บทที่ 32 – ความเศร้าของเจ้าหญิง (2)
เมื่อถึงกองคลังของพระราชฐานชั้นใน ผมก็ใช้ลวดเปิดประตู ที่ใช้ลวดเพราะมันมีเวทที่จะปรับรูปทรงของมันให้เข้ากับกุญแจ ไม่ใช่เพราะผมเก่งเรื่องสะเดาะกลอน
ความยากของเวทนี้คือถ้าปรับรูปทรงใหญ่เกินไป ล็อกจะพัง ถ้าปรับรูปทรงเล็กเกินไปจะไขไม่ออก ลวดจะกลายเป็นกุญแจได้ก็ต่อเมื่อปรับรูปทรงได้พอดี ชื่อของลวดนี้คือ อโลโฮโมรา
เมื่อเข้ามาข้างในสำนักงาน ผมเริ่มเปิดตู้นิรภัยทันที เช่นเดียวกับกองคลังข้างนอก ตู้นิรภัยมีเอกสารหลายหัวข้อ ที่น่าสนใจที่สุดคือบันทึกประเมินผลการฝึกข้าราชการ
ผมอยากเอาบันทึกของผู้รับการฝึกหลายร้อยคนนี้กลับไปอ่าน แต่ถ้ามันหายไปคงสร้างความปั่นป่วนไม่น้อย ดีไม่ดีอาจถึงขั้นยกเลิกการสอบ ผมจึงอ่านแต่ของคนที่ดูเหมือนมีผลการฝึกดีอย่างละเอียดแล้วเก็บเอกสารคืนที่เดิม
ผมจำตำแหน่งตู้นิรภัยนี้เอาไว้ ข้อมูลจากร้านขายข่าวบอกว่าลุงของผมอยู่ที่เมืองหลวง ดังนั้นผมต้องหลีกเลี่ยงตำแหน่งงานในพระราชฐานชั้นในให้ได้เพื่อไม่ต้องเจอเขา
เป้าหมายสูงสุดของผมคืองานข้าราชการในเมืองหลวง เพื่อการนั้นต้องมีเกรดอยู่ช่วงกลางค่อนไปทางสูง พวกเกรดสูงถูกจัดให้ทำงานในส่วนใน ขณะที่พวกเกรดต่ำจะถูกส่งไปทำงานที่ห่างไกล ซึ่งมันน่ารำคาญตรงที่ต้องเดินทางย้ายที่ไปเรื่อยๆ ถึงอย่างนั้นก็ยังดีกว่าทำงานในส่วนในใต้สายตาลุงของผม
ผมมองไปยังตู้นิรภัยอื่น ตัดสินใจว่าจะค้นไปทีละนิดเพราะตั้งใจจะมาที่นี่อีกหลายวัน
***
ที่ด้านตะวันออกของเมืองหลวง ผู้หญิงในเสื้อคลุมคนหนึ่งเข้ามาในร้านเหล้า วินซ์ มาสค์อันตั้งอยู่ในทางวงกตที่ประกอบด้วยซอกซอยนับไม่ถ้วน มีคนส่วนหนึ่งเห็นเธอแต่ไม่มีใครเปิดเผยตัวออกมาและทำเพียงปะปนไปในฝูงชน ร้านเหล้ามีคนไม่มากเพราะสถานที่ตั้งโดดเดี่ยว แต่มีความโหวกเหวกอันเป็นลักษณะพิเศษของตรอกซอย
หญิงผู้ปิดบังตัวตนในเสื้อคลุมผ่านคนในร้านอย่างระมัดระวังและนั่งตรงโต๊ะติดป้าย B3
“จะสั่งอะไร?”
เมื่อพนักงานยื่นเมนูให้ ผู้หญิงมองเมนูผ่านๆแล้วพูด “ข้าอยากได้เหล้าดีๆ”
“เหล้าดี... ถ้าเหล้าดีร้านเรามีตะวันควบ, น้ำค้างจันทร์, แล้วก็ฝันพันวัน”
เหล้าที่พนักงานพูดถึงล้วนแต่ทำจากนักบ่มเหล้าเลื่องชื่อ ไม่ใช่ของที่จะหาซื้อได้ในร้านเหล้าเล็กๆ แน่นอนว่าพวกเขาขายเหล้าปลอมหรืออาจผสมของจริงไม่กี่หยด นี่เป็นเรื่องที่ทำเป็นปกติในร้านเหล้าเล็กแบบนี้
ถึงอย่างนั้น เธอตอบอย่างไม่ประหลาดใจเหมือนรู้อยู่แล้วว่าพนักงานจะบอกชื่อพวกนี้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยหากเธอไม่ใช่ลูกค้าประจำของที่นี้
“ก็ดีนะ แต่ข้าอยากลองดื่ม ‘เมตตาของแม่’”
คิ้วพนักงานกระตุก เมตตาของแม่เป็นไวน์คุณภาพสูงเช่นกันแต่ธรรมดากว่าเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มที่พนักงานบอก
“รสนิยมดีนะ เมตตาของแม่เป็นของแพง ขอดูก่อนได้ไหมว่าเจ้าจ่ายไหวหรือเปล่า?”
ผู้หญิงเอาเหรียญเงินออกมาสี่เหรียญตามคำถามของพนักงาน สามเหรียญเป็นของจริง เหรียญสุดท้ายเป็นเหรียญที่มีขนาดเท่าเหรียญเงิน
พนักงานก้มศีรษะขอโทษ “ขออภัยที่ข้าล่วงเกินไป เงินเท่านี้พอจ่ายค่าเหล้า กลิ่นเทียนที่นี่อาจรบกวนการดื่มเหล้าชั้นดี ให้ข้าพาไปอีกห้องไหม?”
เธอพยักหน้าและตามเขาไปที่ประตูลับ
ในทางใต้ดิน พนักงานถาม “อะไรทำให้ผู้จัดการสาขากรันเวลต้องมาถึงที่นี่?”
ผู้หญิงลดฮู้ดคลุมหัวลง “ระดับของเจ้ายังไม่สูงพอให้ข้าบอกเหตุผลที่มา”
“แต่ข้าเป็นหัวหน้าผู้บริหารสาขาเมืองหลวงนะ?”
เธอพยักหน้า “ข้าแน่ใจว่าต่อไปหัวหน้าจะพบคำตอบ แต่ยังไงเราก็ต้องทำตามขั้นตอน”
หัวหน้าผู้บริหารมีสีหน้าแปลกใจซึ่งมีไม่บ่อยนัก คำพูดของเธอบอกว่าข้อมูลนี้สำหรับคนเพียงเดียวที่อยู่เหนือเขา แม่ใหญ่
เมื่อถึงบันไดขั้นล่างสุด เขาเคาะประตูด้วยจังหวะพิเศษ ประตูเลื่อนออกเผยให้เห็นห้องใหญ่ที่ประดับประดาอย่างหรูหรา
“มิลเปีย? ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!”
หญิงวัยกลางคนผมดำคนหนึ่งอ้าแขน
“แม่ใหญ่ ไม่ได้เจอกันนานเลยค่ะ” มิลเปียยิ้มและกอดตอบ
“มิลเปีย ข้าบอกแล้วว่าให้เจ้าเรียกข้าว่าแม่”
แม่ใหญ่ลูบศีรษะมิลเพียด้วยรอยยิ้มอบอุ่น มิลเปียหน้าแดงและตอบเสียงเบา “ค่ะแม่”
แม้มิลเปียกับแม่ใหญ่จะมีใบหน้าสีผมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม่ใหญ่ก็กลายเป็นแม่ของมิลเปียผู้เป็นเด็กกำพร้า ที่จริงแล้วที่เธอถูกเรียกว่าแม่ใหญ่เพราะเธอเป็นเหมือนแม่ของทุกคนในหน่วยงานข่าว
แม่ใหญ่นั่งบนโซฟาและให้มิลเปียนั่งตรงข้าม หัวหน้าผู้บริหารคำนับให้แม่ใหญ่และออกไป ยามในห้องก็ออกไปเช่นกัน
แม่ใหญ่นั่งตามสบายและถาม “แล้วทำไมเจ้าเดินทางจากกรันเวลมาถึงนี่ล่ะ?”
มิลเปียกลืนน้ำลายอย่างไม่สบายใจ
กรันเวลเป็นเมืองธรรมดาเทียบกับเมืองใหญ่ไม่ได้ แต่สำหรับหน่วยงานข่าวแม่ใหญ่ ที่นี่เป็นศูนย์กลางสำคัญที่ข้อมูลจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมารวมกัน เธอที่เป็นผู้จัดการที่นั่นจะถูกตำหนิอย่างหนักถ้าทิ้งหน้าที่มาแบบไม่มีเหตุผล
เธอมาเพราะตัดสินว่านี่เป็นข้อมูลสำคัญก็จริงแต่แม่ใหญ่อาจไม่เห็นด้วย
“ชายวัยกลางคนคนหนึ่งมาซื้อข่าวที่กรันเวล เมื่อเวลา 11 โมง 14 นาที 53 วินาที วันที่ 24 พฤษภาคมของปีนี้ นี่คือรายชื่อของที่เขาซื้อไปค่ะ”
มิลเพียหยิบเอกสารในกระเป๋ายื่นให้แม่ใหญ่อ่าน
“เขาซื้อหมดนี่เลยเหรอ?” แม่ใหญ่ประหลาดใจทีเดียวเมื่ออ่านเอกสารลับ
ข่าวที่ขายไปเทียบเท่ากับปริมาณข่าวที่ร้านสาขาหนึ่งขายเป็นเวลาครึ่งปี และสาขานั้นต้องเป็นที่รู้จักแพร่หลาย แต่ศูนย์รวมอย่างกรันเวลเป็นสาขาลับสุดยอด ไม่ค่อยมีคนเข้าไปซื้อข่าวนัก
แม่ใหญ่แกะรหัสในเอกสารเพื่ออ่านรายละเอียดและต้องประหลาดใจอีกครั้ง เพราะระดับของข้อมูลสูงทีเดียว
“นี่น่าจะราคาประมาณ 90 ล้านเบี้ย...”
มิลเปียได้ทึ่งกับความสามารถคำนวณของแม่ใหญ่อีกครั้ง
“ค่ะ ที่จริงคือ 85 ล้านเบี้ย อีกอย่าง-”
มิลเปียวางเหรียญทองคำขาวสี่เหรียญบนโต๊ะ
“เขาจ่ายด้วยเหรียญทองคำขาว”
เหรียญทองคำขาว 4 เหรียญเท่ากับ 100 ล้านเบี้ย ในที่สุดแม่ใหญ่ก็เข้าใจว่าทำไมผู้จัดการสาขากรันเวลจึงมาพบเธอด้วยตัวเอง
“เงินทอนใกล้เคียงกับเงินทุนของสาขากรันเวล”
ร้านสาขากรันเวลมีเงินทุนประมาณ 14 ล้านเบี้ย การจ่ายด้วยเหรียญทองคำขาวแทนเหรียญทองแปลว่าพวกเขาพยายามล้วงข้อมูลของหน่วยงานข่าวแม่ใหญ่ เหรียญทองคำขาวเป็นเหรียญที่ใช้เฉพาะในขุนนางขั้นสูง จะพูดว่าเหรียญทองคำขาวมีเพื่อขุนนางขั้นสูงเท่านั้นก็ไม่เกินเลยไป
เข้ามาในร้านของแม่ใหญ่และจ่ายด้วยเหรียญแบบนั้นและขอเงินทอนเท่ากับเงินทุนของสาขาจะถือว่าเป็นการท้าทายก็ได้
“มีภาพของชายคนนั้นใช่ไหม?”
มิลเปียหยิบภาพชายมีแผลบนหน้าและยื่นให้แม่ใหญ่
ระหว่างแม่ใหญ่ตั้งใจดูภาพวาด มิลเปียพูด “เราสะกดรอยตามเขาไม่ทัน ทั้งๆที่เขาแบกเงินทอน ข่าวและของที่เราให้แทนเงินทอนที่ขาดไป”
“รวมแล้วน้ำหนักเท่าไหร่?”
“มากกว่า 500 กิโลกรัมค่ะ”
แม่ใหญ่หน้าเครียดและจ้องภาพวาดเขม็ง
เธอไม่รู้จักเขา หากจะแบกของหนัก 500 กิโลกรัมได้สบาย เขาต้องมีร่างกายของชาติพันธุ์นักสู้ แม่ใหญ่รู้จักทุกคนที่ฝึกฝนร่างกายเทียบเท่ากับคนในเผ่าพันธุ์นักสู้ แต่เธอเพิ่งเคยเห็นใบหน้านี้เป็นครั้งแรก
“เป็นไปได้ไหมว่าเขาเป็นชาติพันธุ์นักสู้”
แม่ใหญ่ถามเพราะถ้าเขามาจากดินแดนต้องห้ามก็เป็นไปได้ที่เธอไม่รู้จัก
“เป็นไปได้ค่ะ แต่คงไม่ใช่มากกว่า”
“ทำไมล่ะ?”
“อย่างแรก ชายคนนี้ไม่มีลักษณะภายนอกที่ตรงกับชาติพันธุ์นักสู้”
เผ่ากามีผมดำตาดำ เผ่ามังกรมีผมทองตาฟ้า และเผ่าผีเสื้อมีผมขาวตาแดง ลักษณะของเผ่ากาค่อนข้างหายากแต่ไม่ถึงกับไม่มีเลย ส่วนของเผ่ามังกร หนึ่งในสามของคนทั่วไปมีผมทองตาฟ้า นอกจากว่าคนนั้นจะมีลักษณะภายนอกแบบเผ่าผีเสื้อที่เด่นชัดมากแล้ว ลักษณะภายนอกไม่ช่วยในการบ่งบอกตัวตนของชาติพันธุ์นักสู้ อีกอย่าง เวทมนตร์ย้อมสีผมก็มี
เหตุผลที่มิลเปียกล่าวถึงลักษณะภายนอกเพราะศักดิ์ศรีของชาติพันธุ์นักสู้ ไม่ต้องพูดถึงเผ่ากาที่แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่เผ่ามังกรและเผ่าผีเสื้อก็ไม่คิดปลอมตัว พวกเขาแข็งแกร่งและไม่มีเหตุผลต้องหลบซ่อนตัว
แม่ใหญ่โคลงศีรษะ แปลว่าชายคนนี้เป็นคนนอกจักรวรรดิ
“แปลว่านี่เป็นกลุ่มกำลังนอกจักรวรรดิ หรืออาจเป็นกลุ่มกำลังที่ใหญ่พอจ้างคนจากนอกจักรวรรดิมาได้”
พระเอกเราตั้งชื่อให้ลวดด้วย... (คราวนี้ไม่มีเซ็นเซอร์แฮะ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น