วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 94


บทที่ 94 – ผืนทรายสะเทือน (3)

“พวกมอนสเตอร์มาแล้ว”

“เตรียมยิง”

พวกก่อการร้ายทำตัวให้เหมาะสมกับการเดินทางที่สุดเพราะต้องคอยเตรียมพร้อมหลบหนีจากการโจมตีทางอากาศ ยานพาหนะติดอาวุธหลายประเภทรวมถึงปืนกล

ควันสีดำลอยเมื่อสตาร์ทเครื่อง เมื่อรถหักเลี้ยว พวกมันเล็งเป้าไปที่ทะเลทรายนอกฐานทัพ

“ยิง!”

“เคะๆ”

กระสุนนับร้อยพุ่งผ่านอากาศไปยังเหล่าทหารโครงกระดูก เมื่อโดนพวกมันก็ถูกทำลาย แต่นั่นก็เป็นเพียงส่วนน้อย

ยิ่งกว่านั้นอัศวินมรณะที่ขี่ม้าปีศาจก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

“เอาเครื่องยิงจรวดมา”

ลูกน้องคนหนึ่งนำ RPG-7 มาอย่างเร็ว เล็งไปที่ม้าปีศาจแล้วยิง

ขีปนาวุธพุ่งฝ่าอากาศไปยังอัศวินมรณะอย่างน่าเกรงขาม ม้าปีศาจยิ่งวิ่งอย่างบ้าคลั่ง

[แรมสันลงสนาม!]

เขาเคยเป็นนักรบกล้าของเผ่าดวาร์ฟ แรมสันควงค้อนใหญ่

ค้อนปะทะกับขีปนาวุธและดูดซับระเบิดไว้ทั้งหมด

แรมสันมีทักษะเฉพาะตัวคือ ‘ดูดซับแรงกระแทก’ ทำให้เขารับแรงกระแทกทางกายภาพได้ทั้งหมดทุกชนิด ไม่ว่าแรงนั้นจะมาจากระเบิดหรือการโจมตีจากเวทย์ ค้อนจะรับมันไว้ทั้งหมด และแรงที่ถูกดูดซับไว้ยังสามารถขับออกมาได้แรงกว่าเดิมอีกหลายเท่า

กระสุนกระหน่ำใส่เขา แรมสันขี่ม้าเข้าไปใกล้กำแพงที่ใช้เป็นด่านกั้นแล้วเหวี่ยงค้อน

กำแพงแตกกระจาย เศษหินกลายเป็นอาวุธร้าย มันพุ่งทะลุพวกกลุ่มต่อต้าน ม้าปีศาจฝ่าเข้ามาจากตรงที่กำแพงถูกทำลาย

“ย...ยิงพวกมัน!”

ปืนกลยิงใส่อัศวินมรณะ แต่กระสุนกระเด้งออกแม้จะอยู่ใกล้ขนาดนี้ ม้าปีศาจของคิบะยกขาหน้าขึ้นแล้วกระทืบรถติดปืนกลแหลก

เขามองคนยิงที่ตายก่อนจะได้ส่งเสียง คิบะตะโกน

[ทำให้พวกมันได้เห็นความยิ่งใหญ่ของผู้ไม่ตาย!]

ทหารโครงกระดูกข้ามกำแพงมา จากนั้นเริ่มการฆ่าฟันพวกต่อต้าน ไม่นานชีวิตในฐานทัพของก็ดับสูญ

พวกตัวประกันมองวูจินอย่างหวาดกลัว วูจินเอาดาบสั้นเล่มหนึ่งออกมาจากคลังแล้วตัดสายเคเบิลบนตัวประกันที่อยู่ใกล้เขาที่สุด จากนั้นก็ส่งดาบให้

“แก้มัดให้คนที่เหลือ”

ชายคนนั้นถามเมื่อได้ยินภาษาอังกฤษจากวูจิน

“คุณ...คุณเป็นทหารสหรัฐเหรอ? คุณมาช่วยเราเหรอ?”

“ไม่ใช่”

วูจินผละจากไปทางฐานทัพ ชายคนนั้นสวดภาวนาพลางมองด้านหลังของวูจิน

พระเจ้ารับฟังคำขอของเขาแล้ว

พระองค์สงสารชายคนนี้ที่สั่นเทาอย่างหวาดกลัว ส่งผู้ช่วยมาให้

เมื่อเขาตัดสายเคเบิลให้ตัวประกันทุกคนแล้ว พวกเขามุ่งหน้าไปทางฐานทัพตามวูจินโดยไม่มีใครบอก

ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไร สถานที่ๆปลอดภัยที่สุดตอนนี้คือข้างๆวูจิน

วูจินมองศพเกลื่อนกลาดในฐานทัพที่ถูกทำลาย เขาคืนชีพทั้งหมดขึ้นมาเป็นทหารโครงกระดูก

พริบตาเดียว ทหารโครงกระดูกก็ลุกขึ้นแล้วตกไปอยู่ใต้คำสั่งของเหล่าอัศวินมรณะ เมื่อตกไปอยู่ใต้คำสั่งของอัศวินมรณะแล้ว นอกจากจะถูกทำลาย พวกมันจะไปอยู่ในห้องอัญเชิญรอให้อัศวินมรณะเรียกมันออกมา

“ตัวประกันที่เหลืออยู่ไหนนะ?”

มันเกิดขึ้นก่อนวูจินจะหาตัวประกันเจอ

“อย่าขยับ!”

อาจเป็นเพราะพวกมันไม่กล้าออกมาเมื่อได้ยินเสียงวุ่นวาย แต่ทหารยามสองคนเอาปืนจ่อหัวตัวประกันแล้วลากออกมา ชายคนนั้นตกใจจนปัสสาวะราดไปแล้วจึงเดินมาอย่างทุลักทุเล เขาคือนักค้าอาวุธ โรมันนั่นเอง

“ถ้าแกโจมตี ข้าจะฆ่าไอ้นี่”

สายตาของพวกมันมีแต่ความกลัว

อัศวินมรณะคำรามเหมือนสัตว์ป่า ทหารยามสบตากับดวงตาสีแดงของโอเกอร์แล้วตัวแข็งทื่อ

วูจินยื่นมือออกมาใช้เวทย์ช็อตไฟฟ้า

รัคโต อัศวินมรณะเผ่าโอเกอร์เดินไปทางทหารยามที่ล้มลงแล้วแทงหอกเข้าที่หัวใจ

“ฮึก”

โรมัน หลังจากถูกปล่อยก็ส่งเสียงยินดี เขาเดินไปทางวูจิน

“เฮ้อ ขอบคุณที่ช่วยผม คุณเป็นทหารเหรอ? ขอชื่อได้ไหม ผมจะได้ตอบแทน”

“ไม่จำเป็น”

“อ้อ เพราะเป็นทหารสินะ ผมให้แบบลับๆได้นะ รับรองคุณไม่ผิดหวังแน่”

วูจินเรียกหอกกระดูกออกมาแล้วเล็งที่หัวใจโรมัน

“พล่ามจังนะ หุบปากได้แล้วมั้ง”

“...”

โรมันรู้ว่าคนที่ทำงานในสนามรบไม่สุภาพนัก แต่เขามาทำกับพลเมืองสหรัฐอเมริกาแบบนี้ได้อย่างไร? โรมันขมวดคิ้ว

“ผมไม่ลืมเรื่องนี้แน่”

ไม่รู้ว่าจะตอบแทนดีหรือจะแค้นดี แต่โรมันคิดว่าชายที่ช่วยเขาต้องเป็นทหารเราส์แน่

วูจินแสยะยิ้ม

เขามีอัศวินมรณะ 53 ตนกับทหารโครงกระดูกมากกว่า 600

‘เออ คนขายอาวุธก็นิสัยแบบนี้แหละ...’

วูจินลดหอกลง โรมันเข้าใจว่าที่ขู่ได้ผลสีหน้าจึงผ่อนคลายลง แต่วูจินกลับยิ้มกว้างขึ้น

“เฮ้ ขอโทษแล้วกัน ทำไงดีล่ะ?”

“ฮ่าๆ ไม่ต้องขอโทษผมหรอก ในฐานะพลเมืองสหรัฐ...”

“ฉันเหมือนคนอเมริกาเหรอ?”

วูจินพูดเหมือนภูมิใจมากที่ไม่ใช่ แล้วคำพูดของโรมันก็ขาดหายไป และไม่ใช่แค่คำพูด

หอกกระดูกถูกเหวี่ยงอย่างรวดเร็วเหลือเชื่อ ตัดศีรษะโรมันออกจากร่าง หรือถ้าจะพูดให้ชัดคือคอเขาถูกกระแทกหักและศีรษะถูกฉีกออก

“มันคิดว่าฉันเป็นพี่เลี้ยงเด็กเหรอ?”

เหล่าผีดิบตื่นเต้นขึ้นมา คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ช็อกจัด

“อึ๋ย”

ตัวประกันคนอื่นๆที่ออกมาพร้อมกับโรมันได้เห็นเหตุการณ์รุนแรงเบื้องหน้า ตอนแรกพวกเขานึกว่าได้รับการช่วยเหลือไม่ให้ถูกยิงตาย แต่ตอนนี้สีหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าพูดอะไร

“ทุกคนมาทางนี้”

ด้วยคำพูดของวูจิน ทุกคนมารวมกัน บางคนไม่เข้าใจคำพูดของวูจินแต่พวกเขามองคนข้างๆแล้วทำตาม

“นักข่าวก้าวออกมาข้างหน้า”

“...”

ไม่มีใครก้าวออกมา

“ถ้านับถึง 5 แล้วยังไม่ออกมา ฉันจะอัดพวกนายทุกคน หนึ่ง, สอง...”

เหลืออีกหนึ่งนิ้ว ชายสามคนก้าวออกมาพร้อมกัน

“เอาล่ะ พวกนายตามฉันมา คนที่เหลือก็ขอความช่วยเหลือไป”

ไม่มีใครบ่นเมื่อได้ยินคำพูดไม่รับผิดชอบของวูจิน พวกเขาเห็นโรมันตายต่อหน้ามาแล้ว

วูจินบอกให้ตัวประกันใช้เครื่องมือสื่อสารในฐานทัพขอความช่วยเหลือ วูจินโบกมือให้นักข่าวสามคนเข้ามา

“พวกนายเป็นนักข่าวสงครามเหรอ?”

“ครับ ผมทอม นี่มาร์ค พวกเราเป็นอเมริกัน ส่วนคนนี้...”

“โจนี่ครับ ผมเป็นคนอังกฤษ”

วูจินสั่งคนทั้งสาม

“ฉันอยากให้พวกนายตามมาแล้วถ่ายทุกอย่างเอาไว้”

“...เราจะถ่ายอะไรครับ?”

ช่วยคนให้เป็นอิสระ... นั่นไม่ใช่การกระทำที่สมกับผู้ไม่ตาย เขาไม่แน่ใจว่าจะทำได้

ที่เขาจะทำ คือทำตัวเป็นนักสู้ตัวแทนของเทพแห่งการทำลาย รับความเจ็บปวดไว้ นำการทำลายและจุดจบมาสู่ศัตรู เรื่องนั้นเขาแน่ใจว่าทำได้

“การฆ่าและการทำลาย”

“...”

คนนี้บ้าไปแล้วเหรอ?

เหมือนจะเป็นคนบ้ายิ่งกว่าบ้า เขาปลอมตัวให้ถูกลักพาตัวมา ใช้พวกผีดิบฆ่าพวกต่อต้าน แถมยังฆ่าตัวประกันไปหนึ่งคนเป็นตัวอย่าง...

คราวนี้อยากให้ถ่ายวิดีโอตอนที่เขาฆ่าคน

พวกโรคจิตแน่ๆ

“ฉันจะทำให้พวกก่อการร้ายถึงจุดจบ”

“...!”

คนที่วูจินจะฆ่าเปลี่ยนความคิดเห็นของพวกนักข่าว

ระหว่างฆาตกรกับวีรบุรุษสงครามมีเส้นแบ่งชัดเจน

พวกเขาเปลี่ยนความคิดใหม่ นี่ไม่ใช่โรคจิต เขาเป็นผู้ช่วยให้รอด

***

ห้องบัญชาการของฐานทัพอากาศบากราม

“ดูนี่ มีอะไรแปลกๆ”

ราเชลมองภาพถ่ายดาวเทียมอย่างสงสัย

มันเป็นรูปฝุ่นขนาดใหญ่ เหมือนยานพาหนะขบวนใหญ่กำลังเคลื่อนที่

“นี่อะไร? พวกต่อต้านมีขบวนรถมากขนาดนี้เลยเหรอ?”

“พวกมันกำลังมุ่งหน้าไปที่ที่มั่นของกลุ่มกบฏ”

“หรือจะเกิดขัดแย้งกันเอง?”

“...ไม่รู้สิ”

มีคนเคลื่อนไหวมากมายจนมาเห็นได้จากรูปถ่ายจากดาวเทียม...

เดวิดเคาะหน้าผากเมื่อได้ฟังข้อความที่รออยู่จากเจ้าหน้าที่

“เราได้ข้อความจากทีมเอ พวกเขาไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ช่วยตัวประกันได้ 37 ราย น่าเสียดายที่โรมันตาย”

“อืม ยังโชคดี ทีมเอมีใครบาดเจ็บไหม?”

“ปลอดภัยทุกคน”

นายพลเดวิดนึกว่าตัวเองฟังผิดไป แต่แล้วก็เปลี่ยนไปนึกชมเชยทีมเอ ขนาดบุกเข้าไปลึกถึงฐานของพวกกบฏก็ยังไม่มีใครบาดเจ็บ

“ไม่มีการต่อสู้เลย”

“...”

ตอนนั้นเอง ราเชลเอาข้อมูลที่ได้จากแท็บเล็ตมาแสดงให้นายพลดู

“นี่เป็นภาพกับวิดีโอที่กำลังแพร่ในอินเตอร์เน็ตค่ะ”

“อืม”

เดวิดเลื่อนดูภาพไปเรื่อยๆ

มันเป็นภาพของพวกต่อต้านถูกเผา มีภาพคนถูกปล่อย มีกระทั่งภาพพวกต่อต้านยอมจำนน... มีวิดีโอรวมอยู่ในภาพเหล่านั้นด้วย นายพลคลิกดู

[เคะๆๆ]

[อกราค โท มาช]

ได้ยินภาษาของอัลเฟนที่ฟังไม่ออก เดวิดเห็นการต่อสู้ระหว่างคนมีชีวิตกับความตาย ม้าปีศาจสีน้ำเงินทำลายรถถังอย่างง่ายดายเกินไป

ปีศาจในชุดเกราะขี่ม้าปีศาจ ทหารโครงกระดูกจำนวนมากตามพวกมันมา

“นี่ตัวอย่างหนังเหรอ?”

“...ดูตอนใกล้จบสิคะ”

“หืม”

เขาข้ามไปตอนใกล้จบแล้วเห็นวูจินถูกอัศวินมรณะหลายเผ่าพันธุ์อารักขา ไม่ใช่ เขาไม่ได้ถูกอารักขา เขากำลังนำทัพอยู่ข้างหน้า

“คังวูจิน?”

เดวิดได้ยินเสียงนักข่าวสงครามที่ไม่ได้อยู่หน้ากล้องพูดอย่างเร่งร้อน

[เมสิอาห์ปรากฏตัวแล้ว เราส์ชาวเกาหลี คังวูจิน ประกาศสงครามกับกลุ่มก่อการร้าย ความเกรี้ยวกราดของเขาพัดผ่านทะเลทราย คล้ายกับว่ากองทัพของเขาจะไม่หยุดจนกว่าจะขจัดกลุ่มก่อการร้ายนี้จนหมด]

ในกล้องเห็นทหารโครงกระดูกเป็นพัน ภาพที่เห็นมากพอทำให้คนหมดสติได้

“นี่ของจริงเหรอ? คลิปนี่มาจากไหน?”

“เขาเป็นผู้สื่อข่าวสงครามจาก SNS ชื่อทอมค่ะ มันถูกอัพโหลดบนช่องของนักข่าวสงครามชาวอังกฤษคนหนึ่งกับช่อง SNS ในยูทูป”

“ฮ้า”

ทุกอย่างลงตัว

รูปถ่ายทางดาวเทียมที่เป็นภาพคนจำนวนมากมุ่งไปทางที่มั่นของกลุ่มต่อต้าน

ขบวนขนาดใหญ่จนฝุ่นควันคละคลุ้ง

พวกกบฏตัดสินใจมารวมกันที่ที่มั่นหลัก และวูจินนำทัพผีดิบมาที่นั่น

สองกลุ่มปะทะกัน

“ฟังว่าเขาเป็นเนโครแมนเซอร์ ควบคุมกองทัพใหญ่ขนาดนี้ได้เลยเหรอ?”

เราส์คือสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่เรื่องแบบนี้เป็นไปได้ด้วยเหรอ? เนโครแมนเซอร์คนเดียวควบคุมผีดิบได้เป็นพัน? นี่ไม่ได้มีแต่ในตำนานเหรอ?

“เขาเพิ่งจะโด่งดังในเวลาไม่นานเลยไม่มีข้อมูลเรื่องความสามารถด้านเราส์ของเขานักค่ะ”

“คุณจะบอกว่าอะไรก็เป็นไปได้เหรอ?”

แค่เวลาสั้นๆเขาก็เก่งกาจขนาดนี้? เหมือนเป็นเทวดาที่มาจากฟ้า

แต่จะเถียงเรื่องเป็นไปได้หรือไม่ก็ดูจะเปล่าประโยชน์ มันเกิดต่อหน้าพวกเขาแล้ว

“ได้ยินว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์รู้จักกับคังวูจิน”

“อืม พาเธอมาที่นี่ ไม่ ผมไปเอง อยู่ที่ไหน?”

“ปกติเธอจะอยู่ที่สถานพยาบาลค่ะ”

เดวิดตัดสินใจไปหาเมโลดี้ด้วยตัวเอง

เราส์ผู้โกรธจัดปลอมตัวเป็นตัวประกัน ปะปนเข้าไปในฐานทัพของกลุ่มกบฏ และกำลังสร้างเรื่องอึกทึกครึกโครม

แค่วันเดียวเขาก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมหาศาล กลุ่มกบฏมารวมกันเพื่อการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

พลเมืองธรรมดาคนหนึ่งกำลังจะจบงานที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาทำไม่สำเร็จมาหลายปี

เดวิดเจอสตรีศักดิ์สิทธิ์ในสถานพยาบาลไร้ผู้คน

ความสามารถของเธอเหนือกว่าความรู้ด้านการแพทย์ในปัจจุบัน เธอลดจำนวนผู้ป่วยในฐานทัพอากาศจนเป็น 0 เมโลดี้กำลังภาวนาตรงหน้ารูปสลักเทพีที่ทำจากไม้

“องค์เทพี ได้โปรดหยุดความโกรธของเขาด้วย...”

เขาต้องหยุดตรงจุดที่พอรับได้ หากโกรธเกินไปโลกจะกลายเป็นศัตรูกับวูจิน หากเป็นเช่นนั้นเขาและโลกจะตกสู่หายนะ


สารบัญ                                           บทที่ 95



1 ความคิดเห็น:

  1. ขำทุกรอบตอนเมโลดี้ภาวนาให้พระเอก อะไรซักอย่าง

    ตอบลบ