บทที่ 99 – ฮงซุงกูโจมตี (2)
“คนนั้นน่าสงสัยนะ?”
พนักงานฟังคำพูดของวูซุงฮุนแล้วยักไหล่
“คนแบบนั้นมีให้เห็นบ่อยๆครับ อาจจะเป็นเราส์”
“เหรอ?”
อาร์ติแฟคมีหลายแบบ
คนส่วนใหญ่เก็บมันอย่างดีเพราะกลัวถูกขโมย แต่ก็มีคนที่ใส่มันออกมาข้างนอกเหมือนกัน
และคนถือดาบหรือหอกใกล้สถานีก็หาไม่ยาก
โทรศัพท์ของซุงฮุนดัง เมื่อหยิบขึ้นมาเขาเห็นว่าเป็นคิมเฮมินที่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นกรรมการ
“หือ? มีอะไรหว่า ซื้ออะไรมาให้ฉันก็ได้”
“ครับ”
เขาให้พนักงานเข้าร้านกาแฟไปก่อน ซุงฮุนไปนั่งตรงเก้าอี้นอกระเบียงแล้วรับโทรศัพท์
“ว่าไงครับ”
[คุณซุงฮุน คุณซุงกูกับคุณฮีซอลเข้าดันเจี้ยนแล้วหรือครับ?]
“ครับ เพิ่งเข้าไปเอง”
[อา แย่แล้ว ตอนนี้เกิดดันเจี้ยนเบรกที่สถานีซาดาง รีบอพยพเถอะครับไม่ต้องเข้าออฟฟิศแล้ว]
“อะไรกัน?”
วูซุงฮุนกระพริบตาปริบๆแล้วเสียงหวอก็ดังลั่น
เสียงหวอดังเหมือนกำลังมีการซ้อมหลบภัย แต่ทำให้วูซุงฮุนหนาวเยือก เขาคิดถึงดันเจี้ยนเบรกที่เพิ่งเกิดที่แดกู สถานีซาดางอยู่ถัดไปแค่สถานีเดียว
[ประกาศ ขณะนี้เกิดดันเจี้ยนเบรกที่สถานีซาดาง พลเมืองกรุณาอพยพออกไปด่วน ประกาศ...]
หลังจบประกาศ คนก็หลั่งไหลออกมาจากตึกรามบ้านช่อง รวมถึงพนักงานแผนกเลขานุการ
“ห...หัวหน้า!”
“ฮู่ว ทุกคนตามผมมา ไปกันเถอะ”
วูซุงฮุนนำพนักงานที่ตกใจกลัว เขาบอกตัวเองให้ตั้งสติเอาไว้
พนักงานตามวูซุงฮุนไปขึ้นรถของพวกตนอย่างรวดเร็ว
“ทุกคนขึ้นรถ ระหว่างนี้เราจะขับไปให้ห่างจากสถานีซาดาง เร็วๆเถอะ”
“ครับ”
ดันเจี้ยนเป็นสถานที่ปลอดภัย ต่อให้ถูกระเบิดใส่มันยังไม่เป็นไรด้วยซ้ำ สิ่งที่อยู่ในดันเจี้ยนอันตรายกว่าการโจมตีจากข้างนอก ซุงกูกับฮีซอลคงไม่เป็นไร พวกเขาจะออกมาหลังจากเคลียร์ดันเจี้ยนเสร็จแล้ว
วูซุงฮุนคิดว่าให้พวกเขาใช้เวลาเคลียร์ดันเจี้ยนไปนานๆน่าจะดีกว่า แล้วค่อยออกมาหลังจากสถานการณ์ข้างนอกสงบลง
ซุงฮุนขึ้นรถอย่างรวดเร็ว จากนั้นเปิดมือถือเพื่ออ่านข่าว
“เชี่ย มันเป็นดันเจี้ยน 6 ดาว!”
เบรกที่ไหนไม่เบรก ต้องมาเบรกที่ดันเจี้ยน 6 ดาวตรงทางออกที่ 1 เขาเปิดฟอรั่มดันเจี้ยนเพื่อรวบรวมข้อมูลของดันเจี้ยนแห่งนี้ มอนสเตอร์พื้นฐานคือ หมาป่าเทา
พวกมันตัวใหญ่เท่าวัวและเคลื่อนไหวว่องไว เชี่ยวชาญด้านการล่าและมีนิสัยชอบโจมตีเราส์เป็นฝูง
“เวรแล้วไง!”
ไอ้พวกนี้จะถูกปล่อยมาในโซลอย่างน้อยหลายร้อยตัว พวกมันตัวเล็กกว่าโทรลน้ำแข็งและว่องไวกว่ามาก คงต้องใช้เวลามากกว่าจะกำจัดพวกมันได้หมด เวลาที่ผ่านไปหมายถึงคนเจ็บจะยิ่งเพิ่มขึ้น
“ไปไหนดีครับหัวหน้า?”
“ขับไปก่อน ที่หลบภัยใกล้สุด...”
วูซุงฮุนกำลังอ่านฟอรั่มดันเจี้ยน เมื่อรถไปถึงทางแยกเขาก็รู้สึกถึงอันตรายขึ้นมา สายตาเขาจ้องไปที่แห่งหนึ่งเขม็ง
สถานีลีซูทางออกที่ 8
มันคือดันเจี้ยนที่ชายพิลึกใส่เสื้อคลุมดำกับหน้ากากเข้าไป จู่ๆงูตัวใหญ่ก็พุ่งอ้าปากกว้างออกมาจากทางเข้าดันเจี้ยน
วูซุงฮุนตาโต
มันเป็นงูตัวใหญ่เหลือเชื่อ หัวมันใหญ่เท่าตัวคน
“เหยียบคันเร่ง!”
“...!”
พนักงานเหยียบคันเร่งตามเสียงตะโกนของวูซุงฮุน
มันเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่งูธรรมดาเทียบไม่ติด หลังจากโผล่ออกมาจากดันเจี้ยน มันอ้าปากกว้างแล้วเลื้อยมาทางทางแยก
ปัง!
รถที่อยู่ข้างหลังซุงฮุนชนหัวงูแล้วหงายขึ้น พิษจากเขี้ยวงูหล่นเข้าไปในกระจกหน้าของรถ
ซี่ๆๆ
พิษงูรุนแรงจนละลายกระจก พิษหล่นใส่คนขับแล้วตามมาด้วยเสียงโหยหวน
งูแลบลิ้นรัดร่างของคนขับแล้วส่งร่างนั้นเข้าปาก
“เชี่ย!”
ถ้าวูซุงฮุนช้ากว่านี้สักนิด เขาอาจเป็นคนที่ต้องเข้าไปอยู่ในท้องของงู ความคิดนั้นทำให้เขาหนาววูบ
หลังจากงูยักษ์ มอนสเตอร์ก็หลั่งไหลออกมาจากดันเจี้ยน
“เวร! เหยียบให้มิดเลย!”
“ครับ”
คนขับก็ตาไม่บอด เขามองผ่านกระจกข้างเห็นมอนสเตอร์ออกมา เขาเหยียบคันเร่งอย่างบ้าคลั่ง พริบตาเดียว มอนสเตอร์ก็ฆ่าคนไปหลายคน
“เวร พวกมันเป็นมอนสเตอร์ 5 ดาว”
วูซุงฮุนสบถออกมาเมื่อหาข้อมูลของดันเจี้ยน สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เขาสบถออกมาไม่หยุด
ดันเจี้ยนเบรกกะทันหันอีกแล้ว
ที่แดกูมันเป็นแค่จุดเริ่มต้น
พวกมอนสเตอร์กำลังอาละวาดใกล้ดันเจี้ยนของโซล
***
“ฮ้า ฮ้า”
ฮีซอลหายใจหอบ ซุงกูยิ้มพลางยื่นมือให้ฮีซอล
“ฮะๆ ทำได้ดี”
“ฮ้า กรรมการฮง คุณสุดยอดเลย ทักษะต่อสู้ประชิดตัวของคุณดีพอๆกับเราส์สายกายภาพหรืออาจจะดีกว่าอีกค่ะ”
ฮีซอลจำเป็นต้องเรียนทักษะต่อสู้อื่นๆพร้อมกับพัฒนาทักษะฝึกสัตว์ การประลองฝีมือกับซุงฮูช่วยฮีซอลได้มาก
“ฮะๆ เทียบกับลูกพี่แล้วผมยังห่างชั้น... ไม่สิ ผมเทียบกับอัศวินเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ ฮะๆ”
เขาพูดจริงเหรอ?
ไม่ต้องพูดถึงคังวูจิน แต่อัศวินมรณะเป็นมอนสเตอร์ ฮีซอลกับซุงกูเคยประลองฝีมือกับพวกมัน และรู้ถึงความห่างไกลระหว่างเธอกับพวกอัศวินมรณะ
ชายสองคนนี้มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้
ถ้าเธออยากแข็งแกร่งให้เท่าพวกเขา เธอต้องฝึกให้มากกว่านี้
“ออกไปข้างนอกกันเถอะ”
“ค่ะ”
ซุงกูกับฮีซอลเก็บหินรีเทิร์นสโตนแล้วเดินกลับไปที่บาเรีย เมื่อซุงกูยกหินรีเทิร์นสโตนขึ้นบาเรียก็จางหายไป พวกเขาขึ้นบันไดแล้วเจอกับความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่บนท้องถนน
“เอ๋?”
ชั่วครู่หนึ่ง พวกเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น บนถนนกลายเป็นหลุมบ่อ ยานพาหนะถูกทำลาย หน้าต่างบนอาคารต่างๆแตก มีไฟไหม้และควันดำลอยคลุ้ง
มีเสียงกรีดร้อง เสียงตะโกนโหยหวน
มีเสียงปืน และเสียงเวทย์สายฟ้า
“เฮ้ย”
ซุงกูพ่นลมหายใจ
เขาไม่ใช่คนโง่ ไม่นานก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ดันเจี้ยนเบรก
ซุงกูหน้าเครียด
หัวใจเขาเต้นแรง กล้ามเนื้อเกร็ง ประสาทสัมผัสตื่นตัว
“คุณฮีซอล คุณไปจัดการพวกมันตรงนั้น”
“ค่ะ แจ็คสันไป!”
“โฮก!”
แจ็คสันเผยเขี้ยวคม กระโดดคำราม เราส์กับหมีดำขนาดใหญ่ตัวหนึ่งกำลังต่อสู้กันเมื่อแจ็คสันกระโจนเข้าไป ฮีซอลส่งข้อความเทเลพาธีให้เราส์แต่ละคน
[จัดทีมสู้เถอะค่ะ]
ฮีซอลประเมินสนามรบอย่างรวดเร็วแล้วแบ่งทีมเพื่อสู้กับมอนสเตอร์และช่วยคนที่กำลังสู้กับมอนสเตอร์
พวกเขาส่วนใหญ่เป็นเราส์แรงค์ C และเราส์ขั้นต่ำกว่าแรงค์ C
มีแต่เสือเขี้ยวดาบแจ็คสันที่มีพลังระดับแรงค์ B
เมื่อเราส์ร่วมมือกับฮีซอล พวกเขาเริ่มล่ามอนสเตอร์ได้เร็วกว่าเดิมมาก
สายตาของซุงกูถูกดึงดูดไปที่ร้านรับซื้อหินบลัดสโตนใกล้สถานี
งูยักษ์ตัวหนึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตากินหินบลัดสโตนหลังจากมันพลิกอาคารล้ม
ทุกครั้งที่กินหินเข้าไป มันจะเปล่งแสงจางๆและค่อยๆตัวใหญ่ขึ้น ถ้าไม่ใช่ว่ามันกำลังยุ่งอยู่กับการกินหินบลัดสโตน มันคงฆ่าเราส์ในแถบนี้หมดไปแล้ว
ซุงกูยิงบอลไฟไปที่ตัวมันทันที
เหมือนรู้ถึงอันตราย,งูยกหัวขึ้นหลบบอลไฟ
บอลไฟไม่โดนเป้าหมาย แต่เมื่อถูกพื้นมันระเบิด
งูแลบลิ้นแผล็บๆขณะเลื้อยมาทางซุงกูช้าๆ ตัวมันใหญ่เหมือนงูยักษ์อีมูกิในตำนาน และเกล็ดของมันเรืองแสง 5 สี
มันคืองูเห่าสายรุ้ง (TN/ชื่อน่ารักวุ้ย)
‘เราสู้ไหว’
ถ้าเกล็ดมันมี 5 สีแปลว่ามันเป็นมอนสเตอร์ 5 ดาว
ซุงกูหรี่ตามองงู
เกล็ดของมันเปลี่ยนเป็นสีหม่น
“หา?”
นอกจากมันจะเกิดเป็นโรคผิวหนังขึ้น เหตุผลเดียวที่เกล็ดมันเปลี่ยนสีคือ
ไอ้งูบ้าเริ่มลอกคราบ เกล็ดส่องแสงเป็น 6 สี
“ฮะๆ”
ซุงกูปาดเหงื่อ
งูเห่าสายรุ้ง 6 ดาว
จากเอกสารข้อมูล นี่เป็นมอนสเตอร์ระดับบอสที่ออกมาในการพิชิตดันเจี้ยน 6 ดาวครั้งแรก หลังจากดันเจี้ยนถูกพิชิตก็มีแต่งูเห่าสายรุ้ง 5 สีกับมอนสเตอร์พื้นฐานที่ออกมา...
‘เราจะสู้มันได้ไหม?’
เขาเคยเคลียร์ดันเจี้ยน 6 ดาวมาแล้ว แต่ไม่เคยพิชิตดันเจี้ยน ซุงกูกลืนน้ำลายนึกถึงคำพูดของวูจินตอนที่เจอกันครั้งแรก
‘ต่อให้กลัว ลูกผู้ชายต้องไม่แสดงออกให้ใครเห็น’
เขาแทบจะได้ยินเสียงของวูจินดังในหัว ซุงกูยิ้มเยาะตามอย่างวูจินแล้วใช้ทักษะกายเหล็ก
เขาจ้องงูเห่าสายรุ้งแล้วเร่งพลังเวทย์ให้ไหลตามร่างเหล็กของเขา
ร่างของซุงกูลุกเป็นไฟ
งูเห่าสายรุ้งอ้าปากเห็นเขี้ยวน่ากลัวแล้วพ่นพิษใส่ แต่มันระเหยไปเมื่อใกล้ไฟ ซุงกูเริ่มโยนไฟใส่งูเห่าสายรุ้ง
มันตัวใหญ่จนเขาไม่ต้องเล็ง เพราะเกล็ดของมันหนามากจึงดูเหมือนมันไม่ได้รับความเสียหายนัก แต่ก็ทำให้มันรำคาญ
มันพุ่งใส่ซุงกูอย่างดุเดือด
“เปลวไฟ”
ซุงกูหันหลังวิ่งหนี เกิดเป็นเส้นทางไฟ ไฟทำได้แค่ทำให้เกล็ดงูกลายเป็นสีดำ แต่ซุงกูหลบพลางจุดไฟบนพื้นไปพลาง
ถนนเต็มไปด้วยไฟ ซุงกูวิ่งหนี งูเห่าสายรุ้งไล่ตาม
เวลาผ่านไปนาน ซุงกูมองถนนทั้งถนนมีเปลวไฟลุกท่วม มันร้อนจนเขาเจ็บแปลบ เขายิ้ม
งูเห่าสายรุ้งที่ถูกยั่วโมโหจ้องซุงกูแล้วขดตัว จากนั้นพุ่งใส่ซุงกู
“ดูดซับเปลวไฟ”
ซุงกูร่ายคาถาแล้วเปลวไฟที่ลุกท่วมถนนก็ถูกดูดเข้าไปทางซุงกู ไฟจากรถระเบิด ไฟจากแก๊สระเบิด กระทั่งไฟที่เผาศูนย์การค้าทั้งหลังก็ถูกดูดเข้ามา
ไฟลุกท่วมร่างของซุงกูที่ถูกปกป้องด้วยทักษะกายเหล็กก็ถูกดึงเข้ามา ทั้งหมดรวมเข้าไปที่มือขวาของซุงกู
ในจำนวนคาถาไฟที่วูจินหามา เวทย์นี้มีพลังทำลายสูงที่สุด มันเป็นแก่นหลักของไฟที่สร้างจากการรวบรวมไฟทั้งหมดรอบตัว
“นี่จะร้อนหน่อยนะ”
“ฟ่อ!”
ซุงกูกระโดด ถือลูกบอลไฟเอาไว้ งูเห่าสายรุ้งพุ่งผ่านอากาศเหยียดตัวยาวเต็มที่ อ้าปากกว้างเหมือนตั้งใจจะกลืนซุงกูเข้าไป ซุงกูยิ้ม
เขาโยนไฟนรกเข้าไปในปากของงูเห่าสายรุ้ง 6 ดาว
“ฉันจะเผาแก!”
บอลไฟระเบิดในปากและหัวของงูเห่าระเบิด ซุงกูถูกแรงระเบิดพัดปลิวไปกระแทกกับรถคันหนึ่ง
“กรรมการฮง!”
ฮีซอลวิ่งมาทางเขา ต่อให้เราส์สายกายภาพก็ทนแรงขนาดนี้ไม่ได้ ซุงกูลุกขึ้น ยืดไหล่เหวี่ยงแขนเป็นวง ตอนที่ถูกซัดมาทางรถเขาพยายามใช้แขนหยุด ผลคือมันเกือบหัก
“อูย แขนผมเกือบหัก”
“คุณสุดยอดจริงๆ!”
“แฮะๆ ไม่เท่าไหร่หรอก”
ฮีซอลมองซุงกูที่กำลังหัวเราะซื่อๆอย่างชื่นชมเต็มเปี่ยม
รอนะคะ ผู้แปลสู้ๆ
ตอบลบ