บทที่ 56 – งานเลี้ยง (7)
ผมเจอรูปปั้นเทพีทองง่ายกว่าที่คาด มันถูกวางตรงที่คนเห็นได้ง่ายเพราะมันเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองในอดีตของวิหาร แต่ เพราะมันถูกห้อมล้อมด้วยคาถาป้องกันหลายคาถาจึงต้องใช้เวลาแก้คาถาทั้งหมดนานพอสมควร
หลังจากคาถาป้องกันคาถาที่ 32 คลายออก และรูปปั้นเทพีทองมาอยู่ในมือผมอย่างปลอดภัย ผมวางแผ่นกระดาษตรงตำแหน่งที่เคยมีรูปปั้นตั้งอยู่
ข้าขอรับประวัติศาสตร์ของวิหารไป
-ลูแปง
จากนั้น ผมทำให้คาถาทั้งหมดกลับเป็นแบบเดิม
ว่าแต่ รูปปั้นเทพีนี่ทำจากทองจริงๆเหรอ?
ผมตั้งใจว่าจะตรวจสอบทีหลัง และพยายามใส่รูปปั้นเทพีเข้าไปในกระเป๋ามิติ
“หือ? อะไร? ทำไมไม่เข้าไปล่ะ?”
เหมือนเอาแม่เหล็กขั้วเดียวกันมาจ่อกัน รูปปั้นเทพีลอยกลางอากาศและไม่ยอมเข้าไปในกระเป๋ามิติ
“เข้าไปนะ เจ้านี่!”
ผมพยายามใช้น้ำหนักตัวกด แต่มันไม่เข้าไป ผมพยายามเต็มที่ให้มันเข้าไปในกระเป๋ามิติแต่ไม่สำเร็จ มันแปลกเพราะผมไม่รู้สึกถึงพลังอะไรจากมัน อย่าว่าแต่เวทมนตร์เลย
ผมมาที่นี่เพื่อขัดเกลา ไม่ใช่ เพื่อแกล้งพนักงานกองคลังผู้ไม่เป็นมิตร แต่กลับมาเจอของน่าสนใจเข้า เอาไว้ค่อยๆศึกษามันทีหลัง
ผมถือรูปปั้นทอง ตัดสินใจออกไปตามทางระบายอากาศเช่นเดียวกับขามา ไม่เหมือนตอนเข้ามาในวิหาร เพราะผมต้องถือรูปปั้นทองด้วย จึงใช้การคลานที่เคยฝึกมาลอดไปตามทางระบายอากาศ
หืม?
ข้างใต้ทางเชื่อมที่ต่อไปข้างนอกกับลงไปข้างล่าง ผมรู้สึกถึงคลื่นพลังเวทบางๆ ตามที่ผมสำรวจมาก่อน ทางนี้ตรงไปห้องสวดภาวนาขนาดใหญ่ใต้ดิน
มีใครฝึกเวทมนตร์ในห้องสวดมนตร์เหรอ?
ผมหันทิศทางและตรงไปยังห้องใต้ดินด้วยความคิดว่าจะไปดูสักหน่อย
มาถึงฝ้าเพดานห้องสวดภาวนา คลื่นเวทมนตร์ยังคงเบาบางแต่รู้สึกได้แน่นอน
เมื่อมาถึงต้นตอของพลังเวท ผมได้ยินเสียงเบาๆ พอตั้งใจฟังก็ได้ยินประมาณว่าคนนอกศาสนาถูกฆ่า หรือมีบางอย่างอยู่ที่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของจักรวรรดิ
ขนาดผมหูดีแล้ว ยังได้ยินแต่เสียงซ่าๆ ดูเหมือนพลังเวทที่ผมรู้สึกจะมาจากเวทมนตร์ไปเพิ่มพลังให้เสียงเล็ดลอดออกมา ถึงผมจะเป็นชาติพันธุ์นักสู้แต่พวกเขาออกจะไม่ระวังตัวเกินไปที่ปล่อยให้เสียงเล็ดลอดออกมาได้ พอเริ่มเบื่อฟังเสียงอันขาดๆหายๆ ผมก็หาว่าเวทมนตร์รอบๆนี้คืออะไรกันแน่
หืม...? นี่มันเวทมนตร์ประเภทไหนกัน?
สิ่งที่เหมือนเวทมนตร์แต่ไม่ใช่เวทมนตร์กำลังปิดกั้นพื้นที่รอบห้องสวดภาวนา
นี่มันใช่เวทมนตร์แน่เหรอ?
ผมสงสัยในเวทมนตร์ที่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก พลังเวทที่ใช้ขับเคลื่อนเวทมนตร์นี้ต่างจากพลังเวทธรรมดา มันเหมือนกำลังภายในที่ถูกปล่อยออกมาด้วยเจตนาต่อสู้หรือสังหาร แต่ไม่ใช่เลย
นี่คือที่เรียกว่าพลังศักดิ์สิทธิ์เหรอ? ที่นี่เป็นวิหาร มีความเป็นไปได้สูง
น่าสนใจมาก ผมไม่เคยเจอพลังศักดิ์สิทธิ์มาก่อน
“อ๊ะ!”
ความคิดแค่มาดูเฉยๆกลายเป็นความผิดพลาด ผมกำลังจะหันหนีแต่จู่ๆกระสุนเวทมนตร์ก็ระดมยิงใส่ทางระบายอากาศ ผมสร้างเกราะขึ้นมาตามสัญชาติญาณจึงปลอดภัยดี แต่ทางระบายอากาศพรุนเป็นรังผึ้ง มันรับน้ำหนักผมไม่ไหวและถล่ม
“แอ๊ก!”
ด้วยศอกขวายันพื้นในท่าคลานและแขนซ้ายหนีบรูปปั้นเทพี ผมจึงไม่สามารถคว้าเพดาน ได้แต่ร่วงลงไป แต่ผมลงพื้นอย่างนิ่มนวลด้วยความสามารถทางกายภาพเฉพาะของเผ่ากา
“นั่น! บังอาจ! เจ้าคิดว่ากำลังถืออะไรอยู่ด้วยมือสกปรกนั่น!”
ชายชราที่อยู่ตรงตำแหน่งสูงสุดโกรธและชี้มาที่รูปปั้นเทพีในแขนผม
น่าจะดูอายุด้วยนะ อารมณ์ขึ้นแบบนี้มีผลต่อสุขภาพนะ
ว่าแต่ ในสถานการณ์แบบนี้ควรทำยังไงดี?
“ฮิๆ พลาดซะแล้ว”
“ไอ้คนชั่ว!”
ชายชราที่ดูเหมือนมีตำแหน่งสูงสุดโกรธจัดและเล็งคทามาที่ผม
“พระเจ้า โปรดลงทัณฑ์ชายชั่วผู้หมิ่นบารมีท่าน! ทัณฑ์สวรรค์!”
สายฟ้าทรงพลังพุ่งมาทางผม ผมใช้เวทมนตร์ป้องกันลับอย่างถูกต้องตามสถานการณ์
“โล่พวกเดียวกัน!”
ผมผลักรูปปั้นทองไปทางสายฟ้าของชายชรา เมื่อเห็นเวทมนตร์ป้องกันไม้ตายของผม ชายชรารีบยกเลิกเวทมนตร์ของเขา
“แค่ก!”
อาจเพราะเขาฝืนหยุดเวทมนตร์เลยเกิดการสะท้อนกลับ ชายชราคุกเข่าลง กระอักเลือด
“พระคุณเจ้าท่านคาร์ดินัล!”
ถึงได้บอกให้คิดถึงอายุด้วยไง อย่าฝืนเกินไป
ว่าแต่คาร์ดินัลเหรอ ตาแกมีตำแหน่งสูงกว่าที่คิดไว้อีกนะนี่
“เจ้าคนชั่ว!”
เมื่อชายชราที่ถูกเรียกว่าคาร์ดินัลล้มไป คนรอบตัวเขาชักดาบเล็งมาที่ผม ผมยกอาวุธไร้เทียมทานอีกครั้ง
“เจ้า... ไม่เคยเห็นใครบังอาจขนาดนี้!”
เมื่อเห็นผมตั้งท่าจับดาบโดยใช้ขาของรูปปั้นเทพีเป็นด้ามดาบ ชายคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ชายชราตะโกนหน้าแดง
มองเขา ผมเขียนรูปไม้กางเขน
“พระเจ้าสถิตข้างกายข้า!”
ใช่แล้ว ในรูปของรูปปั้น
“เจ้าคนชั่ว!”
พวกนายพูดเป็นแต่คำว่า ‘เจ้าคนชั่ว’ เหรอ? เอาเป็นว่าหนีออกจากวิหารก่อนดีกว่า
“ค้อนพระเจ้า!”
ผมวิ่งไปทางประตูห้องสวดภาวนาและเหวี่ยงรูปปั้นใส่คนที่กำลังยืนขวางประตู
“เฮ้ย!”
รูปปั้นเทพีและดาบถูกทำให้แข็งแรงทนทาน แต่อาจเป็นเพราะการใช้ดาบกับมันถือเป็นการล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชายคนนั้นจึงหลีกไป
“พระเจ้าพิโรธ!”
คราวนี้ผมเหวี่ยงรูปปั้นเทพีเป็นวงกว้าง บีบให้คนที่ล้อมผมถอยไป แล้วถีบประตู
ตูม!
ผมตื่นเต้นไปหน่อย เมื่อเห็นประตูที่ถูกถีบพัง ผมก้มหัวขอโทษ
“อ๊ะ โทษที”
มาคิดดูแล้ว ต่อให้ไม่ตื่นเต้นเกินไป ผมคงเตะประตูพังอยู่ดี ผมต้องฝึกไอ้การควบคุมแรงนี่ให้ได้ ผมออกจากห้องสวดภาวนา
“เร็วเข้า! แค่ก! ตามมันไป!”
“พระคุณเจ้า! อย่าฝืนเลยครับ! พาลาดินมาริโอ! พาลาดินวิบริโอ! รีบนำคนไปจับเจ้าคนหยาบคายนั่น!”
“ครับ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
พวกเขาไล่ตามผมมาติดๆ
มันทำให้คิดถึงความทรงจำเก่าๆแฮะ
***
ผมสลัดหลุดการไล่ตามด้วยการใช้เวทมนตร์ลวงตาสร้างตัวปลอมของผมขึ้นข้างนอกเมือง เมื่อกลับถึงหอพักก็เกือบเช้า ผมรู้สึกสดชื่นเพราะไม่ได้ออกกำลังกายจริงๆจังๆอย่างนี้มานานแล้ว
ผมคิดหาวิธีซ่อนรูปปั้นเทพี ตราบใดที่มันไม่ยอมเข้าไปในกระเป๋ามิติก็ต้องซ่อนไว้ที่อื่น ใต้เตียงมันง่ายเกินไป แต่ฝังดินก็ออกจะเยอะไปหน่อย
คิดถึงความวุ่นวายที่ผมก่อขึ้นเมื่อคืน ถึงมันจะถูกเจอ ตราบใดที่ไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นคนขโมยก็ไม่เป็นไร และเพราะวิหารต้องกดดันกองคลังให้ตามจับลูแปงแน่ก็ถือว่าผมบรรลุเป้าหมายกลั่นแกล้งพนักงานกองคลังแล้ว
แต่ ถ้าเอามันไปซ่อนเฉยๆไม่หาคำตอบว่าทำไมมันไม่เข้าไปในกระเป๋ามิติก็ออกจะน่าเสียดาย
ถ้าอยากซ่อนต้นไม้ ให้ซ่อนในป่า หรือจะซ่อนมันด้วยการวางเป็นเครื่องตกแต่งห้องของผมดี?
***
คาร์ดินัล เฟอร์นานโด นอนบนเตียงหรูหราของห้องพยาบาลในมหาวิหาร ควบคุมการไหลย้อนกลับของพลังเวท
พลังศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสร้างจากการผสมกันของศรัทธาและพลังเวท มีพลังรักษาแข็งแกร่งและครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางกว่าพลังอื่น แต่มันมีข้อเสียอย่างหนึ่ง
หากผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์มีศรัทธาสั่นคลอนหรือทำสิ่งไม่เคารพต่อพระเจ้า พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาจะอ่อนแอลงอย่างมาก เหมือนก่อนหน้านี้ แม้จะไม่ตั้งใจ แต่เขาโจมตีรูปปั้นและรู้สึกผิดซึ่งส่งผลต่อพลังศักดิ์สิทธิ์
ถึงแม้ลูแปงจะใช้รัศมีดาบหุ้มรูปปั้นเทพีเอาไว้ แต่เหตุผลที่พาลาดินหลีกเลี่ยงเขาก็เพราะเหตุผลเดียวกัน
“บ้าจริง! ทำไมต้องเกิดเรื่องอย่างนี้ก่อนการปฏิวัติด้วย!”
เขาพยายามควบคุมพลังเวทที่ย้อนกลับ แต่เพราะพลังศักดิ์สิทธิ์ที่อ่อนแอลงชั่วคราวจึงทำได้ไม่ราบรื่น แต่เพราะมันเกิดจากความรู้สึกผิดเท่านั้น พลังศักดิ์สิทธิ์เขาจะกลับคืนมาในอีกไม่นาน
เฟอร์นานโดขบกรามจนเกิดเสียง
ถ้าเป็นรูปปั้นธรรมดา เขาคงโจมตีรูปปั้นและโจรโดยไม่รู้สึกผิด แต่มันต้องเป็นรูปปั้นเทพีทองที่เป็นสัญลักษณ์สำหรับเหล่าพาลาดินและเฟอร์นานโดที่มีจุดมุ่งหมายที่การฟื้นฟูความรุ่งเรืองของวิหารกลับมา
เขาถามเหล่าพาลาดินที่กลับมาทันที
“โจรเป็นอย่างไรบ้าง?”
มาริโอ พาลาดินที่นำเหล่าพาลาดินไล่ตามโจร ก้มศีรษะอย่างละอาย “ขอโทษครับพระคุณเจ้าท่านคาร์ดินัล เราคลาดจากมัน”
“อะไรนะ?!”
เฟอร์นันโดตกตะลึง เหล่าพาลาดินที่ไล่ตามโจรเป็นกลุ่มคนชั้นยอดของกองกำลังของวิหาร
สลัดหลุดจากการไล่ตามของคนพวกนี้ได้ยังไงกัน?
“ถ้าอย่างนั้นรูปปั้นเทพี แล้วรูปปั้นเทพีล่ะ?”
มาริโอส่ายหน้า
“ไป! ไปเอามันคืนมาเดี๋ยวนี้!”
เฟอร์นานโดขว้างแก้วน้ำใส่มาริโอด้วยความโกรธ
มาริโอเพียงหลับตาแน่น ไม่หลบแก้วน้ำที่ถูกเขวี้ยงมาทางเขา
แคร้ง!
แก้วน้ำแตก แต่มาริโอลืมตา ไม่รู้สึกเจ็บ
มาลิฟ หัวหน้าของมาริโอ ยืนบังเขาและรับแทน
มาลิฟปาดเลือดบนหน้าผากอย่างไม่สะทกสะท้านและพูด “คาร์โด เฟอร์นานโด โปรดสงบสติอารมณ์เถอะครับ”
“สงบ? เจ้าบอกให้ข้าสงบสติอารมณ์งั้นเรอะ?! พาลาดินมาลิฟ!”
มาลิฟเป็นคนที่อยู่รับใช้เขานานที่สุด เฟอร์นานโดโกรธที่มาลิฟแนะนำเช่นนี้ แต่เขาเพียงกัดฟัน ไม่ขว้างปาอะไร
“เจ้าบอกให้ข้าสงบสติอารมณ์ทั้งๆที่รู้ว่ารูปปั้นเทพีหมายความว่าอะไรงั้นเรอะ?!”
แม้คาร์ดินัลกำลังโกรธเกรี้ยว มาลิฟยังตอบอย่างใจเย็น “ข้ารู้ มันคือเกียรติ ความหวัง และเป้าหมายของเรา”
“รู้อย่างนั้นแล้วยัง!”
“แต่!” มาลิฟขึ้นเสียงขัดจังหวะเฟอร์นานโด แล้วลดเสียงลง “แต่มันของอดีต ไม่ใช่ของเราที่อยู่กับปัจจุบัน แต่เป็นของอดีต”
“เจ้าพูดอะไร?”
มาลิฟพูดต่อ มองสายตาสับสนของเฟอร์นานโดอย่างแจ่มชัด “คาร์โด เฟอนานโด ไม่ใช่สิ พระคุณเจ้า ท่านคาร์ดินัล เราไม่ได้ทำตามจุดมุ่งหมายสูงสุดเพื่อแค่กลับไปเป็นแบบในอดีต”
สายตาของเฟอร์นานโดที่นิ่งไปเพราะคำพูดของมาลิฟ เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาใหม่
“เราตามพระคุณเจ้า ท่านคาร์ดินัล เพื่ออนาคตที่รุ่งเรือง แน่นอน เราสมควรโกรธที่พระเจ้าของเราถูกดูหมิ่น ท่านต้องลงโทษคนโอหังนั่น แต่ควรแล้วหรือที่เราจะหมกมุ่นกับอดีตและละเลยสิ่งที่ควรทำตอนนี้?”
ความมีเหตุผลของเฟอร์นานโดที่หายไปเพราะความโกรธกลับคืนมา ขณะเดียวกัน พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อ่อนแอลงเพราะความรู้สึกผิดก็กลับคืนมาด้วย เข้มแข็งกว่าเดิม
“ใช่แล้ว เราไม่ได้มารวมกันเพื่อกลับคืนสู่อดีต ตัวข้า และพวกเจ้าทุกคนมุ่งหน้าสู่อนาคต เพื่อสร้างอนุสาวรีย์ที่เจิดจ้า รุ่งเรืองกว่าอดีต และจะไม่มีวันล่มสลายอีก”
เฟอร์นานโดลุกขึ้น แม้เขาจะยังอ่อนแอจากพลังเวทย้อนกลับ แต่ไม่นานจะหายดีเพราะพลังศักดิ์สิทธิ์กลับคืนมาแล้ว ไม่ว่าจะฟื้นฟูสภาพร่างกายช้าเพียงใด เขาจะมีสภาพร่างกายสมบูรณ์ตอนร่วมทำการปฏิวัติอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
“ข้าจะตัดศีรษะเจ้าโจรที่ขโมยรูปปั้นเทพีมาส่งให้คาร์โด เฟอร์นานโด อย่างแน่นอน”
“ข้าจะรอ แต่ตอนนี้ การปฏิวัติสำคัญกว่า เป้าหมายคือที่ไหน?” เฟอร์นานโดยิ้มขรึม
มาลิฟตอบอย่างจงรักภักดีเช่นเดิม “โรงเรียนเวทมนตร์ของจักรวรรดิครับ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น