วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 98

บทที่ 98 – ฮงซุงกูโจมตี


[ขณะนี้ ดันเจี้ยนเบรกเกิดขึ้นในดันเจี้ยนที่ถูกพิชิตแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ภาพที่เราเห็นข้างหน้าเหมือนดันเจี้ยนช็อกครั้งนั้นหวนกลับมา...]

ทุกคนในห้องดูข่าวแล้วนิ่งไป

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ทำไมดันเจี้ยนถึงระเบิดก่อน 30 วัน?

ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึง ประตูห้องก็เปิดออก

“รองประธานครับ เราได้คำขอจากกระทรวงกลาโหมให้เราส์ทุกคนหยุดเคลียร์ดันเจี้ยน และคำสั่งให้เตรียมพร้อม”

“อืม เข้าใจแล้ว”

มินชานมีสีหน้าเคร่งเครียด

ดันเจี้ยนเบรกครั้งนี้มันผิดปกติและการสั่งให้ทุกคน,นอกจากคนที่ยังติดในดันเจี้ยน,เตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งสมควร ซุงกูอยู่ในห้องและฮีซอลอยู่ใกล้ๆศูนย์กักกันมอนสเตอร์

“ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

“เราควรรายงานท่านประธานก่อนใช่ไหม?”

“ผมไม่มีวิธีติดต่อกับเขา...”

วูจินไม่ใช้โซเชียลมีเดีย แม้แต่อีเมล์ก็ไม่ค่อยเข้าไปดู วิธีเดียวที่จะติดต่อเขาได้คือแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ แต่ถ้าไม่มีอินเตอร์เน็ตก็ทำไม่ได้

“ก่อนอื่นส่งข้อความไปหาเขา แล้วพยายามติดต่อเขาผ่านทางกิลด์ไททัน”

วูจินอยู่กับสตรีศักดิ์สิทธิ์ ถ้าพวกเขาติดต่อเธอได้ก็มีทางติดต่อกับวูจิน ถึงไม่ได้ผล ข่าวต่างประเทศย่อมต้องรายงานดันเจี้ยนเบรกครั้งนี้ เขาจะได้ข่าวอยู่ดี

“ฮืม ตกลงว่ามันเรื่องอะไรกันแน่...”

มินชานตัวสั่นเมื่อนึกถึงดันเจี้ยนช็อกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คนนับไม่ถ้วนตายเมืองหลายแห่งถูกทำลาย ที่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ในเวลาสั้นๆก็ด้วยการใช้เงินจำนวนมากที่ได้จากบลัดสโตน แต่จำนวนประชากรยังไม่กลับมาเท่าก่อนเกิดดันเจี้ยนช็อกเลย

ทุกคนดูข่าวอย่างตึงเครียด

***

ตึกใกล้ๆสถานีจุกจุน แดกู ถูกทำลายราบคาบ

พวกโทรลน้ำแข็งออกอาละวาด ไม้กระบองฟาดยานพาหนะกระเด็นไปอย่างง่ายดาย อาคารพังทลายเมื่อพวกมันฟาดกระบองใส่

ไม่มีการเตือนมาก่อนว่าจะเกิดดันเจี้ยนเบรก ดังนั้นนี่จึงเป็นหายนะของชาวเมือง

โทรลน้ำแข็งตัวหนึ่งสูดจมูกฟืดฟาดขณะเดินไปรอบเขตที่พักอาศัย

มันได้กลิ่นมนุษย์

มันตัวไม่ใหญ่ขนาดโอเกอร์ แต่ยังใหญ่เป็นสองเท่าของมนุษย์ มันสูงพอมองผ่านหน้าต่างชั้นสองเข้าไปในบ้านได้ เห็นขนตาน่าขยะแขยง

“กรี๊ด!”

เด็กหญิงคนหนึ่งสบตากับมัน เธอกุมหัวส่งเสียงกรี๊ด

โทรลน้ำแข็งหัวเราะแล้วยื่นแขนเข้ามา มนุษย์อายุน้อยจะอร่อยเป็นพิเศษ

โทรลน้ำแข็งมีขนสีขาวคลุมหนา มันใช้แขนยาวทุบหน้าต่าง ทำข้าวของในห้องเละเทะขณะควานหาเด็กหญิง เด็กหญิงพยายามถอยหลังจนกระทั่งชนกำแพง ไม่มีทางหนี

ประตูอยู่ข้างเธอ แต่ขาของเด็กหญิงแข็งทื่อด้วยความกลัว ไม่คิดแม้แต่เปิดประตูหนีไป

โทรลน้ำแข็งยื่นมือมาใกล้ แต่เด็กหญิงหลบ มันโกรธแล้วยกไม้กระบองขึ้น ตั้งใจจะทำลายบ้านแล้วค่อยกินเด็กหญิง

ตอนนั้นเอง ชายร่างบึกร่วงลงมาจากฟ้า

“ฮึบ!”

กำปั้นชายคนนั้นทุบใส่หัวโทรลน้ำแข็ง

“คู-รู-รู-รูก!”

“อ้า ไม่ตายแฮะ”

เขาลงน้ำหนักทั้งหมดไปที่การโจมตีนี้แต่โทรลน้ำแข็งไม่ตาย ศีรษะมันผิดรูปเหมือนกะโหลกยุบไป แต่มันกระตุกเหมือนกำลังจะฟื้นตัว

“ถ้าครั้งเดียวไม่ได้ผล งั้นก็อีกครั้ง!”

กำปั้นเขากลายเป็นสีดำ

กึง!

เหมือนกำปั้นสีดำกลายเป็นหิน มันทุบหัวโทรลน้ำแข็งแตก สมองไหลออกมา โทรลน้ำแข็งยังกระตุกแต่ไม่นานก็นิ่งไป

“เอ้า เด็กน้อย ออกมาเถอะ”

เด็กหญิงไม่ขยับตามคำบอกเพราะกลัว คนกลุ่มหนึ่งไล่ตามชายคนนั้นมาถึง

“ประธาน!”

“ดูแลตรงนี้ให้เรียบร้อย มีเด็กด้วย”

“ครับ”

เบคจองโด ประธานกิลด์ KH เดินเข้าไปในตรอก ขมวดคิ้วเมื่อเห็นโทรลน้ำแข็งอีกตัวเดินมาทางเขา

“กองทหารยังไม่มาอีกเหรอ?”

“กำลังลดจำนวนมอนสเตอร์จากด้านตะวันออกครับ พลเมืองยังไม่อพยพออก คงหวังเรื่องการยิงสนับสนุนไม่ได้”

ถ้าเป็นดันเจี้ยนเบรกที่คาดไว้แล้วว่าจะเกิดคงไม่มีปัญหาแบบนี้

พลเมืองจะถูกย้ายออกไป กองทัพจะตั้งสมาธิมาที่การยิงสังหารมอนสเตอร์ที่หลุดออกมาจากดันเจี้ยน

แต่วิธีนี้เป็นไปไม่ได้เพราะนี่เป็นดันเจี้ยนเบรกที่เกิดกะทันหัน

เมื่อไม่ได้ย้ายพลเมืองออกไป การทิ้งระเบิดใส่เมืองก็ทำไม่ได้ และรถถังก็ช้าเกินไปสำหรับการล่ามอนสเตอร์ที่กำลังซ่อนตัวในเมือง เราส์จึงเหมาะที่สุดสำหรับการล่ามอนสเตอร์ที่ซ่อนตัวเช่นนี้

ด้วยเหตุนี้เราส์ทุกคนที่มาเพื่อเข้าดันเจี้ยนในแดกูจึงได้รับคำสั่งระดมพล

เบคจองโดของกิลด์ KH จองดันเจี้ยน 6 ดาวของดันเจี้ยนในแดกูไว้ แต่มาที่นี่เมื่อได้ข่าวดันเจี้ยนเบรก

เราส์กระจายไปในตัวเมือง ล่าพวกมอนสเตอร์

“ชิ โชคยังดี พวกมอนสเตอร์ยังไม่หลุดมามาก”

เราส์แรงค์ B หนึ่งคนสามารถสู้กับโทรลน้ำแข็งได้ ถ้าเป็นตัวใหญ่มากๆ ก็ยังฆ่ามันได้ถ้าร่วมมือเป็นทีม นี่ไม่ใช่ดันเจี้ยนที่จำกัดจำนวนคน ข้างนอกนี้เราส์ได้เปรียบเรื่องจำนวน โชคดีพอสมควรที่มอนสเตอร์ที่ออกมาเป็นโทรลน้ำแข็งตัวใหญ่เห็นง่าย ถ้าเป็นมอนสเตอร์ตัวเล็กหลบเก่งคงกำจัดมันให้หมดได้ยาก

เรื่องความเสียหายเป็นเรื่องเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่มากพอจะเรียกว่าเป็นภัยพิบัติ ปัญหาคือดันเจี้ยนที่ระเบิดกะทันหันแบบนี้เป็นการเริ่มต้นของปัญหาใหม่หรือเปล่า

“หวังว่ามันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ”

ถ้าอยากเรียกมันเป็นอุบัติเหตุธรรมดาก็ต้องหาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมดันเจี้ยนเบรกจึงเกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือน แต่ก่อนอื่นคือต้องกำจัดมอนสเตอร์ที่หลุดออกมาให้หมด

เบคจองโดมองโทรลน้ำแข็ง กำปั้นของเขากลายเป็นสีดำสนิท

***

ซู่

น้ำจากฝักบัวไหลลงมาทำให้ร่างกายกับจิตใจของเขาเย็นลง

“ฮ้า”

ลีซังโฮคราง เขาได้รับสิ่งสุดยอดมา

“ฉันควบคุมมันได้”

เราส์ต้องเคลียร์ดันเจี้ยนก่อนถึงจะออกมาได้ ต้องใช้หินรีเทิร์นสโตนลดบาเรียลง มอนสเตอร์ก็เช่นกัน ผ่านไป 30 วัน พวกมันจะใช้หินรีเทิร์นสโตนเพื่อออกจากดันเจี้ยน

นั่นคือดันเจี้ยนเบรก

“เฮ้อ พลังนี่...”

เขากลายเป็นลูกน้องของเลลโล มอนสเตอร์ไม่เห็นเขาด้วยซ้ำขณะเขาตรงไปที่หินรีเทิร์นสโตน เขาหยิบหินแล้วลดบาเรียลง

มันเหมือนดันเจี้ยนเบรกครั้งก่อนๆ แต่คราวนี้เขาเป็นคนปล่อยมอนสเตอร์ออกมา

ไม่มีการเตือน และเป็นความตั้งใจของเขาเอง

“คึๆๆ”

เขารู้ว่าความเสียหายจะใหญ่หลวงขนาดไหนถ้าเกิดดันเจี้ยนเบรกโดยไม่มีใครเตรียมพร้อม เขาผ่านดันเจี้ยนช็อกมาแล้ว

คนส่วนใหญ่ย้ายไปอยู่ที่ปลอดภัยห่างจากสถานีใต้ดิน แต่ยังมีคนจำนวนมากอยู่รอบดันเจี้ยนเพื่อทำงาน

สถานการณ์นี้เหมือนบ้านที่ทำจากไพ่ แค่แตะนิดเดียวมันก็จะพังทลาย

“จงกลัวตัวสั่นเข้าไป”

น่าเสียดายที่เขาควบคุมมอนสเตอร์ไม่ได้ แต่การทำให้เกิดดันเจี้ยนเบรกก็จะให้ผลอย่างที่เขาต้องการ
แน่นอนเขาต้องเตรียมอะไรหลายอย่างก่อน

อาจมีคนเห็นว่าเขาออกมาจากดันเจี้ยนกับพวกมอนสเตอร์ เขาต้องวางแผนปกปิดการกระทำของตัวเอง หลังจากเตรียมพร้อมแล้วเขาจึงจะเริ่มลงมือ

“คังวูจิน รอก่อนเถอะ”

คังวูจิน

มันต้องได้รู้

ความเศร้าจากการสูญเสีย

“จะแย่งอะไรมาจากมันเป็นอย่างแรกก่อนดี?”

ลีซังโฮหัวเราะ เขาไม่เคยพอใจขนาดนี้มาก่อนเมื่อเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก หลายวันมานี้ เขาเคยมีความสุขขนาดนี้ไหม? แค่คิดว่าจะทำลายไอ้เวรนั่นยังไงเขาก็รู้สึกเคลิบเคลิ้ม

เหมือนความเครียดที่กดดันเขามานานกระจายหายไป

“ใช่ อย่างแรก ครอบครัวมัน...”

ต่อไปก็เพื่อนมัน กิลด์ ลูกน้อง ชื่อเสียง...

เขาจะแย่งทุกอย่างมาจากคังวูจิน

***

มีผู้เสียชีวิต 47 ราย บาดเจ็บ 512 ราย ประมาณการความเสียหายที่เกิดขึ้น 50 ล้านดอลล่าร์

ดันเจี้ยนเบรกกะทันหันก่อผลกระทบและความเสียหายจำนวนมาก

มันปลุกความทรงจำตอนที่เกิดดันเจี้ยนช็อกรวมถึงความกลัวของวันนั้น

แค่ดันเจี้ยนเบรกนี้ทำให้คนอพยพออกจากเมืองที่มีสถานีรถไฟใต้ดิน

บ้างอพยพออกไป บ้างอยู่ที่เดิม แต่คนที่อยู่คือคนที่ไม่สามารถย้ายไปไหนได้ คนมีเงินย้ายไปที่เขตปลอดภัยทันที ที่เหลือเตรียมตัวย้ายไปช้าๆ

เวลาผ่านไปเพียง 2 วัน ประชากรในเมืองโซล 10% ย้ายไปที่เขตปลอดภัยของคังวอนโด

“เฮ้อ อยู่เฉยๆแล้วผมรู้สึกหงุดหงิดจัง”

สองวันนี้ซุงกูกับฮีซอลต้องอยู่ว่างเพราะพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าดันเจี้ยน พวกเขารู้สึกตัวเองไร้พลัง อันตรายมาถึงแต่พวกเขาไม่ได้เตรียมพร้อม

ไม่ พวกเขาเตรียมตัว 

พวกเขาย้ายครอบครัวมาอยู่ใกล้สำนักงานของอลันดาลเพื่อจะได้ปกป้องครอบครัว ราคาที่อยู่อาศัยในเขตปลอดภัยพุ่งพรวด แต่ราคาอพาร์ทเมนท์ใกล้สถานีต่ำติดดิน

มองจากด้านของซุงกู เขารู้สึกดีกว่าเมื่อรู้ว่าครอบครัวอยู่ใกล้ๆ

“ยังติดต่อลูกพี่ไม่ได้อีกเหรอครับ?”

“อืม พวกเขาบอกว่าเขากำลังอยู่ระหว่างปฏิบัติงาน อีกไม่นานคงโทรกลับมา”

มินชานก็คับข้องใจ เกาหลีตกอยู่ในอันตรายแต่หัวหน้าของอลันดาลที่เป็นหลักยึดของพวกเขากลับไม่อยู่

ซุงกูผิดหวัง เขาไม่ได้ฝึกไม่ได้ล่ามอนสเตอร์ เขารู้สึกไม่สบายใจเหมือนกำลังล้าหลัง

“ผมอยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ได้ ผมจะไปแถวๆดันเจี้ยนระดับต่ำนะครับ”

“อืม ได้ เสร็จแล้วติดต่อมาทันทีล่ะ”

“ครับ”

“ไปกับหัวหน้าทีมวู เราจะติดต่อผ่านทางหัวหน้าทีมวู”

“ตกลงตามนั้นครับ”

วูซุงฮุนเป็นหัวหน้าแผนกเลขานุการประธานกิลด์ แต่ตอนนี้คังวูจินไม่อยู่ เขาจึงไปสนับสนุนซุงกู เวลาที่ใช้เคลียร์ดันเจี้ยนระดับต่ำนั้นสั้น ซุงกูคิดว่าเขาจะสงบใจได้ดีกว่าถ้าได้เคลียร์ดันเจี้ยนแทนที่จะอยู่เฉยๆ

อาจเป็นเพราะความไม่สงบ ดันเจี้ยนที่มีตารางเวลาเต็มตอนนี้มีที่ว่างหลายช่วง แต่ดันเจี้ยนระดับต่ำไม่มีการจอง พนักงานจากสำนักงานจึงถูกส่งไปต่อแถวที่ดันเจี้ยนใกล้ๆและจัดตารางเวลา

“ตอนนี้ใช้สถานีลีซูทางออกที่ 4 ได้ครับ”

“งั้นไปที่นั่นกันเถอะครับ”

มันห่างไปเพียงสถานีเดียวจึงไปได้ไม่ยาก ซุงกูกับฮีซอลมุ่งหน้าไปที่สถานีลีซู เสือเขี้ยวดาบแจ็คสันกับกาปากมีดตามมาในรถบรรทุก

“ผมจะกลับมาภายในสามชั่วโมง”

“ครับ ตั้งใจทำงานนะครับ”

เขาเคลียร์ดันเจี้ยนได้ไม่เร็วขนาดคังวูจิน แต่เขาสามารถเคลียร์ดันเจี้ยน 3 ดาวคนเดียวได้ภายใน 3 ชั่วโมง เมื่อมีฮีซอลมาด้วยเวลาที่ใช้ก็จะน้อยลงอีก

ซุงกูกับฮีซอลหายเข้าไปในดันเจี้ยน วูซุงฮุนเริ่มเกมรอที่คุ้นเคย

“เฮ้อ ไปนั่งที่ร้านกาแฟกันไหม?”

“ครับหัวหน้า”

แผนกเลขานุการมีพนักงาน 20 คน ซุงฮุนทิ้งคนเฝ้าทางเข้าดันเจี้ยนไว้จำนวนหนึ่ง แล้วนำคนที่เหลือไปที่ร้านกาแฟใกล้ๆ

“หือ?”

ซุงฮุนเห็นชายสวมชุดคลุมสีดำ ใส่หน้ากากสีดำ เขาหยุดเดินแล้วเอียงคองง

‘เหมือนเขากำลังหัวเราะฉัน’

เขาหันไป แต่ชายคนนั้นเดินไปแล้ว

‘มองผิดมั้ง?’

ดวงตาชายคนนั้นส่องแสงวาบเหมือนชายคนนั้นจำเขาได้ เหมือนชายคนนั้นกำลังหัวเราะเยาะเขา ชายคนนั้นใส่หน้ากาก ซุงฮุนเลยคิดว่าเขาคงตาฝาดไป

วูซุงฮุนเดินไปทางร้านกาแฟ และชายใส่หน้ากากเดินไปทางสถานีลีซูทางออกที่ 8



สารบัญ                                     บทที่ 99

1 ความคิดเห็น:

  1. ลีเอ็งเลือกวิธีซ่าผิดละแทนที่จะฟามไปเงียบๆ ศพไม่มีแน่นอน(ตายอนาถ) บางทีก็สงสัยนะว่านิยายเกาหลีทำไมฮิตตัวเอกอาชีพเนโครแมนเซอร์จัง ผุดมายังกะดอกเห็ด

    ตอบลบ