วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 82

บทที่ 82 – กลับ (2)

วูจินลงตรงไหล่ทาง จากนั้นก็เรียกแท็กซี่

“ไปไหนครับ?”

“ซาดาง”

พูดเสร็จ วูจินหลับตานิ่ง

‘ต่อไปก็...’

อย่างแรก เขาจะกลับบ้านไปหาแม่กับโซอาแล้วก็กลับไปเข้าดันเจี้ยน เขาต้องเพิ่มเลเวลให้ถึง 70 ก่อนถึงจะสงบใจได้

หลังจากนั้น หาดันเจี้ยนที่ถูกรีเซ็ทให้ได้ชิ้นส่วนแห่งมิติ หาดันเจี้ยนที่ตอบรับเขาแล้วสร้างอาณาเขตมิติของตัวเอง จากนั้นก็เปิดประตูมิติไปยังอัลเฟน อ้อ ก่อนหน้านั้นต้องฝึกซังกู แล้วยังต้องหาเราส์คนใหม่มาฝึกอีกด้วยสินะ?

วูจินนั่งสมาธิจัดเรียงความคิดในสมอง ไม่นานแท็กซี่ก็มาถึงจุดหมายหน้าบ้านเขา

“25,000 วอนครับ”

“หือ แพงนะ”

“งานที่ผมทำนี่เสี่ยงชีวิตนะครับ”

วูจินเข้าใจ แต่ทุกคนที่ทำงานแถวสถานีรถไฟใต้ดินก็เสี่ยงชีวิตกันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ? วูจินควานหาในกระเป๋าแล้วก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขามีสีหน้าอายๆ

ข้าวของๆเขาอยู่ในกระเป๋าเดินทางนี่นา แล้วมันก็อยู่กับมินชาน

“ผมไม่มีกระเป๋าตังค์”

“...?”

คนขับแท็กซี่หนังตากระตุก มองวูจินอย่างกังวล วูจินหัวเราะร่า

“ฮะๆ ไม่ต้องห่วง ผมจะบอกให้คนเอาเงินมา”

ปกติมินชานเป็นคนถือเงิน วูจินจึงมักพกแต่โทรศัพท์ เขาโชคดีที่อย่างน้อยก็พกโทรศัพท์มือถือไว้

วูจินโทรหาแม่

ตู๊ดๆๆ

แม่ยังไม่รับสาย คนขับแท็กซี่มองมาอย่างระแวง

วูจินเริ่มอึดอัด สักพักแม่เขาก็รับโทรศัพท์ เมื่อวูจินได้ยินเสียงแม่ เขารู้สึกยินดีเหมือนดินขาดน้ำได้ฝน

[อ้าวลูก กลับมาแล้วเหรอ?] 

“ครับ ผมอยู่หน้าบ้านแต่ไม่มีเงินจ่ายค่าแท็กซี่ แม่ช่วยออกมาหน่อยสิ?”

[เอ๊ะ ตอนนี้แม่ไม่อยู่บ้าน]

“...”

ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย ตอนนี้ยังเป็นกลางวัน โซอาคงอยู่ที่โรงเรียน และแม่ก็ออกไปข้างนอก...

[ในบ้านน่าจะมีเงินอยู่นะ... ลูกเข้าไปหาที่ลิ้นชักสิ]

“ไม่เป็นไร ผมไปที่ทำงานแล้วกัน...”

ยังไงเขาก็ตั้งใจจะไปที่นั่นอยู่แล้วหลังจากพักสักหน่อย

“ลุง เลี้ยวรถกลับแล้วไปที่สถานีซาดางครับ”

“ทำไมจะไปที่นั่นล่ะคุณ?”

“ผมจะได้ให้เงินลุงไง”

“...”

นี่คืออะไร? ทางเลือกใหม่ของการปล้นแท็กซี่?

คนขับแท็กซี่มองวูจินอย่างกังวล วูจินหัวเราะ

“ลุงรู้เปล่าผมเป็นใคร?”

“ผมจะรู้ได้ไงว่าคุณเป็นใคร?”

“อ้าว? เห็นคนบอกว่าผมดังมาก...”

“...”

ความสงสัยในดวงตาของคนขับยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วูจินเกาหัวแกรก อืม สมัยนี้เป็นสังคมอินเตอร์เน็ต ถ้าชายคนนี้ไม่ดูโทรทัศน์หรือเช็คคำที่นิยมค้นหากันในเน็ต เขาก็ไม่รู้จักวูจิน

“ไปที่นั่นก่อนเถอะ ผมจะโทรหาคนรู้จัก”

“หืม”

คนขับยังมองเขาอย่างสงสัย แต่หลังจากขยับกระจกมองหลังใหม่ เขาสตาร์ทเครื่อง วูจินโทรหาซุงกู

[ท่านประธาน]

“เอ๊ะ? เฮมินเหรอ? ทำไมนายเป็นคนรับสายล่ะ?”

[ตอนนี้กรรมการฮงกำลังลงดันอยู่ครับ ผมอยู่สนับสนุนเขา]

ขนาดตอนวูจินไม่อยู่ ซุงกูก็ยังตั้งใจเคลียร์ดันเจี้ยน

“นายอยู่ไหน?”

[ผมอยู่หน้าฮงเดครับ]

“เชด ไปถึงนั่นเลย แล้วซุงฮุนทำอะไรอยู่”

[คุณซุงฮุนเข้าตลาดไปหาซื้อหินเพิ่มพลังครับ]

“อ่า เข้าใจล่ะ ไว้เจอกันที่ออฟฟิศนะ”

[ครับ พอกรรมการฮงเคลียร์ดันเจี้ยนเสร็จผมจะกลับไปที่ออฟฟิศทันทีเลยครับ]

“ได้”

ทำไมเขาถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้เพราะเงินแค่ไม่กี่วอนเนี่ย?

วูจินลองโทรหาจีวอน ไม่มีคนรับสาย

เขาตัดสายแล้วกดขมับแน่น

มีเงินเป็นพันล้านในบัญชีแล้วไง? ตอนนี้เขาไม่มีเงินใช้ วูจินมองรายชื่อในโทรศัพท์ที่มีอยู่น้อยนิดแล้วยิ้มเมื่อเห็นชื่อหนึ่ง

“ไม่ได้เห็นหน้าเจ้านั่นนานแล้วนะ”

วูจินเลือกชื่อ [เจมินตัวจริง] แล้วโทรออก

***

‘จากคำถาม ให้หาค่าที่ไม่ถูกต้อง’

เจมินกำลังจดจ่อกับแบบฝึกหัดเมื่อแรงสั่นทำให้เขาหันไป โทรศัพท์มือถือที่เขาวางตรงมุมโต๊ะกำลังสั่น
สมาธิของเจมินถูกทำลาย เขาขมวดคิ้วขณะมองเบอร์บนหน้าจอ

“เอ๋?ของพี่วูจิน”

วูจินไม่ได้ติดต่อเขานานแล้ว เจมินรีบรับสายอย่างดีใจ

“พี่”

[เอ่อ เฮ้ เจมิน นายอยู่บ้านเหรอ?]

“เอ๋?พี่รู้ได้ไง”

วันนี้เป็นวันก่อน CSAT เจมินเลยกลับบ้านเร็ว (CSAT – การทดสอบความสามารถด้านการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย)

[โอ้ ดีเลย]

วูจินแค่เดาเอา... ไม่ทันเจมินจะถามว่าวูจินเป็นไงบ้าง...

[ฉันอยู่ตรงร้านสะดวกซื้อตรงทางแยก เอาเงินมา 50,000 วอน]

...วูจินก็สั่งก่อน

“ห้าหมื่น?”

[อื้ม ออกมาหน่อย เอาเงินมาด้วย ฉันไม่มีเงินจ่ายแท็กซี่]

“...”

ทำไมพี่คนนี้ไม่เปลี่ยนเลย

พอทำอะไรก็เป็นข่าว ชื่อของเขาติดอันดับคำค้นหายอดนิยมในอินเตอร์เน็ต... เขาเป็นเศรษฐี ที่เพิ่งนั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับจากอเมริกา แล้วทำไมถึงมาไถเงินเจมินอีกแล้ว?

[เฮ้ เดี๋ยวคืนให้น่า นายคิดว่าฉันไม่มีเงินหรือไง?]

“...”

ถ้ามีเงินแล้วทำไมถึงสั่งให้เขาเอาเงินมาล่ะ?

“ถ้าพี่มีเงินก็จ่ายค่าแท็กซี่ไปสิครับ...”

[ฉันมีเงิน แต่ไม่มีค่าแท็กซี่]

“...”

พูดหรือตดวะครับ

[เดี๋ยวคืนให้น่า รีบมาเร็วๆ]

“...ครับ”

[เฮ มีแค่เจมินคนเดียวที่ฉันพึ่งได้]

พี่คนนี้ไม่เปลี่ยนเลย

เจมินปิดแบบฝึกหัดแล้วใส่เสื้อกันหนาว จีวอนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหลังอาบน้ำเสร็จ มองเจมินตาโตเมื่อเห็นเขาจะออกไปข้างนอก

“นึกว่าจะทำข้อสอบเป็นครั้งสุดท้ายเสียอีก จะไปไหนน่ะ?”

“พี่วูจินเค้าขอยืมเงินจ่ายค่าแท็กซี่”

“หา?”

“เดี๋ยวผมมา”

“เฮ้ เดี๋ยวเป็นหวัด พรุ่งนี้เธอมีสอบนะคิดจะไปไหนกัน? ฉันไปเอง ฉันตั้งใจจะไปข้างนอกอยู่แล้ว”

“ไม่เป็นไร ท่าทางพี่เค้ารีบ พี่ไปเป่าผมให้แห้งเถอะ”

เขาออกไปแค่แป๊บเดียว แต่พี่สาวเพิ่งอาบน้ำยังไม่ได้เป่าผมเลย เธอมีสิทธิ์เป็นหวัดมากกว่าเขาเสียอีก
เดือนพฤศจิกายนอากาศเย็นจนถึงขั้นหนาว

เมื่อออกมาข้างนอก เจมินซุกมือกับกระเป๋ากางเกงแล้วจ้ำเร็วๆ มีรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดตรงหน้าร้านสะดวกซื้อที่เขาไปซื้อของเป็นประจำ เจมินเดินไปหาแล้วเคาะหน้าต่างที่นั่งด้านหลัง

“โอ้ มาแล้วเหรอ? เงินล่ะ”

“นี่ครับ”

วูจินเอา 50,000 วอนจากเจมินแล้วส่งให้คนขับรถ

“เห็นไหมลุง ผมไม่ได้โกหก”

“ฮะๆ โธ่เอ๊ย”

ฟังจากที่คนขับแท็กซี่กับวูจินคุยกัน ดูเหมือนจะมีการโต้เถียงกัน วูจินรับเงินทอนแล้วส่งต่อให้เจมินทันที

“ที่เหลือคืนให้ทีหลัง”

คนอะไรแบบนี้.. ไม่สิ พี่คนนี้ก็แบบนี้ทุกที

“ครับ”

“ทำไมท่าทางหงอยๆ?”

“พรุ่งนี้ผมมีสอบ CSAT”

“โอ้ ขนาดฉันยังทำได้ไม่ดีเลย CSAT น่ะ”

วูจินมองเจมินอย่างแปลกใจ เจมินมองกลับขำๆ

“พี่นายทำอะไรอยู่?”

“เตรียมตัวออกไปข้างนอกครับ”

“ที่ไหน?”

“ไม่รู้ครับ โทรไปสิ เค้าเพิ่งอาบน้ำ สงสัยเพราะอย่างนั้นเลยไม่ได้รับโทรศัพท์พี่”

“งั้นเหรอ?”

“ผมกลับล่ะ ต้องระวังสุขภาพตัวเอง”

“อ่า ได้...”

เมื่อเห็นท่าทางหมดแรงของเจมิน วูจินหยุดเขา

“เอ้า ดื่มนี่ก่อน”

“เอ๋?”

วูจินยกขวดปริศนาสีน้ำเงินขึ้น

“อ้าปาก”

“ไว้ถึงบ้านแล้วผมค่อยดื่ม”

“ฉันต้องเป็นคนป้อนให้ อ้า”

เจมินอ้าปากอย่างจำใจ วูจินเป็นคนเทน้ำเข้าไปในปากเขา

“โอ้ อร่อยดีเหมือนกัน อะไรครับ?”

“มันเป็นยาที่ทำให้สมองปลอดโปร่ง มันจะช่วยเรื่องเรียนได้”

“ผม...ผมว่ามันได้ผลแฮะ?”

เขารู้สึกเย็นๆเหมือนเคี้ยวลูกอมรสมินท์ เขางงเมื่ออาการปวดหัวหายไปและรู้สึกหัวเบาสบายขึ้น
ตอนดื่มกาแฟกับแบคคัสยังไม่ได้ผลรวดเร็วเท่านี้เลย (แบคคัส – กระทิงแดงยี่ห้อหนึ่ง)

“ขอบคุณครับพี่”

“ฮะๆ ตั้งใจสอบล่ะ ถ้าฉันมีเวลาจะไปให้กำลังใจนาย”

“โอเคครับ”

หลังจากบอกลาเจมิน วูจินโทรหาจีวอน

[เฮ้ วูจิน ฉันกำลังจะออกไปหานายตอนที่ได้ยินว่านายอยู่นั่น]

“อ้าวเหรอ?”

ดูเหมือนจีวอนไม่ได้มีธุระอะไร เธอกำลังแต่งตัวเพื่อออกมาหาเขา วูจินวางแผนจะพักผ่อนจนกว่าคนสนิทของเขามารวมกันที่ออฟฟิซ ระหว่างนั้นจึงตัดสินใจออกเดทกับจีวอน

วูจินเข้ามายังร้านกาแฟแล้วนั่งลง

เขาไม่มีเงินจึงไม่สั่งอะไร วูจินเป็นลูกค้าขาประจำ พนักงานในร้านจึงไม่พูดอะไร ลูกค้ารอบๆเริ่มเห็นเขาและจำได้ พวกเขาทึ่งแต่ไม่เข้ามาคุยกับเขา ตอนนี้อารมณ์ร้ายของวูจินเป็นที่รู้กันดี และเขามีบรรยากาศที่ทำให้คนอื่นกล้าเข้าใกล้

พวกเขาเหลือบมองวูจินไม่หยุดเหมือนเขาเป็นลิงในสวนสัตว์

เมื่อจีวอนผ่านประตูร้านเข้ามา คนร้องอุทาน

‘ว้าว คนนั้นต้องใช่โดจีวอนแน่’

‘แฟนคังวูจินเหรอ สวยจริงๆ’

จีวอนเหมือนดารานักแสดง ไม่สิ ตอนนี้เธอมีชื่อเสียงมากกว่าดาราบางคนอีก เธอดังหลังจากที่มีข่าวลือในอินเตอร์เน็ตว่าเป็นผู้หญิงของคังวูจิน รูปร่างหน้าตาของเธอยิ่งเพิ่มชื่อเสียงเข้าไปอีก

จีวอนถ่ายรูปลงโฆษณาให้ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งเป็นงานพาร์ทไทม์ ทำให้มีคนสร้างแฟนไซต์สำหรับเธอ

“ฮิๆ รอนานไหม? สั่งอะไรหรือยัง?”

“ไม่ ฉันไม่มีเงิน”

“จริงด้วย นายพูดว่าไม่มีกระเป๋าตังค์นี่ อยากดื่มอะไรล่ะ ฉันทำงานได้เงินมาหน่อย ฉันเลี้ยงเอง”

จีวอนสั่งกาแฟสองแก้ว ทั้งสองนั่งตรงข้ามกัน มองหน้ากัน หนึ่งเดือนเต็มๆที่วูจินไปอเมริกา

“ไม่เจอกันนานเลยเนอะ”

“นั่นสิ เธอทำอะไรบ้างตอนฉันไม่อยู่?”

“ฉันเหรอ? ก็นั่นบ้างนี่บ้าง ฮุๆ มีเอเย่นต์ตั้งหลายที่โทรมาชวนฉันเป็นดารา”

วูจินหัวเราะเมื่อฟังจีวอนพูดอย่างอวดๆ

“เธออยากเป็นดาราเหรอ?”

“เปล่า แฮะๆ แค่มันน่าทึ่งดีน่ะ ฉันยังทึ่งไม่หายเลยที่อยู่ในที่คนเยอะๆได้โดยไม่กลัว”

ตัวเธอสมัยก่อนหวาดกลัวผู้คนมาก วูจินยักไหล่

“ทำไมไม่ลองเป็นดาราล่ะ? มีเอเยนต์ดีๆติดต่อมาบ้างไหม?”

“ก็มีนะ แต่โทรศัพท์ที่ฉันรออยู่ยังไม่มาเลย”

“จากที่ไหนล่ะ?”

“ไม่ใช่บริษัทธุรกิจบันเทิงนะ แต่เป็นสำนักพิมพ์...”

“อ๋อ”

นึกว่าจีวอนพูดเล่นเสียอีกตอนบอกว่าอยากเป็นนักเขียนนิยายรัก ท่าทางเอาจริง ดูเธอจริงจังกับมันพอควร

จีวอนถอนหายใจ

“เฮ้อ หรือว่าฉันจะมีความสามารถไม่พอนะ? ปฏิกิริยาจากคนเขียนก็ไม่ค่อยดีด้วย”

“หืม? พวกเขาว่าไง?”

“ฉันถูกว่าๆเนื้อเรื่องมันไม่น่าจะเป็นไปได้”

“เป็นไปไม่ได้?”

“เนื้อเรื่องมันไม่มีเหตุผล...”

“มันเป็นเรื่องยังไง”

“ก็ เรื่องเป็นแบบนี้...”

จีวอนตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงนิยายของตัวเองคร่าวๆ

นักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งถูกอัญเชิญไปต่างโลก เขาฝึกฝนจนกลายเป็นหนึ่งในราชาของโลกนั้น จากนั้นเขากลับมาที่โลก พระเอกกลับมาเพื่อช่วยผู้หญิงที่เขารักในตอนที่เธอกำลังถูกมอนสเตอร์ทำร้าย

วูจินฟังแล้วงง

“นั่นมันฉันนี่”

“ใช่ ฉันเขียนเรื่องนี้ตอนคิดถึงนาย...”

จีวอนหน้าแดง

“ก็ตรงใช้ได้ แล้วทำไมพวกนั้นบอกว่าเป็นไปไม่ได้??”

จีวอนลังเลแล้วพูดเสียงเบา

“พวกเขาบอกว่านิสัยเด็กที่ถูกเรียกมันแปลกเกินไป...”

“หา? เด็กที่ถูกเรียก?” (TN- Ee-goggaeng เห็นว่าเป็นสแลงเรียกวัยรุ่นที่ถูกส่งไปต่างโลก คนแปลอ่านคำนี้ไม่ถูกเลยขอผ่านค่ะ)

“อ๊ะ หมายถึงนักเรียนม.ปลายที่ถูกส่งไปต่างโลกน่ะ...”

วูจินขมวดคิ้ว

“ไม่เข้าใจแฮะ ทำไมถึงไม่มีเหตุผลล่ะ”

“ใช่ไหม?”

จีวอนพยักหน้าแรงๆ จะไม่มีเหตุผลได้ไง? นี่เป็นเรื่องที่เอามาจากบุคคลจริงนะ

“ถ้าเด็กที่ถูกเรียกกลับบ้าน เขาก็ยังเป็นเด็ก หรือคิดว่าเขาจะโตขึ้นแล้วกลับมาแบบผู้ใหญ่?”

“ใช่ไหมล่ะ? นั่นแหละที่ฉันพยายามจะเขียน”

“อีกอย่าง คนที่เป็นตัวร้ายตอนอยู่โลกนั้น ถ้ากลับมาแล้วทำตัวเป็นฮีโร่ไม่ยิ่งแปลกเหรอไง?”

“ใช่ๆ คิดเหมือนกันเลย”

วูจินพูดและจีวอนเห็นด้วยอย่างยิ่ง

“ฉันอยากอ่านที่เธอเขียน”

“หา? มันอายนะ...”

จีวอนลังเลก่อนที่จะเปิดเว็บที่เธอลงนิยายไว้ในโทรศัพท์วูจิน

วูจินอ่านแล้วประทับใจ

‘ฉันนี่?’

นิสัยของตัวละครหลักเหมือนวูจินไม่ผิดเพี้ยน เมื่ออ่านไปถึงท้ายตอน เขาเห็นคำด่าสุดสร้างสรรค์มากมายพุ่งเป้ามาที่คนเขียน

เหมือนเขาเป็นคนถูกด่าเลย วูจินจึงขมวดคิ้ว

ในคำด่าสร้างสรรค์เหล่านั้น วูจินถามอันที่เขาไม่เข้าใจ

“นี่เขาพูดว่าอะไร?”

“ตรงไหน?”

จีวอนมองที่โทรศัพท์เธอ

[หมาลายจุด] – จะเลิกก็ตอนนี้ล่ะ

จีวอนหัวเราะแห้ง

“แปลว่า...”



สารบัญ                                    บทที่ 83

2 ความคิดเห็น: