บทที่ 98 – ฮงซุงกูโจมตี
[ขณะนี้ ดันเจี้ยนเบรกเกิดขึ้นในดันเจี้ยนที่ถูกพิชิตแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ภาพที่เราเห็นข้างหน้าเหมือนดันเจี้ยนช็อกครั้งนั้นหวนกลับมา...]
ทุกคนในห้องดูข่าวแล้วนิ่งไป
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ทำไมดันเจี้ยนถึงระเบิดก่อน 30 วัน?
ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึง ประตูห้องก็เปิดออก
“รองประธานครับ เราได้คำขอจากกระทรวงกลาโหมให้เราส์ทุกคนหยุดเคลียร์ดันเจี้ยน และคำสั่งให้เตรียมพร้อม”
“อืม เข้าใจแล้ว”
มินชานมีสีหน้าเคร่งเครียด
ดันเจี้ยนเบรกครั้งนี้มันผิดปกติและการสั่งให้ทุกคน,นอกจากคนที่ยังติดในดันเจี้ยน,เตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งสมควร ซุงกูอยู่ในห้องและฮีซอลอยู่ใกล้ๆศูนย์กักกันมอนสเตอร์
“ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“เราควรรายงานท่านประธานก่อนใช่ไหม?”
“ผมไม่มีวิธีติดต่อกับเขา...”
วูจินไม่ใช้โซเชียลมีเดีย แม้แต่อีเมล์ก็ไม่ค่อยเข้าไปดู วิธีเดียวที่จะติดต่อเขาได้คือแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ แต่ถ้าไม่มีอินเตอร์เน็ตก็ทำไม่ได้
“ก่อนอื่นส่งข้อความไปหาเขา แล้วพยายามติดต่อเขาผ่านทางกิลด์ไททัน”
วูจินอยู่กับสตรีศักดิ์สิทธิ์ ถ้าพวกเขาติดต่อเธอได้ก็มีทางติดต่อกับวูจิน ถึงไม่ได้ผล ข่าวต่างประเทศย่อมต้องรายงานดันเจี้ยนเบรกครั้งนี้ เขาจะได้ข่าวอยู่ดี
“ฮืม ตกลงว่ามันเรื่องอะไรกันแน่...”
มินชานตัวสั่นเมื่อนึกถึงดันเจี้ยนช็อกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คนนับไม่ถ้วนตายเมืองหลายแห่งถูกทำลาย ที่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ในเวลาสั้นๆก็ด้วยการใช้เงินจำนวนมากที่ได้จากบลัดสโตน แต่จำนวนประชากรยังไม่กลับมาเท่าก่อนเกิดดันเจี้ยนช็อกเลย
ทุกคนดูข่าวอย่างตึงเครียด
***
ตึกใกล้ๆสถานีจุกจุน แดกู ถูกทำลายราบคาบ
พวกโทรลน้ำแข็งออกอาละวาด ไม้กระบองฟาดยานพาหนะกระเด็นไปอย่างง่ายดาย อาคารพังทลายเมื่อพวกมันฟาดกระบองใส่
ไม่มีการเตือนมาก่อนว่าจะเกิดดันเจี้ยนเบรก ดังนั้นนี่จึงเป็นหายนะของชาวเมือง
โทรลน้ำแข็งตัวหนึ่งสูดจมูกฟืดฟาดขณะเดินไปรอบเขตที่พักอาศัย
มันได้กลิ่นมนุษย์
มันตัวไม่ใหญ่ขนาดโอเกอร์ แต่ยังใหญ่เป็นสองเท่าของมนุษย์ มันสูงพอมองผ่านหน้าต่างชั้นสองเข้าไปในบ้านได้ เห็นขนตาน่าขยะแขยง
“กรี๊ด!”
เด็กหญิงคนหนึ่งสบตากับมัน เธอกุมหัวส่งเสียงกรี๊ด
โทรลน้ำแข็งหัวเราะแล้วยื่นแขนเข้ามา มนุษย์อายุน้อยจะอร่อยเป็นพิเศษ
โทรลน้ำแข็งมีขนสีขาวคลุมหนา มันใช้แขนยาวทุบหน้าต่าง ทำข้าวของในห้องเละเทะขณะควานหาเด็กหญิง เด็กหญิงพยายามถอยหลังจนกระทั่งชนกำแพง ไม่มีทางหนี
ประตูอยู่ข้างเธอ แต่ขาของเด็กหญิงแข็งทื่อด้วยความกลัว ไม่คิดแม้แต่เปิดประตูหนีไป
โทรลน้ำแข็งยื่นมือมาใกล้ แต่เด็กหญิงหลบ มันโกรธแล้วยกไม้กระบองขึ้น ตั้งใจจะทำลายบ้านแล้วค่อยกินเด็กหญิง
ตอนนั้นเอง ชายร่างบึกร่วงลงมาจากฟ้า
“ฮึบ!”
กำปั้นชายคนนั้นทุบใส่หัวโทรลน้ำแข็ง
“คู-รู-รู-รูก!”
“อ้า ไม่ตายแฮะ”
เขาลงน้ำหนักทั้งหมดไปที่การโจมตีนี้แต่โทรลน้ำแข็งไม่ตาย ศีรษะมันผิดรูปเหมือนกะโหลกยุบไป แต่มันกระตุกเหมือนกำลังจะฟื้นตัว
“ถ้าครั้งเดียวไม่ได้ผล งั้นก็อีกครั้ง!”
กำปั้นเขากลายเป็นสีดำ
กึง!
เหมือนกำปั้นสีดำกลายเป็นหิน มันทุบหัวโทรลน้ำแข็งแตก สมองไหลออกมา โทรลน้ำแข็งยังกระตุกแต่ไม่นานก็นิ่งไป
“เอ้า เด็กน้อย ออกมาเถอะ”
เด็กหญิงไม่ขยับตามคำบอกเพราะกลัว คนกลุ่มหนึ่งไล่ตามชายคนนั้นมาถึง
“ประธาน!”
“ดูแลตรงนี้ให้เรียบร้อย มีเด็กด้วย”
“ครับ”
เบคจองโด ประธานกิลด์ KH เดินเข้าไปในตรอก ขมวดคิ้วเมื่อเห็นโทรลน้ำแข็งอีกตัวเดินมาทางเขา
“กองทหารยังไม่มาอีกเหรอ?”
“กำลังลดจำนวนมอนสเตอร์จากด้านตะวันออกครับ พลเมืองยังไม่อพยพออก คงหวังเรื่องการยิงสนับสนุนไม่ได้”
ถ้าเป็นดันเจี้ยนเบรกที่คาดไว้แล้วว่าจะเกิดคงไม่มีปัญหาแบบนี้
พลเมืองจะถูกย้ายออกไป กองทัพจะตั้งสมาธิมาที่การยิงสังหารมอนสเตอร์ที่หลุดออกมาจากดันเจี้ยน
แต่วิธีนี้เป็นไปไม่ได้เพราะนี่เป็นดันเจี้ยนเบรกที่เกิดกะทันหัน
เมื่อไม่ได้ย้ายพลเมืองออกไป การทิ้งระเบิดใส่เมืองก็ทำไม่ได้ และรถถังก็ช้าเกินไปสำหรับการล่ามอนสเตอร์ที่กำลังซ่อนตัวในเมือง เราส์จึงเหมาะที่สุดสำหรับการล่ามอนสเตอร์ที่ซ่อนตัวเช่นนี้
ด้วยเหตุนี้เราส์ทุกคนที่มาเพื่อเข้าดันเจี้ยนในแดกูจึงได้รับคำสั่งระดมพล
เบคจองโดของกิลด์ KH จองดันเจี้ยน 6 ดาวของดันเจี้ยนในแดกูไว้ แต่มาที่นี่เมื่อได้ข่าวดันเจี้ยนเบรก
เราส์กระจายไปในตัวเมือง ล่าพวกมอนสเตอร์
“ชิ โชคยังดี พวกมอนสเตอร์ยังไม่หลุดมามาก”
เราส์แรงค์ B หนึ่งคนสามารถสู้กับโทรลน้ำแข็งได้ ถ้าเป็นตัวใหญ่มากๆ ก็ยังฆ่ามันได้ถ้าร่วมมือเป็นทีม นี่ไม่ใช่ดันเจี้ยนที่จำกัดจำนวนคน ข้างนอกนี้เราส์ได้เปรียบเรื่องจำนวน โชคดีพอสมควรที่มอนสเตอร์ที่ออกมาเป็นโทรลน้ำแข็งตัวใหญ่เห็นง่าย ถ้าเป็นมอนสเตอร์ตัวเล็กหลบเก่งคงกำจัดมันให้หมดได้ยาก
เรื่องความเสียหายเป็นเรื่องเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่มากพอจะเรียกว่าเป็นภัยพิบัติ ปัญหาคือดันเจี้ยนที่ระเบิดกะทันหันแบบนี้เป็นการเริ่มต้นของปัญหาใหม่หรือเปล่า
“หวังว่ามันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ”
ถ้าอยากเรียกมันเป็นอุบัติเหตุธรรมดาก็ต้องหาเหตุผลให้ได้ว่าทำไมดันเจี้ยนเบรกจึงเกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือน แต่ก่อนอื่นคือต้องกำจัดมอนสเตอร์ที่หลุดออกมาให้หมด
เบคจองโดมองโทรลน้ำแข็ง กำปั้นของเขากลายเป็นสีดำสนิท
***
ซู่
น้ำจากฝักบัวไหลลงมาทำให้ร่างกายกับจิตใจของเขาเย็นลง
“ฮ้า”
ลีซังโฮคราง เขาได้รับสิ่งสุดยอดมา
“ฉันควบคุมมันได้”
เราส์ต้องเคลียร์ดันเจี้ยนก่อนถึงจะออกมาได้ ต้องใช้หินรีเทิร์นสโตนลดบาเรียลง มอนสเตอร์ก็เช่นกัน ผ่านไป 30 วัน พวกมันจะใช้หินรีเทิร์นสโตนเพื่อออกจากดันเจี้ยน
นั่นคือดันเจี้ยนเบรก
“เฮ้อ พลังนี่...”
เขากลายเป็นลูกน้องของเลลโล มอนสเตอร์ไม่เห็นเขาด้วยซ้ำขณะเขาตรงไปที่หินรีเทิร์นสโตน เขาหยิบหินแล้วลดบาเรียลง
มันเหมือนดันเจี้ยนเบรกครั้งก่อนๆ แต่คราวนี้เขาเป็นคนปล่อยมอนสเตอร์ออกมา
ไม่มีการเตือน และเป็นความตั้งใจของเขาเอง
“คึๆๆ”
เขารู้ว่าความเสียหายจะใหญ่หลวงขนาดไหนถ้าเกิดดันเจี้ยนเบรกโดยไม่มีใครเตรียมพร้อม เขาผ่านดันเจี้ยนช็อกมาแล้ว
คนส่วนใหญ่ย้ายไปอยู่ที่ปลอดภัยห่างจากสถานีใต้ดิน แต่ยังมีคนจำนวนมากอยู่รอบดันเจี้ยนเพื่อทำงาน
สถานการณ์นี้เหมือนบ้านที่ทำจากไพ่ แค่แตะนิดเดียวมันก็จะพังทลาย
“จงกลัวตัวสั่นเข้าไป”
น่าเสียดายที่เขาควบคุมมอนสเตอร์ไม่ได้ แต่การทำให้เกิดดันเจี้ยนเบรกก็จะให้ผลอย่างที่เขาต้องการ
แน่นอนเขาต้องเตรียมอะไรหลายอย่างก่อน
อาจมีคนเห็นว่าเขาออกมาจากดันเจี้ยนกับพวกมอนสเตอร์ เขาต้องวางแผนปกปิดการกระทำของตัวเอง หลังจากเตรียมพร้อมแล้วเขาจึงจะเริ่มลงมือ
“คังวูจิน รอก่อนเถอะ”
คังวูจิน
มันต้องได้รู้
ความเศร้าจากการสูญเสีย
“จะแย่งอะไรมาจากมันเป็นอย่างแรกก่อนดี?”
ลีซังโฮหัวเราะ เขาไม่เคยพอใจขนาดนี้มาก่อนเมื่อเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก หลายวันมานี้ เขาเคยมีความสุขขนาดนี้ไหม? แค่คิดว่าจะทำลายไอ้เวรนั่นยังไงเขาก็รู้สึกเคลิบเคลิ้ม
เหมือนความเครียดที่กดดันเขามานานกระจายหายไป
“ใช่ อย่างแรก ครอบครัวมัน...”
ต่อไปก็เพื่อนมัน กิลด์ ลูกน้อง ชื่อเสียง...
เขาจะแย่งทุกอย่างมาจากคังวูจิน
***
มีผู้เสียชีวิต 47 ราย บาดเจ็บ 512 ราย ประมาณการความเสียหายที่เกิดขึ้น 50 ล้านดอลล่าร์
ดันเจี้ยนเบรกกะทันหันก่อผลกระทบและความเสียหายจำนวนมาก
มันปลุกความทรงจำตอนที่เกิดดันเจี้ยนช็อกรวมถึงความกลัวของวันนั้น
แค่ดันเจี้ยนเบรกนี้ทำให้คนอพยพออกจากเมืองที่มีสถานีรถไฟใต้ดิน
บ้างอพยพออกไป บ้างอยู่ที่เดิม แต่คนที่อยู่คือคนที่ไม่สามารถย้ายไปไหนได้ คนมีเงินย้ายไปที่เขตปลอดภัยทันที ที่เหลือเตรียมตัวย้ายไปช้าๆ
เวลาผ่านไปเพียง 2 วัน ประชากรในเมืองโซล 10% ย้ายไปที่เขตปลอดภัยของคังวอนโด
“เฮ้อ อยู่เฉยๆแล้วผมรู้สึกหงุดหงิดจัง”
สองวันนี้ซุงกูกับฮีซอลต้องอยู่ว่างเพราะพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าดันเจี้ยน พวกเขารู้สึกตัวเองไร้พลัง อันตรายมาถึงแต่พวกเขาไม่ได้เตรียมพร้อม
ไม่ พวกเขาเตรียมตัว
พวกเขาย้ายครอบครัวมาอยู่ใกล้สำนักงานของอลันดาลเพื่อจะได้ปกป้องครอบครัว ราคาที่อยู่อาศัยในเขตปลอดภัยพุ่งพรวด แต่ราคาอพาร์ทเมนท์ใกล้สถานีต่ำติดดิน
มองจากด้านของซุงกู เขารู้สึกดีกว่าเมื่อรู้ว่าครอบครัวอยู่ใกล้ๆ
“ยังติดต่อลูกพี่ไม่ได้อีกเหรอครับ?”
“อืม พวกเขาบอกว่าเขากำลังอยู่ระหว่างปฏิบัติงาน อีกไม่นานคงโทรกลับมา”
มินชานก็คับข้องใจ เกาหลีตกอยู่ในอันตรายแต่หัวหน้าของอลันดาลที่เป็นหลักยึดของพวกเขากลับไม่อยู่
ซุงกูผิดหวัง เขาไม่ได้ฝึกไม่ได้ล่ามอนสเตอร์ เขารู้สึกไม่สบายใจเหมือนกำลังล้าหลัง
“ผมอยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ได้ ผมจะไปแถวๆดันเจี้ยนระดับต่ำนะครับ”
“อืม ได้ เสร็จแล้วติดต่อมาทันทีล่ะ”
“ครับ”
“ไปกับหัวหน้าทีมวู เราจะติดต่อผ่านทางหัวหน้าทีมวู”
“ตกลงตามนั้นครับ”
วูซุงฮุนเป็นหัวหน้าแผนกเลขานุการประธานกิลด์ แต่ตอนนี้คังวูจินไม่อยู่ เขาจึงไปสนับสนุนซุงกู เวลาที่ใช้เคลียร์ดันเจี้ยนระดับต่ำนั้นสั้น ซุงกูคิดว่าเขาจะสงบใจได้ดีกว่าถ้าได้เคลียร์ดันเจี้ยนแทนที่จะอยู่เฉยๆ
อาจเป็นเพราะความไม่สงบ ดันเจี้ยนที่มีตารางเวลาเต็มตอนนี้มีที่ว่างหลายช่วง แต่ดันเจี้ยนระดับต่ำไม่มีการจอง พนักงานจากสำนักงานจึงถูกส่งไปต่อแถวที่ดันเจี้ยนใกล้ๆและจัดตารางเวลา
“ตอนนี้ใช้สถานีลีซูทางออกที่ 4 ได้ครับ”
“งั้นไปที่นั่นกันเถอะครับ”
มันห่างไปเพียงสถานีเดียวจึงไปได้ไม่ยาก ซุงกูกับฮีซอลมุ่งหน้าไปที่สถานีลีซู เสือเขี้ยวดาบแจ็คสันกับกาปากมีดตามมาในรถบรรทุก
“ผมจะกลับมาภายในสามชั่วโมง”
“ครับ ตั้งใจทำงานนะครับ”
เขาเคลียร์ดันเจี้ยนได้ไม่เร็วขนาดคังวูจิน แต่เขาสามารถเคลียร์ดันเจี้ยน 3 ดาวคนเดียวได้ภายใน 3 ชั่วโมง เมื่อมีฮีซอลมาด้วยเวลาที่ใช้ก็จะน้อยลงอีก
ซุงกูกับฮีซอลหายเข้าไปในดันเจี้ยน วูซุงฮุนเริ่มเกมรอที่คุ้นเคย
“เฮ้อ ไปนั่งที่ร้านกาแฟกันไหม?”
“ครับหัวหน้า”
แผนกเลขานุการมีพนักงาน 20 คน ซุงฮุนทิ้งคนเฝ้าทางเข้าดันเจี้ยนไว้จำนวนหนึ่ง แล้วนำคนที่เหลือไปที่ร้านกาแฟใกล้ๆ
“หือ?”
ซุงฮุนเห็นชายสวมชุดคลุมสีดำ ใส่หน้ากากสีดำ เขาหยุดเดินแล้วเอียงคองง
‘เหมือนเขากำลังหัวเราะฉัน’
เขาหันไป แต่ชายคนนั้นเดินไปแล้ว
‘มองผิดมั้ง?’
ดวงตาชายคนนั้นส่องแสงวาบเหมือนชายคนนั้นจำเขาได้ เหมือนชายคนนั้นกำลังหัวเราะเยาะเขา ชายคนนั้นใส่หน้ากาก ซุงฮุนเลยคิดว่าเขาคงตาฝาดไป
วูซุงฮุนเดินไปทางร้านกาแฟ และชายใส่หน้ากากเดินไปทางสถานีลีซูทางออกที่ 8
ลีเอ็งเลือกวิธีซ่าผิดละแทนที่จะฟามไปเงียบๆ ศพไม่มีแน่นอน(ตายอนาถ) บางทีก็สงสัยนะว่านิยายเกาหลีทำไมฮิตตัวเอกอาชีพเนโครแมนเซอร์จัง ผุดมายังกะดอกเห็ด
ตอบลบ