บทที่ 2 – หนีออกจากบ้าน (2)
“ข้าไม่ชอบรอนแรมกลางป่าเท่าไหร่”
“ฮืม-”
พ่อคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นในที่สุด “ถ้าอย่างนั้น
เดินตามรอยข้าและกลายเป็นหัวหน้าหมู่บ้านล่ะ ว่ายังไง?”
“-ขอโทษ อะไรนะ?”
ครู่หนึ่ง
ผมคิดว่าตัวเองหูฝาดได้ยินไปว่าเขาอยากให้ผมเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน พระเจ้า
ใครๆก็รู้ว่าพ่อไม่มีทางพูดเรื่องนี้
ครั้งหนึ่ง พี่ใหญ่เหวี่ยงขวานอดามันไทท์โจมตีพ่อพลางตะโกนว่า “พ่อ,
ข้าจะสืบต่อบัลลังก์ท่านเอง!”
พ่อสะบัดมือเปล่าปัดการโจมตีอย่างง่ายดายและตอบ “ลูกเอ๋ย,
ข้ายังหนุ่มอยู่นะ!”
“ทำหน้าโง่อะไรอย่างนั้น? ข้าอยากให้เจ้ามารับช่วงต่อ”
พ่อทวนซ้ำหน้ามุ่ย
“พ่อ พูดเหลวไหลอะไรน่ะ?” ผมถามอย่างโง่ๆ
“ไม่ได้ไร้สาระนะ” เขาตอบอย่างสงบ
“เหลวไหลสิ” ผมว่าซ้ำ
เป็นไปได้มากว่าหมัดเหล็กของพ่อจะตรงมาที่ผมหากพูดจาไม่เคารพเช่นนี้
โชคร้าย,เรื่องที่ต้องพูดมันก็ต้องพูดออกไป
“ข้าอ่อนแอกว่าพี่ใหญ่ ใช้ดาบแย่กว่าพี่รอง
หมู่บ้านนี้ถือความเข้มแข็งเป็นทุกสิ่งไม่ใช่เหรอ?”
แต่แทนที่จะเป็นหมัดเหล็ก พ่อเพียงถอนหายใจเบาๆ
“แต่เจ้าเก่งเรื่องเวทมนตร์ที่สุดในหมู่บ้าน”
ผมตะลึง “ตั้งแต่ข้าเริ่มฝึกเวทมนตร์ ท่านก็บอกข้าตลอดว่าเวทมนตร์เป็นแค่กลหลอกเด็ก!”
ตั้งแต่แรก พ่อไม่เห็นด้วยกับที่ผมสนใจเวทมนตร์
เขาพูดเสมอว่ามันเป็นแค่กลเล็กๆน้อยๆสำหรับคนอ่อนแอ
“ใช่ ข้าพูดอย่างนั้นและยังเชื่ออย่างนั้นอยู่ แต่เวทมนตร์ที่เจ้าใช้ไม่ใช่แค่กลหลอกเด็ก”
ผมไม่เข้าใจที่พ่อพูด มันเหมือนเขากำลังพูดว่าการขับรถหลังดื่มเหล้าไม่ถือเป็นการเมาแล้วขับ
“ในโลกไม่มีกลแบบไหนจะล้มมังกรได้หรอก ถ้ากลมันใช้ล้มมังกรได้
มันก็ไม่ถือเป็นกลแล้ว”
ผมพูดไม่ออก
“แม้เจ้าจะมีพลังกายด้อยกว่าพี่ใหญ่ของเจ้า
ในชาวบ้านทั้งหมดเจ้ายังถือเป็นที่หนึ่ง เรื่องดาบก็ด้วย
ถ้าเจ้าด้อยกว่าพี่รองของเจ้า ถ้าอย่างนั้นในหมู่บ้านนี้เจ้าก็ถือเป็นที่สอง”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก” ผมโบกมือปฏิเสธ
แต่เขาหัวเราะ “พี่รองของเจ้า นักดาบที่เก่งที่สุดในหมู่บ้าน
บอกว่าถ้าเขาหยุดพักสักวัน เจ้าจะตามทันสองวัน เขาต้องฝึกเท่ากับสามวันจึงจะรักษาระยะห่างจากเจ้าได้”
ผมเม้มปาก
“พี่หญิงรองของเจ้า บอกว่าเจ้าเป็นนักเวทที่เก่งที่สุดในหมู่บ้าน
ผู้เฒ่าเมอร์ปาที่คนในหมู่บ้านนับถือเป็นนักเวทอันดับหนึ่งก็เห็นด้วย อีกอย่าง
พี่หญิงใหญ่ของเจ้า คนที่ข้าไปปรึกษาเสมอ บอกว่าความรู้ของเจ้าหากไม่เท่ากับก็ลึกล้ำกว่านาง
นางบอกว่าถ้าข้าต้องการคำปรึกษาให้ถามเจ้าด้วย”
หน้าของพ่อเหมือนจะถามว่าผมยังจะปฏิเสธอีกไหม
“ดูจากที่ท่านแน่วแน่ขนาดนี้
ท่านคงคิดเรื่องให้ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านนานแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ตั้งแต่เจ้าล้มมังกรนั่น”
หรือก็คือเขาตัดสินใจให้ผมสืบตำแหน่งจากเขาตั้งแต่ตอนผมอายุ 12 ปี
“พี่ใหญ่กับพี่รองก็ล้มมังกรมาเหมือนกัน ทำไมถึงเป็นข้าล่ะ?”
สำหรับพ่อ เก่งเรื่องเวทมนตร์หรือมีการศึกษาเป็นแค่เรื่องรอง
ถ้าให้เทียบ ก็เหมือนเขียนลงในรีซูเม่สมัครงานในบริษัทขนาดใหญ่ว่ามีปริญญาโททางประวัติศาสตร์เกาหลีหรือภาษาจีน
มันเป็นความสำเร็จที่จืดจางจนไม่อาจทำให้เด่นล้ำไปกว่าผู้สมัครคนอื่นได้
“พี่ใหญ่กับพี่รองของเจ้าไม่ได้ล้มมันคนเดียว
พวกเขามีพวกไปด้วยสองสามคน อีกอย่าง สมัยพี่ๆของเจ้าอายุสิบสอง อย่าว่าแต่มังกรเลย
ปีศาจยังจับไม่ได้ แค่วิ่งหนีก็แทบแย่แล้ว ฮ่าๆๆ คิดแล้วขำ ฮ่าๆๆ!”
พ่อหัวเราะพลางทุบโต๊ะปังๆ
จู่ๆผมก็เกิดมีอารมณ์ร่วมกับพวกพี่ชายที่โจมตีพ่อก่อนพิธีเข้าสู่วัยเป็นผู้ใหญ่
ฉันควรจะโจมตีด้วยไหม?
ผมรู้สึกอยากจะโจมตีขึ้นมาเมื่อนึกถึงความทรงจำที่ถูกโยนลงรังมังกร
แต่ ถ้าทำอย่างนั้นก็มีแต่ลงเอยด้วยการนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวันหลังจากถูกสัตว์ประหลาดกล้ามเนื้อคนนี้ฟัดไปมาอย่างตื่นเต้น
“ด้วยเหตุนี้เจ้าไปเมืองหลวงไม่ได้ เจ้าต้องรับตำแหน่งต่อจากข้า”
พ่อสรุปหนักแน่นแล้วเสริมต่อ “อ้อ ตอนนี้ข้ายังหนุ่มแน่นและเจ้ายังเด็กเกินไป
รอให้เจ้าโตกว่านี้ก่อนข้าจะส่งต่อตำแหน่งนี้ให้”
“ข้าเข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าไปก่อน”
ผมบอกลาพ่อด้วยรอยยิ้มแล้วออกจากห้องทำงาน
ระหว่างเดินกลับบ้าน ผมเห็นเด็กคนหนึ่งในลานว่าง เขาอายุราวสิบขวบ
กำลังถือดาบฟันใส่ชายชราคนหนึ่งซึ่งคงเป็นปู่หรือตา
ผู้เฒ่ารับดาบอย่างง่ายดายด้วยนิ้วที่ห่อหุ้มด้วยรัศมีดาบ
ดูเขาจะสนุกกับการเล่นตลกของหลาน
เชี่ย!
แบบนี้ผมก็กำลังจะกลายเป็นหัวหน้าเผ่าบ้าการต่อสู้น่ะสิ
หัวหน้าเผ่าไม่ใช่ตำแหน่งที่คนธรรมดาอย่างผมควรจะรับสืบทอด
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากออกจากหมู่บ้านด้วยรอยยิ้ม โชคร้ายที่มันช่วยไม่ได้แล้ว
ต้องใช้แผน B แล้วสิ
***
ดูมสโตน เบลด หัวหน้าเผ่าอีกาอันเป็นเผ่าหนึ่งในชาติพันธุ์นักสู้
หัวเราะขณะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ลูกชายคนสุดท้องของเขา เดนเบอร์ก เบลด
ผู้กำลังจะถึงวัยเป็นผู้ใหญ่มาหาเขา
น่าเสียดาย ไม่เหมือนลูกชายคนอื่น
เดนเบอร์กไม่ได้ลอบโจมตีหรือโจมตีเขา ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่ลูกชายคนสุดท้องที่เขารักที่สุดมาเยี่ยมในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่ง
แต่ดูมสโตนก็ต้องตกตะลึงเมื่อเดนเบอร์กบอกว่าอยากออกจากหมู่บ้าน โชคดี
เขาพอใจที่เดนเบอร์กออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้มเหมือนสื่อว่าลูกชายเข้าใจความรู้สึกของเขา
ที่จริงแล้ว
ดูมสโตนวางแผนจะรอให้เดนเบอร์กอายุมากกว่านี้ก่อนจึงค่อยบอกเรื่องการสืบทอดตำแหน่ง
แต่ถึงอย่างไรตอนนี้เขาใกล้จะอายุสิบหกแล้ว บอกไปเลยคงไม่เป็นไร
ด้วยเหตุนี้เอง ดูมสโตนจึงประกาศกับครอบครัวตอนรับประทานอาหารมื้อค่ำ
แม้ไม่ได้แสดงท่าทีออกมาแต่เขารู้สึกกังวลเล็กน้อยกับคำตอบของครอบครัว โชคดี
เขากังวลไปเอง
ลูกชายลูกสาวของเขาเห็นด้วยที่ให้เดนเบอร์กรับตำแหน่งต่อ ไม่นับเหล่าลูกสาว
ลูกชายคนเล็กและคนรองที่ไม่สนใจตำแหน่งนี้
เขาประหลาดใจเล็กน้อยที่ลูกชายคนโตก็เห็นด้วย
“เมื่อก่อนหน้านี้ข้าเห็นพ่อทำงานอยู่กับกองเอกสาร มันทำให้ข้าปวดหัว ให้น้องเล็กเป็นผู้ปกครองที่ยอดเยี่ยมไปและข้าเป็นนักรบที่ยอดเยี่ยม!”
ดูมสโตนรู้สึกภูมิใจในลูกชายคนโต เขาล็อกคอและลูบหัวลูกชาย
“ลูกๆเอ๋ย มาให้ข้ากอด!”
ดูมสโตนกางแขน เฮสเทีย ลูกสาวคนโตตะโกน “ทุกคนหนีไป!”
ลูกชายสองคนและลูกสาวหนีไปทันที
ดูมสโตนพึมพำว่าเขาถูกทำร้ายจิตใจ
และถามลูกชายคนโตที่ถูกล็อกคอหนีไปไหนไม่ได้ “เจ้าคิดอย่างนั้นเหมือนกันไหม?”
“แน่นอน! แต่พ่อ ท่านปล่อยข้าก่อน-” กัลลาฮาด ลูกชายคนโตขอร้องพลางทุบแขนเขาแต่ดูมสโตนไม่คิดจะปล่อย
“เดี๋ยวก่อน พ่อ? พ่อ!”
เมื่อแผงอกดูมสโตนใกล้เข้ามาและแรงแขนของเขาหนักขึ้นเรื่อยๆ กัลลาฮาดตะโกนอย่างลนลานใส่พ่อของเขา
อื้ม พ่อก็รักเจ้า
***
“หัวหน้าหมู่บ้าน!”
ดูมสโตนหยุดเหม่อถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันก่อนเมื่อได้ยินคนเรียกเขา
พนักงานต้อนรับกำลังยืนข้างๆ เขากระซิบข้างหูขณะดูมสโตนเรียกสติกลับมา
“หัวหน้าหมู่บ้าน ข้าเชิญเหล่าผู้เฒ่ามาตามคำบอกของท่านแล้ว”
รู้ตัวอีกที ห้องก็เต็มไปด้วยชายชรากล้ามใหญ่ที่เรียกตัวเองว่าผู้เฒ่า
“อา ขอโทษ ข้ากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่”
“เห็นเจ้ารู้จักคิดด้วยข้าก็ภูมิใจ” ผู้เฒ่าเมอร์ปาซึ่งผู้เฒ่าคนเดียวในห้องที่ไม่มีกล้ามเป็นมัดๆ
พูดหยอกล้อ
“พูดแบบนั้นใจร้ายจริงๆ ข้าก็เริ่มแก่แล้วและช่วงนี้ก็ตั้งใจทำงาน
อีกอย่าง ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน พูดจาให้เกียรติข้าด้วย”
“หนวกหู บอกมาเสียทีทำไมเรียกพวกข้ามาที่นี่
ดูจากไม่ได้เรียกแค่ข้าแต่เป็นผู้เฒ่าทุกคน เจ้าคงมีเรื่องสำคัญ”
ผู้เฒ่าเวเจอร์ที่ดูสุภาพที่สุดก็ถามอย่างสงสัย “ใช่แล้ว หัวหน้าเผ่า
บอกมาสิ ท่านก็รู้ว่าคนเราพอแก่ตัวลงความอดทนก็น้อยตามไปด้วย”
“ฮ่าๆ หัวหน้าเผ่าเหรอ? เรียกข้าว่าหัวหน้าหมู่บ้านดีกว่าใช้ชื่อล้าสมัยนั่น”
เหล่าผู้เฒ่ายังคงเรียกเขาว่าหัวหน้าเผ่าเหมือนไม่รู้จักชื่ออื่น
เมื่อการติดต่อซื้อขายกับจักรวรรดิเพิ่มขึ้น
เฮสเทียจึงแนะนำให้เปลี่ยนชื่อหัวหน้าเผ่าเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน แต่เห็นได้ชัดว่าตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านฟังไม่น่าประทับใจนัก
ฟังคำแนะนำของเดนเบอร์ก
ดูมสโตนกำลังคิดจะเปลี่ยนเป็นอะไรที่ฮึกเหิมกว่าเช่น “เงาไฟ”
“หัวหน้าเผ่าหรือหัวหน้าหมู่บ้าน เข้าเรื่องได้แล้ว”
ผู้เฒ่าเมอร์ปาบ่น ดูมโตนจึงพูดเสียงเรื่อยๆ “ข้าเรียกทุกคนมาเพราะข้าเลือกหัวหน้าหมู่บ้านคนต่อไปได้แล้ว”
เหล่าผู้เฒ่าเงียบก่อนแล้วเริ่มคุยกันเอง
“เจ้าเจ็บป่วยตรงไหน? เป็นโรคอะไรที่ข้าไม่รู้หรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินคำถามของผู้เฒ่าเมอร์ปา
ผู้เฒ่าคนอื่นมองดูมสโตนอย่างเป็นห่วง
“เปล่า ข้าสบายดี”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมคนแข็งแรงดีจึงพูดเรื่องหัวหน้าหมู่บ้านคนต่อไป!
ทำไมพูดเรื่องนี้ขึ้นมา!”
เหล่าผู้เฒ่าส่งเสียงตะโกน เสียงในห้องดังขึ้นเรื่อยๆ
“ทุกคนหุบปาก!” ผู้เฒ่าเมอร์ปาระเบิดและในห้องเงียบลงทันใด
เมื่อความเงียบคืนสู่ห้อง ผู้เฒ่าเมอร์ปาจ้องตาดูมสโตนและถาม “เอาล่ะ
เราข้ามเรื่องทำไมคนแข็งแรงดีอย่างเจ้าจึงคิดถึงตำแหน่งผู้สืบทอดแล้วไปก่อน
ใครเป็นผู้สืบทอด? ลูกคนโตของเจ้า? หรือคนรอง?”
ดูมสโตนส่ายศีรษะ “คนสุดท้อง”
เสียงจ้อกแจ้กดังขึ้นอีก
ผู้เฒ่าเมอร์ปาเหลือบตามองเป็นสัญญาณให้พวกเขาเงียบ
ดูมสโตนมองภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อยระหว่างจินตนาการถึงอนาคตของเขา
ถึงแม้ผู้เฒ่าทุกคนยังคงเสียงดังและกระฉับกระเฉง
ความชราทำให้กล้ามเนื้อพวกเขาอ่อนแรงและพลังเสื่อมถอยลง
ผู้เฒ่าเมอร์ปาในฐานะเป็นนักเวทกลับเป็นข้อยกเว้นหนึ่งเดียวเพราะพลังเวทของเขาเพิ่มตามอายุ
สมัยเขายังหนุ่ม
คนอื่นดูถูกผู้เฒ่าเมอร์ปาที่เรียนเวทมนตร์แทนที่จะเรียนดาบหรือศิลปะการต่อสู้ แต่คนเหล่านั้นกลายเป็นอ่อนแอกว่าผู้เฒ่าเมอร์ปาเมื่อแก่ตัวลงและผ่านช่วงวัยกลางคนไป
ขณะที่ดูมสโตนกำลังคิดว่าจะฝึกเวทมนตร์จากเดนเบอร์กดีไหมอยู่นั้น
ผู้เฒ่าเมอร์ปาก็พูดขึ้น “ลูกชายคนสุดท้องของเจ้าเป็นหัวหน้าเผ่าคนต่อไปก็ดี เดนฉลาดหลักแหลมไม่เหมือนเจ้า
อีกอย่าง ลูกชายคนสุดท้องเป็นหัวหน้าเผ่าก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
ต่างจากโลกภายนอกที่บัลลังก์จะส่งมอบให้ลูกชายคนโต หัวหน้าหมู่บ้าน
ไม่ใช่สิ หัวหน้าเผ่าคนก่อนๆถูกเลือกตามความแข็งแกร่ง
ดังนั้นลูกชายคนสุดท้องก็มีโอกาสเป็นหัวหน้าเผ่าเช่นกัน
บางครั้งหัวหน้าเผ่าเป็นผู้หญิงก็ด้วยเหตุนี้
“แต่ทำไมเลือกลูกคนสุดท้องล่ะ?”
ผู้เฒ่าเมอร์ปาไม่ได้ถามว่าทำไมลูกคนสุดท้องถึงถูกเลือกแทนที่จะเป็นลูกชายคนแรก
แต่เพราะดูมสโตนมองเวทมนตร์เป็นแค่กลหลอกเด็ก
หรือก็คือเขากำลังถามดูมสโตนว่าทำไมจึงเลือกเดนเบอร์กที่เก่งด้านเวทมนตร์และถามว่าเดนเบอร์กแข็งแกร่งกว่าพี่น้องคนอื่นหรือ
คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว
“เพราะเขาแข็งแกร่งที่สุด จะมีเหตุผลอะไรได้อีก?”
---
โฮคาเงะก็มา XD
สนุกมากครับ ขอบคุณครับ หาแนวแบบนี้มานานแล้ว ไม่มีเบื่อ
ตอบลบโฮ่ๆ เม้นท์แรก ยินดีต้อนรับค่ะ ข้างหน้ามีเหวเดินระวังๆนะ XD
ลบ