บทที่ 105 – อาณาเขตมิติ (3)
“ความเข้ากันได้คืออะไรล่ะ?”
วูจินอ่านคำอธิบายข้างล่าง มันเขียนว่าเขาจะได้อาณาเขตเท่ากับความเข้ากันได้
“ไม่เลว”
วูจินกดปุ่ม ‘ประกาศยึดครองเขตแดน’
<ท่านได้ประกาศให้รังไวเวิร์นเป็นอาณาเขตมิติของท่าน>
<ก่อนบันทึกในจัดอันดับ ท่านต้องการเปลี่ยนชื่อหรือไม่?>
ไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ วูจินเปลี่ยนชื่อเป็น อลันดาล
<คังวูจินกลายเป็นลอร์ดของอลันดาล>
<อลันดาลของคังวูจินถูกบันทึกในจัดอันดับ>
<หลังจากช่วงสร้างความเสถียร 30 วัน ท่านจะได้รับการท้าทายจากนักผจญภัย หากการป้องกันล้มเหลวท่านจะสูญเสียทางเข้า ทรัพย์สินส่วนหนึ่งของอาณาเขตอาจถูกเอาไป>
<หลังจากช่วงคุ้มครองของลอร์ดคนใหม่ 30 วันผ่านไป ท่านสามารถรับการท้าทายจากลอร์ดอื่นในสงครามยึดอาณาเขต>
วูจินลูบคาง
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ความหมายของโหมดต่างๆที่ขึ้นมาก่อนเขาเข้าดันเจี้ยนของจูเลียล หลายอย่างเริ่มมีเหตุผล และยังอธิบายหลักการของความเป็นดันเจี้ยนด้วย
‘ตัวดันเจี้ยนคือทางเข้า เมื่อมีใครพิชิตมัน เจ้าของอาณาเขตก็จะเสียทางเข้านั้น’
ดันเจี้ยนคือประตูสำหรับอาณาเขตมิติ ร่างจริงของเจ้าของดันเจี้ยนสามารถก่อตัวขึ้นในนั้น ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงติดอยู่ในดันเจี้ยน และถ้าเสียดันเจี้ยนไปหมด อาณาเขตมิติก็จะถูกทำลาย
ดันเจี้ยน 1-3 ดาวคือทางเข้า
ดันเจี้ยน 4-6 ดาวกับอุโมงค์สีแดงคือสื่อกลางที่ใช้เคลื่อนที่ไปยังอาณาเขตมิติ
“ถ้าอย่างนั้น เริ่มตั้งแต่ดันเจี้ยน 7 ดาว แม่ทัพของทราห์เน็ต...”
เขาไม่มีทางรู้ถ้าดันเจี้ยน 7 ดาวยังไม่เชื่อมต่อกับโลก ตอนนี้กังวลไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ดังนั้นวูจินจึงมองบัลลังก์ตรงหน้าเขา
“ไม่มีหินรีเทิร์นสโตน...”
เขาเคยเข้าแต่ดันเจี้ยนที่คนอื่นเป็นเจ้าของเลยไม่รู้วิธีออกจากดันเจี้ยนตัวเอง มองบัลลังก์ที่กำลังแผ่พลังเวทออกมาเป็นปริมาณมาก วูจินจึงนั่งลง
กึง
ปราสาทสั่นอย่างหนัก วูจินรู้สึกเหมือนถูกดึงวิญญาณออกจากร่าง
“ฮึบ”
เมื่อเห็นอะไรได้ชัดเจนอีกครั้ง เขากำลังมองอาณาเขตมิติของตัวเองทั้งหมด เหมือนเกาะขนาดใหญ่ที่ขอบถูกตัดออกไป
‘อันที่หายไปคงเกี่ยวกับความเข้ากันได้’
เขาไม่ได้วัด แต่เขารู้ว่าขนาดอาณาเขตของเขาที่หายไปคือ 28%
อาณาเขตมิติแคบลง นั่นคงไม่ใช่อย่างเดียวที่เสียไป
เมนูต่างๆโผล่ตรงหน้าวูจินโดยอัตโนมัติ
<Domain Info – ข้อมูลอาณาเขต>
<Dungeon Info – ข้อมูลดันเจี้ยน>
<Domain Management – การจัดการอาณาเขต>
<Troops Management – การจัดการกองกำลัง>
<Domain Shop – ร้านค้าของอาณาเขต>
วูจินเปิดหน้าต่างข้อมูล
<อาณาเขตมิติ – อลันดาล>
ลอร์ด : คังวูจิน
อันดับ : 1317
พลังงาน : 38%(115,340/300,000)
ทาส : 0
จำนวนประชากร : 0
กองกำลัง : ไวเวิร์น, แรดเหล็ก
จำนวนดันเจี้ยนที่ถือครอง : 1
<ข้อมูลดันเจี้ยน – สถานีโซล ทางออกที่ 1>
พลังงาน : 100% (10,000/10,000)
กองกำลัง : แมงมุมยักษ์, แมลงพิษ
<การจัดการอาณาเขต>
ท่านสามารถตั้งการ์เดี้ยน ท่านสามารถรับผู้อพยพที่ร่อนเร่ไปตามมิติต่างๆ
ท่านสามารถเปลี่ยนสภาพพื้นที่ของอาณาเขต ท่านสามารถประดับตกแต่งปราสาท
ท่านสามารถทำสงครามกับอาณาเขตอื่น
ท่านสามารถถือครองดันเจี้ยนเพิ่มแลกกับชิ้นส่วนมิติ 1 อัน
ท่านสามารถจัดการอาณาเขตจากเมนูนี้
<การจัดการกองกำลัง>
จำเป็นต้องจัดตั้งกองกำลัง ปัจจัยในการปกป้องอาณาเขตและดันเจี้ยน
คอยดูแลอย่าให้ขาดกองกำลัง
ท่านสามารถซื้อกองกำลังจากร้าน และท่านสามารถแต่งตั้งผู้อพยพเป็นกองกำลัง
ดันเจี้ยนคือกำแพงชั้นแรกในการตอบโต้ผู้บุกรุก
พลังงานดันเจี้ยนจะถูกใช้ไปเพื่อเติมเต็มกองกำลังที่สูญเสียไป
เมื่อพลังงานดันเจี้ยนหมดจะไม่สามารถเติมกองกำลังได้ ท่านต้องหาพลังงานมาเพิ่มไว้ก่อน
ท่านสามารถซื้อการ์ดกองกำลังได้จากร้าน
กองกำลังของอาณาเขตมิติ : ไวเวิร์น 37, แรดเหล็ก 241, ลิงฟูโก้ 471
กองกำลังของดันเจี้ยน : แมงมุมยักษ์ 42, แมลงพิษ 132
<ร้านค้าของอาณาเขต>
ท่านสามารถซื้อทุกอย่างเท่าที่ท่านคิดได้
“เฮ้อ”
วูจินอ่านอย่างตั้งใจแล้วส่ายศีรษะ เขาไม่เข้าใจหลักการของดันเจี้ยนชัดเจนมาก่อนจนตอนนี้ ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนเข้าใจแล้ว ดันเจี้ยนก็คือประตูสำหรับลอร์ดนั่นเอง
ถ้าดันเจี้ยนระดับต่ำเป็นที่ว่าง ดันเจี้ยนระดับสูงก็คือประตู
“ถ้านักผจญภัยเคลียร์ดันเจี้ยนได้สำเร็จก็จะได้หินรีเทิร์นสโตน มันเป็นอย่างนี้นี่เอง”
ถ้าป้องกันหินรีเทิร์นสโตนได้ครบ 30 วัน เจ้าของดันเจี้ยนก็จะได้โจมตี กองกำลังจะถูกส่งออกมา
มันคือดันเจี้ยนเบรก
มันปลดล็อกประตูดันเจี้ยน
วูจินใช้ระบบค้นหาดันเจี้ยนในหน้าต่างการจัดการดันเจี้ยน ผลที่ได้คือรายชื่ออาณาเขตหลายสิบชื่อ และดันเจี้ยนหลายพัน ต้องใช้ชิ้นส่วนมิติในการซื้อ
ในนั้นมีดันเจี้ยนจากโลกอัลเฟนด้วย
ถ้าเขาต้องการไปอัลเฟน เขาก็ต้องซื้อ
“นี่...”
วูจินขมวดคิ้ว
“น่าหงุดหงิดแฮะ”
เขารู้สึกเหมือนถูกทราห์เน็ตล่อหลอก
“สรุปว่ามันเตรียมกระดานแบบนี้อยู่ข้างหลังเหรอ?”
ทำให้เกิดดันเจี้ยนระเบิดเพื่อรวบรวมพลังงานดันเจี้ยน มอนสเตอร์หลุดออกมาเพื่อล่า...
“หึ”
เขาโกรธจนรู้สึกเดือดปุดๆ และแม่ทัพของทราห์เน็ต... เพราะอย่างนี้แม่ทัพของทราห์เน็ตจึงไม่ร่วมมือกันบุกรุกอัลเฟน
“พวกมันก็สู้กันเอง”
สงครามระหว่างมิติ อัลเฟนก็แค่ที่ล่าที่ใหม่ของพวกมัน พวกมันต้องการที่ล่าเพื่อรวบรวมพลังงานสำหรับท้าทายแท่นที่สูงกว่า
โลกก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
“แม่งสิ”
วูจินขบกรามพลางสงสัยว่าทราห์เน็ตมีร่างเนื้อหรือเปล่า
“ฉันจะอัดมันให้ตาย”
วิธีแก้ปัญหาไม่ใช่การปกป้องโลก นั่นเป็นไปไม่ได้
ไม่ใช่การใส่ลูกกรงกันขโมย เขาต้องจับโจรและจัดการพวกมันให้หมด
จะเป็นจ้าวหรือไม่ก็ช่าง เขาจะอัดทุกคนที่เปิดประตูมาที่โลก
วูจินเปิดร้านค้าอาณาเขตเพื่อซื้อการ์ดกองกำลัง
มันคือทหารโครงกระดูกและนักเวทย์โครงกระดูก
เขาอยากซื้อการ์ดอันเดดที่ระดับสูงกว่านี้ แต่ไม่มีขาย
มอนสเตอร์ที่เขาเอามาใช้ในดันเจี้ยนถูกจำกัดระดับเอาไว้
<สถิติกองกำลังดันเจี้ยน>
กองกำลังที่วางไว้ : 0/300
พลังงานที่ใช้ในการรีเซ็ท : ทหารโครงกระดูก 3, นักเวทย์โครงกระดูก 4, แมงมุมยักษ์ 3, แมลงพิษ 2
วูจินตัดสินใจส่งทหารโครงกระดูก 100 ตัว กับนักเวทย์โครงกระดูก 10 ตัว
เมื่อนักผจญภัยเข้าดันเจี้ยน โครงกระดูก 110 ตัวจะถูกเรียกออกมาหยุดพวกเขา
ถ้าโครงกระดูกทั้งหมดถูกทำลาย เขาจะเสียพลังงานดันเจี้ยนไป 340 หน่วย จากนั้นอุโมงค์สีแดงจะเกิดขึ้นให้นักผจญภัยเข้ามาในอาณาเขตมิติของเขา
ตรงข้าม ถ้าเขาจัดการนักผจญภัยได้ก็จะได้พลังงานดันเจี้ยนตามคุณภาพของนักผจญภัย
มีวิธีคิดสองอย่าง แทนที่จะใช้พลังงานไปก่อนก็ปล่อยดันเจี้ยนไว้เปล่าๆ ปล่อยให้นักผจญภัยเข้ามาในอาณาเขตมิติแล้วฆ่าให้หมดจะประหยัดพลังงานกว่า หรือวางกองกำลังที่แข็งแกร่งไว้ที่ดันเจี้ยนไม่ให้นักผจญภัยเข้ามาในอาณาเขตมิติเลย ทำดันเจี้ยนให้เป็นหลุมดักเหยื่อไปเลย
วูจินยังใหม่ ไม่เคยรับมือกับผู้บุกรุกมาก่อน เขาตัดสินใจลองไปเรื่อยๆ
“กองป้องกันอาณาเขต...”
วูจินตัดสินใจซื้อไวเวิร์น เขาซื้อการ์ดกองกำลังมาเป็นกองกำลังป้องกันดันเจี้ยน ตามชื่อบอก นี่ก็คือการใช้พลังงานซื้อทหารรับจ้าง
ที่น่าสนใจคือ ‘มนุษย์’ ก็อยู่ในรายการสินค้าด้วย
“หืม”
วูจินหรี่ตาเมื่ออ่านข้อมูล
ไวเวิร์น 1 ตัวราคา 300 หน่วยพลังงาน ถ้าเขาซื้อ 10 ตัวก็ต้องใช้ 3,000 หน่วย แบบนี้จำนวนกองกำลังที่เขาส่งออกมาได้ก็จะลดลง
“เฮ้อ”
พลังงานดันเจี้ยนกับกองกำลังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน
กองกำลังใช้พลังงานดันเจี้ยนซื้อ การส่งกองกำลังไปประจำในดันเจี้ยนและอาณาเขตก็ต้องใช้พลังงานเช่นกัน
“เพราะอย่างนี้พวกนั้นถึงขยันล่ากันนัก”
ถ้าใช้พลังงานหมด กองกำลังที่จะส่งไปได้ก็น้อยลง ถ้าใช้กองกำลังราคาถูกอ่อนแอก็จะตกเป็นเป้าในสงครามมิติ ที่ตลกคือนักผจญภัยก็ปล้นอาณาเขตมิติได้
“หืม? มีช่วงคุ้มครอง 30 วันด้วย”
ช่วงคุ้มครองมอบให้กับลอร์ดมือใหม่ วูจินหลังจากคิดแล้วก็จัดสรรกองกำลัง จากนั้นตั้งสมาธิให้หยุดคิดเรื่องอาณาเขต ภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนไปเป็นเขากำลังนั่งบนบัลลังก์
“เฮ้อ”
วูจินสูดลมหายใจยาว รู้สึกมึนเล็กน้อย รู้สึกเหมือนตอนเขาใช้แลกวิญญาณกับกาเกบิ
วูจินคิดถึง หนังสือ ‘คู่มือบริหารอาณาเขตมิติ’ ที่ล็อกอยู่
“ไหนดูสิ”
เลเวล : 75
ชื่อ : คังวูจิน
อาชีพ : เนโครแมนเซอร์ (Advanced), วอริเออร์
ระดับ : ลอร์ด
ค่าความสำเร็จ : 713,219
เวทย์ : 1320/1320 กาย : 240/240
ก่อนหน้านี้ ระดับของเขาคือ ‘ไม่มีตำแหน่ง’ ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็น ‘ลอร์ด’
“ตอนนี้น่าจะอ่านได้แล้วนะ?”
วูจินเปิดคลังแล้วหยิบหนังสือออกมา
“เอ๋?”
ที่ว่างพังทลายแล้วประตูขนาดใหญ่สามบาน สีดำ,แดงและขาวก็ปรากฏขึ้นด้านหลังบัลลังก์ของวูจิน
“อะไรวะ?”
วูจินงงที่จู่ๆก็มีประตู ตอนนั้นเองเสียงประกาศก็ดังขึ้น
<ท่านได้ครอบครองพื้นที่ในอาณาเขตบิดเบี้ยว คลังส่วนตัวของท่านกับคลังเก็บของอาณาเขตมิติจะหลอมรวมกัน>
“...”
วูจินขมวดคิ้วเปิดคลังส่วนตัว คลังของเขาที่ทุ่มเทขยายโดยการซื้อกระเป๋าเพิ่มช่องจากร้านแลกเปลี่ยนค่าความสำเร็จได้เพิ่มจาก 100 แถวเป็นเกือบไม่มีขีดจำกัด
ดูเหมือนว่าคลังส่วนตัวกลายเป็นส่วนหนึ่งของห้องเก็บของอาณาเขตมิติ วูจินไม่ดีใจนัก
“ถ้าโดนขโมยก็หมดตัวสิ?”
ถ้าอาณาเขตมิติของเขาถูกพิชิต หรือแพ้ในสงครามมิติ แน่ใจได้เลยว่าไอเทมของเขาต้องถูกปล้นไปหมด วูจินยักไหล่ ถ้าเขาตายก็จบอยู่ดี วูจินไม่คิดจะให้ใครได้อาณาเขตของเขาไปอยู่แล้ว ดังนั้นนี่ก็หมายความว่าช่องเก็บของของเขาไม่มีขีดจำกัด ไม่ได้แย่อะไร
คลังยังทำงานเหมือนเดิม เขาสามารถหยิบออกเอาเข้าได้ตามใจชอบ
วูจินหยิบหนังสือคู่มือบริหารอาณาเขตมิติ ตัวล็อกปลดออกไปแล้ว
วูจินนั่งอ่านอย่างตั้งใจ ผ่านไป 30 นาทีจึงปิดหนังสือ
“ไอ้พวกเวรนั่น”
ทราห์เน็ต วูจินไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เขาต้องฆ่ามันแน่ๆถ้าได้เจอกัน
ทราห์เน็ตวางแผนไว้ดีทีเดียว
แล้วยังแม่ทัพของทราห์เน็ต ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า 72 ขั้นคืออะไร
พวกนั้นไม่ใช่ลอร์ด แต่อยู่ในระดับราชา
ถ้าครอบครองบัลลังก์ 1 บัลลังก์ ก็อยู่ขั้นที่ 1 คนหนึ่งครอบครองบัลลังก์ได้ถึง 72 บัลลังก์ นั่นคือขั้นที่ 72... พวกมันกำลังสู้แย่งชิงขั้นที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆเพื่อเป็นเกรทลอร์ด พวกมันอยู่ในการแข่งขันที่ไม่รู้จบ
วูจินต้องเป็นราชาเพื่อเอาลอร์ดมาเป็นข้ารับใช้ บัลลังก์ที่ลอร์ดครอบครองก็จะนับเป็นของราชา
“ฉันจะเล่นกับพวกนายก็ได้”
ในเมื่อกระดานเกมก็วางไว้เข้าที่แล้ว วูจินก็ยินดีสนุกไปด้วย ถ้าเขาอยากพลิกกระดานในตอนจบก็ต้องรู้เกี่ยวกับมันให้มาก
ก่อนวูจินจะเก็บหนังสือเข้าคลังส่วนตัว เขาเดินไปที่ประตูด้านหลัง วูจินเปิดประตูสีแดงและเห็นว่ามันเป็นห้องเก็บของ ไอเทมของเขาเรียงเป็นระเบียบอยู่ข้างใน วูจินลองโยนหนังสือเข้าไปในห้อง คลังส่วนตัวของเขาก็แจ้งว่าหนังสือถูกเก็บเข้าไปในคลัง วูจินพยักหน้า
“ฉันเอาของผ่านทางประตูนี้ก็ได้”
ไม่ว่าเขาจะเอาของจากห้องเก็บของหรือจากเมนูคลังส่วนตัวเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ต่างกัน ตอนนี้ของอยู่ในที่เดียวกันแล้ว
“บานนี้...ล็อก”
วูจินเดินไปทางประตูขาวที่อยู่หลังบัลลังก์พอดี เขาไม่รู้ว่าประตูบานนี้ล็อกเพราะระดับหรือไม่ หนังสือคู่มือไม่เอ่ยถึงประตู 3 บานเลย
วูจินเดินไปประตูสีดำที่อยู่ด้านขวา
“บานนี้เปิดได้”
เมื่อประตูดำเปิดออก เขาเห็นพื้นที่กว้างใหญ่ พื้นเป็นหินอ่อน และเห็นโครงกระดูกจำนวนมากยืนเรียงกัน
“ที่นี่คือ...”
ไกลออกไป เขาเห็นสิ่งก่อสร้างเหมือนคอกม้าเต็มไปด้วยม้าปีศาจ ถัดไป อัศวินมรณะกำลังฝึกซ้อมต่อสู้กัน
ผ่านพื้นที่กว้างไป มีหอคอยสูงเสียดฟ้า แต่ไม่มีแสงจากดวงไฟข้างในเหมือนเจ้าของหอคอยยังไม่กลับมา ใกล้ประตูมีกระท่อมหลังหนึ่งด้านในมีแสงเทียนสว่าง
วิ้ง
“โดลเซจิง ไปไหนน่ะ!”
ประตูกระท่อมเปิดออกและโดลเซลอยออกมา บิบิวิ่งตามมาแต่เธอหยุดเมื่อเห็นวูจิน
“เอ๋?”
บิบิกระพริบตาปริบๆ
“เอ๊ เจ้านายมาที่ห้องอัญเชิญล่ะ!”
บิบิตะโกนอย่างตกใจ ทหารโครงกระดูกและอัศวินมรณะทั้งหมดหันมาทางประตู
และแล้ววูจินก็เปิดอลันดาลสาขา2 พร้อมอัพเกรดลูกกระจ๊อกไปตบแม่ทัพกี้ๆสินะ
ตอบลบกลับมาหาอ่านใหม่อีกรอบจากตอนที่ 1 ขอบคุณมาค้าบบ
ตอบลบ