดในนั้นก็อาจจะได้กำไรเยอะ
แต่เราส์ที่มีพลังขนาดนั้นไม่เข้าดันเจี้ยน 2 ดาวกระจอกๆหรอก
“นายแรงค์ไหน?”
“F”
“จุ๊ๆ
นายมาแบบไม่รู้อะไรเลยนะนี่ แต่ถือว่าโชคดีนะ มารวมกลุ่มหาประสบการณ์กับเราสิ รับรองความปลอดภัย”
“อืม ก็ได้”
วูจินดูแลตัวเองได้
แต่เขาไม่ฝืนปฏิเสธคำชวน เรื่องของเรื่องคือเขามีค่าเข้าไม่พอ
‘ต้องอัพเลเวลให้เร็ว
จะได้พิชิตดันเจี้ยนไปเลย’
เหมืองมีกฎมากไป
มีค่าเข้าอีก นิสัยวูจินไม่เหมาะกับการขุดเหมือง เขารู้สึกเซ็งแต่ตัดสินใจจะเข้าเหมืองกับคนพวกนี้สักวันเพื่อเป็นประสบการณ์
คนเข้าดันเจี้ยนทีละแปดคน
ดังนั้นแถวจึงสั้นลงค่อนข้างเร็ว ทุกคนเป็นเราส์แต่มีระดับต่ำ
คนที่อยู่ที่นี่ค่อนข้างหลากหลาย
ระดับความยากไม่สูงมาก
ดังนั้นปาร์ตี้ที่เข้าไปก่อนพวกเขาสามารถเคลียร์ดันเจี้ยนเสร็จภายใน 40-50 นาที
ชายที่คุยกับวูจินแนะนำตัวเองว่าชื่อ
เบ-โดซู เป็นเราส์แรงค์ E เขาเป็นคนขุดเหมืองมืออาชีพซึ่งไปตามเหมืองต่างๆกับเพื่อนร่วมทีมรวมเป็น 6
คนเพื่อหาเงิน
ปกติพวกเขาจะเข้าแต่เหมืองหนึ่งดาว
แต่คราวนี้พวกเขาตัดสินใจจะเข้าเหมืองสองดาว และเนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกจึงอยากได้คนครบ
8 คน
แปดหัวย่อมดีกว่าหกหัว
คังวูจิน กับเราส์อีกคนชื่อฮงซังกูต่างก็มาคนเดียว
ดังนั้นจึงร่วมกลุ่มกับทีมของเบโดซู ฮงซังกูเป็นเราส์หน้าใหม่และมีระดับ F เหมือนวูจิน
“อืม
นอกจากฉันแล้วทุกคนเป็นระดับ F เพราะงั้นฉันขอสองส่วน ทุกคนคนละหนึ่งส่วน
พอเคลียร์ดันเจี้ยนเสร็จเราจะเอาบลัดสโตนที่รวบรวมมาได้แบ่งเป็น 9 ส่วน”
เบโดซูเสนอ วูจินไม่ค้าน
เขาเข้าดันเจี้ยนเพราะจะเอาค่าประสบการณ์
“ฮู้ว สั่นพั่บเลยผม พี่ล่ะ?”
ฮงซังกูเข้ากับคนในทีมของเบโดซูไม่ได้
ดังนั้นระหว่างรอเข้าแถวจึงพยายามตีสนิทกับวูจิน วูจินตอบกลับตามมารยาทพอเหมาะพอดีดังนั้นพวกเขาจึงคุยกันหลายเรื่อง
ฮงซังกูเป็นหน้าใหม่แรงค์ F แต่เขาสนใจเรื่องดันเจี้ยนมาก
เขามีความรู้ด้านนี้กว้างขวาง วูจินได้อะไรหลายอย่างจากการคุยกับเขา
ฮงซังกู 21 ปี
เพิ่งเป็นเราส์เมื่อสองเดือนก่อน เขาออกจากโรงเรียนมาทำงานของเราส์อย่างขยันขันแข็ง
สองเดือนที่ผ่านมาเขาเข้าเหมืองหนึ่งดาวจนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเชี่ยวชาญกับเหมืองพอสมควรแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาลองของกับเหมืองสองดาว
เงินไม่ใช่เป้าหมายหลัก
เป้าหมายของเขาคือฝึกร่างกายให้แข็งแกร่งและเพิ่มทักษะของเราส์
ความฝันของเขาคือเข้าหน่วยจู่โจมของทีมนายพรานเพื่อท้าทายดันเจี้ยนที่ยังไม่ถูกพิชิต
“ต่อให้กลัว
แต่ลูกผู้ชายต้องไม่แสดงออกให้ใครเห็น”
“ฮะๆๆ
พี่มั่นใจดีจัง”
รอแถวกันหลายชั่วโมง
พวกเขาคุยกันนาน สุดท้ายก็ตัดสินใจเรียกพี่เรียกน้องกัน
“เอ้าๆ เตรียมตัวกันเถอะ”
บาเรียรอบดันเจี้ยนปล่อยแสงสีเขียวแล้วเลือนหาย
วูจินเอียงคออย่างสงสัยเมื่อเห็นทีมที่เข้าไปก่อนออกมา
“เหอ?
ดูเหมือนจะมีเรื่อง”
เป็นไปตามที่เบโดซูว่า
ทีมก่อนหน้าพวกเขามีผู้เคราะห์ร้าย 4 คน
คนของรัฐบาลกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานควบคุมดูแลดันเจี้ยนวิ่งไปหาพวกเขาเพื่อถามสถานการณ์
พวกของวูจินรอถัดจากพวกเขา
ดังนั้นจึงได้ยินที่คุยกันชัดเจน
“มีฮอบก็อบลินด้วย ทำไมมันถึงโผล่ออกมาได้?”
คนของรัฐบาลแสดงบันทึกเข้าออกดันเจี้ยนให้เราส์ที่โวยวายดู
“พวกคุณเซ็นแล้วแต่ไม่ได้อ่านกันเหรอ?”
[มอนสเตอร์ทั่วไปที่ปรากฏตัวในดันเจี้ยนอาจต่างไปจากข้อมูลที่ให้]
[ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายผู้มีพลังพิเศษฝ่ายเดียว]
****
เราส์ 4 คนที่รอดตายแต่เสียคนในทีมประท้วงกันใหญ่
แต่อย่าหวังว่าจะได้รับการชดเชย งานขุดเหมืองไม่ใช่งานปลอดภัย
“จุ๊ๆ
เถียงไปก็เหนื่อยเปล่า”
ดูเหมือนพวกเขาต้องทิ้งศพเพื่อนร่วมทีมไว้ในดันเจี้ยน
พวกเขาหาได้แต่หินรีเทิร์นสโตนซึ่งทำให้หนีออกมาได้ แต่ไม่ได้หินบลัดสโตนเลย
ดังนั้นลงดันเจี้ยนครั้งนี้จึงขาดทุน
เบโดซูเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาเยอะสมที่เป็นคนขุดเหมืองมากประสบการณ์
เขาเลิกสนใจการถกเถียงแล้วหันมาคุยกับเพื่อนร่วมทีม
“ฮอบก็อบลินเป็นมอนสเตอร์สองดาว
ถ้าเราเตรียมตัวมาดีทำไมจะสู้ไม่ได้ ไม่สิ พวกแม่งต้องดรอปบลัดสโตนแน่
เพราะงั้นยิ่งดีใหญ่”
ฟังจากเบโดซูเล่า
เขาไม่เคยสู้กับฮอบก็อบลินมาก่อน แต่เขามีประสบการณ์เคลียร์เหมืองหนึ่งดาวมากกว่า
200 รอบ
สมาชิกทีมทั้งแปดเซ็นชื่อลงในบันทึกเข้าออกดันเจี้ยนจากนั้นเดินลงบันไดสถานีรถไฟใต้ดิน
“เอ้าๆ เข้าไปกันเถอะ”
พวกเขาเดินลงบันไดแล้วเข้าใกล้อุโมงค์แห่งหนึ่งตามเสียงกระตุ้นของเบโดซู
บาเรียสีขาวก่อตัวขึ้นเมื่อพวกเขาเข้าอุโมงค์นั้นไป
[ท่านได้เข้าสู่สถานีชินริมทางออกที่
7]
[ดันเจี้ยนแห่งนี้ถูกพิชิตแล้ว
มอนสเตอร์ทั่วไปจะถูกเรียกออกมา]
------------------------
เราส์นี่ทำประกันชีวิตได้ไหมนะ...
มีใครงงไหมว่ามอนสเตอร์ทั่วไปคืออะไร
คนแปลอ่านตอนแรกงงค่ะ ว่าง่ายๆคือดันเจี้ยนที่ถูกพิชิตแล้วจะไม่มีบอส มอนสเตอร์ที่ไม่ใช่บอสเรานึกออกแต่คำว่าม็อบ
ซึ่งก็ไม่ใช่อีก อันนี้เอาไว้เรียกมอนที่เกาะกันเป็นกลุ่มๆ ตกลงก็เป็นมอนสเตอร์ทั่วไปแล้วกัน
ขอบคุุณคร๊๊าฟปม รอนะคัับ
ตอบลบอ่อ เข้าใจแล้วคับ
ตอบลบ