บทที่ 87 – ขยายกิลด์ (5)
ช่วงนี้มินชานยุ่งมาก
ราวกับว่าวูจินรู้สึกเหนื่อยแทน เขาเลื่อนตำแหน่งเฮมินเป็นกรรมการและให้เฮมินช่วยงานมินชาน
อินเตอร์เน็ต โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์กำลังลงข่าวครึกโครม
การเจรจาไม่บรรลุผลไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่เป็นเรื่องคือรัฐบาลชี้นำให้เผยแพร่เนื้อหาการเจรจาก่อนเวลา และหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง อลันดาลก็ปฏิเสธข้อตกลง
[คังวูจินกำลังต่อรองเรื่องอพยพไปสหรัฐอเมริกา?]
[รัฐบาลเกาหลีถูกปฏิเสธ]
[เกาหลีสูญเสียเราส์แรงค์ AA]
[ประธานกิลด์ฮวารางเผย กิลด์ใหญ่ทั้ง 3 เพียงพอกับการปกป้องเกาหลี]
[ญี่ปุ่น จีน ติดตามสถานการณ์ จำเป็นต้องหาเราส์ AA คนใหม่]
บทความส่งออกมาเรื่อยๆ และเป็นไปไม่ได้เลยถ้าจะอ่านมันทั้งหมด มินชานไม่สนใจบทความพวกนี้ เขาเพียงรับการติดต่อจากรัฐบาล
“ไม่ครับ ท่านประธานของเราตัดสินใจชัดเจนแล้ว ไม่มีอะไรต้องทบทวนอีก”
พวกเขาคิดว่านี่เป็นแผนเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ แต่การตัดสินใจของอลันดาลแน่นอนแล้ว วูจินไม่มีทางตอบรับข้อตกลงป้องกันประเทศ สิ่งเดียวที่มินชานทำได้คือตอบปฏิเสธ
ถ้ารัฐบาลเข้าใจก็ดี แต่พอเขาปฏิเสธข้อเสนอ พวกเขาก็กลับมาใหม่พร้อมข้อเสนอที่ดีกว่า
“เฮ้อ บ้าชะมัด”
ผลประโยชน์นั้นดีมากจนเขาอยากจะตอบรับเสียเดี๋ยวนั้นเลย แต่เขาจะทำอะไรได้ในเมื่อประธานบอกว่าไม่
มินชานยุ่งมาก แต่ไม่เกี่ยวกับที่ต้องตอบรัฐบาล คำขอสัมภาษณ์กิลด์อลันดาลที่ขอมาไม่หยุดหย่อนก็ไม่
“วันนี้ก็ปาไป 1,200 คนแล้วนะครับ”
“เฮ้อ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปฉันคงไม่ได้พัก”
นี่เป็นจำนวนจดหมายสมัครงานที่พวกเขาได้รับหลังจากประกาศรับสมัครงาน ถ้าวูจินให้คุณสมบัติที่ต้องการมาสักหน่อยคงง่าย แต่นี่ใครๆก็สามารถสมัครได้ กระทั่งเราส์แรงค์ F
ตามความเป็นจริงแล้ว คนที่มีความสามารถโดดเด่นแม้จะมีแรงค์ต่ำก็ถูกกิลด์อื่นชวนไปแล้ว เราส์ที่ยังไม่ถูกชวนคือแรงค์ E กับ F
แรงค์ C ขึ้นไปที่ไม่มีกิลด์ก็คือไม่ต้องการเข้ากิลด์ ดังนั้นจึงไม่มีจดหมายสมัครงานจากเราส์แรงค์สูงพวกนี้ จดหมายสมัครงานส่วนมากมาจากเราส์แรงค์ F
คิมเฮมินที่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นกรรมการอดอึ้งไม่ได้
“ตอนจัดเวลาสัมภาษณ์คงเหนื่อยน่าดู”
“ก็ต้องทำอยู่ดี มีคนสมัครเข้าหน่วยสนับสนุนกี่คน”
“แย่กว่านี้อีกครับ 3,200 คน”
“...อืม”
มินชานอึ้ง
วูจินเป็นคนเลือกเราส์เอง มินชานแค่ต้องจัดตารางและเตรียมห้องสำหรับสัมภาษณ์ก็จบ แต่กับหน่วยสนับสนุนไม่ง่ายอย่างนั้น เขาต้องเลือกคนอย่างระมัดระวังเริ่มจากขั้นอ่านจดหมายสมัครงาน
งานของจริงมันเริ่มตรงนี้
“เฮ้อ ยังไงก็ต้องเลือกล่ะนะ”
อลันดาลมีพนักงานมากกว่า 100 แต่คิดถึงจำนวนเราส์ที่จะเพิ่มเข้ามา ต่อให้มีคนมากกว่านี้ 10 เท่าก็ยังไม่พอ เราส์ธรรมดาหนึ่งคนต้องการทีมสนับสนุนอย่างน้อย 10 คน
เฮมินหัวเราะแม้จะมีกองเอกสารท่วมหัว
“ฮะๆ แต่เห็นยังสดใสอยู่เลยไม่ใช่เหรอครับ รองประธานจุง”
“จริง กรรมการคิม”
“ฮ่าๆๆ”
พวกเขาออกจากกิลด์แฮมเมอร์มาเดือนเดียวก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานกับกรรมการ
ช่วงนี้เพื่อนเก่าในกิลด์แฮมเมอร์โทรหาเขาบ่อยๆ บอกว่าถ้ามินชานให้งานพวกเขาจะเปลี่ยนมาอยู่ที่นี่...
กิลด์แฮมเมอร์ใหญ่กว่าอลันดาลมาก แต่อลันดาลร่ำรวยกว่า
“ถ้าดูจากความสามารถด้านฝึกของท่านประธาน พวกเราเหนือกว่าทุกคนเรื่องคุณภาพ”
“โฮ่ แน่อยู่แล้ว”
ซุงกูเป็นเราส์แรงค์ F มาก่อน ฮีซอลก็เช่นกัน
ก่อนพวกเขาไปอเมริกา ซุงกูก็กลายเป็นแรงค์ B แล้ว ฮีซอลยังไม่ถูกวัดระดับ แต่เมื่อเห็นเสือเขี้ยวดาบขนาดเท่ารถที่เธอพาออกมามินชานก็คลายใจ
ท่านประธานเลือกแต่เราส์ที่มีศักยภาพสูง
นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมท่านประธานจึงต้องการสัมภาษณ์คนมาสมัครงานทั้งหมดเอง
“แต่ ผมเป็นห่วงคุณซุงฮุนนิดหน่อยแฮะ”
“เขาเป็นคนหัวไว ไม่เป็นไรหรอก”
ถ้ามองอีกด้าน ซุงฮุนจะรับหน้าที่สำคัญ สุดท้ายแล้วเราส์คนใหม่หรือหน่วยสนับสนุนไม่มีผลอะไรมาก เป้าหมายหลักคือให้คังวูจินเคลียร์ดันเจี้ยนเรื่อยๆ และซุงฮุนต้องสนับสนุนเขา
เพราะอย่างนี้ห้องถัดจากห้องประธานคังวูจินคือห้องเลขานุการส่วนตัว และวูซุงฮุนครอบครองห้องนั้น เขาดูแลตารางเวลาของวูจินรวมถึงงานเล็กน้อยเช่นขับรถให้วูจิน
มีพนักงาน 20 คนช่วยเหลือ ทำให้วูซุงฮุนยิ้มกว้างและตั้งใจทำงานของตัวเองอย่างมีความสุข
“เอาล่ะ ตั้งใจทำงานเถอะ”
“ครับ ท่านรองประธาน”
“ฮะๆๆ หยุดเลย กรรมการคิม”
“ฮ่าๆๆ”
ความสัมพันธ์ระหว่างรองประธานกับกรรมการแนบแน่นดี บรรยากาศในที่ทำงานจึงดีมาก แต่พนักงานคนอื่นตอบเมล์ ตอบโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุดกันหัวปั่น
***
ดันเจี้ยน 5 ดาวของสถานีลีซูทางออกที่ 2
หรือเพราะเลเวลของมอนสเตอร์ในนี้ต่ำเกินไป? วูจินกว่าจะเก็บเลเวลจนเต็มเขาต้องฆ่ามอนสเตอร์ในนี้ไปสองในสาม
[เลเวลอัพ!]
วูจินหายกังวลเมื่อเลื่อนเลเวลถึง 70
เขาปลดทักษะใหม่
[เรียกอัศวินมรณะ]
จำต้องทำสัญญานาย-ทาสกับวิญญาณของอัศวินมรณะ (เลเวลไม่ต่ำกว่า 70) จึงเรียกอัศวินมรณะออกมา
ได้
อัศวินเหล่านี้รับตำแหน่งผู้บัญชาทัพ จำต้องปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างถูกต้องจึงจะได้รับความจงรักภักดีตอบแทน
พวกเขาสามารถเลื่อนระดับโดยการฝึกฝนและออกล่า ทักษะจะต่างไปตามเลเวลของอัศวิน
--
ทักษะร่วมใช้ –(TN – shared skill ทักษะที่เจ้าของทักษะให้คนอื่นใช้ด้วยได้)
เรียกม้าปีศาจ – ม้าปีศาจจะร่วมสู้กับอัศวินมรณะเมื่อถูกเรียกออกมา
จัดการกองทัพ – เมื่อเพิ่มเลเวลขึ้นมา 1 จะทำให้สามารถควบคุมโครงกระดูกเพิ่มขึ้น 10
บงการหน่วยรบ – แยกทหารโครงกระดูกให้มาอยู่ภายใต้การบัญชาการของอัศวิน
--
อัศวินคือพลังที่ทำให้วูจินสามารถควบคุมกองทัพได้เป็นหมื่นๆ
ค่าบงการของเนโครแมนเซอร์ทำให้วูจินควบคุมอันเดด ซึ่งก็คือมอนสเตอร์ประเภทหนึ่ง ได้
อัศวินมรณะเป็นผู้บัญชาการ สามารถควบคุมพวกโครงกระดูกได้
ถึงตอนนี้วูจินก็ไม่ต้องคุมพวกโครงกระดูกแล้ว เขาแค่ต้องควบคุมอัศวินมรณะ วูจินไม่ต้องเสียความคิดไปกับการควบคุมกองทัพขนาดใหญ่
[เลเวล 1 คิบะ]
[เลเวล 1 รัคโต]
[เลเวล 1 เวียร์]
[เลเวล 1 แรมสัน]
[เลเวล 1 ....]
อัศวินมรณะ 52 ตนที่วูจินไว้ใจถูกปลดผนึกไปอยู่ในห้องรออัญเชิญ วูจินเชื่อมต่อความคิดกับพวกเขา ดังนั้นเมื่อรู้สึกถึงพวกเขา วูจินยิ้ม
เลเวลต่ำไปหน่อย แต่เขาไม่สนใจ การเพิ่มเลเวลไม่ใช่เรื่องยากนัก
สงครามนี้ไม่จบในเร็วๆนี้ ศัตรูที่เขาต้องฆ่ามีล้นเหลือ
วูจินรู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนที่พึ่งพาได้อีกครั้ง
ถึงตรงนี้ วูจินตัดสินใจจบการล่าวันนี้ไว้เท่านี้ เขาตะโกนบอกซุงกูที่กำลังลากมอนสเตอร์อยู่ไกลๆ
“ซุงกู! จะเผาให้หมดก็ไม่ว่า จัดการให้หมดเลย”
“ครับลูกพี่!”
ซุงกูเปลี่ยนจากเหวี่ยงดาบไฟล่อมอนสเตอร์มาเป็นการไล่สังหาร วูจินมองอย่างพอใจเมื่อเห็นเปลวไฟระเบิดเป็นแห่งๆ
“ซุงกูโตขึ้นเยอะ”
ระหว่างซุงกูล่ามอนสเตอร์ที่เหลือ วูจินเอาหินผนึกออกมาจากคลัง
“อัล อัสสาด”
โชคดี วิญญาณเลเวล 70 ดวงแรกที่เขาได้มาเป็นเราส์นักรบ
นี่เป็นวัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้ในการสร้างอัศวินมรณะ
เขาดึงศพกับหัวที่ขาดออกมา จากนั้นทำลายหินผนึกวิญญาณเพื่อเรียกวิญญาณอัล อัสสาดออกมา
[สังหารเป้าหมาย!]
วิญญาณของอัล อัสสาดพุ่งออกมาเมื่อเห็นวูจิน แต่เปล่าประโยชน์ หมัดของเขาทะลุร่างวูจินไป เหมือนไม่เข้าใจสถานการณ์ วิญญาณของอัสสาดพยายามทุกทางที่เขาคิดว่าจะทำร้ายวูจินได้
วูจินยิ้ม ถ้าวิญญาณร้ายนับหมื่นดวงทำตัวน่ารักเหมือนอัสสาดจะดีแค่ไหนนะ?
“หยุด”
วูจินสั่ง
วิญญาณอัสสาดหยุดนิ่ง วูจินไปยืนตรงหน้ามัน วิญญาณดิ้นรน มันได้แต่มองวูจินเหมือนถูกจับมัด
“เป็นทาสฉันซะ”
[ไร้สาระ!]
“มาอยู่ใต้คำสั่งฉัน”
[ไม่มีทาง...]
“คุกเข่า!”
[อึก...]
ไม่เหมือนจิตใจที่แข็งขืนเต็มที่ วิญญาณของอัสสาดคุกเข่าลงตรงหน้าวูจิน
วูจินเป็นนักสู้ผู้ทรงเกียรติของ ทราช เทพแห่งการทำลาย เขาได้อำนาจเหนือผู้วายชนม์ในฐานะผู้ไม่ตาย เขาเป็นราชาแห่งความตาย!
ดวงตาอัสสาดกลิ้งกลอกไปมา วูจินมองพลางใช้ทักษะเรียกอัศวินมรณะ
พลังงานสีดำรวมตัวในมือของวูจินแล้วเปลี่ยนเป็นดาบคู่
มันเป็นดาบที่อัล อัสสาดใช้ อาวุธที่วิญญาณอยากได้
วูจินจับดาบคู่แล้วลดมันลงเหนือบ่าอัสสาดเล็กน้อย
“ยอมแพ้ซะ”
“ฉัน...ยอม...แพ้”
ถ้าเขาปาดคออัสสาด ด้วยอำนาจที่ได้จากเทพแห่งการทำลาย วิญญาณของอัสสาดจะสลายไป จบสิ้นอย่างแท้จริง
“ติดตามฉัน”
“ฉัน...จะ...ติดตามนาย”
วูจินส่งดาบคู่ให้ วิญญาณใช้สองมือรับดาบ
“ระบายความโกรธของนายไปที่ศัตรูของฉัน”
[ตามแต่...เจ้านายบัญชา...]
อัสสาดจับดาบมั่น
วิญญาณเขาเริ่มหมุนเป็นลมหมุนแล้วเข้าไปในร่างไร้ชีวิต หัวขาดเริ่มต่อติดกับตัว เนื้อหนังเน่าเปื่อยหล่นออก หัวกะโหลกสีดำมาแทนที่ ควันดำรวมตัวกันเป็นเกราะและผ้าสีดำพันหัวเป็นคอฟิเยาะห์ ดาบคู่คาดตรงสะโพก อัศวินมรณะคนใหม่ถือกำเนิด
“นายเหมือนนักฆ่าอาหรับเลย”
[…]
เขายอมจำนนต่อวูจินและกลายเป็นอัศวินมรณะ แต่ยังไม่เชื่อใจวูจิน แค่มองก็รู้ว่าเขาไม่มีความจงรักภักดีต่อวูจิน
[เลเวล 1 อัล อัสสาด]
อัศวินลำดับที่ 53 ของผู้ไม่ตาย คังวูจิน
เนื่องจากยังพยศจึงต้องการค่าบงการจำนวนมากเพื่อควบคุม
ทักษะร่วมใช้ – ม้าปีศาจ, จัดการกองทัพ, บงการหน่วยรบ
ทักษะเฉพาะ – ลบร่องรอย, ฝีเท้าผี, ดาบแห่งความตาย, เทพพิโรธ (คลั่ง)
จำนวนทหาร – 0/10
ต้องการค่าบงการ – 312 (ผลจากความเชื่อใจ ความจงรักภักดีและความเชื่อฟัง)
อัศวินแห่งความตายแต่ละตนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถนัดอาวุธไม่เหมือนกันและมีทักษะเฉพาะของตัวเอง วูจินหัวเราะอย่างพอใจเมื่ออ่านข้อมูลของอัล อัสสาด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอัศวินมรณะแบบนักลอบสังหาร
ข้อเสียคือค่าบงการ 312
เขาต้องใช้ค่าบงการเท่ากับควบคุมทหารโครงกระดูก 312 ตนเพื่อควบคุมอัล อัสสาด เป็นตัวเลขที่ไม่มีเหตุผลเลย
มันจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่ถ้าเขาอยากใช้ อัล อัสสาด วูจินต้องลดค่าบงการลงให้ถึงระดับพอรับได้
และเขาก็มีวิธีลดค่าบงการที่ได้ผลดี
“มาตรงนี้”
[…]
อัสสาดขยับตามคำสั่งวูจิน แต่ไม่ตอบ
หึ ทำแบบนี้ได้ไม่นานหรอก
วูจินเรียกนักรบที่ซื่อสัตย์ที่สุด สหายร่วมรบที่เขาร่วมสู้ด้วยนานที่สุด และเป็นเพื่อนของเขาออกมา
“คิบะ”
ควันดำก่อตัวข้างอัล อัดสาด ร่างนั้นใหญ่เกินกว่าจะเป็นมนุษย์
เขาสวมเกราะหยาบ ขวานใหญ่ด้ามหนึ่งขัดหลัง หมวกเกราะติดเขาหนึ่งข้างดูคุกคาม
หลังจากสู้ในสนามรบนานหลายปี หมอกสีแดงรอบตัวเขายิ่งดูรุนแรง
ลมหายใจรุนแรงเหมือนสัตว์ป่า
เมื่อร่างใหญ่แตะพื้น คิบะเห็นอัศวินมรณะคนใหม่ยืนอย่างอวดดี จึงถีบเข่าของอัล อัสสาด
ถ้าเข่าทรุดลงคงดี แต่พลังมหาศาลของคิบะทำให้ขาหลุดจากร่าง!
มือหยาบของคิบะกดบนหัวอัล อัสสาด
อัล อัดสาด คว่ำลง หน้าผากกับมือแตะพื้น
พร้อมกันนั้น คิบะคุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วกำหมัดข้างหนึ่งกระแทกพื้น
[นายของข้า ผู้ไม่ตาย!]
ในหมู่ออร์ค เขามีชื่อเสียงว่ากล้าหาญที่สุด ผู้นำของเผ่าปีกเทา
ออร์คลอร์ด คิบะ ไม่รู้สึกถึงเวลาที่ผ่านไปขณะอยู่ในห้องผนึก เขาได้เจอกับเจ้านาย คังวูจินผู้ไม่ตาย อีกครั้ง หลังจากถูกปลดผนึก
วูจินหัวเราะร่าเริงเมื่อเห็นคิบะ เข้มงวดไม่เปลี่ยน
“ไม่ได้เจอกันนานนะ”
หลังจากกลับมาที่โลก คังวูจินได้ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาคืนมา
มิติใหม่ของการบังคับให้คุกเข่า...ล้ำกว่าในหนังจีนอีก
เข้มเกิน
ตอบลบเป็นแค่ครีปอย่าซ่ามาก ทีมเราส์นี่น่าจะยังขาดอีกหลายถ้าเทียบกับกองทัพอันเดด ชอบเวลาตาวูจินปั้นคนจัง แรกๆเหวอหลังๆเริ่มชินซะทุกคน 555
ตอบลบ