วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2564

ชีวิตข้าฯ - บทที่ 2

 

บทที่ 2 – หนีออกจากบ้าน (2)

“ข้าไม่ชอบรอนแรมกลางป่าเท่าไหร่”

“ฮืม-”

พ่อคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นในที่สุด “ถ้าอย่างนั้น เดินตามรอยข้าและกลายเป็นหัวหน้าหมู่บ้านล่ะ ว่ายังไง?”

“-ขอโทษ อะไรนะ?”

ครู่หนึ่ง ผมคิดว่าตัวเองหูฝาดได้ยินไปว่าเขาอยากให้ผมเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน พระเจ้า ใครๆก็รู้ว่าพ่อไม่มีทางพูดเรื่องนี้

ครั้งหนึ่ง พี่ใหญ่เหวี่ยงขวานอดามันไทท์โจมตีพ่อพลางตะโกนว่า “พ่อ, ข้าจะสืบต่อบัลลังก์ท่านเอง!

พ่อสะบัดมือเปล่าปัดการโจมตีอย่างง่ายดายและตอบ “ลูกเอ๋ย, ข้ายังหนุ่มอยู่นะ!

“ทำหน้าโง่อะไรอย่างนั้น? ข้าอยากให้เจ้ามารับช่วงต่อ” พ่อทวนซ้ำหน้ามุ่ย

“พ่อ พูดเหลวไหลอะไรน่ะ?” ผมถามอย่างโง่ๆ

“ไม่ได้ไร้สาระนะ” เขาตอบอย่างสงบ

“เหลวไหลสิ” ผมว่าซ้ำ

เป็นไปได้มากว่าหมัดเหล็กของพ่อจะตรงมาที่ผมหากพูดจาไม่เคารพเช่นนี้ โชคร้าย,เรื่องที่ต้องพูดมันก็ต้องพูดออกไป

“ข้าอ่อนแอกว่าพี่ใหญ่ ใช้ดาบแย่กว่าพี่รอง หมู่บ้านนี้ถือความเข้มแข็งเป็นทุกสิ่งไม่ใช่เหรอ?”

แต่แทนที่จะเป็นหมัดเหล็ก พ่อเพียงถอนหายใจเบาๆ “แต่เจ้าเก่งเรื่องเวทมนตร์ที่สุดในหมู่บ้าน”

ผมตะลึง “ตั้งแต่ข้าเริ่มฝึกเวทมนตร์ ท่านก็บอกข้าตลอดว่าเวทมนตร์เป็นแค่กลหลอกเด็ก!

ตั้งแต่แรก พ่อไม่เห็นด้วยกับที่ผมสนใจเวทมนตร์ เขาพูดเสมอว่ามันเป็นแค่กลเล็กๆน้อยๆสำหรับคนอ่อนแอ

“ใช่ ข้าพูดอย่างนั้นและยังเชื่ออย่างนั้นอยู่ แต่เวทมนตร์ที่เจ้าใช้ไม่ใช่แค่กลหลอกเด็ก”

ผมไม่เข้าใจที่พ่อพูด มันเหมือนเขากำลังพูดว่าการขับรถหลังดื่มเหล้าไม่ถือเป็นการเมาแล้วขับ

“ในโลกไม่มีกลแบบไหนจะล้มมังกรได้หรอก ถ้ากลมันใช้ล้มมังกรได้ มันก็ไม่ถือเป็นกลแล้ว”

ผมพูดไม่ออก

“แม้เจ้าจะมีพลังกายด้อยกว่าพี่ใหญ่ของเจ้า ในชาวบ้านทั้งหมดเจ้ายังถือเป็นที่หนึ่ง เรื่องดาบก็ด้วย ถ้าเจ้าด้อยกว่าพี่รองของเจ้า ถ้าอย่างนั้นในหมู่บ้านนี้เจ้าก็ถือเป็นที่สอง”

“ไม่ขนาดนั้นหรอก” ผมโบกมือปฏิเสธ

แต่เขาหัวเราะ “พี่รองของเจ้า นักดาบที่เก่งที่สุดในหมู่บ้าน บอกว่าถ้าเขาหยุดพักสักวัน เจ้าจะตามทันสองวัน เขาต้องฝึกเท่ากับสามวันจึงจะรักษาระยะห่างจากเจ้าได้”

ผมเม้มปาก

“พี่หญิงรองของเจ้า บอกว่าเจ้าเป็นนักเวทที่เก่งที่สุดในหมู่บ้าน ผู้เฒ่าเมอร์ปาที่คนในหมู่บ้านนับถือเป็นนักเวทอันดับหนึ่งก็เห็นด้วย อีกอย่าง พี่หญิงใหญ่ของเจ้า คนที่ข้าไปปรึกษาเสมอ บอกว่าความรู้ของเจ้าหากไม่เท่ากับก็ลึกล้ำกว่านาง นางบอกว่าถ้าข้าต้องการคำปรึกษาให้ถามเจ้าด้วย”

หน้าของพ่อเหมือนจะถามว่าผมยังจะปฏิเสธอีกไหม

“ดูจากที่ท่านแน่วแน่ขนาดนี้ ท่านคงคิดเรื่องให้ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านนานแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ตั้งแต่เจ้าล้มมังกรนั่น”

หรือก็คือเขาตัดสินใจให้ผมสืบตำแหน่งจากเขาตั้งแต่ตอนผมอายุ 12 ปี

“พี่ใหญ่กับพี่รองก็ล้มมังกรมาเหมือนกัน ทำไมถึงเป็นข้าล่ะ?”

สำหรับพ่อ เก่งเรื่องเวทมนตร์หรือมีการศึกษาเป็นแค่เรื่องรอง ถ้าให้เทียบ ก็เหมือนเขียนลงในรีซูเม่สมัครงานในบริษัทขนาดใหญ่ว่ามีปริญญาโททางประวัติศาสตร์เกาหลีหรือภาษาจีน มันเป็นความสำเร็จที่จืดจางจนไม่อาจทำให้เด่นล้ำไปกว่าผู้สมัครคนอื่นได้

“พี่ใหญ่กับพี่รองของเจ้าไม่ได้ล้มมันคนเดียว พวกเขามีพวกไปด้วยสองสามคน อีกอย่าง สมัยพี่ๆของเจ้าอายุสิบสอง อย่าว่าแต่มังกรเลย ปีศาจยังจับไม่ได้ แค่วิ่งหนีก็แทบแย่แล้ว ฮ่าๆๆ คิดแล้วขำ ฮ่าๆๆ!

พ่อหัวเราะพลางทุบโต๊ะปังๆ

จู่ๆผมก็เกิดมีอารมณ์ร่วมกับพวกพี่ชายที่โจมตีพ่อก่อนพิธีเข้าสู่วัยเป็นผู้ใหญ่ ฉันควรจะโจมตีด้วยไหม?

ผมรู้สึกอยากจะโจมตีขึ้นมาเมื่อนึกถึงความทรงจำที่ถูกโยนลงรังมังกร แต่ ถ้าทำอย่างนั้นก็มีแต่ลงเอยด้วยการนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปหลายวันหลังจากถูกสัตว์ประหลาดกล้ามเนื้อคนนี้ฟัดไปมาอย่างตื่นเต้น

“ด้วยเหตุนี้เจ้าไปเมืองหลวงไม่ได้ เจ้าต้องรับตำแหน่งต่อจากข้า” พ่อสรุปหนักแน่นแล้วเสริมต่อ “อ้อ ตอนนี้ข้ายังหนุ่มแน่นและเจ้ายังเด็กเกินไป รอให้เจ้าโตกว่านี้ก่อนข้าจะส่งต่อตำแหน่งนี้ให้”

“ข้าเข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าไปก่อน”

ผมบอกลาพ่อด้วยรอยยิ้มแล้วออกจากห้องทำงาน

ระหว่างเดินกลับบ้าน ผมเห็นเด็กคนหนึ่งในลานว่าง เขาอายุราวสิบขวบ กำลังถือดาบฟันใส่ชายชราคนหนึ่งซึ่งคงเป็นปู่หรือตา ผู้เฒ่ารับดาบอย่างง่ายดายด้วยนิ้วที่ห่อหุ้มด้วยรัศมีดาบ ดูเขาจะสนุกกับการเล่นตลกของหลาน

เชี่ย!

แบบนี้ผมก็กำลังจะกลายเป็นหัวหน้าเผ่าบ้าการต่อสู้น่ะสิ

หัวหน้าเผ่าไม่ใช่ตำแหน่งที่คนธรรมดาอย่างผมควรจะรับสืบทอด ถ้าเป็นไปได้ผมอยากออกจากหมู่บ้านด้วยรอยยิ้ม โชคร้ายที่มันช่วยไม่ได้แล้ว

ต้องใช้แผน B แล้วสิ

***

ดูมสโตน เบลด หัวหน้าเผ่าอีกาอันเป็นเผ่าหนึ่งในชาติพันธุ์นักสู้ หัวเราะขณะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ลูกชายคนสุดท้องของเขา เดนเบอร์ก เบลด ผู้กำลังจะถึงวัยเป็นผู้ใหญ่มาหาเขา

น่าเสียดาย ไม่เหมือนลูกชายคนอื่น เดนเบอร์กไม่ได้ลอบโจมตีหรือโจมตีเขา ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่ลูกชายคนสุดท้องที่เขารักที่สุดมาเยี่ยมในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่ง

แต่ดูมสโตนก็ต้องตกตะลึงเมื่อเดนเบอร์กบอกว่าอยากออกจากหมู่บ้าน โชคดี เขาพอใจที่เดนเบอร์กออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้มเหมือนสื่อว่าลูกชายเข้าใจความรู้สึกของเขา

ที่จริงแล้ว ดูมสโตนวางแผนจะรอให้เดนเบอร์กอายุมากกว่านี้ก่อนจึงค่อยบอกเรื่องการสืบทอดตำแหน่ง แต่ถึงอย่างไรตอนนี้เขาใกล้จะอายุสิบหกแล้ว บอกไปเลยคงไม่เป็นไร

ด้วยเหตุนี้เอง ดูมสโตนจึงประกาศกับครอบครัวตอนรับประทานอาหารมื้อค่ำ แม้ไม่ได้แสดงท่าทีออกมาแต่เขารู้สึกกังวลเล็กน้อยกับคำตอบของครอบครัว โชคดี เขากังวลไปเอง

ลูกชายลูกสาวของเขาเห็นด้วยที่ให้เดนเบอร์กรับตำแหน่งต่อ ไม่นับเหล่าลูกสาว ลูกชายคนเล็กและคนรองที่ไม่สนใจตำแหน่งนี้ เขาประหลาดใจเล็กน้อยที่ลูกชายคนโตก็เห็นด้วย

“เมื่อก่อนหน้านี้ข้าเห็นพ่อทำงานอยู่กับกองเอกสาร มันทำให้ข้าปวดหัว ให้น้องเล็กเป็นผู้ปกครองที่ยอดเยี่ยมไปและข้าเป็นนักรบที่ยอดเยี่ยม!

ดูมสโตนรู้สึกภูมิใจในลูกชายคนโต เขาล็อกคอและลูบหัวลูกชาย

“ลูกๆเอ๋ย มาให้ข้ากอด!

ดูมสโตนกางแขน เฮสเทีย ลูกสาวคนโตตะโกน “ทุกคนหนีไป!

ลูกชายสองคนและลูกสาวหนีไปทันที

ดูมสโตนพึมพำว่าเขาถูกทำร้ายจิตใจ และถามลูกชายคนโตที่ถูกล็อกคอหนีไปไหนไม่ได้ “เจ้าคิดอย่างนั้นเหมือนกันไหม?”

“แน่นอน! แต่พ่อ ท่านปล่อยข้าก่อน-” กัลลาฮาด ลูกชายคนโตขอร้องพลางทุบแขนเขาแต่ดูมสโตนไม่คิดจะปล่อย

“เดี๋ยวก่อน พ่อ? พ่อ!

เมื่อแผงอกดูมสโตนใกล้เข้ามาและแรงแขนของเขาหนักขึ้นเรื่อยๆ กัลลาฮาดตะโกนอย่างลนลานใส่พ่อของเขา

อื้ม พ่อก็รักเจ้า

***

“หัวหน้าหมู่บ้าน!

ดูมสโตนหยุดเหม่อถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันก่อนเมื่อได้ยินคนเรียกเขา

พนักงานต้อนรับกำลังยืนข้างๆ เขากระซิบข้างหูขณะดูมสโตนเรียกสติกลับมา

“หัวหน้าหมู่บ้าน ข้าเชิญเหล่าผู้เฒ่ามาตามคำบอกของท่านแล้ว”

รู้ตัวอีกที ห้องก็เต็มไปด้วยชายชรากล้ามใหญ่ที่เรียกตัวเองว่าผู้เฒ่า

“อา ขอโทษ ข้ากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่”

“เห็นเจ้ารู้จักคิดด้วยข้าก็ภูมิใจ” ผู้เฒ่าเมอร์ปาซึ่งผู้เฒ่าคนเดียวในห้องที่ไม่มีกล้ามเป็นมัดๆ พูดหยอกล้อ

“พูดแบบนั้นใจร้ายจริงๆ ข้าก็เริ่มแก่แล้วและช่วงนี้ก็ตั้งใจทำงาน อีกอย่าง ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน พูดจาให้เกียรติข้าด้วย”

“หนวกหู บอกมาเสียทีทำไมเรียกพวกข้ามาที่นี่ ดูจากไม่ได้เรียกแค่ข้าแต่เป็นผู้เฒ่าทุกคน เจ้าคงมีเรื่องสำคัญ”

ผู้เฒ่าเวเจอร์ที่ดูสุภาพที่สุดก็ถามอย่างสงสัย “ใช่แล้ว หัวหน้าเผ่า บอกมาสิ ท่านก็รู้ว่าคนเราพอแก่ตัวลงความอดทนก็น้อยตามไปด้วย”

“ฮ่าๆ หัวหน้าเผ่าเหรอ? เรียกข้าว่าหัวหน้าหมู่บ้านดีกว่าใช้ชื่อล้าสมัยนั่น”

เหล่าผู้เฒ่ายังคงเรียกเขาว่าหัวหน้าเผ่าเหมือนไม่รู้จักชื่ออื่น เมื่อการติดต่อซื้อขายกับจักรวรรดิเพิ่มขึ้น เฮสเทียจึงแนะนำให้เปลี่ยนชื่อหัวหน้าเผ่าเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน แต่เห็นได้ชัดว่าตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านฟังไม่น่าประทับใจนัก

ฟังคำแนะนำของเดนเบอร์ก ดูมสโตนกำลังคิดจะเปลี่ยนเป็นอะไรที่ฮึกเหิมกว่าเช่น “เงาไฟ”

“หัวหน้าเผ่าหรือหัวหน้าหมู่บ้าน เข้าเรื่องได้แล้ว”

ผู้เฒ่าเมอร์ปาบ่น ดูมโตนจึงพูดเสียงเรื่อยๆ “ข้าเรียกทุกคนมาเพราะข้าเลือกหัวหน้าหมู่บ้านคนต่อไปได้แล้ว”

เหล่าผู้เฒ่าเงียบก่อนแล้วเริ่มคุยกันเอง

“เจ้าเจ็บป่วยตรงไหน? เป็นโรคอะไรที่ข้าไม่รู้หรือเปล่า?”

เมื่อได้ยินคำถามของผู้เฒ่าเมอร์ปา ผู้เฒ่าคนอื่นมองดูมสโตนอย่างเป็นห่วง

“เปล่า ข้าสบายดี”

“ถ้าอย่างนั้นทำไมคนแข็งแรงดีจึงพูดเรื่องหัวหน้าหมู่บ้านคนต่อไป! ทำไมพูดเรื่องนี้ขึ้นมา!

เหล่าผู้เฒ่าส่งเสียงตะโกน เสียงในห้องดังขึ้นเรื่อยๆ

“ทุกคนหุบปาก!” ผู้เฒ่าเมอร์ปาระเบิดและในห้องเงียบลงทันใด

เมื่อความเงียบคืนสู่ห้อง ผู้เฒ่าเมอร์ปาจ้องตาดูมสโตนและถาม “เอาล่ะ เราข้ามเรื่องทำไมคนแข็งแรงดีอย่างเจ้าจึงคิดถึงตำแหน่งผู้สืบทอดแล้วไปก่อน ใครเป็นผู้สืบทอด? ลูกคนโตของเจ้า? หรือคนรอง?”

ดูมสโตนส่ายศีรษะ “คนสุดท้อง”

เสียงจ้อกแจ้กดังขึ้นอีก ผู้เฒ่าเมอร์ปาเหลือบตามองเป็นสัญญาณให้พวกเขาเงียบ

ดูมสโตนมองภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกหดหู่ขึ้นมาเล็กน้อยระหว่างจินตนาการถึงอนาคตของเขา

ถึงแม้ผู้เฒ่าทุกคนยังคงเสียงดังและกระฉับกระเฉง ความชราทำให้กล้ามเนื้อพวกเขาอ่อนแรงและพลังเสื่อมถอยลง ผู้เฒ่าเมอร์ปาในฐานะเป็นนักเวทกลับเป็นข้อยกเว้นหนึ่งเดียวเพราะพลังเวทของเขาเพิ่มตามอายุ

สมัยเขายังหนุ่ม คนอื่นดูถูกผู้เฒ่าเมอร์ปาที่เรียนเวทมนตร์แทนที่จะเรียนดาบหรือศิลปะการต่อสู้ แต่คนเหล่านั้นกลายเป็นอ่อนแอกว่าผู้เฒ่าเมอร์ปาเมื่อแก่ตัวลงและผ่านช่วงวัยกลางคนไป

ขณะที่ดูมสโตนกำลังคิดว่าจะฝึกเวทมนตร์จากเดนเบอร์กดีไหมอยู่นั้น ผู้เฒ่าเมอร์ปาก็พูดขึ้น “ลูกชายคนสุดท้องของเจ้าเป็นหัวหน้าเผ่าคนต่อไปก็ดี เดนฉลาดหลักแหลมไม่เหมือนเจ้า อีกอย่าง ลูกชายคนสุดท้องเป็นหัวหน้าเผ่าก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

ต่างจากโลกภายนอกที่บัลลังก์จะส่งมอบให้ลูกชายคนโต หัวหน้าหมู่บ้าน ไม่ใช่สิ หัวหน้าเผ่าคนก่อนๆถูกเลือกตามความแข็งแกร่ง ดังนั้นลูกชายคนสุดท้องก็มีโอกาสเป็นหัวหน้าเผ่าเช่นกัน

บางครั้งหัวหน้าเผ่าเป็นผู้หญิงก็ด้วยเหตุนี้

“แต่ทำไมเลือกลูกคนสุดท้องล่ะ?”

ผู้เฒ่าเมอร์ปาไม่ได้ถามว่าทำไมลูกคนสุดท้องถึงถูกเลือกแทนที่จะเป็นลูกชายคนแรก แต่เพราะดูมสโตนมองเวทมนตร์เป็นแค่กลหลอกเด็ก หรือก็คือเขากำลังถามดูมสโตนว่าทำไมจึงเลือกเดนเบอร์กที่เก่งด้านเวทมนตร์และถามว่าเดนเบอร์กแข็งแกร่งกว่าพี่น้องคนอื่นหรือ

คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว

“เพราะเขาแข็งแกร่งที่สุด จะมีเหตุผลอะไรได้อีก?”

 

 

สารบัญ                                                  บทที่ 3



---

โฮคาเงะก็มา XD

 

 

 

 

 

 

2 ความคิดเห็น:

  1. สนุกมากครับ ขอบคุณครับ หาแนวแบบนี้มานานแล้ว ไม่มีเบื่อ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. โฮ่ๆ เม้นท์แรก ยินดีต้อนรับค่ะ ข้างหน้ามีเหวเดินระวังๆนะ XD

      ลบ