บทที่ 74 – การประชุม
วูจินตามชายคนนั้นเป็นเวลานาน
เขาห่างจากโรงแรมไปมากแล้ว วูจินกำลังเดินช้าๆไปตามซอยเล็กๆในเมือง
เจ้านั่นเริ่มใช้เส้นทางวกวน ต้องรู้แล้วแน่ๆว่ากำลังถูกตาม
“รู้ตัวแล้วแฮะ”
แบบนี้ตามไปก็ไม่มีประโยชน์ มันคงไม่โง่ขนาดกลับรังเดิม
วูจินลังเล
เขาให้กาเกบิตามสิงเจ้านั่นแล้ว
จะปล่อยมันไป เพื่อให้กาเกบิเอาข้อมูลมาดีไหม?
กาเกบิเมื่อซ่อนอยู่ในเงาใช่ว่าจะไม่มีใครตรวจพบได้ เราส์ที่ประสาทสัมผัสดีจะรู้สึกผิดปกติ
ที่จริงแล้ววูจินไม่ถนัดเรื่องสะกดรอย ดักฟัง เรื่องลักพาตัว ทรมาน ข่มขู่เขาก็ไม่อยากทำ...
“ไว้จับมันได้แล้วค่อยคิดอีกทีแล้วกัน”
วูจินเร่งฝีเท้า เมื่อเลี้ยวตรงหัวมุม เขาเห็นชายคนหนึ่งกำลังถือเคสกีตาร์อันใหญ่
‘เป็นมัน’
วูจินเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ มันหันมามองเขา
ทั้งคู่หยุดเดิน สบตากัน
[เลเวล 71 อัล อัสสาด]
เจ้านั่นออกวิ่ง วูจินตามไป
‘วงแหวนที่ 7 เชียว?’
นี่เป็นครั้งแรกที่วูจินเจอเราส์เลเวลเกิน 70
นี่หมายความว่าศัตรูเป็นเราส์แรงค์ AA มีเราส์หลายคนที่มีเลเวลเกิน 60 หากไม่เจอเราส์เลเวล 70 บ้างคงแปลก
ต่อไปคงมีอีกหลายคนที่ทะลุกำแพงวงแหวนที่ 6 เข้าสู่วงแหวนที่ 7
นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้วูจินกำลังไล่ตามเราส์ที่เป็นหนึ่งในเราส์ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลก
“ไอ้เวรพรรค์นี้ตั้งใจเล่นงานฉันเหรอ?”
วูจินยิ่งสงสัย เขาอยากรู้ว่าใครเป็นคนสั่งการชายคนนี้ หรือว่าเขาจะกลายเป็นศัตรูของกลุ่มอำนาจใหญ่
วูจินเร่งความเร็ว แต่เจ้านั่นก็เร็วพอดู การเข้าไปใกล้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“เหมือนมันจะจงใจให้ฉันตามแฮะ?”
ความเร็วของมันแค่พอไม่ให้ถูกวูจินจับได้ ระยะห่างระหว่างทั้งสองคงที่ ที่จริงแล้วเจ้านั่นไม่ร้อนรนเลย
วูจินเดาว่าเจ้านั่นเป็นเราส์สายกายภาพ และดูท่าจะฝึกฝนมาอย่างดี ลียุนฮีเทียบไม่ติด
“สนุกแฮะ”
วูจินเป็นเนโครแมนเซอร์ แต่เขาก็เป็นวอริเออร์ด้วย เขาใช้ทักษะพุ่งตัวเพิ่มความเร็วขึ้นอีกหลายเท่า
“จับได้แล้ว...?”
วูจินเกือบจะคว้าเคสกีตาร์ไว้ได้แล้ว แต่ดูเหมือนเจ้านั่นจะมีทักษะที่คล้ายกัน มันเพิ่มความเร็วขึ้น
พรวดพราด ทิ้งระยะห่างจากวูจินอีก
‘ดูมันทำ’
มีใครบนโลกนี้ไหมที่ทำให้วูจินสนใจขนาดนี้? วูจินเองก็อาจเป็นศัตรูแข็งแกร่งคนแรกที่ชายคนนั้นเจอก็ได้
หลังจากวิ่งหนีสักพัก เจ้านั่นหยุดตรงหน้าสถานีรถไฟใต้ดิน มันกระดิกนิ้วพลางมองมาทางวูจิน
“หา”
มีเพียงถนนสองเลนกั้นระหว่างพวกเขา แต่มันยังกล้าท้าทาย วูจินเห็นแล้วคิด สมัยนี้... ไม่ใช่สิ ช่วง 10 ปีมานี้ เขาไม่เคยเห็นใครหาญกล้าท้าทายเขาต่อหน้า
มันยิ้ม
นี่มันนึกว่าตัวเองเป็น บรูซ ลี หรือไง?
ยิ้มเสร็จ ชายคนนั้นเข้าดันเจี้ยน วูจินเดาะลิ้นอย่างทึ่ง
“ถ่ายหนังอยู่เหรอวะ? น่ารักแฮะ”
ไม่สนแล้วว่าใครอยู่เบื้องหลังเจ้านั่น วูจินตัดสินใจฆ่าไอ้เปรตนี่
บาเรียก่อตัวขึ้นหลังชายคนนั้นเข้าดันเจี้ยน
วูจินเข้าดันเจี้ยนไป
***
อัล อัสสาด
เกิดในอัฟกานิสถาน เมื่ออายุ 10 ปี พ่อขายเขาให้กองกำลังติดอาวุธแห่งหนึ่ง
ได้เห็นพ่อจับเงินจำนวนน้อยนิดนั้นอย่างดีใจ อัสสาดตัดสินใจเปลี่ยนตัวเองเป็นสัตว์ประหลาด
เขาใช้มีดและปืนเก่งทีเดียว เด็กรุ่นเดียวกับเขาถูกใช้เป็นตัวล่อกระสุน แต่อัสสาดโตขึ้นเป็นนักรบที่เก่งกาจ
โลกที่เขาอยู่มีสงครามไม่จบสิ้น
ดันเจี้ยนเบรกเกิดตอนเขาอายุ 20 และเปลี่ยนโลกให้ยิ่งโกหาหลยิ่งขึ้น สงครามมีก่อนเกิดดันเจี้ยนเบรก และยังคงมีต่อไป
สิ่งเดียวที่เปลี่ยนคือเขากลายเป็นเราส์
หัวหน้ากองกำลังเห็นเขาเข้า จากนั้นแทนที่จะถูกส่งไปรบกับกองทหารของรัฐบาลในสงครามกลางเมือง อัสสาดถูกมอบหมายให้ทำงานที่ซับซ้อนกว่านั้น
ลอบสังหาร ก่อการร้าย งานที่ได้รับมอบหมายเขาทำสำเร็จทั้งหมด เริ่มมีชื่อเสียงเรื่อยๆ เขากลายเป็นบุคคลสำคัญในกลุ่ม ถึงตอนนี้ อัสสาดนึกได้ว่าเขาไม่ได้ทำงานเพราะศรัทธาในพระเจ้าแต่เพื่อเงิน แต่ช่างปะไร
เขาได้ลงโทษคนอื่น ยิ่งกว่านั้นยังได้เงิน
เงินเปลี่ยนแปลงโลก
อัสสาดไม่เคยฆ่ามอนสเตอร์มาก่อน เขาล่าแต่มนุษย์
วันนี้ เขาได้เนโครแมนเซอร์คนหนึ่ง ในรายงานบอกว่าเป็นเราส์แรงค์ AA
แรงค์ไม่มีความหมายเลย
อัสสาดลอบสังหารเราส์มานับไม่ถ้วน เขารู้เรื่องแรงค์ดี แรงค์สูงไม่ได้หมายถึงมีพลังรบสูง ถ้าเป็นนักเวทย์ แค่ย่องเข้าไปเงียบๆแล้วปาดคอ ถึงเป็นแรงค์ A ก็ตายทันที
ง่ายมาก
เมื่อเข้าสู่ดันเจี้ยน อัสสาดปล่อยตัวกลืนหายไปในความมืด นี่เป็นความสามารถของเขา มันทำให้เขาสามารถเข้าไปใกล้ศัตรูแล้วฆ่าโดยเหยื่อไม่รู้ตัว
“เฮ้ ออกมานะ ชวนฉันเข้ามาเล่นกันในดันไม่ใช่เหรอไง?”
ภาษาเกาหลีเหรอ?
ตามข้อมูลที่ได้รับมา เป้าหมายเป็นชาวเกาหลี
“ไม่ออกมาสินะ”
เสียงฝีเท้าห่างไปเรื่อยๆ
หมอนี่โชคดีไม่เบา เสียงฝีเท้าบอกว่ามันห่างจากจุดที่อัสสาดซ่อนตัวข้างกำแพงไปเรื่อยๆ มันเดินลงบันไดสถานีรถไฟไป
‘ไอ้โง่’
ดูเหมือนมันจะไม่มีเวทย์ด้านตรวจสอบ อัสสาดแน่ใจแล้วว่ามันเป็นเนโครแมนเซอร์ และโง่มากที่ตามเขาเข้าดันเจี้ยนมาโดยไม่ระวังตัวเลย
ล่อเป้าหมายเข้ามาได้สำเร็จ ต่อไปก็แค่ตามจากนั้นก็จัดการเสีย
อัลอัสสาดหลอมกลืนเข้ากับความมืด เดินลงลึกเข้าไปในดันเจี้ยน
‘มันไปถึงไหนแล้ว?’
แปลก เป้าหมายของเขาไล่ตามเขาเข้าดันเจี้ยนตามแผนของอัสสาด แต่แล้วก็ทำเหมือนลืมเขาไป หรือมันจะมั่นใจในตัวเองมาก
อัสสาดเดินลงดันเจี้ยนอย่างระมัดระวัง แต่แล้วก็หยุด
‘ไม่มีศพเลย’
มีรอยเลือดเต็มไปหมด แต่ไม่มีศพ อัสสาดรู้สึกถึงอันตราย
ฟู่ว
แสงส่องภายในดันเจี้ยนสว่าง
“อ้อ ขอบใจที่รอจนฉันตามเก็บวิญญาณจนเสร็จนะ”
เป้าหมายของอัสสาดปรากฏตัวต่อหน้า ไม่มีทีท่าตื่นเต้นกังวลเลย
“เอาล่ะ ขอดูพลังนายหน่อยว่ามันจะมีประโยชน์หรือเปล่า”
หลังจากพูดภาษาที่อัสสาดฟังไม่ออก ทหารโครงกระดูกเบื้องหลังเป้าหมายก็พุ่งเข้ามา
“หนึ่ง สอง...”
นับไปก็เหนื่อยเปล่า มันเกือบล้นดันเจี้ยน อัสสาดวิ่งขึ้นหน้าพลางชักดาบสองมือ อาวุธประจำตัวของเขาออกมา
“โฮ่ ไม่เบานี่”
อัสสาดเสียเปรียบเรื่องจำนวน แต่ความสามารถของทหารโครงกระดูกไม่มีมากมาย เขาฟันพวกมันล้มเรื่อยๆ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ทักษะดาบสองมือที่เขามีถูกแสดงออกมาต่อหน้าศัตรูจนหมด
“นายเป็นสายลอบสังหาร แถมเก่งใช้ดาบสองมือทีเดียว เหมาะกับสู้ตัวต่อตัวมากกว่าสู้เป็นกลุ่ม”
เป้าหมายของเขาพูดภาษาเกาหลีรบกวนสมาธิเป็นพักๆ เหมือนเขากำลังถูกประเมิน... ไอ้เวรนั่นมองอยู่ห่างๆไม่ลงมือสู้ด้วยซ้ำ
อัลอัสสาดปล่อยทักษะลับ หายใจแรงขึ้น การเคลื่อนไหวเปลี่ยนไปอย่างเทียบไม่ติด ทุกครั้งที่เหวี่ยงดาบสองมือ ทหารโครงกระดูกกลุ่มใหญ่ก็ล้มลง
“โฮ่ เป็นเบอร์เซอเกอร์ด้วยเหรอ? นายเป็นทั้งสายนักสู้แล้วยังเป็นแอสซาสซิน มีสองอาชีพเหรอ?”
อัลอัสสาดกระโจนใส่ศัตรูกวนประสาท
ท่าไม้ตายของเขาชื่อ เทพพิโรธ ความโกรธเกรี้ยวของเขาที่มีต่อโลกหลั่งไหลออกมาไม่มียั้ง มันช่วยเพิ่มพลังให้กับท่าไม้ตายนี้ ดาบสองมือของเขากำลังฟาดใส่คอของเนโครแมนเซอร์ แต่จู่ๆไม้เท้าเหล็กก็มากันดาบไว้
“นายจะเป็นประโยชน์มากเลยล่ะ”
เนโครแมนเซอร์เหวี่ยงไม้เท้าใส่เขา
อัสสาดงงวูบกับแรงกระแทกหนักหน่วงกว่าที่คิด ไหนรายงานบอกว่าเป็นเนโครแมนเซอร์?
เป้าหมายเหยียบอกอัสสาดด้วยเรี่ยวแรงที่มากจนต้านไม่ไหว อัสสาดจับเท้าของเป้าหมายพยายามผลักออกไป
“ไว้รอดูตอนฉันเลเวล 70 จะเป็นยังไง”
ทันใดนั้นไม้เท้าก็เปลี่ยนเป็นขวาน มันเหวี่ยงลงมาที่คอเขา
ฉับ
วูจินตัดหัวอีกฝ่ายเหมือนกำลังตัดไม้ ก่อนวิญญาณของมันจะหนีไป วูจินซื้อหินผนึกวิญญาณแล้วจับวิญญาณใส่เข้าไป
เจ้านี่แค่อยู่เหนือวงแหวนที่ 7 ขึ้นมาหน่อย แต่ก็เป็นวิญญาณนักรบวงแหวนที่ 7 ดวงแรกที่เขาได้ตั้งแต่กลับมาที่โลก
เหนื่อยเปล่าถ้าจะทรมานให้มันสารภาพว่าใครเป็นคนบงการ เมื่อวูจินเลเวล 70 เขาจะเปลี่ยนมันเป็นอสูรรับใช้ จากนั้นทุกอย่างที่มันรู้เขาก็จะรู้เอง
วูจินเก็บร่างกับศีรษะอัสสาดเข้าคลัง จากนั้นก็เรียกทหารโครงกระดูกที่เหลือมา
“แล้วทำไมต้องเข้ามาในดันดาวสูงแบบนี้ด้วยวะ?”
วูจินหาหินรีเทิร์นสโตนไม่เจอ ตามที่คาด เมื่อกลับไปที่ทางเข้าก็เห็นอุโมงค์สีแดงปรากฏอยู่
“จะทันไหมเนี่ย?”
การประชุมจะเริ่มตอนเที่ยงใช่ไหม?
วูจินออกล่าทันที
***
เมื่อออกมาจากดันเจี้ยน วูจินรู้สึกว่าถูกมอง ใครบางคนกำลังจับตามองเขาจากที่ไกล
‘กาเกบิ ตามฉัน’
[รับคำสั่ง]
หลังจากแน่ใจแล้วว่ากาเกบิสิงเข้าไปในเงา วูจินออกเดิน ดูเหมือนคนที่โจมตีเขาเป็นเจ้าของดันเจี้ยนนี้ ไม่มีใครดูทางเข้าดันเจี้ยนอยู่เลย วูจินจำชื่อดันเจี้ยนไว้
“เอ่อ แล้วที่นี่ที่ไหนหว่า?”
เมื่อคืนวูจินไล่ตามอัสสาดโดยไม่สนใจจำทาง ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ถ้าเอาโทรศัพท์มือถือมาด้วยก็ดีแต่เขาทิ้งมันไว้ที่โรงแรม
‘ในร้านอาจจะมีภาษาอังกฤษขายก็ได้นะ?’
วูจินลองเข้าร้านแลกเปลี่ยนค่าความสำเร็จ ดูยาแปลภาษาไปเรื่อยๆ ตอนอยู่อัลเฟนมียาที่ทำให้เขาเข้าใจภาษาต่างๆของโลกอัลเฟน ... มีด้วยแฮะ!
ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษ ในร้านขายทุกภาษาที่ใช้ในโลก
มันมีราคา 200 แต้ม วูจินซื้อมาดื่มทันที เช่นเดียวกับการเรียนทักษะใหม่จากตำราทักษะ วูจินเข้าใจภาษาอังกฤษในทันที มันฝังรากลงในความทรงจำเขาอย่างมหัศจรรย์
“ฮ้า”
เขาเริ่มเข้าใจคำพูดของคนรอบๆ
วูจินถามทางจากคนบนถนน จากนั้นเดินไปทางสถานที่จัดประชุม สำนักงานใหญ่ของกิลด์ไททันที่แมนฮัตตัน
‘ถ้านั่งแท็กซี่ก็แป๊บเดียวถึง แต่ไม่มีเงินนี่สิ’
ถ้าเป็นที่อัลเฟน เขาก็แค่แย่งมา...
‘เอาเถอะ บอกไว้แล้วนี่นะว่าจะไม่ก่อเรื่อง’
...เดินก็ได้
การประชุมเริ่มตอนเที่ยง สายแน่ แต่ไม่เป็นไร
จุงมินชานก็ร่วมทางมาด้วย ให้มินชานจัดการ วูจินแค่มาเจอสตรีศักดิ์สิทธิ์
ขณะวูจินเดินบนถนน เขาเห็นข่าวในจอขนาดใหญ่ที่ติดบนอาคารแห่งหนึ่ง
“เรื่องเมื่อวาน”
ดูเหมือนจะมีคนใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพเหตุระเบิดไว้ ภาพจรวดระเบิดกับภาพหลุมกว้างบนถนนกำลังฉายในจอ
“ผู้ก่อการร้ายโจมตี หรือฝันร้าย 9/11 จะหวนกลับมาอีกครั้ง? ศัตรูของมวลมนุษย์ไม่ใช่มอนสเตอร์แต่เป็นผู้ก่อการร้าย?”
วูจินอ่านข้อความในข่าว ภาพในจอโทรทัศน์เปลี่ยนไปเป็นภาพของผู้ประกาศข่าวกับชายชาวเอเชีย
“หือ?มินชาน?”
คนเอเชียหน้าตาคุ้นๆคือจุงมินชาน กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด เมื่อวูจินหันไปทางอื่น เขาเห็นโทรทัศน์ในร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้ามกำลังเปิดข่าวเดียวกัน
ติ๊งต่อง
วูจินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ พนักงานหลังเคาน์เตอร์มองเขา เมื่อเห็นเป็นชายเอเชียในชุดออกกำลังกายก็หันไปดูโทรทัศน์ต่อ
[มันกำลังจะระเบิดในโรงแรม เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เลวร้ายนั้น คุณคังวูจินชาวเกาหลีสละตัวเองเข้ารับการโจมตี ตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวของคุณคังวูจิน...]
จุงมินชานพูดแทรก
[ท่านประธาน ผมเชื่อใจท่านตั้งแต่แรกแล้ว! ท่านอยู่ไหน? กลับมาเถอะ]
“ฮะ เจ้าบ้านี่ ทำแบบนี้เหมือนกำลังตามหาเด็กหายเลย”
ถึงอย่างนั้นวูจินก็รู้สึกอุ่นใจที่มีคนเป็นห่วงเขาขนาดนี้
อย่าห่วงน่ามินชาน ฉันพูดภาษาของที่นี่ได้แล้ว
[รัฐบาลสหรัฐจะจับผู้ก่อการร้ายให้ได้ ท่านประธานกลับมาเถอะ ขอร้องล่ะ ก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้...]
“ฉันจับมันได้แล้วเว้ย...”
วูจินยิ้มพลางดูประกาศคนหาย จากนั้นข่าวเปลี่ยนเป็นภาพเขาพุ่งใส่จรวด จรวดถูกปัดขึ้นไปแล้วระเบิดจากนั้นเขาเห็นภาพตัวเองร่วงลงพื้น ข่าวฉายภาพนั้นวนซ้ำกัน
พนักงานร้านเบิกตาโต เขามองวูจินแล้วมองโทรทัศน์สลับไปมา
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอให้มีความสุขนะครับ
ส่งความสุขวันวาเลนไทน์
สุขสันต์วันตรุษจีนด้วยค่ะ XD
ลบ