วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 73

บทที่ 73 – การก่อการร้าย (2)

ทันทีที่เห็นจรวดพุ่งมา วูจินออกวิ่ง

“ฮึบ”

เขาวิ่งไปทางหน้าต่างแทนที่จะหนีไปทางประตู

เพล้ง!

ร่างวูจินกระแทกกระจกหน้าต่างหนาจนแตก เขากระโดดออกจากขอบหน้าต่าง พุ่งตัวไปกลางอากาศ

วูจินกระโดดไปทางจรวด เงาร่างของเขาฝ่าความมืดตามแสงเลเซอร์

จรวดพุ่งมาทางเขาด้วยความเร็วสูง ช่วงเวลาสั้นๆวูจินออกมาจากโรงแรมได้ไม่ไกล ระเบิดจะรุนแรงขนาดไหนกันนะ? เขารับมันในโรงแรมไม่ได้เพราะมีจุงมินชานอยู่ รวมทั้งคนจำนวนมากก็อยู่ในนั้น

ระหว่างวูจินลอยกลางอากาศ เขาต่อยหัวจรวด

ถ้าเปลี่ยนทิศทางของมันได้ก็ดี แต่ถึงไม่ได้ก็ช่าง

ตูม!

พลังงานระเบิดออก เกราะผีที่ห่อหุ้มวูจินไว้เสมอทำงานเร็วกว่าการระเบิด บริเวณที่เกราะหุ้มหนาที่สุดคือกำปั้นของวูจิน มันสร้างเกราะหุ้มหลายๆชั้นป้องกันมือเขาไว้

กึง!

แรงระเบิดถูกเกราะผีกันไว้ เปลวไฟจึงระเบิดขึ้นฟ้า

วูจินรับแรงสะท้อนที่เกิดจากการระเบิด ร่างเขาร่วงลงพื้นเร็วกว่าเดิมหลายเท่า เขาทะยานผ่านตึกอาคารโดยหลบพวกมันได้เฉียดฉิว จากนั้นปะทะเข้ากับถนนจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่

คลื่นกระแทกส่งผลให้สัญญาณกันขโมยของรถที่จอดอยู่รอบๆดังระงม

ฝุ่นผงจากถนนที่ถูกทำลายลอยคลุ้ง ท่ามกลางทั้งหมดนั้น วูจินทรงตัวขึ้น

เกราะผีรับแรงระเบิดจากจรวดได้จริง แต่วิญญาณที่เขาเก็บไว้ในเกราะสลายไปกลางคัน แรงปะทะกับพื้นหลังจากนั้นเป็นวูจินรับไว้เอง

“อูย ทำแบบนี้ในอเมริกาก็ได้ด้วยเหรอ?”

วูจินปาดเลือดที่กระอักออกจากปากออก หน้าอกเขาปวด หายใจลำบาก ดูเหมือนซี่โครงจะหัก

“ฮู้ว”

วูจินใช้วิญญาณที่กักขังไว้ไปหมดจึงสกัดวิญญาณมารักษาตัวไม่ได้ เขาไม่อยากฆ่าเอาวิญญาณของคนที่มองออกมาจากหน้าต่างบ้านอย่างแปลกใจ

ถ้าเขาเป็นผู้ไม่ตายของอัลเฟน เขาคงฆ่าไปแล้ว แต่วูจินบนโลกมีทางเลือกอื่น

เขาซื้อโพชั่นจากร้านแลกเปลี่ยนความสำเร็จมาดื่ม

“อืม”

ร่างกายเริ่มฟื้นสภาพ ความเจ็บบรรเทาลงแต่วูจินเริ่มหงุดหงิด

จรวดในอเมริกา... ไอ้บ้าที่ไหนทำวะ?

ฝีมือกิลด์ไททันรวมหัวกับกระทรวงกลาโหม? หรือเป็นองค์กรอื่น?

ใครก็ช่าง นี่มันประกาศสงครามกับเขาชัดๆ ตอนเกาหลีเหนือ เขาโดนระเบิดในที่แคบอย่างสถานีรถไฟใต้ดิน และเขาเกือบไม่รอด ถ้าไม่มีเกราะผีเขาคงตายเปล่า

“ทำไมพวกมันถึงโจมตีฉัน?”

เขารู้ว่าพวกที่โจมตีเขาเป็นคนละพวกกัน แต่ส่วนสำคัญคือพวกมันต่างมุ่งเป้ามาที่เขา นี่เป็นการยืนยันให้เขาแน่ใจว่าคนบนโลกไม่อาจร่วมมือร่วมใจกันต่อต้านทราห์เน็ต

ไม่สิ มันเป็นไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว

เขาไม่ได้พยายามขอความร่วมมือจากทุกคน เขาแค่อยู่ไปตามประสา เขาตัดสินใจแสดงให้คนบนโลกเห็นว่าเขาเป็นคนแบบไหนโดยไม่แยแสสายตาคนอื่น จะสร้างศัตรูบ้างก็ช่าง

ถ้าเขาสร้างศัตรูก็หมายถึงว่าเขาได้สร้างพวกเดียวกันด้วย

วูจินต้องปรับเปลี่ยนแผนอีก

ใครจะรับบทผู้นำปกป้องโลก?

กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว? เราส์ที่ครอบครองพลังไว้? หรือบรรดาประเทศที่มีกำลังทหารเข้มแข็งที่สุด?

ไม่ว่าไอ้เวรที่ไหน ถ้ามีพลังสักหน่อยก็ต้องพยายามฉวยตำแหน่งผู้นำทั้งนั้น

ทราห์เน็ตจะโจมตีเมื่อโลกแบ่งกำลังเป็นฝักฝ่าย

ทราห์เน็ตจะยกกองทัพนับไม่ถ้วนมา ส่วนโลก รอจนขุมพลังต่างๆเริ่มล้มหายถึงจะเริ่มหันมาร่วมกัน

นี่เป็นแบบฉบับที่เขาเจอมาแล้วตอนอยู่อัลเฟน

ตอนที่คังวูจินถูกเรียกตัวไป เป็นช่วงสงครามดุเดือดระหว่างกองทัพพันธมิตรกับกองทัพของทราห์เน็ต
หลายคนตาย ดินแดนกว้างใหญ่ถูกทิ้งร้าง ความเห็นของวูจินไม่มีความหมายในกองทัพพันธมิตร เขาจึงตัดสินใจออกมาสร้างกองทัพของตัวเองท่ามกลางดินแดนรกร้าง

เขาจะสร้างกองทัพบนโลกไปเงียบๆอีกไหม?

ถ้าอยากจะทำพลาดอีกรอบก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว

“ถ้าโผล่หน้ามาเจอกันตรงๆก็ดีสิ...”

ถ้าเป็นแบบนั้นวูจินจะได้เอาพวกมันมาเป็นตัวอย่างให้โลกรู้ซึ้งว่าเขาเป็นคนแบบไหน

เขาไม่สนว่าจะทำให้คนกลัวเขาหรือเปล่า

ศัตรูที่โหดร้ายกว่าเขาอยู่ตรงหน้า โลกต้องร่วมมือกัน วูจินจะเป็นคนนำโลกต่อต้านทราห์เน็ต อย่างน้อยเขาต้องมีตัวตนมากพอให้คนรับฟังเขา

เพื่อเป้าหมายนี้เขาไม่สนว่าตัวเองจะมีชื่อเสียงเลวร้ายขนาดไหน

ปัญหาคือ...

“มันเร็วไป...”

เหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเร็วกว่าที่วูจินคาดไว้

เขาไม่ได้ทำตัวเรียบร้อย แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการสร้างศัตรู ที่เขาทำคือเผยตัวตนแท้จริงของตัวเอง

แล้วไอ้ฉลาดน้อยที่ไหนถึงอยากรีบจัดการเขานัก?

ปับๆๆๆ

วูจินเงยหน้า เฮลิคอปเตอร์ลอยลำกลางอากาศห่างไปไกลกำลังบินจากไป

“บิบิ ตาม”

[ได้จ้า]

เกิดควันดำ บิบิลอยตามลมไปถึงใต้ฮ.แล้วเปลี่ยนกลับเป็นแมวเกาะไว้แน่น

“เฮ้อ ไปดูหน้าไอ้เวรพวกนั้นหน่อยดีไหม?”

วูจินวางกาเกบิไว้กับคนยิงเลเซอร์ เขาเดินไปทางที่ๆมีพลังของกาเกบิอยู่

***

“ท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์ ประธานกิลด์อลันดาล คุณคังวูจินมาถึงสนามบินแล้วค่ะ”

คำพูดของมิสซิสฮามิลตันทำให้เมโลดี้สะดุ้ง

‘ทำไมพอได้ยินชื่อคนเกาหลีคังวูจินแล้วต้องตกใจขนาดนั้นนะ?’

ฮามิลตันสงสัยว่าคนจากอัลเฟนอย่างเมโลดี้มารู้จักคนเกาหลีได้อย่างไร และเธอก็สงสัยว่าทำไมเมโลดี้ต้องตกใจทุกครั้งที่ได้ยินชื่อนี้ แต่เธอถามไม่ได้

ฮามิลตันเป็นสาวกของอาเรีย เมโลดี้เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์คนสำคัญ

“แน่ใจนะว่าเราไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้เขาไม่พอใจ?”

“ไม่ค่ะ ดิฉันขอให้ทางกิลด์ไททันพาเขาไปโรงแรมโดยดูแลเป็นพิเศษ”

“...”

เมโลดี้เม้มปากไม่ให้สั่น

เมื่อนึกว่าพวกเขาจะต้องเจอกัน เมโลดี้อดตัวสั่นไม่ได้ วูจินคงรู้ว่าเธออยู่ที่นี่เลยมาหาเธอ

เธอหลบไม่ได้ วิธีเดียวคือเจอกันตรงๆ แต่เธอก็อดกลัวไม่ได้

ไม่นะ เธอต้องเป็นคนไปหาเขาก่อนไม่ใช่เหรอ?

เขาเป็นคนอารมณ์ร้อน ถ้าเธอไม่ไปทักทายเขาก่อนเขาอาจจะโกรธก็ได้?

‘ถ้าเป็นเขาก็อาจเป็นไปได้’

สตรีศักดิ์สิทธิ์ลุกพรวดขึ้น

“เขาพักที่ไหน?”

“อะไรคะ?”

ฮามิลตันตกใจมาก เมโลดี้เป็นบุคคลสำคัญรองจากเทพีอาเรีย คังวูจินคู่ควรเหรอ?

“ฉันต้องไปหาเขา”

“...ฉันจะไปเตรียมอัศวินศักดิ์สิทธิ์ค่ะ”

ธุระของสตรีศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่จัดการเสร็จในโบสท์อาเรียในสำนักงานใหญ่ของกิลด์ไททัน แต่บางครั้งเธอต้องจัดงานข้างนอก จึงมีอัศวินศักดิ์สิทธิ์คุ้มกัน

อัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั่วไปมีความสามารถระดับเราส์แรงค์ B ขึ้นไป ผู้คุ้มกันของเธอเป็นกลุ่มที่เข้มแข็งที่สุดในโลก

“ถือเป็นเกียรติของผมที่ได้ติดตามท่านครับ สตรีศักดิ์สิทธิ์”

“ผมขออาสารับใช้ท่านครับ”

อัศวินศักดิ์สิทธิ์แย่งกันอาสา อัศวินสิบคนถูกเลือกออกมา

พวกเขาร่วมทางกับเมโลดี้มุ่งหน้าไปที่โรงแรมที่คังวูจินพัก

มีรถ 3 คัน สตรีศักดิ์สิทธิ์อยู่ในรถคันที่สอง เจมส์นั่งข้างเธอ

สตรีศักดิ์สิทธิ์รักษาโรคที่ไม่มีทางรักษาให้ลูกสาวของเขา หลังจากได้เจอปาฏิหาริย์เข้ากับตัว เจมส์กลายเป็นสาวกที่เคร่งครัดที่สุดคนหนึ่งของโบสถ์อาเรีย

เขาเคยเป็นเราส์แรงค์ A ตัวแทนของกิลด์ไททัน แต่ตอนนี้เขาเป็นหัวหน้าอัศวินศักดิ์สิทธิ์

“ท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์กังวลเรื่องอะไรอยู่หรือครับ?”

“ไม่มีอะไร”

ความกระวนกระวายใจฉายชัดในดวงตาสตรีศักดิ์สิทธิ์ เจมส์ไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้ สตรีศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเคยเห็นปลอดโปร่งเยือกเย็นอยู่เสมอ เหมือนนางฟ้าจากสวรรค์ งดงาม องอาจสมเป็นตัวแทนของเทพธิดา

“เฮ้อ ฉันไม่เป็นไร โปรดอย่ากังวลเรื่องฉันเลย”

“ครับ”

เมื่อเห็นเมโลดี้กระสับกระส่าย เจมส์ตัดสินใจจะตั้งใจคุ้มกันเธอให้ดี

ขณะพวกเขามุ่งหน้าไปทางโรงแรมรถก็หยุดวิ่ง

“เกิดอะไรขึ้น?”

“รอสักครู่ครับ...”

เจมส์แตะเครื่องฟังที่หูแล้วพูด

“มีอะไร?”

[ซ่า มีระเบิดใกล้ๆ]

“อะไรนะ?”

เจมส์มองผ่านที่นั่งคนขับ เขาเห็นภาพเมืองข้างหน้า มีควันสีหนาลอยเหนือเมือง นี่เป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ
ที่หน้าต่างรถสั่นเมื่อกี๊เป็นผลสะท้อนจากการระเบิดเหรอ?

“ดูเหมือนจะมีการก่อการร้าย เพื่อความปลอดภัยของท่านเราต้องกลับแล้วครับ”

“...”

สตรีศักดิ์สิทธิ์ส่ายศีรษะ

เขากำลังอาละวาดเหรอ? เธอควรไปดูไหมนะว่าเกิดอะไรขึ้น?

“ฉันต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

“เราต้องกลับครับ ผมจะรายงานท่านหลังจากหาข้อมูลได้แล้ว”

“...”

สตรีศักดิ์สิทธิ์เงียบ เจมส์สั่งการคนในทีม

“เราจะกลับโบสถ์ นิค พาเด็กๆไปดูว่าเรื่องอะไร”

[ทราบแล้ว]

รถสองคันเลี้ยวกลับ คันสุดท้ายมุ่งหน้าไปยังที่เกิดระเบิด

***

นิคยืนเบื้องหน้าหลุมขนาดใหญ่

“อุกกาบาตตกตรงนี้เหรอไงเนี่ย?”

มองไปรอบๆ แรงกระแทกไม่ทำให้ตึกหลังไหนถล่ม แต่รอยแตกตามกำแพงและรถที่เสียหายมีไม่น้อย แล้วยังหลุมใหญ่นี่อีก

หนึ่งในสมาชิกทีมที่ถูกส่งดูลาดเลากลับมา

“นายคงไม่เชื่อ แต่มีคนหล่นมาตรงนั้น มีพยานเห็นเยอะ”

“ศพล่ะ?”

จิมมี่ยักไหล่

“ไม่ตาย พยานบอกว่าเขาเดินออกไปเฉยๆ”

“ล้อเล่นเหรอจิมมี่ ไม่พูดซะเลยล่ะว่ามีเทอร์มิเนเตอร์มา? เจอแรงปะทะที่ทำให้เกิดคลื่นกระแทกระดับนี้เข้าไปนายรอดเหรอ?”

“ใครจะรู้ ถ้าเป็นเราส์สายกายภาพก็อาจเป็นไปได้”

“ฮืม”

ที่เขาพูดก็มีเหตุผล ถ้าเป็นเราส์สายเวทย์คงตายเพราะถูกยิง แต่กระสุนทะลุผิวของเราส์สายกายภาพไม่ได้ด้วยซ้ำ เราส์หลายคนมีผิวเหล็กกายเหล็ก

อย่างน้อยต้องเป็นเราส์สายกายภาพแรงค์ B ขึ้นไปถึงจะรอด เราส์สายป้องกันหล่นมาจากฟ้าเหรอ?

เพราะอะไรล่ะ?

เสียงใบพัดทำให้นิคเงยหน้าขึ้น เขาเห็นเฮลิคอปเตอร์รายงานข่าวบนฟ้า เมื่อมองรอบๆก็เห็นนักข่าวกำลังถ่ายรูป

“กลับเถอะ”

“แบบนี้เหรอ? แล้วเรื่องตรวจสอบล่ะ?”

“เดี๋ยวข่าวก็บอกเอง”

จิมมี่หัวเราะลั่นเมื่อนิคตอบง่ายๆ

“ก็ได้ กลับกันเถอะ”

อัศวินศักดิ์สิทธิ์มุ่งหน้ากลับโบสถ์

***

หน้าห้องพักของคังวูจิน

“โอย ขอร้องล่ะ”

จุงมินชานยืนหลังพนักงานที่กำลังใช้มาสเตอร์คีย์เปิดประตูห้องพัก เขาขยับเท้าไปมาอย่างร้อนใจ ตอนเขาอาบน้ำอยู่ตึกก็สั่นและเขาได้ยินเสียงระเบิด

มันสั่นเหมือนเกิดแผ่นดินไหว

สิ่งแรกที่มินชานนึกถึงคือคังวูจิน

เขารีบมาที่ห้องวูจินทันที แต่ประตูล็อกไว้ และยังไม่มีเสียงตอบจากในห้อง ด้วยเหตุนี้มินชานจึงรีบไปตามพนักงานทันที

“โอย ท่านประธาน ขอร้องล่ะ”

เมื่อประตูเปิดออก มินชานเห็นด้านในเป็นห้องมืด

เมื่อเปิดไฟ ลมที่พัดเข้ามาในห้องทำให้จุงมินชานตัวชาวาบ

“อา”

มินชานมองหน้าต่างพังด้วยท่าทีสิ้นหวัง

“ท่านประธาน”

เขารู้สึกคับแค้น ตอนได้ยินเสียงระเบิดเขาคาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้น

‘ท่านประธานเป็นคนทำ’

จุงมินชานมองไปนอกหน้าต่าง จากนั้นมองหาทั่วห้อง แต่ไม่เจอคังวูจิน

“เฮ้อ”

ท่านประธานมาก่อการร้ายในประเทศอเมริกาเหรอ? ถึงเป็นเขาก็ตามแก้ปัญหาไม่ไหวหรอกนะ

ไหนบอกว่าจะไม่ก่อเรื่องไง...

มินชานทรุดลงต่อหน้ากระเป๋าเดินทางที่ถูกรื้อของวูจิน





สารบัญ                                             บทที่ 74

2 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ
    อากาศเปลี่ยนรักษาสุขภาพนะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รักษาสุขภาพเช่นกันค่ะ ^^ หนาวอีกแล้ว

      ลบ