สิ่งแรกที่เขาเห็นคือเศษเนื้อที่กระจุยจากแรงระเบิด
จากนั้น เกราะผีของเขาก็ทำงานป้องกันคลื่นกระแทก แรงผลักทำให้ร่างวูจินกระเด็นไปข้างหลังจนจมกับผนังโรงแรม
ระเบิดต้องแรงน่าดู รถสามคันที่วิ่งผ่านถูกลูกหลงจากระเบิด รถที่พลิกคว่ำทำให้เกิดระเบิดรอบสอง
เศษผงจากผนังที่ถูกกระแทกร่วงลงมาบนหน้าวูจิน
เขาไม่ได้รับความเสียหายจากระเบิด ไม่บาดเจ็บจากที่ถูกโยนอัดกำแพงเช่นกัน เกราะผีป้องกันทุกอย่าง ส่วนเศษฝุ่นจากซากกำแพงไม่นับเป็นการโจมตี เกราะผีจึงไม่ทำงาน
ร่างกายเขาปลอดภัย แต่แรงช็อกทำให้วูจินนอนมึนบนพื้น
‘เฮ้อ’
เขาเพิ่งกลับมาที่โลกได้ไม่กี่เดือนก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว
เขายินดีรับมัน ขณะเดียวกันก็รู้สึกแย่ด้วย
วิญญาณบริสุทธิ์ลอยตรงหน้าวูจิน
ก่อนหน้านี้เองเธอยังมีชีวิตอยู่... ตอนนี้ไม่เหลือแม้แต่ศพของเด็กหญิงที่มีวิญญาณใสสะอาด
[คุณผู้ชาย หนูเจ็บ]
ต้องเจ็บมากแน่
[คุณผู้ชาย หนูกลัวจัง]
สีเริ่มย้อมวิญญาณสะอาดของเด็กหญิงทีละน้อย เหมือนหมึกดำหยดลงมา มันกลายเป็นสีเทา ดำ และดำยิ่งขึ้น...
[ช่วยด้วย]
เขาทรมานที่ทำอะไรให้เธอไม่ได้เลย
ใครจะอยากเห็นวิญญาณบริสุทธิ์แบบนี้กลายเป็นวิญญาณร้าย?
วูจินไม่ใช่คนเดียวที่ถูกระเบิด มีคนตายมากมาย เด็กหญิงกลายเป็นฆาตกรไปโดยไม่รู้ตัว
[คุณ...]
วิญญาณของเด็กหญิงกลายเป็นสีดำแล้วร่วงลง มันเปลี่ยนเป็นวิญญาณร้ายแล้วลอยวนรอบๆตัววูจิน
[ช่วยด้วย]
วิญญาณร้ายมาอยู่รอบตัวเขา วูจินได้แต่ปล่อยไว้เฉยๆ
เขาไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยไว้เฉยๆเพราะสิ่งเดียวที่เขาทำได้คือทำลายมัน ไม่อาจทำให้มันคืนสภาพเดิมได้
‘วิญญาณร้ายดวงแรกของฉันบนโลกนี้’
วิญญาณร้ายที่มาเข้าฝันเขาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง เรื่องนี้เขาไม่สนใจนัก
เขาโกรธเพราะนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่กลับมาที่โลกที่ได้เจอกับเรื่องแย่ๆเหมือนตอนอยู่บนอัลเฟน
“เขาอยู่ตรงนั้น เอาเปลมาเร็วเข้า”
ทหารนอกเครื่องแบบวิ่งมาช่วยวูจิน แต่วูจินยืนขึ้นพลางปัดๆฝุ่นบนตัวออก
“คุณ...เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“คนทำล่ะ?”
“ฆ่าตัวตายไปแล้ว”
ยึดมั่นจริงๆ ไม่สิ ต้องพูดว่ามันบ้า
“ไปที่รถกันเถอะ”
“ฮะ?อ้อ”
ระเบิดเกิดตรงหน้า แต่เขาสบายดี พวกทหารรู้สึกเกรงเราส์แรงค์ AA คนนี้ขึ้นมาเมื่อเห็นเขามีท่าทีสงบนิ่ง
วูจินขึ้นไปบนรถตู้ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กระจายคำสั่ง ไม่นานราเชลก็เข้ามาในรถด้วยสีหน้าแปลกใจ ราเชลสำรวจวูจินพลางถาม
“คุณสบายดีหรือเปล่า?”
“พวกมันมุ่งเป้ามาที่ฉันเหรอ?”
วูจินท่าทางอารมณ์ไม่ดี ราเชลจึงตอบคำถามของเขาทันที
“ไม่ รอบๆยังมีระเบิดติดต่อกัน 7 ครั้ง”
“แปลว่าเด็กตายไป 7 คน”
“...”
นอกจากเด็กที่ถูกเอาระเบิดติดตัว ยังมีคนตายอีกมาก วูจินไม่สนเรื่องมนุษย์ฆ่ามนุษย์คนอื่น ความขัดแย้งเกิดขึ้นเสมอ และเมื่อเกิดการต่อสู้ย่อมมีคนบาดเจ็บล้มตาย
แต่ พวกมันใช้เด็กที่ไม่รู้อะไรด้วย...
เขาอารมณ์เสีย มนุษย์กับตัวหมากของทราห์เน็ตต่างกันตรงไหน?
“กลับ”
“คุณไม่เป็นอะไรนะ?”
“เป็น”
“เจ็บตรงไหน...”
“เปล่า”
เขาไม่ได้บาดเจ็บ เขาสงบนิ่งแต่ราเชลรู้สึกถึงอารมณ์พลุกพล่านจากตัวเขา
เขาดูไม่เป็นอะไรเกินไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือจะมีแผลตรงไหนที่มองไม่เห็น?
“ไม่ต้องคุยกับฉัน”
“...”
“ฉันกำลังอารมณ์ไม่ดี”
“...”
วูจินกอดหน้าอกมองไปข้างนอก
นานแล้ว ไม่สิ นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่กลับโลกที่เขารู้สึกอย่างนี้
ความรู้สึกหนืดๆทำให้เขาอารมณ์เสีย ความโกรธเริ่มปะทุขึ้นในตัวเขา
***
วันถัดมา พวกเขากลับมาที่ฐานทัพอากาศ ทุกคนมารวมตัวกันในห้องประชุม
“เป็นไปไม่ได้”
“เหรอ? งั้นผมไปเอง”
นายทหารพูดไม่ออก
วูจินจะหยุดสงครามด้วยตัวเอง? นี่เป็นสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นด้วยซ้ำ มันไม่ใช่ปัญหาที่จะแก้ได้ด้วยกำลังรบ
“สู้ตรงๆไม่ได้ผลหรอก พวกหัวหน้ามันจะหลบไปซ่อนตัว”
“เฮ้อ”
วูจินขมวดคิ้ว
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งหงุดหงิดกับพวกผู้ก่อการร้าย
ไม่มีเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างพลเมืองกับผู้ก่อการร้าย คนที่ดูเหมือนเป็นประชาชนธรรมดาจะลุกขึ้นมาสาดกระสุนเมื่อไหร่ก็ได้
เหมือนการตัดแขนที่เต็มไปด้วยฝีหนองออก ถ้าอยากจะจับพวกก่อการร้ายที่ซ่อนตัวก็ต้องฆ่าคนบริสุทธิ์ทั้งหมด
“คิดแผนขึ้นมาสิ”
“คิดอะไรล่ะ มันเป็นไปไม่ได้”
ชายชื่อโรเจอร์พูดขึ้น
ถ้ามีวิธีหยุดสงครามพวกเขาก็ทำไปแล้ว ทั้งหมดที่พวกเขาทำได้คือหยุดไม่ให้พวกผู้ก่อการร้ายขยายอิทธิพลออกไป แต่การที่พวกเขาถอนกำลังทหารมาเรื่อยๆกลายเป็นว่า 30% ของอัฟกานิสถานถูกกลุ่มกบฎยึดไว้อีกแล้ว
“รัฐบาลกำลังคุยเรื่องส่งกำลังเสริมมาให้ คุณรอก่อนดีกว่าไหม? ผมเข้าใจว่าคุณโกรธแต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณคนเดียวจะจัดการได้”
คำพูดของนายพลเดวิดผ่านหูวูจิน
“ผมไม่สนใจว่าพวกคุณจะร่วมมือด้วยหรือเปล่า ผมจะไปคนเดียว”
“พอเข้าไปในเขตของพวกต่อต้านแล้วคุณจะทำยังไง? จะฆ่าพวกมันทั้งหมดเลยเหรอ อยากได้ชื่อว่าเป็นผู้ก่อการร้ายที่ชั่วร้ายที่สุดหรือไง?”
“ชิ”
หมอนี่ชื่อโรเจอร์สินะ? ทำไมถึงหาเรื่องเขานัก?
“ถ้าไม่ช่วยก็อย่ามาขวาง”
วูจินเดินออกไป
เขาจะรอสี่วันจนกาเกบิรวบรวมข้อมูลเพียงพอ เมื่อรู้ว่าใครเป็นคนสั่งการลอบสังหารเขา เขาจะฆ่ามันคนนั้น จากนั้นกวาดล้างกลุ่มกบฏ
เขาไม่มีแผน แต่ผลไม่เปลี่ยน
เมื่อวูจินออกจากห้อง คนในห้องประชุมก็เริ่มลนลาน
“จะปล่อยเขาไปแบบนั้นหรือครับ? เราส์ที่จะสังหารหมู่พลเมือง”
อะไรคือผู้ก่อการร้าย?
ผู้ก่อการร้ายคือคนที่ฆ่าคนไร้ทางสู้อย่างไม่มีเหตุผล วูจินจะกลายเป็นผู้ก่อการร้ายที่โด่งดังที่สุดในพริบตาเดียว
“ตามไป หยุดเขาให้ได้”
โรเจอร์ถอนหายใจแล้วออกไปตามคำสั่ง พวกเขาขอให้สตรีศักดิ์สิทธิ์ช่วยแล้ว แต่เธอบอกว่าฐานทัพแห่งนี้จะถูกถล่มถ้าไปขวางทางวูจิน
“เฮ้”
วูจินหยุดแล้วหันกลับมา
หมอนี่คือหัวหน้าทีมเราส์ของฐานทัพนี้ใช่ไหม?
“คุณอยากตายเหรอ? ทำไมถึงหาเรื่องผมอยู่เรื่อย?”
“ผมจะช่วยคุณ”
“ว่าไงนะ?”
“ไม่ใช่สู้ตรงๆนะ ถ้าคุณอยากลอบสังหารพวกระดับหัวหน้ากลุ่มกบฏ ผมจะช่วยคุณเข้าใกล้พวกมัน”
วูจินยิ้ม ในที่สุดก็ได้ฟังเรื่องดีๆ
“พูดสิ”
“ผมจะวางแผนให้พวกมันลักพาตัวคุณ”
โฮ่ ไอเดียบรรเจิดดี?
วูจินเลิกคิ้ว
***
หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์
กึงๆ
วูจินถูกมัดแขน มีกระสอบเหม็นๆคลุมหน้า เขากำลังถูกพาไปที่ไหนสักแห่ง
“ฮือๆ”
ไม่ใช่แค่วูจิน ยังมีคนอีกสี่คนถูกลักพาตัวมากับเขา
“พระเจ้าช่วยลูกด้วย”
คนที่พูดชื่อโรมัน
เขาเคยลักลอบนำอาวุธเข้าประเทศ แต่เพราะไปล้ำเส้นของรัฐบาลกับกลุ่มต่อต้านจึงถูกเขี่ยทิ้ง ตอนนั้นวูจินอยู่กับโรมันจึงถูกลักพาตัวมาด้วย
‘กาเกบิ’
วูจินเรียกกาเกบิที่สิงเงาเขาอยู่ เมื่อถูกกระตุ้น สติของกาเกบิก็ตื่นขึ้น
วูจินใช้แต้มเพิ่มเลเวลให้กาเกบิเป็นเลเวล 50 เขาตั้งใจจะประหยัดแต้มเอาไว้เพราะเลเวลของอสูรจะเพิ่มขึ้นเองในตอนต่อสู้ แต่ไม่มีทางเลือกเพราะเขาต้องการความสามารถของกาเกบิเดี๋ยวนี้
[เลเวล 50 ปีศาจเงา][อสูรรับใช้:กาเกบิ]
เรียกปีศาจเงาขึ้นมาจากเงาของเป้าหมายแล้วแฝงกับร่างนั้น สามารถอ่านอารมณ์ความรู้สึกและข้อมูลรอบๆตัวเป้าหมายที่ถูกแฝงร่าง ถ้าเจ้าของร่างเป็นศพ มันจะสามารถควบคุมร่างนั้นได้ ถ้าศพนั้นถูกใช้ทักษะปลุกผี ปีศาจเงาจะสามารถใช้ความสามารถเดิมของเจ้าของร่างได้เล็กน้อย
ค่าบงการที่ต้องใช้ลดลงตามความซื่อสัตย์และเชื่อใจต่อผู้เรียก อสูรอัญเชิญที่ต้องควบคุมอาจกลายเป็นสหายที่ไว้ใจได้
จำนวนเงา : 6
ทักษะที่ครอบครอง : เพิ่มเงา ขยายประสาทสัมผัส สลับวิญญาณ เคลื่อนย้ายเงา
เพิ่มประสิทธิภาพทักษะบงการศพ : +50%
ต้องการค่าบงการ 1 (-99 จากความซื่อสัตย์ -99 จากความเชื่อใจ)
ทุก 10 เลเวลจะเพิ่มจำนวนเงา ตอนนี้กาเกาบิสามารถเข้าไปสิงในเงา 6 เงา เขาสิงอยู่ในเงาของนาสเซอร์ สาตจิแล้วหนึ่ง เหลืออีก 5 เงา
ขยายประสาทสัมผัสทำให้กาเกบิรวบรวมข้อมูลขณะซ่อนในเงาของอาคาร สลับวิญญาณก็ตามชื่อ ทำให้วูจินสลับวิญญาณกับกาเกบิ เคลื่อนย้ายเงาทำให้วูจินกลายเป็นเงาแล้วเคลื่อนที่ระหว่างเงาคนกับเงาของสิ่งต่างๆ
‘อย่าก่อเรื่องล่ะ อยู่นิ่งๆ’
‘คึๆ ได้ เจ้านาย’
กาเกบิรู้สึกดีที่ได้ครอบครองร่างเจ้านาย ฟังเสียงแล้ววูจินรู้สึกกังวลขึ้นมา วูจินเปลี่ยนเป็นเงา เขาลืมตา เห็นคน 5 คนที่ถูกโยนใส่ด้านหลังรถบรรทุกเก่าๆเหมือนเป็นสัมภาระ
มีผู้ต่อต้าน 4 คน คนหนึ่งขับรถ อีกคนนั่งข้างคนขับ สองคนนั่งด้านหลังคอยเฝ้าข้างหลัง มีรถ 3 คันขับตามรถบรรทุกมา
‘พวกลูกน้องก็ช่างมันแล้วกัน’
เขาไม่ได้ถูกจับมาเพื่อระเบิดอารมณ์ใส่พวกนี้ วูจินวางแผนจะถอนรากถอนโคนกลุ่มกบฏ มีแต่วิธีนี้ถึงจะบรรเทาความโกรธของเขาลงได้บ้าง
รถบรรทุกหยุดและเงาของวูจินเคลื่อนเข้าไปในอาคารแห่งหนึ่ง
ถ้าได้เจอพวกระดับผู้จัดการก็ดี หรือเจอระดับหัวหน้ายิ่งดีใหญ่...
วูจินแยกเงาออกไปติดกับคนที่ดูท่าทางเป็นคนสำคัญ
ใช้เวลาไม่เกิน 20 ชั่วโมงวูจินก็ไปถึงกลุ่มผู้นำของกลุ่มต่อต้าน
‘พวกมันนี่เอง’
ถ้าเขาฆ่าพวกนี้ได้หมด กลุ่มกบฏจะแตกกระจาย ที่เหลือก็เป็นงานของกองทัพสหรัฐ
วูจินแฝงในเงาของผู้นำกลุ่มแล้วรวบรวมข้อมูลอย่างขยันขันแข็ง
เขาจำหน้าของคนพวกนี้ไว้เป็นรายชื่อเป้าสังหารอย่างเยือกเย็น
[เจ้านาย ข้าขอทำตามใจได้ไหม?]
‘หา?ทำไม?’
กาเกบิเงียบมาตลอดจนตอนนี้ วูจินถามอย่างหงุดหงิด เขาไม่ชอบที่ร่างกายถูกคนอื่นควบคุม เมื่อก่อนกาเกบิใช้ร่างเขาทำการสังหารหมู่เป็นพักๆ
[พวกมันกำลังจะยิงคน หัวเจ้านายใกล้จะเป็นรูแล้วขอรับ]
‘…’
ได้ยินว่ากลุ่มต่อต้านไม่ฆ่าตัวประกันทันทีที่จับมาได้แต่ดูเหมือนคราวนี้จะไม่ใช่
‘เปลี่ยนกัน’
“คึๆ ได้ เจ้านาย”
กาเกบิรวบรวมข้อมูลต่อได้ กาเกบิใช้เคลื่อนย้ายเงาไม่ได้เหมือนวูจิน แต่เงาสิงอยู่กับหัวหน้ากลุ่มกบฏแล้ว อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องห่วงว่าจะคลาดจากเจ้านี่
เนื่องจากเงาของกาเกบิกับร่างของวูจินห่างกันมาก สลับวิญญาณทำให้วูจินงงไปชั่วครู่
กระสอบถูกดึงออกไปแล้วทำให้เขาเห็นรอบๆ
พวกต่อต้านยืนเรียงกันในทะเลทรายร้อนระอุ วูจินกับตัวประกันคนอื่นถูกมัดคุกเข่าลง
“ข้าลงโทษพวกแกในนามของพระเจ้า จงยำเกรงพระเจ้าของเรา”
หนึ่งในนั้นถือกล้องกำลังบันทึกการประหาร วูจินทำความเข้าใจกับเหตุการณ์รอบๆเสร็จแล้ว
‘กลุ่มกบฏมี 25 คน คนถูกจับมี 18 คน’
เขายังเห็นฐานของพวกมันในทะเลทราย นี่เป็นที่เก็บคนที่ถูกจับมาและเป็นที่ฝึกด้วย
มันเป็นที่คนใหม่ฝึกฆ่าคน
เขามองพวกตัวประกัน โรมันหายไป คนที่ถูกจับมากับโรมันถูกมองว่าไร้ประโยชน์เลยต้องถูกฆ่า
วูจินยืนขึ้น
“พระเจ้ากับผีสิ”
มือเท้าวูจินถูกมัดด้วยสายเคเบิล เขาเดินไม่ได้และใช้อาวุธไม่ได้ ด้วยเหตุนี้พวกต่อต้านจึงมองวูจินโดยไม่กังวล
“พวกแกฆ่าไปกี่คนแล้วล่ะ?”
กบฏคนหนึ่งที่พูดกับกล้องตอบ
“โฮ่ แกพูดภาษาเราได้คล่องดีนี่”
ภาษาอาหรับมีสำเนียงท้องถิ่นอีกมาก วูจินต้องดื่มยาแปลภาษาไปเยอะ
“หลายพันถูกพระเจ้าของเราลงโทษ ข้าฆ่าไปหลายร้อยคน”
มันอวดเรื่องฆ่าคนต่อหน้าผู้ไม่ตาย ตลก ไม่สิ น่ารักดี
“อ้อ ฉันรู้สึกได้”
เขารู้สึกได้ วิญญาณที่ยังไม่ไปสู่สุคติถูกฝังไว้ใต้ทะเลทราย
คนเหล่านั้นถูกจับเป็นตัวประกัน เมื่อข้อเรียกร้องถูกปฏิเสธพวกเขาก็ถูกฆ่าเป็นตัวอย่างหรือเพื่อความสนุก เขารู้สึกถึงวิญญาณแค้น
“มีแต่เทพที่ลงทัณฑ์ได้”
“ข้าคือตัวแทนของพระเจ้า”
วูจินฟังแล้วรู้สึกตลก
“ตัวแทนของพระเจ้า...”
“แกควรดีใจที่ถูกข้าฆ่า”
ผู้ต่อต้านเหนี่ยวไกไม่ลังเลแม้แต่น้อย
กิ๊ง!
กระสุนชนเกราะผีตรงหน้าวูจินแล้วกระเด้งออก วิญญาณลดไปหนึ่ง
“อะ...อะไรวะ?”
กิ๊ง กิ๊ง!
ผู้ต่อต้านยิงไม่หยุด แต่เกราะกั้นไว้ เขาผงะเมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล
“ม...มันเป็นเราส์! ยิงมัน!”
กระสุนหลายลูกยิงใส่วูจินแต่ไม่อาจทำอะไรเขาได้
“พวกแกไม่สมควรได้รับแม้แต่โทษทัณฑ์จากพระเจ้า”
นี่ไม่ใช่การลงโทษ นี่เป็นการแก้แค้น
วิญญาณอาฆาตจะแก้แค้นพวกมันเอง
วูจินเกร็งตัวสายเคเบิลก็ขาดออกอย่างง่ายดาย
เขาใช้เวทย์มนตร์ทันที
ทรายปะทุขึ้นเหมือนทะเลทรายถูกทิ้งระเบิด ทหารโครงกระดูกลุกขึ้นช้าๆ
ชาวอเมริกันที่ถูกจับ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว ประชาชนคนเดินดิน พวกเขาถูกจับถูกฆ่าแล้วโยนทิ้งในทะเลทราย...
พวกเขาลุกขึ้น ไม่ต่ำกว่า 500 และเพิ่มขึ้นๆ วูจินเติมพลังเวทย์แล้วเรียกทหารโครงกระดูกเพิ่มอีก พร้อมกันนั้นเขาเรียกอัศวินมรณะออกมา
อัศวินมรณะยังมีเลเวลต่ำ
เลเวลเฉลี่ยของพวกมันคือ 8 แต่ละเลเวลจะทำให้อัศวินมรณะควบคุมทหารได้ 10 ร่าง ดังนั้นเขาต้องการทหารโครงกระดูก 4,240 ร่าง แต่วูจินไม่กังวล ศพศัตรูจะมาเสริมกองทัพเขาเอง
ทหารโครงกระดูกย้ายไปอยู่ใต้บัญชาของอัศวินมรณะ 53 ตนโดยอัตโนมัติ
เมื่อตัวประกันที่ถูกจับมัดเห็นโครงกระดูกจำนวนมหาศาลโผล่ออกมา พวกเขาก็พยายามคลานหนี พวกกบฏไม่แม้แต่ยิงปืน พวกมันวิ่งหนีไปทางฐานทัพอย่างรวดเร็ว
วูจินมองอย่างไม่แยแส
“ฆ่าให้หมด”
[ตามเจ้านายบัญชา!]
คิบะกับอัศวินมรณะเรียกม้าปีศาจออกมา ควบขี่ออกไปโดยมีทหารโครงกระดูกวิ่งตามแม่ทัพของพวกตน
เทศกาลละเลงเลือดเริ่มขึ้นแล้ว