วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ชีวิตข้าฯ - บทที่ 29

 บทที่ 29 – เหตุเกิดที่เมืองหลวง (6)


ในห้องของผม มีภาพลวงตาที่ผมกำลังนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบบนโต๊ะ ระหว่างนั้น ใต้ดวงอาทิตย์แดงที่กำลังตกดิน ผมยืนเหนือยอดโบสถ์ สวมหน้ากากครึ่งหนึ่งเป็นสีดำครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว อารมณ์สมัยม.2 พลุ่งพล่าน

ตอนนี้ใกล้ 2 ทุ่มแล้ว เวลาที่ผมนัดกับเคานต์คือตี 2 อีกไม่นานอาทิตย์ก็จะตกดินและเมืองหลวงจะตกอยู่ในความมืดสนิทเว้นแต่อาคารบางแห่ง ไฟถนนบนถนนทุกสายส่องแสงสว่าง แต่น่าเสียดายที่แสงไฟส่องไม่ถึงในตัวอาคาร

ในที่สุดดวงอาทิตย์ก็ตกและไฟถนนสว่างขึ้น ผมกระโดดลงจากยอดโบสถ์ ร่างกลืนหายไปกับความมืด

***

กองอัศวินกวางขาวที่รักษาความปลอดภัยของเมืองหลวงกำลังยืนเฝ้าหน้าคฤหาสน์เคานต์ดรูวาล ปกติแล้วเหล่าอัศวินควรกลับบ้าน ปล่อยให้การเฝ้าคฤหาสน์เป็นหน้าที่ของยามรักษาการณ์ โชคร้ายที่ทุกคนยังต้องทำงานเพราะชายปริศนาที่เรียกตัวเองว่าลูแปง

“นี่มันอะไรกัน? พวกเราจะกลับบ้านยังไม่ได้เพราะเจ้าบ้าบางคน” รองกัปตันของอัศวินกวางขาวบ่นต่อหน้ากัปตัน

กัปตันคนนี้มีท่าทางเข้มแข็ง เขายกนิ้วชี้จ่อปากเป็นการเตือนให้เงียบ “ที่นี่ไม่ใช่ค่ายทหาร เคานต์ดรูวาลเป็นผู้ทรงอิทธิพลในโลกธุรกิจ เจ้าควรระวังคำพูดไว้”

“นั่นสินะครับ ว่าแต่ท่านคิดจริงๆหรือว่าลูแปงจะมา?” รองกัปตันรู้สึกว่าพวกเขากำลังเสียเวลาเปล่า

แต่หัวหน้าของเขาส่ายศีรษะ “เราต้องป้องกันที่นี่ไม่ว่าเขาจะมาหรือไม่ ถ้าเราไปเพราะคิดว่าเสียเวลา เขาอาจฉวยโอกาสลอบเข้าคฤหาสน์ ตรงกันข้าม ถ้าเราคุ้มกันแน่นหนา เขาอาจกลัวจนไม่มาก็ได้ สร้อยคอในตู้นิรภัยก็จะปลอดภัย”

ตอนนั้นเอง ประตูก็เปิดออกพร้อมเสียงปรบมือ

“วิเศษมาก! สมกับเป็นหัวหน้ากองอัศวินกวางขาวที่ผู้คนเคารพนับถือ ทัศนคติเอาจริงเอาจังกับหน้าที่การงานเสมออย่างนั้นหรือ? ข้าอยากเรียนรู้ทัศนคติเช่นนั้นจากท่าน”

ชายที่เข้ามาคือเคานต์ดรูวาล เขามีหนวดเคราที่ไม่ได้รับการแต่งเล็ม ทำให้ดูเหมือนเป็นคนใจกว้าง

กัปตันและรองกัปตันเก็บดาบที่พวกเขาชักออกมาอย่างตกใจแล้วทำความเคารพ

“ไม่เลยครับ ท่านได้ชื่อว่าเป็นภูเขาของโลกธุรกิจและมีชื่อเสียงดีงาม ข้าต่างหากที่ควรศึกษาจากท่าน”

เคานต์ดรูวาลหัวเราะดังเหมือนคำพูดของกัปตันทำให้เขาดีใจ “ฮ่าๆ อย่างนั้นหรือ? เป็นเกียรติที่ได้ยินคำพูดนั้นจากอัศวินผู้มีชื่อเสียงเรื่องความซื่อตรง ว่าแต่ว่า สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”

กัปตันพยักหน้าและตอบ “ทุกอย่างเรียบร้อยดี”

“ได้ยินอย่างนั้นข้าก็โล่งอก ผลึกแห่งความสมบูรณ์แบบในตู้ข้างหลังท่านเป็นสมบัติมีค่าเท่า 5 เหรียญทองคำขาว”

รองกัปตันอ้าปากค้างเมื่อได้ยินมูลค่าของผลึก กัปตันขยับดาบไปสะกิดคนข้างกายเขาเบาๆ รองกัปตันรู้สึกตัวก็หุบปากแล้วก้มหน้าลง

“ขออภัย ลูกน้องของข้าทำตัวไม่ถูกต้อง”

การเปิดเผยอารมณ์ความรู้สึกอย่างไม่ระวังตัวถือเป็นข้อห้ามของอัศวิน งานของพวกเขา,อัศวินขั้นสูง,มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลลับของกองทัพหลายครั้ง การเปิดเผยความรู้สึกอาจเป็นการบอกความลับอย่างอ้อมๆ ด้วยเหตุนี้การฝึกควบคุมอารมณ์ความรู้สึกจึงเป็นการฝึกที่สำคัญของอัศวิน

“ไม่เลย ผลึกแห่งความสมบูรณ์แบบแพงจริงๆ เจ้าใช้มันซื้อดินแดนเล็กๆได้เลย”

“ขอบคุณที่เข้าใจ”

เคานต์ดรูวาลรับคำขอโทษจากกัปตันแล้วก็ออกจากห้องไป

“ขอโทษครับ”

รองกัปตันขอโทษ กัปตันยกนิ้วจ่อปากแล้วพูด “ไม่เป็นไร ไม่ว่าใครก็ทำผิดพลาดได้”

รองกัปตันสงสัยเมื่อเห็นกัปตันทำสัญญาณให้เงียบ แต่ก็ปิดปากตามคำสั่ง

กัปตันก็เงียบไป แต่มือของเขาขยับ รองกัปตันอ่านสัญญาณมือ

‘ที่นี่,หู,ดักฟัง’ ที่นี่ถูกดักฟัง?! 

รองกัปตันทำสัญญาณมือกลับอย่างแปลกใจ

‘ใคร?’

‘บทสนทนา,ก่อนหน้า’

คนที่พวกเขาเพิ่งคุยด้วย... เคานต์ดรูวาล!

กัปตันส่งสัญญาณมือต่อเป็นช่วงจังหวะ

‘ที่นี่,และ,ก่อน,รู้,พวกเรา,บทสนทนา’

แปลว่า ‘เขาได้ยินที่เราคุยกันก่อนเขาเข้ามาในห้อง’

มาคิดดูแล้ว เคานต์ดรูวาลเอ่ยชมความคิดของกัปตันตอนเข้ามาในห้อง คฤหาสน์นี้ไม่ได้สร้างลวกๆอย่างที่พักทหาร ไม่มีทางที่เสียงคุยของพวกเขาจะดังออกไปข้างนอกห้อง

รองกัปตันรู้สึกขนลุก

‘ทำไม?’

หรือว่าเพื่อดักฟังความลับทางทหาร

‘ไม่รู้,บางที,พวกเรา,ไม่,เชื่อ’

‘ไม่รู้ อาจเพราะเขาไม่เชื่อใจพวกเรา?’

รองกัปตันเดือดดาล เคานต์ชื่นชมพวกเขาต่อหน้า แต่ลับหลังแอบฟังที่พวกเขาคุยกัน

กัปตันรู้ว่ารองกัปตันคิดอะไรจึงส่งสัญญาณ

‘ใจเย็น,ศัตรู,เงิน,สูงสุด,อัศวิน,ไม่ใช่’

‘ใจเย็น อีกฝ่ายเป็นยักษ์ใหญ่ของโลกธุรกิจ ต่างจากอัศวินอย่างพวกเรา’

รองกัปตันรู้สึกขุ่นเคืองแต่ทำอะไรไม่ได้ แม้พวกเขาจะเป็นอัศวินขั้นสูงก็ยังเทียบไม่ได้กับฐานะเคานต์และอำนาจเงินของเคานต์ดรูวาล เขาพยักหน้าและหยุดทำสัญญาณมือ เพราะอาจถูกเฝ้ามองด้วยกล้องก็ได้  

ความเงียบยาวนานถูกทำลายเมื่ออัศวินในสังกัดของพวกเขาเปิดประตูดังปัง

“แย่แล้ว! ลูแปงไปปรากฏตัวที่คฤหาสน์เคานต์มากาเร็ต!”

“อะไรนะ?!”

เมื่อรองกัปตันตะโกน อัศวินก็รีบอธิบาย

“4 ทุ่มของวันนี้ พ่อบ้านในคฤหาสน์มากาเร็ตพบว่าประตูห้องนิรภัยเปิดอ้าขณะเขาเดินตรวจคฤหาสน์ แท่งเงินและอัญมณีทั้งหมดในตู้นิรภัยถูกแทนด้วยนามบัตรลูแปง”

ตอนนี้เป็นเวลา 5 ทุ่ม การส่งข่าวใช้เวลา 1 ชั่วโมง ปกติแล้วเหตุขั้นนี้จะถูกรายงานภายใน 30 นาที แต่ที่ช้าเพราะอัศวินกวางขาวแทบทั้งหมดอยู่ที่คฤหาสน์เคานต์ดรูวาล มีไม่กี่คนที่ทำงานในฐาน

“ปัญญาใหญ่คือสร้อยคอที่ทำจากไพลินพันปีเพื่อเป็นของขวัญให้องค์หญิงลำดับสามก็รวมอยู่ในนั้นด้วย”

“บัดซบ!”

รองกัปตันสบถ นี่ไม่ใช่การขโมยธรรมดาแล้ว หนึ่งในของที่ถูกขโมยเตรียมไว้เพื่อราชวงศ์ นี่คือการท้าทายราชบัลลังก์

ลูแปงกลายจากหัวขโมยเป็นกบฏที่อาจถูกประหารทั้งครอบครัวถ้าถูกจับ เป็นไปได้ว่าการขโมยพรเทวีและการเตือนเคานต์ดรูวาลเป็นแค่แผนอำพรางเพื่อขโมยสร้อยคอไพลินพันปี

“เราต้องพาอัศวินทั้งหมดไปที่คฤหาสน์เคานต์มากาเร็ต”

รองกัปตันตะโกนบอกกัปตัน แต่กัปตันส่ายศีรษะหนักแน่น

“ไม่ ยังไม่ถึงตี2เลย”

“มันเป็นแค่แผนหลอกไม่ใช่เหรอ?”

“ไม่รู้สิ ก่อนอื่น แบ่งอัศวินไปครึ่งหนึ่ง”

“กัปตัน?”

“ใจเย็น ตอนนี้ลูแปงไม่ได้อยู่ที่นั่น เจ้าไม่ต้องพาอัศวินทั้งหมดไปค้นคฤหาสน์เคานต์มากาเร็ต ให้อัศวินครึ่งหนึ่งไปหาร่องรอยลูแปงที่นั่น อีกครึ่งหนึ่งรอจับลูแปงที่นี่”

รองกัปตันได้ยินคำพูดของกัปตันก็อึ้งไปเล็กน้อย

“ท่านคิดว่าไอ้เวรนั่นจะมาที่นี่หรือ?”

“ไม่รู้ แต่เหมือนกับที่เราไม่พบร่องรอยของลูแปงในคฤหาสน์มาร์ควิสบัลเธียนเลย เราอาจไม่พบร่องรอยของมันในคฤหาสน์เคานต์มากาเร็ตเช่นกัน ถ้าเป็นแบบนั้น แม้จะดูโง่เขลา แต่เราจะอยู่เฝ้าที่นี่ตามแผน ป้องกันที่นี่และจับตัวลูแปงที่มันมา”

“ท่านจะไปคฤหาสน์ของเคานต์มากาเร็ตหรือ?”

กัปตันพยักหน้า

“เข้าใจแล้ว ข้าจะเฝ้าที่นี่”

“ฝากด้วย”

กัปตันตบบ่ารองกัปตันหนักๆ จากนั้นออกจากห้องไปพลางออกคำสั่งกับลูกน้อง

“หน่วยหนึ่ง, สามกับห้าตามข้าไปที่คฤหาสน์เคานต์มากาเร็ต ไปรวมตัวที่ประตูหน้า หน่วยสอง,สี่,หกอยู่ที่นี่ ทำตามคำสั่งรองกัปตัน ถ่ายทอดคำสั่ง”

“ครับ!”

อัศวินลูกน้องทำความเคารพแล้ววิ่งไปถ่ายทอดคำสั่ง

จากนั้นกัปตันไปหาเคานต์ดรูวาล เขาเชื่อว่าเคานต์ดรูวาลรู้อยู่แล้วจากการดักฟัง แต่ก็ยังต้องไปรายงานเรื่องการถอนกำลังทหารส่วนหนึ่งอย่างเป็นทางการอยู่ดี

***

ผมปล้นคฤหาสน์เคานต์ชื่อเหมือนคุ้กกี้ตอนประมาณ 3 ทุ่ม ผมมีเวลาว่างมากจนสามารถเอาของที่ขโมยมาใส่กระเป๋ามิติแถมยังจัดประเภทมันได้ด้วย

ก้อนเงินหนึ่ง,เหรียญเงินหนึ่ง... เหรียญเงินบริสุทธิ์หนึ่ง โอ๊ะ? เหรียญทองล่ะ... แหวนอำไพ,กำไลหยก,ต่างหูมุก... สร้อยคอนี่ทำจากไพลินใช่ไหม?

ผมไม่แน่ใจนักเพราะไม่รอบรู้เรื่องอัญมณี แต่ขนาดคนความรู้น้อยอย่างผมยังแน่ใจว่าของที่ดีที่สุดในอัญมณีพวกนี้คือสร้อยคอที่ทำจากไพลินชิ้นนี้

ใกล้จะถึงวันเกิดของเฮสเทียแล้ว ผมจึงตัดสินใจส่งสร้อยคอเป็นของขวัญให้เธอพร้อมกับจดหมาย คิดเช่นนั้นแล้วผมจึงใส่สร้อยคอในกระเป๋ามิติและสร้างรายการของ พอจัดแยกประเภทแล้วต่อไปก็จะดึงของออกจากกระเป๋ามิติได้ง่ายขึ้นมาก

ผมเก็บก้อนเงินและอัญมณีใส่กระเป๋ามิติแล้วกวาดตามองหนังสือที่อยู่ในตู้นิรภัยคร่าวๆ

ว้าว สมุดบัญชีจดเงินที่ฉ้อโกงมาล่ะ!

สมุดบัญชีจดการโอนเงินที่มีเคานต์มากาเร็ตเป็นศูนย์กลางอย่างละเอียด

ดีเลย! ฉันจะใช้สมุดนี้หาเหยื่อรายต่อไป

ผมเริ่มหาชื่อเคานต์ดรูวาลในสมุดบัญชี ก่อนจะได้สมุดนี้มา ผมรู้สึกผิดที่ปล้นบ้านคนอื่นอย่างไม่มีเหตุผล แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

ดรูวาล...ดรูวาล เจอแล้ว!

ข้อมูลมีมากถึงหนึ่งในสามของสมุด ถ้าโกงขนาดนี้ เขาต้องมีสมุดบัญชีของตัวเองซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งแน่

มองจากจำนวนเงินในบัญชี คงหาคนโกงไปมากกว่าเขาไม่ได้แล้ว ผมไม่ได้พยายามจะขโมยเงินจากคนรวยไปแจกคนจนโดยมุ่งเป้าไปที่คนที่ฉ้อโกงมากที่สุดก่อน การทำอย่างนั้นเป็นเรื่องอันตราย อย่างหนึ่งคือมันเป็นการตั้งตัวเป็นศัตรูกับจักรวรรดิ อีกอย่างการแจกเงินจำนวนมากจะทำให้เกิดเงินเฟ้อ

ในชาติก่อน ที่หลายประเทศมีหน่วยงานเช่นหน่วยงานเก็บภาษีและหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินนั้นมีเหตุผลอยู่ ทั้งหมดเป็นการทำเพื่อควบคุมกระแสเงินและป้องกันภาวะเงินเฟ้อ เพราะเหตุนี้การปล่อยเงินเข้าสู่สาธารณะโดยที่ประเทศนั้นไม่ทราบเรื่องจึงเป็นอันตราย



สารบัญ                                          บทที่ 30 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น