บทที่ 104 – อาณาเขตมิติ (2)
“หึ นายต่อยฉัน แค่เพราะฉันปลอมตัวเนี่ยนะ ยอมเลย นิสัยนายนี่เน่าจริงๆ”
ลีซังโฮยักไหล่แล้วมองไปรอบๆ วูจินยิ้ม ไม่ใช่สิ เขาหัวเราะพลางเหวี่ยงไม้เท้า
ปึก!
ลีซังโฮตกใจกระโดดหลบ ไม้เท้าของวูจินตาม สุดท้ายก็ตีโดนสีข้างของลีซังโฮ
“เหี้ย!”
ไอ้คนไร้มารยาทนี่ เขาอยากฆ่ามันจริงๆไม่เกี่ยวว่าเป็นลูกน้องของเลลโลหรือไม่
“ทำอะไร! ทำไมตีฉัน?”
“เพราะนายทำผิดมหันต์ นายต้องตาย”
วูจินเปลี่ยนไม้เท้าเป็นรูปแบบหอก ลีซังโฮกลืนน้ำลายเมื่อเห็นสายตาจริงจังของวูจิน
‘มันเอาจริง’
ลีซังโฮมองรอบๆ เราส์ถอยไปยืนห่างๆเพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สายตาพวกเขาจ้องมาที่คนทั้งสอง
“ห่า ฉันทำผิดอะไร? นายกำลังจะเป็นฆาตกรนะ”
วูจินยิ้มเยาะ
เถียงกับคนใกล้ตายไปก็ไม่มีประโยชน์
ลีซังโฮป้องกันหอกที่วูจินแทงมาทางเข้า วูจินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ลีซังโฮใช่คนที่มีปฏิกิริยาตอบโต้เร็วแบบนี้เลยหรือ?
‘เวร ไอ้ป่าเถื่อนนี่’
ลีซังโฮตกใจเมื่อเห็นวูจินไม่สนสายตาคนอื่นเลย แต่เขามั่นใจในตัวเอง เขามีพลังที่ได้รับมอบมาจากการเป็นลูกน้องของเลลโล
ลีซังโฮมองไปรอบๆด้วยตาแดงก่ำ
“ต่อให้ฉันทำผิดก็ต้องขึ้นศาลไม่ใช่เหรอ? นายเป็นใครวะมาฆ่าฉัน!”
วูจินเพียงแต่ยิ้มดูลีซังโฮโวยวาย
วูจินรู้สึกได้ถึงวิญญาณชั่วร้ายสกปรกของลีซังโฮกำลังสั่น
วูจินก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
ลีซังโฮถอยหนึ่งก้าว
ไอ้บ้านี่มันกะเอาเขาตายจริงๆ
‘มันเห็นอะไรน่าสงสัยเหรอ?’
มันมีเหตุผลอะไร?
วูจินรู้หรือว่าเขาเป็นตัวการทำให้เกิดดันเจี้ยนระเบิด?
เขาเปลี่ยนรูปร่างภายนอกของตัวเองด้วยผ้าคลุมมายาทุกครั้งที่ย้ายไปที่อื่น
ลีซังโฮคิดกังวลไปมากมาย แต่คังวูจินไม่สนใจ
ปึก!
“อั่ก!”
ใบหอกทะลุผ่านกระดูกซี่โครงแทงลึกในปอดเขา ลีซังโฮมองคังวูจินด้วยตาแดงก่ำ เขาเร็วกว่าก่อนได้พลังจากเลลโล แต่ไม่ว่าความเร็วจะเพิ่มแค่ไหนก็หลบการโจมตีของวูจินไม่ได้
‘แม่ง ไอ้ป่าเถื่อนนี่’
เหมือนความมั่นใจที่เปี่ยมล้นของเขาหล่นหายไปหมด
ไอ้เวรนี่มันแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่แล้ว?
มันใช่คนจริงๆเหรอ?
เป็นคำถามที่ดี ไม่มีใครบนโลกเคยเห็นว่าผ้าคลุมมายาทำงานอย่างไร แล้วคังวูจินรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นคนเที่ยวทำให้เกิดดันเจี้ยนระเบิด?
“นายรู้ได้ยังไง?”
“...”
รู้ได้ยังไง? เขาไปหาข้อมูลที่ตะวันออกกลางและกลับมา วูจินบิดหอกทำให้แผลกว้างขึ้นอีก เลือดเริ่มทะลักออกมา
“อั่ก”
ความคิดของลีซังโฮกระจัดกระจายจนไม่คิดจะใช้พลังจิตเคลื่อนย้ายสิ่งของของตัวเอง ยิ่งกว่านั้นเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะโจมตีวูจินได้
“ห่า โลกไม่ยุติธรรมเลยว่ะ หึ ถึงนายจะเก่งแค่ไหนแต่ก็หยุดไม่ได้หรอก ต่อให้ไม่ใช่ฉัน คนอื่นก็จะทำให้เกิดดันเจี้ยนเบรกอีก”
“อะไรนะ?”
“คึๆ โลกจะถูกทำลายแล้ว นายหยุดไม่ได้หรอก ท่านพวกนั้นคือพระเจ้า พระเจ้ากำลังลงมาที่โลกนี้!”
“...”
วูจินขมวดคิ้ว
“คึๆๆ”
ลีซังโฮหัวเราะแล้วไอเป็นเลือด สุดท้ายทุกคนจะตาย เขาแค่ตายเร็วกว่าหน่อย เขาโชคดีแล้วที่ได้เห็นสีหน้าร้อนใจของวูจิน
“นายทำให้เกิดเบรกได้ยังไง?”
“แค่ก”
ลีซังโฮกระอักเลือดจากนั้นก็ตาเหลือกไป วูจินเอาวิญญาณที่เก็บไว้ในเกราะผีออกมารักษาลีซังโฮ ลีซังโฮลืมตาขึ้นกว้างเมื่อจู่ๆร่างกายก็มีพลังเต็มเปี่ยม สติที่เลือนรางหวนคืนกลับมาใหม่
วูจินถอนหอกออก เลือดพุ่งกระฉูดพร้อมเสียงโหยหวนของลีซังโฮ แต่เขาส่งวิญญาณไปรักษาลีซังโฮอีกอย่างรวดเร็ว
วูจินคว้าท้ายทอยของลีซังโฮ
“อั่ก นายช่วยฉันไว้ทำไม?”
วูจินลากลีซังโฮเข้าไปที่ดันเจี้ยนใกล้ที่สุดโดยไม่สนใจลีซังโฮที่ดิ้นรนต่อต้าน
เราส์ที่ยืนมองอยู่เข้ามาหาพวกเขา
“ผม...ผมไม่แน่ใจว่ามันเรื่องอะไร แต่ต้องการให้ช่วยไหม?”
“ไม่ต้อง”
วูจินฆ่าลีซังโฮได้อยู่แล้ว ไอ้นี่ทำผิดจนสมควรตาย แต่เขาไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนเห็นตอนเขาสอบสวนลีซังโฮ เมื่อวูจินเข้าดันเจี้ยนไป เขาโยนลีซังโฮอย่างหยาบคาย
“นายคิดจะทำอะไรวะ?”
“นายเป็นคนทำให้เกิดดันเจี้ยนเบรกเหรอ?”
“...นายรู้ว่าฉันเป็นคนทำถึงคิดจะฆ่าไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันไม่รู้”
“งั้นทำไมถึงจะฆ่ากูล่ะโว้ย!”
“นายเป็นคนจะฆ่าฉันก่อน ฉันไม่ตายและตอนนี้ก็กำลังจะเอาคืน”
“...”
“นายเป็นคนจ้างมือสังหารจากตะวันออกกลาง”
“...”
ลีซังโฮเงียบ เขาเลือกนายหน้าที่เป็นที่รู้จักเรื่องความละเอียดรอบคอบในการทำธุรกิจ ดูเหมือนนายหน้าคนนั้นจะเก็บหลักฐานไว้และคังวูจินรู้ทุกอย่าง แล้วแบบนี้จะใช้โทรศัพท์ใช้แล้วทิ้งติดต่อเขาทำไมวะ...
“ยังไงฉันก็ฆ่านายอยู่แล้ว แต่ฉันอยากรีดทุกอย่างที่นายรู้เรื่องดันเจี้ยนเบรกออกมาให้หมด”
ลีซังโฮหัวเราะ มันต้องการสิ่งนี้?
“คิดเหรอว่าฉันจะบอก?”
วูจินยิ้มเหี้ยม
“ทนได้ก็ลองดู”
วูจินยกไม้เท้าเหล็กขึ้น
***
บิบิดูตลกเมื่อสวมชุดคลุมสีดำตัวใหญ่หลวมโพรก แขนเสื้อยาวเกินไปและปลายชุดคลุมก็ลากไปตามพื้น แต่เธอยิ้มกว้างเหมือนดีใจมาก
“เฮะๆ ไม่นึกเลยว่าจะได้เห็นเสื้อนี่ที่โลก”
“ชอบเหรอ?”
“แน่นอน เสื้อเรานี่นา”
บิบิเคยใส่ชุดคลุมนี้เสมอเหมือนเป็นเครื่องแบบประจำตัว
ผ้าคลุมมายาที่ลีซังโฮหามาอย่างยากลำบากถูกวูจินเอาไปให้บิบิ
“ฉันรู้ข้อมูลทุกอย่างแล้ว ปลุกมัน”
“ฮิๆ ได้ค่ะ”
ลีซังโฮนอนครางตาเหลือกบนพื้น บิบิใช้พลังกับเขา
“เฮือก!”
ลีซังโฮถูกปลุกขึ้นมา เขาทำท่าเหมือนไปเจอผีมา เขาถอยห่างจากวูจิน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว
มันเป็นแค่ฝัน แต่เขาฝันว่าวูจินซ้อมเขาเป็นเวลา 1 ปี ความกลัวที่เขาเผชิญมา...
“ฆ่าฉันเถอะ”
วูจินถือขวานเดินมา ลีซังโอนอนหงาย
“ปละ...ปล่อยฉันไปเถอะ บอก ฉันจะบอกทุกอย่าง”
“ฉันรู้หมดแล้ว”
“อะไรนะ?”
วูจินกดขวานลงบนคอของลีซังโฮ หัวถูกตัดขาดจากร่าง มันกลิ้งไปโดยมีแสงสีเทาล้อมรอบ
วูจินเดาะลิ้นเมื่อเห็นศพหายไปเหมือนถูกเผา
“แสดงว่าตอนนี้พวกมันเอาคนจากโลกไปอยู่ฝั่งมันได้แล้วสิ”
ลีซังโฮกลายเป็นลูกน้องของเลลโล?
วูจินรู้ด้วยว่าเขาทำให้เกิดดันเจี้ยนเบรกอย่างไร
เมื่อกลายเป็นลูกน้องของเลลโล มอนสเตอร์ก็ไม่โจมตี ลีซังโฮใช้หินรีเทิร์นสโตนทำลายบาเรีย ก็เหมือนปลดกลอนประตูปล่อยมอนสเตอร์ออกมา
“แต่อย่างนี้เราก็สบายใจได้นิดหนึ่งแล้วล่ะ”
“มันจะเกิดขึ้นอีก”
มอนสเตอร์จะแตะต้องหินรีเทิร์นสโตนได้เมื่อเวลาผ่านไป 30 วันเท่านั้น ที่ลีซังโฮถือหินรีเทิร์นสโตนได้เพราะเหตุผลง่ายๆว่าเขาคือคนจากโลก
เขาตายและหายไป ตอนนี้เขาไปอยู่ฝั่งทราห์เน็ต เขาจะคืนชีพขึ้นมาใหม่แต่ไม่ใช่คนของโลกอีกต่อไป เป็นเพียงลูกน้องของเลลโล หนึ่งในแม่ทัพ 72 ตนของทราห์เน็ต
ในมุมมองของโลก เขาเป็นเพียงคนนอก
จากนี้ไป วูจินต้องฆ่าทุกคนที่ถูกล่อลวงไปอยู่ฝ่ายทราห์เน็ต
“ออกกันเถอะ”
“ได้ค่ะ”
บิบิม้วนแขนเสื้อขึ้น แล้วดึงปลายเสื้อคลุมขึ้นมามัดรอบเอว เธอเหมือนถูกพันด้วยผ้าห่ม แต่บิบิมีท่าทางร่าเริงที่สุดเท่าที่วูจินเคยเห็นในช่วงที่ผ่านมานี้
วูจินลงไปชั้นล่างเพื่อเอาหินรีเทิร์นสโตน เขาจัดการมอนสเตอร์ทุกตัวแต่ไม่เจอหินรีเทิร์นสโตน
“นี่เป็นดันเจี้ยนระดับสูงเหรอ?”
แบบนี้ก็ยุ่งยากหน่อย แต่วูจินในตอนนี้ไม่มีดันเจี้ยนไหนที่เขาเคลียร์ไม่ได้ เขาขึ้นไปที่ทางออกที่มีบาเรียกางอยู่ อุโมงค์สีแดงก่อตัวอยู่แล้ว
วูจินผ่านอุโมงค์เข้าไป
หลังจากผ่านเสียงอื้ออึงและหายจากความมึนงง วูจินเห็นสภาพของดันเจี้ยนระดับสูง มันเป็นที่รกร้างมีต้นอ้องอกเป็นบางแห่ง
เขาไม่เห็นมอนสเตอร์สักตัว
“หืม”
มีภูเขาจำนวนหนึ่งสูงเสียดฟ้าเหมือนใบมีด ท่ามกลางนั้นมีภูเขาที่มียอดสูงที่สุดกำลังเปล่งแสงสีเขียวขึ้นฟ้า ดูเหมือนหินรีเทิร์นสโตนจะอยู่ที่นั่น
มันอยู่ไกลเกินกว่าจะเดินไป วูจินเรียกชิงชิงออกมา
วูจินควบม้าผ่านทุ่งร้างที่มีต้นไม้รูปร่างแคระแกร็นขึ้นตรงนั้นตรงนี้
“มอนสเตอร์ทั่วไปของที่นี่คืออะไรนะ?”
เขาเข้ามาโดยไม่ได้ดูข้อมูลดันเจี้ยนจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลย
ความสงสัยของวูจินได้รับคำตอบในเวลาไม่นาน
พวกมอนสเตอร์โผล่มาจากท้องฟ้า พร้อมกับเสียงร้องเสียดหู
วูจินกำลังสงสัยว่าทำไมในทุ่งไม่มีมอนสเตอร์เลย ดูเหมือนรังของพวกมันจะอยู่ในภูเขาแหลมเหมือนมีดนั่นเอง
มอนสเตอร์ในท้องฟ้าบินมาทางเขา พวกมันอยู่ห่างไปมากแต่ก็ยังใหญ่กว่าเหยี่ยว มันคือไวเวิร์น
“ที่นี่คือรังของบิรองงั้นสิ?”
ที่นี่คงเป็นดันเจี้ยน 6 ดาว เป็นโอกาสเก็บค่าประสบการณ์อย่างดี
วูจินขี่ชิงชิง เรียกอาวุธของเขาออกมาแล้วเปลี่ยนเป็นธนู
เขาดึงสายธนู ลูกศรเวทย์ก่อตัวขึ้นเตรียมยิง
***
วูจินมาถึงยอดเขา
ดันเจี้ยนนี้ยังไม่รีเซ็ท ไม่มีบอสไม่ว่าจะเป็นบอสไวเวิร์นหรือมอนสเตอร์ประเภทอื่น น่าเสียดายแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงอย่างนั้นเลเวลของวูจินก็เพิ่มมา 1 เลเวล และเขาก็พบว่าที่นี่เป็นดันเจี้ยนที่ดีทีเดียวจึงตั้งใจจะมาที่นี่อีกหลายๆครั้ง
บนยอดเขามีปราสาทร้างแห่งหนึ่ง
“เจ้านาย ที่นี่ไม่น่ากลัวไปหน่อยเหรอ? เหมือนผีจะโผล่มาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้เลย อึ๋ย”
บิบิตัวสั่น มองไปรอบๆด้วยดวงตากลมโต
วูจินยิ้ม
ไม่น่าใช่บทสนทนาระหว่างปีศาจน้อยกับเนโครแมนเซอร์เลย
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคืนนี้เขาได้ฝันถึงผีแน่
“ไปหาอาร์ติแฟคแถวนั้น เผื่อจะมี”
“ได้จ้า โดลเซจิง ไปกัน”
บิบิกับโดลเซค้นไปทั่วปราสาท วูจินออกเดินไปทางแสงสีเขียว
เขาเดินผ่านสวนว่างเปล่า สิ่งก่อสร้างที่เหมือนจะเป็นคอกม้า จากนั้นก้าวเข้าไปในตัวปราสาท
ประตูพังไปแล้ว ในตัวปราสาทมีใยแมงมุมเต็มไปหมด
รูปเหมือนของใครไม่รู้ถูกเผาจนเหลือแต่กรอบส่วนบน กลางห้องโถงใหญ่มียกพื้นเล็กๆกับเศษซากของบัลลังก์
“เชี่ย ใครมันมาสร้างปราสาทถึงบนยอดเขาวะ?”
ดันเจี้ยนสร้างจากสถานที่ที่มีอยู่จริง มันเป็นส่วนเสี้ยวที่ถูกฉีกออกมาของมิติ ปราสาทนี้มีเจ้าของก่อนที่จะถูกทราห์เน็ตบุก
วูจินหยิบหินรีเทิร์นสโตนที่อยู่บนบัลลังก์
ตอนนั้นเอง หินในมือเขาสั่นแล้วส่องแสงออกมา หลักฐานมิติโผล่ออกมาโดยที่วูจินไม่ได้ทำอะไร มันลอยขึ้นกลางอากาศแล้วไล่ตามหินรีเทิร์นสโตนเหมือนกำลังเล่นไล่จับ จากนั้นหลักฐานมิติก็เริ่มลอยวนรอบหินเหมือนพระจันทร์หมุนรอบโลก
<ความเข้ากันได้ 72% ท่านต้องการประกาศรังไวเวิร์นเป็นเขตแดนของท่านหรือไม่?>
วูจินลูบคางพลางอ่านข้อมูลที่โผล่มาตรงหน้า
หมายความว่าเขามาเจอกับดันเจี้ยนที่เหมาะกับแล้วเหรอ?
วูจินลูบคางอย่างลังเล
สีดำ หำของเค้าต้องสีดำ
ตอบลบ