วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 88

บทที่ 88 – มุ่งหน้าสู่จุดจบ

ในที่สุดก็มาถึงจุดนี้

วูจินไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไป เขามีสหายร่วมสู้

แต่จะวางใจตอนนี้ก็เร็วเกินไป

เวลาแห่งสันติสุขยังห่างไปไกล

แม่ทัพ 72 ตน และทราห์เน็ตที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ถ้าเขาล้มมันได้ สันติสุขจะมาถึงไหมนะ?

“ทีนี้ก็ได้ล่าง่ายๆแล้ว”

อัศวินมรณะแต่ละตนมีอำนาจบงการทหารโครงกระดูก ดังนั้นต่อให้วูจินอยู่ห่างไป ทหารโครงกระดูกก็จะฟังคำสั่งของอัศวินมรณะแทน

เมื่อนึกถึงว่าต่อไปจะล่าได้ง่ายขึ้น เขารู้สึกว่าเพิ่มเลเวลเป็น 80 ไม่ยากนัก

เมื่อลิช เจนิส ถูกปลดผนึก เขาก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเพิ่มเลเวลแล้ว ลิชเชี่ยวชาญเรื่องการล่าพร้อมๆกันทีเดียวเป็นจำนวนมาก

“ค่าบงการที่ต้องใช้ลดลงเรื่อยๆเลยแฮะ”

ค่าบงการที่ใช้ควบคุมอัล อัสสาดลดลงอย่างรวดเร็ว ดูท่าคิบะกับอัศวินมรณะตนอื่นจะกำลังตั้งใจสั่งสอนทหารใหม่น่าดู

นึกถึงพวกนั้นกำลังทะเลาะกันในห้องรออัญเชิญ วูจินหัวเราะ

ซุงกูล่าเกือบเสร็จแล้ว วูจินเอาอุปกรณ์ทำอาหารออกมาแล้วเริ่มเตรียมปรุงอาหารด้วยอารมณ์ดี เขาตั้งหม้อจุดไฟ

ขณะวูจินกำลังแล่เนื้อควาย จู่ๆบิบิก็โผล่ออกมา

เธอทำแก้มป่องพลางบ่น

“เฮ้อ ห้องรออัญเชิญหนวกหูมากเลยเมี้ยว”

เข้าใจได้ พวกอัศวินกำลังอยู่ในช่วงจัดอันดับผู้นำ

“ไว้เงียบแล้วค่อยกลับไปสิ”

“ฮื้อ เดี๋ยวก็มีพวกโครงกระดูกอยู่กันเต็ม เราล่ะสงสัยว่าต่อไปจะมีวันเงียบๆหรือเปล่า”

“นั่นสินะ...”

อสูรของวูจินทุกตนต้องอยู่ในห้องรออัญเชิญ

เขาต้องเรียกทหารโครงกระดูกตัวใหม่ออกมาทุกครั้งที่จะใช้ แต่ถ้าทหารโครงกระดูกไปอยู่ใต้บัญชาของอัศวินมรณะ พวกมันก็ต้องอยู่ในห้องอัญเชิญรอผู้บัญชาการของมันเรียกออกมา

งานของวูจินคือเติมทหารใหม่เข้าไป การจัดการกองทัพทั้งหมดเป็นหน้าที่ของพวกอัศวินมรณะ จากนี้ไปเขาจะได้ทำตัวเป็นราชาผู้ไม่ตายเสียที

เมื่ออัศวินมรณะเลเวลสูงขึ้น ทหารโครงกระดูกที่อยู่ใต้บัญชาการก็จะเพิ่มด้วย อีกไม่นานห้องอัญเชิญคงมีพวกมันอยู่เต็ม...

“เธอจะเอายังไง? ต่อไปคงยิ่งหนวกหูกว่านี้”

“เฮ้อ ไม่เป็นไร จากนี้ไปเราจะออกล่าแล้วเมี้ยว”

วูจินฟังคำตอบของบิบิแล้วดีใจ วันนี้เธอดูสดชื่นขึ้น

“รู้สึกดีขึ้นแล้วเหรอ?”

“ฮึ ดีขึ้นหรือเปล่าไม่เห็นเกี่ยวเลย เราต้องรีบๆเก่งขึ้นกว่านี้ จะได้ใช้ไนท์แมร์กับไอ้บ้านั่นเมี้ยว”

นึกถึงรัชโมดที่ทำให้เธอเจอกับความตาย ใจสู้ของบิบิก็ลุกพรึ่บ วูจินหัวเราะ เขาจะบังคับอสูรของตนให้ทำตามคำสั่งก็ได้ แต่วูจินไม่อยากทำแบบนั้น

“ไว้ดันเจี้ยนหน้ามาเอาจริงกัน”

“ได้เลยเมี้ยว”

ดูเหมือนซุงกูจะจัดการมอนสเตอร์หมดแล้ว มีคำกล่าวว่าครูพักลักจำ ซุงกูเห็นวูจินเคลียร์ดันเจี้ยนคนเดียวหลายต่อหลายครั้ง อีกไม่นานเขาคงเคลียร์ดันเจี้ยน 6 ดาวได้ด้วยตัวเอง

‘อืม ก็ยังอันตรายไป ถ้าฮีซอลเก่งจนช่วยหมอนี่ได้ก็อาจเป็นไปได้...’

ทั้งสองได้เรียนรู้หลายๆเรื่องจากวูจิน วูจินยังให้พวกเขากินหินเพิ่มพลังโดยไม่หวง ค่าสถานะของพวกเขาจึงเหนือกว่าเราส์ในแรงค์เดียวกัน

ตอนนี้วูจินได้กองทัพผีดิบมาเกือบครึ่งแล้ว แต่เขาต้องการทัพอื่นอีก

กองทัพที่สร้างจากเราส์ของกิลด์อลันดาล

ซุงกูจะเป็นแนวหน้า ฮีซอลเป็นผู้บัญชาการ

ยังมีเรื่องที่ต้องสอนพวกเขาอีกมาก

[ท่านประธาน ดิฉันเก็บบลัดสโตนหมดแล้วค่ะ]

เทเลพาธีของฮีซอลดังขึ้นในหัววูจิน เขาถามกลับ

[เสร็จแล้วเหรอ?]

[ค่ะ เสร็จแล้ว]

[งั้นก็มาที่นี่ก่อน]

ได้ซุงกูช่วย การล่าจึงเร็วมาก แต่ฮีซอลต้องเก็บของคนเดียว วูจินแค่อยากให้เธอเก็บบลัดสโตนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ที่เหลือก็ทิ้งไป แต่เธอบอกว่าเก็บบลัดสโตนมาหมดแล้ว วูจินจึงแปลกใจ

“เฮะๆ ผมจัดการพวกมันหมดแล้วครับลูกพี่”

ซุงกูเดินมาหาวูจิน น้ำลายไหลพลางมองอาหารที่กำลังถูกปรุง เจ้าหมอนี่... ยิ่งนานยิ่งดูง่าย

“รอฮีซอลมาแล้วค่อยกิน”

“ครับ เฮะๆ”

ไม่นานก็เห็นฮีซอลกำลังเข้ามาใกล้ เบื้องหลังเธอมีแจ็คสันแบกถุงบลัลสโตนไว้บนหลัง กับฝูงกาปากมีด 14 ตัว

“อ้าว? ยังมีมอนเหลืออีกเหรอ?”

ซุงกูเตรียมจะจัดการพวกกา แต่วูจินหยุดไว้

“เหมือนพวกมันจะถูกจับนะ?”

“เอ๋? จริงด้วยลูกพี่”

ฝูงกาปากมีดไม่ได้ไล่ตามฮีซอล พวกมันแค่บินตาม

ตามชื่อ พวกมันเป็นนกสีดำที่ใช้จงอยปากที่คมเหมือนมีดโจมตีศัตรู

“พวกนั้นมันอะไร?”

วูจินถาม ฮีซอลจึงเล่าอย่างอวดๆ

“ฮะๆ ดิฉันฝึกพวกมันค่ะ”

“ยังไง?”

ฮีซอลเก่งขึ้นเรื่อยๆ แต่กาปากมีดเลเวล 32

ไม่น่าเชื่อว่าฮีซอลจะจับมอนสเตอร์ 3 ดาวได้ ที่เธอไม่ถูกพวกมันโจมตีก็เพราะมีเสือเขี้ยวดาบปกป้องอยู่...

“ตอนดิฉันกำลังแล่ศพเก็บหิน พวกมันก็โผล่มา พวกมันกลัวแจ็คสันเลยไม่เข้ามาใกล้ แต่ดิฉันยกศพมอนสเตอร์ให้พวกมันกินค่ะ”

ฮีซอลไม่ได้กำราบพวกมัน แต่ใช้วิธีทำตัวสนิทสนมกับพวกมันจนจับได้สำเร็จ

“ดิฉันแสดงละครนิดหน่อย”

“...”

คิดไม่ถึง พวกมอนสเตอร์ท่าทางจะหลอกง่าย...

“แล้วทำไมเธอขุดหินได้เร็วนัก?”

“พวกนี้ช่วยค่ะ”

“หา?”

วูจินอึ้ง ทำตาโต ไม่เหมือนวูจินคนเดิมเลย

“ทำได้ด้วยเหรอ”

“ค่ะ ดิฉันสื่อสารกับพวกนี้ได้บ้าง”

ดูเหมือนฮีซอลจะได้ทักษะ ‘สื่อสาร’ กับ ‘สื่อสารกับวิญญาณ’ มาเอง ทักษะพวกนี้สำคัญต่อนักฝึกสัตว์มาก

วูจินลูบคาง นึกถึงนิสัยของกาปากมีด

อาหารที่พวกมันชอบคือเครื่องในสัตว์ จงอยปากของพวกมันเหมาะกับการดึงเครื่องในออกมา และกาก็มีนิสัยชอบสะสมของแวววาว

พอพวกมันเชื่องกับนักฝึกสัตว์ ไม่แปลกถ้าพวกมันจะทำตามคำสั่งของนักฝึกสัตว์

“ไม่เลว”

วูจินผงกหัวชมเชย

เนโครแมนเซอร์เรียกได้แต่ผีดิบ ซึ่งเคียดแค้นสิ่งมีชีวิต

กองทัพผีดิบโจมตีไม่มีความกลัว พวกมันจึงเหมาะกับการสู้ แต่ห่างไกลจากการเก็บไอเทมหรือหินบลัดส
โตนมาก

วูจินสั่งให้พวกมันเก็บได้ แต่เขาต้องบงการพวกมันอย่างใกล้ชิดเหมือนชักหุ่น แบบนั้นเขาทำเองจะง่ายและเร็วกว่า

“แสดงให้ดูหน่อยสิ”

“ค่ะ”

ฮีซอลหลับตาตั้งสมาธิ

ฝูงกาที่เกาะอยู่รอบๆกางปีกออกบิน พวกมันมุ่งหน้าไปยังศพมอนสเตอร์ที่ซุงกูล่า

ไม่นานจงอยปากคมของพวกมันก็ฉีกศพออก ดึงบลัดสโตนออกมาแล้วเอาไปกองไว้ที่เดียวกัน วูจินถามอย่างทึ่ง

“พวกมันรู้ว่าศพไหนมีบลัดสโตนด้วยเหรอ?”

“เอ่อ ดิฉันรู้สึกได้น่ะค่ะ”

“หา?”

“ตอนส่งเทเลพาธีน่ะค่ะ ดิฉันพยายามสัมผัสพลังงานรอบๆไปด้วย พอรู้ตัวก็รู้สึกถึงมันได้แล้ว...”

มอนสเตอร์ มนุษย์และไอเทม เปล่งพลังงานที่แตกต่างกัน

มันคือเวทย์ หรือจะเรียกว่าพลังชีวิตก็ได้

มอนสเตอร์ที่ตายไปส่งพลังงานด้านร้าย แต่ศพที่มีบลัดสโตนจะส่งพลังงานด้านร้ายกับพลังเวทย์ปนกัน ฮีซอลเข้าใจเรื่องนี้โดยสัญชาติญาณ

ไม่ใช่สิ ไม่ใช่สัญชาติญาณ เธอคงปลุกพลังด้านจิตสัมผัสขึ้นมา

นี่เป็นผลอีกอย่างของการเรียนเทเลพาธี

“โฮ่”

วูจินลูบคาง

เขารู้ว่าฮีซอลมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่นึกไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้ เธอยังมีพรสวรรค์อีกด้วย

วูจินมองซุงกู

‘ลากอัตโนมัติ’

วูจินมองฮีซอล

‘ฟาร์มอัตโนมัติ’

วูจินยิ้ม

เขาพาเราส์คนใหม่เพื่อมาทำงานตามสั่ง แต่ความสามารถใหม่ของเธอได้เปิดหูเปิดตาเขา

ก่อนหน้านี้เขายังแก้ปัญหาไม่ได้ แต่ตอนนี้มันสมบูรณ์แล้ว

วิธีเก็บเลเวลอัตโนมัติสมบูรณ์แบบ

***

ที่ทางเข้าดันเจี้ยน

“เหนื่อยหน่อยนะครับท่านประธาน”

วูซุงฮุนยืนรออยู่ ยกถ้วยใส่ชาเขียวอุ่นๆให้วูจิน เขายกมาจิบแล้วถาม

“ยังมีเวลาเหลือหรือเปล่า?”

“ครับ ท่านเคลียร์เร็วมาก ตอนนี้ยังเหลืออีก 1 ชั่วโมง 12 นาที”

“เหลือเฟือ นายโทรหากองจัดการเราส์บอกให้เขาส่งฝ่ายจัดการมอนสเตอร์มาที่นี่เถอะ”

“ทราบแล้วครับ”

สาเหตุมาจากฝูงกาขนาดใหญ่ที่ออกมาพร้อมเชฮีซอล ฮีซอลไม่ใช่เราส์นักฝึกสัตว์คนแรก ก่อนหน้าเธอมีเราส์ประเภทนี้นับไม่ถ้วน

มอนสเตอร์ที่นักฝึกสัตว์จับต้องลงทะเบียนกับกองจัดการเราส์ นอกจากนั้นพวกมันยังไม่สามารถไปไหนมาไหนนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต

หลังดื่มชาเขียวอีกหน่อย วูจินมองไปทางซุงกูกับฮีซอล

“ลงดันกันอีกรอบเถอะ”

“ครับลูกพี่”

“ทราบแล้วค่ะท่านประธาน”

หนึ่งชั่วโมง

แม้ในดันเจี้ยนเวลาจะผ่านไปนานกว่า 4 ชั่วโมงสำหรับเคลียร์ดันเจี้ยน 5 ดาวก็ยังถือว่าสั้นมาก แต่วูจินมั่นใจว่าทำได้ถ้ามีออโต้บอทของเขา

***

ในรถตู้ขากลับที่ทำงาน

โร้ดเมเนเจอร์คนหนึ่งทำหน้าที่ขับรถแทนซุงฮุน หัวหน้าเลขานุการซุงฮุนนั่งข้างคนขับ คังวูจินกับฮงซุงกูนั่งด้านหลัง

ฮีซอลตามมาในรถคอนเทนเนอร์กับมอนสเตอร์ของเธอ

“อา แย่ชะมัด ถ้าจับพวกมันได้มากกว่านี้ก็ดีสิ”

“เฮะๆ แต่ก็ได้มา 20 ตัวนะครับ แบบนี้พวกเราไม่ต้องห่วงเรื่องเก็บหินเลย”

ค่าความสนิทสนมของฮีซอลมีจำกัด หลังได้แจ็คสันกับกาอีก 20 ตัว ฮีซอลก็จับเพิ่มไม่ได้แล้ว

“ต่อไปฮีซอลต้องทำงานหนักล่ะ”

“ฮะๆ ต่อไปฮีซอลก็จะเก่งขึ้นพรวดๆเลยนะครับ”

ฮีซอลเลเวล 31 แล้ว

สมัยก่อน วูจินติดอยู่กับแรงค์ F มากกว่า 2 ปี เมื่อเห็นลูกน้องขึ้นเป็นแรงค์ D หลังจากเคลียร์ดันเจี้ยน 3 ครั้ง เขาก็ได้แต่ถอนหายใจ แต่ยังต้องฝึกอีกเยอะกว่าจะได้อย่างที่วูจินต้องการ

อย่างไรเสีย พลังเวทย์ ค่าสถานะ ทักษะต่างๆของเธอก็มาจากหินเพิ่มพลัง

ไม่ใช่ว่าประสบการณ์ต่อสู้ ประสบการณ์เคลียร์ดันเจี้ยนของเธอจะดีขึ้น ฮีซอลยังเป็นแค่มือสมัครเล่น

“อ้อ นายว่ามินชานยุ่งอยู่หรือเปล่า?”

“คงยังยุ่งอยู่นะครับ”

“นายมีเบอร์ของกิลด์ไททันหรือเปล่า?”

“เอ่อ ผมจะลองถามดูครับ”

ซุงฮุนโทรเข้าที่ทำงาน จากนั้นส่งโทรศัพท์มือถือให้วูจิน

“ท่านประธาน รองประธานจุงขอคุยด้วยครับ”

“ง่ะ คงห่วงอีกแล้วสิ”

วูจินรับโทรศัพท์

“แค่เบอร์โทร ส่งข้อความมาก็ได้”

[ท่านประธานมีธุระอะไรกับพวกเขา?]

“อ้า แค่มีเรื่องจะถาม”

[ผมถามให้เอง ได้คำตอบแล้วผมจะบอกท่านประธาน]

“ไม่ ฉันรู้ว่านายยุ่งอยู่ ส่งเบอร์มาก็พอ ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก”

[แน่ใจนะครับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่?]

“เฮ้อ”

วูจินทำเสียงแข็งขึ้น ทำให้มินชานหงอทันที

[เข้าใจแล้ว ผมจะส่งเบอร์ไปที่โทรศัพท์ท่านประธานนะ]

“ได้ ทำงานดีๆล่ะ ฉันใกล้จะถึงออฟฟิศแล้ว เพราะงั้นมากินมื้อเย็นด้วยกัน นายคงไม่มีเวลาออกจากออฟฟิศใช่ไหม? ฉันเอาจาจังเมียน”

“ผมก็เอาจาจังเมียนด้วยครับ”

“ผมเอาจัมปง”

วูจินยิ้มเมื่อซุงกูกับซุงฮุนพูดแทรก

“ได้ยินนะ? นายสั่งจาจัง 2 ที่ กับจัมปง 1 ที่ โทรหาฮีซอลด้วยว่าจะกินอะไร”

[เข้าใจแล้วครับ]

มินชานภาวนาอย่าให้วูจินก่อเรื่องมากไปกว่านี้ เขาตัดสายโดยไม่รู้ว่าวูจินได้รับคำภาวนาแรงกล้าของเขาหรือเปล่า

วูจินคืนโทรศัพท์ให้ซุงฮุน

ตริ๊ง

เสียงข้อความเข้า วูจินดึงโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา

[สายตรง แผนกเลขานุการกิลด์ไททัน xxxx]

“โทรไปต่างประเทศนี่ทำยังไงนะ?”

“ผมทำให้ครับ”

ซุงฮุนช่วยโทรให้ ซุงฮุนมองอย่างสงสัย

“เอ๋? เรามีล่ามเหรอครับ? คุณซุงฮุนพูดภาษาอังกฤษเป็นเหรอ?”

“อ๊ะ ไม่เป็นครับ”

ซุงฮุนตอบแล้วมองโร้ดเมเนเจอร์ เขาส่ายหน้าอายๆ วูจินมองพวกเขาลนลานกันแล้วยิ้ม

[ฮัลโหล]

[ผมคังวูจินจากกิลด์อลันดาล]

วูจินพูดภาษาอังกฤษแจ่มชัด ซุงกูกับซุงฮุนมองตาโต

[ผมจะต่อสายคุณไปทางหัวหน้ากิลด์เดี๋ยวนี้ครับ]

เลขานุการคงได้รับคำสั่งมาก่อน สายถูกส่งไปที่หัวหน้ากิลด์ทันที

[คุณคังหัวหน้ากิลด์อลันดาล มีอะไรให้ผมช่วยครับ?]

[คุณจำหัวที่ผมให้ดูตอนนั้นได้หรือเปล่า?]

[อัลอัสสาดใช่ไหมครับ?]

[โอ้ คุณรู้ชื่อเขา รวบรวมข้อมูลเสร็จแล้วเหรอ?]

[ไม่เชิงครับ เขาเป็นนักลอบสังหารชื่อดัง ก็เลย... เขาไม่ได้อยู่ในองค์กรไหนจริงๆ ทำตัวเหมือนทหารรับจ้าง เขาทำงานให้กลุ่มกบฏในอัฟกานิสถานเป็นส่วนมาก และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเขาทำงานในอิรักกับซีเรียด้วย เรากำลังพยายามอย่างหนักหาว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...]

[ผมรู้ว่าใคร]

[จริงเหรอครับ?]

วูจินยิ้ม แน่ล่ะ เขารู้ เขาถามอัล อัสสาดเอง วูจินรู้ว่าใครเป็นคนสั่งและสามารถสาวกลับไปที่คนบงการเบื้องหลัง

วูจินแค่อยากได้ความช่วยเหลือจากกิลด์ไททันเล็กน้อย

[คุณอยากจับคนบงการการก่อการร้ายครั้งนี้หรือเปล่า?]

กล้าส่งมือสังหารมาฆ่าเขา...

ได้เวลาล้างแค้นแล้ว


สารบัญ                                  บทที่ 89

1 ความคิดเห็น: