วูจินเปิดร้านแลกเปลี่ยนค่าความสำเร็จมองหาไอเทมที่เหมาะกับสถานการณ์นี้ ร้านมีหนังสือทักษะ และยังขายหนังสือประเภทอื่นๆด้วย
[การดูแลอาณาเขตมิติ]
“อันนี้น่าจะได้...”
มันเป็นคู่มือการจัดการอาณาเขตมิติ ราคา 2,000 แต้มไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือมันถูกล็อกเอาไว้ไม่ให้เขาอ่าน
<ยอมให้เกรดที่ถูกต้องเข้าไปอ่านได้เท่านั้น>
วูจินเปิดเมนูสถานะเพื่อตรวจเมนูเกรดของตัวเอง เขาไม่สนใจมันนักเพราะมันเหมือนเดิม ว่างเปล่าไม่มีตัวเลขหรือสัญลักษณ์อะไรเลย
“ช่างเถอะ”
ตอนนี้ทำอะไรกับมันไม่ได้ ถึงเขากังวลไปก็ไม่ได้คำตอบอะไร
ถ้าเขามีคู่มือก็ดี แต่ถึงไม่มีก็ไม่ทำให้เขาหยุดไปต่อ
วูจินเลือกข้อ ‘พิชิต’
<คุณเลือกโหมดพิชิต>
<ถ้าเคลียร์โหมดนี้ได้ คุณจะได้รับค่าความสำเร็จ>
“หืม ไม่ค่อยเหมือนกันแฮะ”
วูจินรู้ว่าจะมีอะไรต่อไปเพราะเคยเข้าดันเจี้ยนของรัชโมดมาก่อนแล้ว เขาคิดว่าโหมดพิชิตเหมือนการบุกเข้าไปปล้นบ้านคนอื่น นึกไม่ถึงว่ามีรางวัลอย่างดีให้ด้วย...
“นี่เป็นฝีมือทราห์เน็ตเหรอ?”
กฎที่ควบคุมเจ้านั่นมีส่วนที่ไม่รู้มากกว่าส่วนที่ถูกรู้
อย่างหนึ่งที่วูจินรู้แน่คือเขาที่เคยเหมือนคนลอยคว้างกลางทะเลตอนนี้ได้มาเจอเข็มทิศแล้ว
ดวงตาวูจินเป็นประกาย
เมื่อผ่านอุโมงค์สีแดงที่เพิ่งเกิดวูจินก็ไปโผล่ตรงทุ่งราบโล่งแห่งหนึ่ง
ลมเย็นพัดผ่าน หมาป่าเทาเดินไปมา ลำแสงสีม่วงขนาดใหญ่จากที่ไกลๆดึงดูดสายตาของวูจิน
จูเลียลอยู่ที่นั่น เขารู้สึกอย่างนั้น
“ฮื่อ”
หมาป่าเทาเห็นวูจินแล้วก็ตีวงล้อมเข้ามาทางเขา พื้นที่นี้ไม่มีอะไรเลยเป็นเพียงที่ราบธรรมดา หมาป่าคุ้นชินกับการต่อสู้เป็นฝูง ดังนั้นนี่จึงเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะที่สุดสำหรับพวกมันฆ่าผู้บุกรุก
โชคร้าย ผู้บุกรุกที่ว่าก็ชอบสู้ในที่ราบโล่งเหมือนกัน
“เปิดทางให้ฉัน”
ตามคำเรียกของวูจิน ควันสีดำรอบตัวเขาบีบตัวเป็นเหล่าอัศวินมรณะ พวกมันเรียกม้าปีศาจแล้วพุ่งใส่ฝูงหมาป่า
อัศวินมรณะสามารถเรียกทหารโครงกระดูกออกมาเอง หน้าที่ของวูจินมีเพียงเปลี่ยนทหารโครงกระดูกที่แตกหักออก หรือเพิ่มจำนวนทหารโครงกระดูกเข้าไปเมื่ออัศวินมรณะเพิ่มเลเวล
“ไปกันเถอะ”
วูจินเรียกชิงชิงมาขี่ บิบิถูกเรียกออกมา เธอไปนั่งบนหัวของชิงชิง โดลเซในร่างหัวใจโกเลมลอยวนรอบๆหัววูจิน
กองทัพผู้ไม่ตายข้ามผ่านทุ่งราบไป
***
ลำแสงสีม่วงสูงขึ้นไปในท้องฟ้า ชั้นบรรยากาศข้างบนเป็นสีดำสนิทจนไม่รู้ว่าควรจะเรียกว่าท้องฟ้าหรือไม่ ลำแสงสูงขึ้นไปจนมองไม่เห็นยอด
แสงมาจากถ้ำใต้ดินแห่งหนึ่ง
วูจินเหยียดยิ้มเมื่อยืนตรงหน้าปากถ้ำ
“หนีมาที่นี่เหรอ?”
ปากถ้ำใหญ่แค่พอให้จูเลียลเข้าไปได้ แคบเกินไปสำหรับให้กองทัพผู้ไม่ตายเข้าไปทั้งหมด วูจินลงจากหลังม้าปีศาจของเขาและอัศวินมรณะตามเขามา
ถ้ำไม่ลึกนัก ไม่นานพวกเขาก็โผล่มาตรงที่กว้างขนาดเท่าสนามฟุตบอล ที่พิเศษคือที่นี่เพดานเปิดกว้างและมีพลอยสีม่วงขนาดใหญ่ส่องแสงสีม่วงขึ้นฟ้า
จูเลียลพักตรงหน้าพลอยนั้น
“นึกว่านายจะหนีอีก ยอมแพ้แล้วเหรอ?”
[ข้ายอมแพ้]
“นึกไม่ถึงเลยแฮะ”
[ข้าไม่มีเหตุผลต้องสู้ในการต่อสู้ที่ยากลำบาก]
ผลลัพธ์ไม่ดีแน่ จูเลียลถอนหายใจ
[ข้าพลาดที่รีบร้อนสร้างประตูมาสู่โลก]
ดวงตาของวูจินเป็นประกายวาบเมื่อได้ยินคำว่าประตู เขานึกขึ้นได้ว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์วางแผนจะครอบครองอาณาเขตมิติสักแห่งและส่งทีมสำรวจไปที่อัลเฟนเมื่อได้ประตูมา
“ต่อไปฉันจะแวะไปเล่นกับพวกนายบ่อยๆ”
[พูดเหลวไหลอะไรของเจ้า?]
“...”
[เจ้าไม่รู้อะไรเลยจริงๆ]
จูเลียลส่ายหน้าเมื่อเห็นวูจินเอียงคออย่างสงสัย
[เมื่อเจ้าพิชิตดันเจี้ยนได้แล้ว ประตูจะหายไป ข้าไม่ต้องเจอหน้าเจ้าอีก]
เมื่อประตูที่มันใช้เปิดมาสู่โลกหายไปจากอาณาเขตมิติของมัน มันก็ไม่มีธุระต้องมาที่โลกนอกจากมันอยากจะเปิดประตูใหม่ มันไม่มีทางได้เห็นใบหน้าน่ากลัวของผู้ไม่ตายอีกต่อไป
ควรจะถือว่ามันโชคดีหรือไม่ที่คังวูจินเลือกโหมดพิชิต?
ต่อให้มันตาย จูเลียลก็เกิดใหม่ได้
[กล่าวลากันตรงนี้เถอะ]
“นายจะยอมอยู่เฉยๆให้ฉันฆ่าเหรอ?”
[นั่นเป็นไปไม่ได้]
จูเลียลลุกขึ้น ตอนอยู่ข้างนอกมันตัวใหญ่กว่านี้หรือว่าวูจินดูผิดไปนะ?
[เจ้าทำพลาดไปอย่างหนึ่ง]
พืชพรรณที่งอกระเกะระกะรอบๆทุ่งราบปล่อยพลังงานสีเขียวออกมาและถูกดูดเข้าไปในร่างของจูเลียล
หลังจากได้รับพรจากทุ่งราบ ตัวของจูเลียลกลายเป็นเล็กลงและเล็กลงเรื่อยๆ
ที่จริงไม่ใช่ว่ามันตัวเล็กลง มันถูกบีบ
ไอน้ำเริ่มลอยออกมาจากร่างของจูเลียล
“ฮ่า”
พ่นลมหายใจรุนแรงเสร็จ จูเลียลลุกขึ้นยืนสองขา
“มนุษย์หมาป่าเรอะ?”
“ข้ายืมรูปร่างภายนอกของพวกมันมาเท่านั้น ฮื่อ”
วูจินเอียงคอ
“หมาบ้า?”
“ฮื่อ ข้าอยากฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆนัก”
“นายไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอก”
“ฮื่อ จริงสิ ถ้าเจ้าตายแม้แต่ครั้งเดียวก็เป็นการสิ้นสุดสำหรับเจ้า”
“เลิกเห่าเป็นหมาได้แล้ว”
หมา หมา ไอ้เวรนี่ทำกับมันเหมือนเป็นหมาตัวหนึ่งไม่เลิก
ดวงตาของจูเลียลเปลี่ยนเป็นแสงสีแดง
“ข้าจะฆ่าเจ้า”
จูเลียลหัวเราะเสียงเย็น มันเห็นแมวที่อยู่กับวูจินวิ่งมา
สัตว์เลี้ยงของมันหรือ?
แมวมีดวงตาน่ารักจับใจ แต่จูเลียลไม่ชอบมันเพราะเจ้าของคือผู้ไม่ตาย
“เมี้ยว”
จูเลียลเตะแมวไปทางอื่น
จูเลียลถีบพื้น พริบตาเดียวมันพุ่งมาทางวูจิน อุ้งเท้าหน้าของมันเปลี่ยนเป็นมือ เล็บคมหนาเหมือนดาบ
กึง!
ขวานของคิบะกันกรงเล็บของจูเลียลไว้
“แมลงน่ารำคาญ”
กึง กึง!
คิบะกันกรงเล็บของจูเลียลติดต่อกันแต่แล้วก็ถูกจูเลียลถีบจนสไลด์ไปด้านหลังด้วยพละกำลังที่เหนือกว่ามาก
คิบะคำรามเสียงต่ำ ดูเหมือนมันรู้สึกเสียศักดิ์ศรีที่ประลองกำลังแพ้
จูเลียลไม่สนใจพวกอสูรรับใช้ มุ่งเป้าแต่ที่วูจิน
ร่างกายที่เล็กลงหมายถึงมันได้ความเร็วรุนแรง และกำลังของมันก็ไม่ได้ลดลง ดีเยี่ยม
[เจ้าผ่านไปไม่ได้!]
ค้อนของแรมสันกันการโจมตีของจูเลียล
ค้อนดูดซับแรงปะทะแล้วสะท้อนคืนจูเลียล
ไม่ว่าพลังจะรุนแรงขนาดไหน ถ้าไม่ถูกเป้าก็ไม่มีประโยชน์
จูเลียลหลบการโจมตีทั้งหมดอย่างคล่องแคล่ว มันเล็งเล็บคมยาวไปที่หัวกะโหลกของแรมสัน
แรมสันก้มหัวหลบอย่างรวดเร็ว แต่หมวกเกราะก็ถูกปาดไปครึ่งหนึ่ง
[บังอาจ!]
แรมสันเข้ากอดจูเลียลด้วยความโกรธ อัศวินมรณะอีกด้านฟันดาบใหญ่ลงมาที่คอจูเลียล
ไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นหนังสัตว์ ดาบเด้งออกจากคอจูเลียลเสียงดังกึง มันบิดตัวหนี วิ่งไปทางวูจินโดยทิ้งอัศวินมรณะไว้ข้างหลัง
‘ฆ่ามัน’
มันไม่มีเวลาพัวพันกับอสูรของผู้ไม่ตาย
นี่คือวิธีสู้กับเนโครแมนเซอร์
อสูรไม่ว่าจะถูกฆ่าไปกี่ครั้งก็ถูกเรียกมาใหม่ได้ แต่ถ้าเนโครแมนเซอร์ตาย พวกอสูรก็จะกลายเป็นกลุ่มมอนสเตอร์ไร้ระบบระเบียบ
[เจ้าห้ามผ่าน!]
เนโครแมนเซอร์กับอสูรของมันก็เข้าใจเรื่องนี้ดี พวกอสูรจึงปกป้องอยู่รอบๆผู้ไม่ตาย จูเลียลใช้ความเคลื่อนไหวน้อยที่สุดเพื่อไปตรงหน้าศัตรู
‘ข้าเหลือเวลาอีกไม่มาก’
พรจากทุ่งราบมีผลแค่ช่วงสั้นๆ
น่าเสียดาย แต่มันก็มอบพลังมหาศาลแก่จูเลียลเป็นการชดเชย
ผู้ไม่ตายเหยียบเข้ามาในอาณาเขตของจูเลียลเอง โอกาสจะได้ฆ่ามันมีไม่บ่อยนัก
‘ถ้าเพียงแต่ข้าได้สู้กับมันตรงๆ’
ถ้าสลัดพวกอสูรน่ารำคาญพวกนี้หลุดได้ มันจะสามารถฆ่าผู้ไม่ตายในการโจมตีครั้งเดียว ขอแค่ต้องไปให้ถึงตรงนั้น จูเลียลคิดทบทวนเรื่องนี้หลายต่อหลายครั้งมานานปี วิธีต่อสู้กับเนโครแมนเซอร์
มันแพ้เพราะเสียเปรียบเรื่องจำนวนทุกครั้ง มันต้องการพลังที่เหนือกว่าเหล่าอสูรของเนโครแมนเซอร์มาก
การสนับสนุนจากอาณาเขตและพรจากทุ่งราบมอบพลังนั้นให้มัน
“ตาย!”
จูเลียลมาถึงตรงหน้าวูจินแล้วสะบัดกรงเล็บ
ถ้ามีเวลา มันอยากฆ่าอสูรรับใช้ให้หมดแล้วค่อยๆฆ่าผู้ไม่ตายช้าๆ แต่พรจากทุ่งราบที่บีบร่างมันมีเวลาจำกัดและเวลาก็ใกล้หมดเต็มทีแล้ว
อย่างมากก็อีก 10 วินาที
แต่วินาทีเดียวก็เพียงพอสำหรับฆ่าไอ้เวรนี่
แก๊ง!
วูจินยกไม้เท้าเหล็กกันกรงเล็บของจูเลียล วูจินกระโดดถอยหลังเหมือนเสียเปรียบด้านกำลัง แต่ยังเร็วพอจะป้องกันการโจมตี...
8 วินาที
กึง!
ก่อนกรงเล็บของจูเลียลจะได้ผ่าหัวของผู้ไม่ตายที่ยืนชะงักอยู่ อัศวินมรณะตนหนึ่งก็เข้ามารับไว้แทน
ทั้งอาวุธและกรงเล็บฝังเข้าไปในตัวอัศวินมรณะ มันถูกผ่าครึ่ง ชุดเกราะของมันร่วงลงเป็นกอง
6 วินาที
ยังพอมีเวลา สีหน้าวุ่นวายใจของผู้ไม่ตายบอกทุกอย่าง จูเลียลฆ่ามันได้
ไม้เท้าของมันเปลี่ยนเป็นดาบใหญ่ ป้องกันได้อีกครั้ง แต่จูเลียลใช้แรงที่เหนือกว่ามากปัดดาบใหญ่ลอยขึ้นกลางอากาศ วูจินต้องปล่อยไปเพื่อไม่ให้มือฉีกเปล่าๆ
3 วินาที
มันชนะ
กรงเล็บจูเลียลเสียบทะลุหัวใจของคังวูจินที่ไร้อาวุธ
ฆ่ามันได้แล้ว
ผู้ไม่ตาย...
“ข้าทำได้แล้ว”
สิ่งที่แม่ทัพในแท่นสูงกว่าทำไม่ได้ แต่มันที่ครองเพียงแท่นสองแท่นทำได้
ช่วงที่คังวูจินล้มลง...เขาอดหัวเราะไม่ได้
“โง่”
“เป็นไปได้ยังไง...”
“ต่อให้แสนรู้แค่ไหนแต่หมาก็คือหมา”
“...”
ภาพรอบตัวจูเลียลหมุนติ้ว
ตัวมันกำลังนอนหงายมองวูจินที่อยู่เหนือมัน
“เป็นไปได้ยังไง...”
“ปีศาจน้อยของฉันนิสัยเสียไปหน่อย”
“...”
จูเลียลมองไปทางแมว
แมวเปลี่ยนร่างกลายเป็นปีศาจตัวน้อย
อา ตอนนี้มันจำได้แล้ว นั่นคือแม่มดมายา
“ภาพลวงตา...”
“นายเต้นเก่งดีนะ”
“...”
จูเลียลมองรอบตัว เหล่าอัศวินมรณะยังยืนอยู่ที่เดิม มองลงมาที่มันด้วยสีหน้าว่างเปล่า
จูเลียลตื่นเต้นไปเอง กระโดดโลดเต้นไปเองคนเดียว...
มันไม่ต้องมองรอยแผลเจ็บหนึบที่คอก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันล้มทั้งหอกแทงใส่ตัวมัน มันรู้สึกถึงแรงบีบรัดที่อก
“โอกาสหน้าเจอกันใหม่”
“คึๆ ข้าไม่มีเหตุผลให้ต้องเจอเจ้าอีก”
มันยังต้องใช้เวลาอีกนานในความมืดและว่างเปล่าของความตาย แต่สุดท้ายมันจะคืนชีพขึ้นมาใหม่
จูเลียลจะไม่เปิดประตูมาที่โลกอีกแล้ว
“ใครจะรู้”
วูจินดันหอกลึกเข้าไปอีก ตัดลมหายใจของจูเลียลทันที แสงสีเทาล้อมรอบศพของมันแล้วสลายไปในสายลม
“เฮ้อ เกือบไป”
“ฮิๆ เราทำได้ดีใช่ไหม?”
“เธอทำได้ดี”
“เจ้านั่นหลงกลเดิมๆทุกทีเลยเมี้ยว”
วูจินยิ้มแล้วลูบหัวบิบิ
ความเร็วของจูเลียลที่ได้รับพรจากทุ่งราบเป็นภัยคุกคาม ถ้ามันไม่ตกอยู่ใต้มนตร์ลวงตาและตั้งใจจู่โจมเขาจริงๆ วูจินต้องแย่แน่
อาชีพที่สองของวูจินคือวอริเออร์ แต่เขาเอาแต้มโบนัสทั้งหมดไปเพิ่มค่าบงการกับเวทย์ ถึงแม้ว่าเขาจะกินหินเพิ่มค่าสถานะให้ตัวเอง ร่างกายเขาก็แค่แข็งแกร่งกว่าเราส์คนอื่น ค่าสถานะด้านกายภาพของเขาไม่สูงพอจะสู้กับแม่ทัพของทราห์เน็ต
วูจินแตะพลอยม่วงที่กำลังสร้างลำแสงกลางรังของจูเลียล
เมื่อเขาหยิบพลอยขึ้นมา ลำแสงก็ลดเข้ามาในพลอยในมือของวูจิน
<ท่านได้รับชิ้นส่วนมิติ>
วูจินยิ้ม
เขามีชิ้นส่วนสำหรับเอาอาณาเขตมิติครบ 3 อันแล้ว
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณคะ ^ ^ เป็นกำลังใจให้คนแปลนะคะ
ตอบลบสู้นะคะรอเสมอ^∆^
ตอบลบ