บทที่ 30 – เหตุเกิดที่เมืองหลวง (7)
ถึงสถานการณ์จะต่างไปบ้าง รัฐบาลห้ามการพนันแต่อนุญาตให้มีล๊อตเตอรี่ หลักเกณฑ์คือพวกเขาจะรับรู้กระแสเงินได้หรือไม่ นั่นก็คือ ถ้าผมเอาเงินที่ขโมยมาเข้าตลาด กองคลังต้องทำงานหนักเพื่อควบคุมราคาสินค้าแปรปรวน
ที่จริงพอกลับไปคิดถึงท่าทีของพนักงานตอนผมไปสมัครสอบก็น่าทำอยู่เหมือนกันนะ แต่ถ้าประเทศที่ผมจะรับราชการเกิดล้มละลายขึ้นมาคงแย่ หรือต่อให้ไม่ล้มละลายก็ต้องปฏิรูปค่าเงินเพื่อแก้เงินเฟ้อ นั่นจะทำให้เหรียญทองคำขาวในกระเป๋ามิติกลายเป็นแค่เหรียญโลหะผสมทองคำขาวไป
ประเทศที่ประสบปัญหาเงินเฟ้อไม่มีทางแลกเงินจากแหล่งไม่รู้ที่มาที่ไป ด้วยเหตุนี้จึงสรุปได้ว่าเงินที่ขโมยมานั้นให้มันอยู่ในกระเป๋ามิติจะปลอดภัยกว่า
ผมไม่มีความคิดจะทำร้ายจักรวรรดิเพราะจุดประสงค์ไม่ใช่เงินแต่คือการก่อกวนนายกรัฐมนตรีไม่ให้มาสืบเรื่องผม ถึงอย่างนั้นถ้าจักรวรรดิล่ม ผมยังสามารถย้ายไปสาธารณรัฐ ผมมีสัญชาติที่นั่นเช่นกัน
เมื่อดูบัญชีของเคานต์มากาเร็ตเสร็จก็ได้เวลาไป
“อาคาริน!”
ผมร่ายคาถาล่องหนและตรงไปทางคฤหาสน์เคานต์ดรูวาล ผมสำรวจดูคฤหาสน์จากที่ห่างไป 1 กิโลเมตร
รัศมีจากในคฤหาสน์บอกว่ามี 167 คน หรือ 171 นะ? บอกยากว่าสี่รายนั้นเป็นเด็กทารกหรือสัตว์เล็ก จะว่าไปนี่เป็นครั้งแรกที่ผมสัมผัสถึงรัศมีได้ง่ายดายเหมือนเห็นด้วยตาเปล่า
ที่หมู่บ้านของผม รัศมีของคนที่นั่นแรงจนแยกไม่ออกว่าเป็นของใครหากไม่เข้าไปใกล้มากๆ ตอนนี้มันชัดเจนกว่าเพราะอ่อนแอทุกคน
ไม่นับสี่รายที่มีรัศมีอ่อนแอมากก็มีคนในคฤหาสน์ 167 คน เป็นคนธรรมดา 47 คน คนที่พอมีพลังอยู่บ้าง 57 คน จากนั้นคือกลุ่มคนที่แข็งแกร่งเรียงขึ้นไปเป็น 30 คน,20 คน,12 คน สุดท้ายคือ 1 คนที่แข็งแกร่งกว่าคนทั้งหมด
ไม่มีพลรบเหรอ?
ผมผิดหวังเพราะคาดว่าจะมีอย่างน้อย 10 คนที่แข็งแกร่งกว่าเฮสเทียผู้อ่อนแอที่สุดในหมู่บ้าน แต่โจรธรรมดาคงกลัวหนีไปถ้าเจอกลุ่มคนแบบนั้นเข้าจริง อย่างที่มีคนกล่าวไว้ ผู้ยิ่งใหญ่ไม่อาจอยู่ในหลุมเล็ก
ผมหายใจเบาๆขณะตรงไปที่คฤหาสน์ ขณะจะปีนรั้วก็รู้สึกถึงเวทมนตร์เบื้องหลังรั้ว จนตอนนี้ยังไม่เคยมีคฤหาสน์ที่ติดตั้งเครื่องมือกันขโมยมาก่อน เจ้าของต้องรวยน่าดู
ข้อมูลจากร้านขายข่าวชี้ให้เห็นว่าวัตถุดิบเวทมนตร์เป็นของแพง แต่คฤหาสน์นี้มีเวทมนตร์ครอบคลุมทั้งหลัง แทนที่จะคลายคาถา ผมสร้างช่องว่างระหว่างคาถา 2 บทแล้วคลานเข้าไป
เจ้าของคฤหาสน์คงไม่อยากใช้วัตถุดิบเวทมนตร์มากเกินไปจึงวางเวทมนตร์เรียงต่อกันเหมือนวัดด้วยไม้บรรทัด มันทำให้สร้างช่องว่างได้ง่ายแม้จะเป็นวิธีที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพนัก
เมื่อเข้าไปได้ ผมเริ่มค้นไปทีละห้องโดยเลี่ยงคนที่เดินไปมา
ห้องนี้ไม่มีเวทมนตร์ ผ่าน!
ห้องนี้มีเวทมนตร์วางบนพื้น ลองลอกพื้นออกมาก่อน
กำแพง...เพดาน...เครื่องดักฟัง?
หลังจากรื้อไปหลายห้องๆ ผมเจอตำราเวทและวัตถุดิบเวทมนตร์ เมื่อมาถึงห้องที่มีเวทมนตร์ดักฟังอยู่ก็เจอของดีเข้าให้
บัญชีเกี่ยวกับการฉ้อโกง,หลักฐานเรื่องอื้อฉาว,อัญมณีราคาแพง,ถุงใส่เหรียญทองคำขาว,ภาพวาดท่าทางแพง... แต่ของที่มีเวทมนตร์ดักฟังป้องกันอยู่ย่อมมีเวทมนตร์สะกดรอยอยู่กับพวกมันด้วย
ผมหยิบเหรียญเหล็กออกมาหนึ่งเหรียญ ย้ายเวทมนตร์สะกดรอยไปที่มัน วางในตู้นิรภัยและคืนเวทมนตร์กันขโมยกลับสู่สภาพเดิม
เสร็จ!
งานนี้ต้องได้คะแนนวิจารณ์ดีแน่ ผมขโมยทุกอย่างที่ขโมยได้
ที่สุดท้ายที่มีเวทมนตร์ดักฟังติดตั้งอยู่คือชั้นสาม ดูเหมือนจะขโมยแบบไม่มีคนเห็นไม่ได้เลยเพราะมีคนเฝ้าอยู่มาก ห้องนี้คงมีสร้อยคอที่เรียกว่าผลึกแห่งความสมบูรณ์แบบอยู่ และที่มีเวรยามแน่นหนาก็เพราะหนังสือพิมพ์บอกว่าเป้าหมายของผมคือสร้อยนั้น
แม้ผมไม่รู้ว่าผลึกแห่งความสมบูรณ์แบบมีค่าเท่าไหร่ มันคงไม่แพงไปกว่าถุงใส่เหรียญทองคำขาวแน่ ก็ในถุงมีเหรียญทองคำขาว 100 เหรียญเลยนี่นา
ผมปล่อยสร้อยคอไปและทิ้งบัตรลูแปงในตู้นิรภัยที่เลือกมามั่วๆ ในตู้ไม่มีเหรียญเงินหรอก แต่ผมอวดเก่งด้วยการเปลี่ยนถุงใส่เหรียญทองคำขาวเป็นถุงใส่เหรียญเงินไว้ในตู้แทน
ได้เวลาไปจากที่นี่แล้ว
***
วันต่อมา ข่าวของลูแปงปรากฏบนหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง เนื้อหาข่าวต่างจากที่ผมคาดไว้เล็กน้อย
ข่าวบอกว่าเป้าหมายหลักของผมคือสร้อยคอทำจากไพลินพันปีที่เคานต์มากาเร็ตเตรียมเป็นของขวัญวันเกิดเจ้าหญิงลำดับสาม และผลึกแห่งความสมบูรณ์แบบของเคานต์ดรูวาลเป็นเพียงแผนหลอก มันยังเขียนว่าผมไม่เคยพูดถึงผลึกแห่งความสมบูรณ์แบบและบัตรลูแปงใบหนึ่งถูกพบในตู้นิรภัยตู้หนึ่ง แต่โทนเสียงเหมือนจะบอกว่า “ที่เขาทำตามสัญญาก็เพื่อล้อเล่นกับราชวงศ์ไม่ใช่เหรอ?”
ใส่ร้ายกันเกินไปแล้ว ผมไม่รู้สักหน่อยว่าของที่ขโมยจากคฤหาสน์เคานต์มากาเร็ตเป็นอะไร อีกอย่าง มูลค่าของที่ผมขโมยจากคฤหาสน์เคานต์ดรูวาลสูงกว่าพันเท่า
จะว่าไป คืนสร้อยคอไพลินก็ดีนะ แม้ผมจะปิดบังตัวตนหรือแม้ผมจะเป็นคนจากเผ่ากา การแตะเกียรติของราชวงศ์ในประเทศที่มีศักดินาเช่นนี้เป็นเรื่องอันตราย
ถ้าพลาดขึ้นมา อาจมีกองทหารไปที่โอลิมปัสเพื่อจับกุมผมและครอบครัว แม้ผมจะเป็นขุนนางของเผ่ากา หนึ่งในชาติพันธุ์นักสู้ แต่จะให้หมู่บ้านเดียวสู้กับกองทัพของจักรวรรดิที่มีทหารเป็นล้านคงเป็นไปไม่ได้
แน่นอน ถ้าคืนสร้อยให้เคานต์มากาเร็ตก็ออกจะเสียศักดิ์ศรีไปหน่อย คืนให้เจ้าหญิงคงดีกว่า ปัญหาคือผมไม่รู้ว่าเจ้าหญิงหน้าตาเป็นอย่างไร ไม่รู้ด้วยว่าอยู่ที่ไหน เรื่องนี้คงต้องคิดให้รอบคอบ
***
อาร์คันทาครุ่นคิดว่านี่ใช่ที่เรียกว่าหนีเสือปะจระเข้หรือเปล่านะ ขณะลูบหน้าอย่างหงุดหงิด
เมื่อคืน โจรลูแปงลอบเข้าไปในคฤหาสน์ของเคานต์ดรูวาลกับเคานต์มากาเร็ตและขโมยของในตู้นิรภัยออกมา เมื่อวานตอนที่ได้ยินว่าตู้นิรภัยในคฤหาสน์ของมาร์ควิสบัลเธียนถูกขโมยเขาก็คิดแค่เจ้าโจรนี่ห้าวหาญทีเดียว แต่เมื่อได้รับรายงานว่าตู้นิรภัยของเคานต์มากาเร็ตและเคานต์ดรูวาลก็เจอชะตากรรมเดียวกัน เขาเริ่มเหงื่อตก
อาร์คันทาเหงื่อตกไม่ใช่เพราะสร้อยไพลินพันปีที่ขโมยจากเคานต์มากาเร็ต แน่นอนว่าสร้อยคอที่เป็นของขวัญสำหรับเจ้าหญิงถูกขโมยไปไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ในฐานะคนสนิทของจักรพรรดิ เขาคงแค่ถูกตำหนิเล็กน้อย
ปัญหาแท้จริงคือเคานต์ดรูวาลกดดันกองคลังอย่างหนัก สำหรับคนนอก ของที่ถูกขโมยไปในคฤหาสน์เคานต์ดรูวาลเป็นแค่เหรียญเงินหนึ่งถุงซึ่งมีค่าเท่าเหรียญทองหนึ่งเหรียญ แน่นอน ในฐานะนายกรัฐมนตรีผู้ดูแลงบประมาณของจักรวรรดิ เขาไม่ได้ดูถูกเหรียญทองหนึ่งเหรียญซึ่งเท่ากับงบประมาณของดินแดนเล็กๆหนึ่งสัปดาห์
แต่เมื่อคิดว่าเป็นเคานต์ดรูวาล ชายผู้ประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจ เหรียญเงินหนึ่งถุงก็แค่เงินค่าขนมให้ลูกหลาน แต่เคานต์ดรูวาลกลับตามกดดันอัศวินและกองคลังไม่หยุด
ทำไม? เพราะเสียศักดิ์ศรีที่โจรเข้าไปในคฤหาสน์ที่เขาเคยโอ้อวดว่าไม่มีใครบุกเข้าไปได้?
เขาต้องรู้สึกเสียศักดิ์ศรีแน่แต่ไม่ถึงขั้นตรงเข้ามาถึงกองคลังเพื่อโวยวายว่าโจรขโมยเหรียญเงินไปหนึ่งถุง! มันผิดวิสัยของเขา – ต่างไปจากปกติมาก
ถ้าอย่างนั้นทำไมเขาจึงทำแบบนั้น? มาคิดดูแล้วคำตอบก็ง่าย มันแปลว่าโจรลูแปงไม่ได้ขโมยไปแค่เหรียญเงินหนึ่งถุง! ถ้าอย่างนั้นทำไมเคานต์ดรูวาลไม่บอกว่าถูกขโมยอะไรไปบ้าง? เพราะของที่ถูกขโมยไปไม่ควรอยู่ในมือเคานต์ดรูวาลเหรอ? หรือเป็นของที่สามารถทำร้ายเขา? อาจเป็นของที่ได้จากการเลี่ยงภาษี เงินสกปรก หรือของที่ทำร้ายชื่อเสียงของเขาได้?
น่าจะเป็นไปได้ทุกอย่าง เมื่อคิดอยู่นานสุดท้ายอาร์คันทาก็ได้ข้อสรุป
บัญชีการฉ้อโกง
เว้นแต่ว่าลูแปงเป็นจอมเวทที่ใช้กระเป๋ามิติได้ ขนาดของที่เขาขโมยไปต้องมีขีดจำกัด ต่อให้เขามีกระเป๋าขยายมิติก็ใส่ได้ไม่หมด เมื่อเป็นเช่นนั้น ที่เคานต์ดรูวาลตามล่าลูแปงต้องเป็นเพราะเหตุผลด้านการเมืองไม่ใช่เรื่องเงิน
คิดอย่างนั้นแล้วของที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดคือบัญชีการฉ้อโกง เป็นไปได้ว่าโจรขโมยพรเทวีจากคฤหาสน์มาร์ควิสบัลเธียนเพื่อทิ้งข้อความว่าจะปล้นคฤหาสน์เคานต์ดรูวาล หันเหความสนใจของทุกคนไปที่ผลึกแห่งความสมบูรณ์แบบ จากนั้นเจ้าโจรก็ขโมยสมุดบัญชีไป
ที่โจรขโมยไพลินพันปีจากคฤหาสน์เคาน์มากาเร็ตก่อนก็เพื่อกระจายกำลังของอัศวิน ทำให้อัศวินที่เหลือไปรวมกันที่ผลึกแห่งความสมบูรณ์แบบ ด้วยการเตือนเคานต์ดรูวาลล่วงหน้าทำให้การเฝ้าระวังเพิ่มขึ้น เขาก็สร้างช่องว่างในการป้องกันแน่นหนาได้
อาร์คันทาขนลุก
นี่เป็นไปได้มาก ถ้ามีหลักฐานพอ...
แน่นอน ถ้าจะให้ข้อสันนิษฐานนี้ถูกต้อง โจรต้องรู้ตำแหน่งของสมุดบัญชีมาก่อนและรู้ตำแหน่งของอัศวิน แต่ลูแปงเข้ามาได้โดยไม่มีใครรู้ตัว มันแปลว่าโจรรู้การเคลื่อนไหวของอัศวินอย่างแม่นยำและรู้จักคฤหาสน์เคานต์ดรูวาลเป็นอย่างดี
อาร์คันทาสงสัยว่าถ้าข้อสันนิษฐานของเขาถูกต้องแล้วเป้าหมายของลูแปงคืออะไร
ความแค้นส่วนตัว? หรือเขาจะได้ประโยชน์ถ้าเคานต์ดรูวาลล้ม? หรือมีคนอื่นอยู่เบื้องหลัง
ก๊อกๆ
ความคิดของอาร์คันทาสะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เขาขมวดคิ้วขณะบอกให้เข้ามาได้
“มีอะไร?”
“ครับ นี่เป็นรายงานรอบปกติของเดน วอน มาร์คที่พักในบ้านคุณนายอาร์ซิลลา” อาร์คันทาเลิกขมวดคิ้วเมื่อฟังรายงาน
เขาไม่ควรพาลโกรธลูกน้อง
“ขอบใจ แต่ฉันกำลังยุ่ง ต่อไปช่วยรายงานเรื่องนี้เฉพาะเมื่อเจอการเคลื่อนไหวผิดปกตินะ”
“ครับผม”
โชคดีที่ผู้ช่วยของเขาไม่ไร้ความสามารถแต่รู้ดีถึงสถานการณ์ในกองคลัง
“ออกไปได้”
“ครับ”
ผู้ช่วยออกไป แต่ความคิดที่ถูกขัดไปแล้วไม่สามารถต่อติดได้
“ถ้าเป้าหมายของลูแปงคือเคานต์ดรูวาลจริงๆ...” อาร์คันทาพึมพำขณะนั่งจมในเก้าอี้ แต่ทว่า การขโมยรูปปั้นทองคำในเวลาต่อมาได้ทำให้ความคิดของเขายุ่งเหยิง