วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2561

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 70

บทที่ 70 – ไปอเมริกา (2)


[คุณได้รับวารีโลก]

[คุณได้รับแร่แอดมันเที่ยม]

[คุณได้รับแท่งเหล็กโบราณขึ้นสนิม]

[คุณได้รับคริสตัลเพิ่มความแข็งแกร่งคุณภาพสูงสุด]

วูจินเลียริมฝีปากเมื่อเห็นคลังว่างเปล่ามีไอเทมเติมเข้ามาอย่างรวดเร็ว ไอเทมพวกนี้เป็นวัตถุดิบสร้างของที่ขนาดในอัลเฟนยังเป็นไอเทมหายาก แต่ตอนนี้มันกำลังไหลมาเทมา

ที่มากที่สุดคือแท่งโลหะและคริสตัลเวทย์มนตร์ แต่วัตถุดิบหายากอื่นๆก็มีเช่นกัน

‘โชคดีแฮะ แบบนี้น่าจะตีชุดเดิมขึ้นมาได้’

อาวุธชุดป้องกันที่วูจินใช้ตอนอยู่อลันดาลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านเวทย์มนตร์และการควบคุมผีดิบ ถ้าเขาได้มาครบชุดก็น่าจะสร้างกองทัพผีดิบของเขาขึ้นมาใหม่ได้

วูจินต้องการมัน

การเพิ่มค่าสถานะโดยใช้โบนัสที่ได้จากการเพิ่มเลเวลกับกินหินเพิ่มพลังก็มีขีดจำกัด หากเขาได้อาวุธชุดป้องกันทั้งหมดก็จะเก่งกว่าเดิมอีก 3 เท่า

วูจินเปิดร้านแลกเปลี่ยนความสำเร็จ มองหาเครื่องป้องกันที่เขาเคยใช้

‘สามล้านแต้ม?’

วูจินอ้าปากค้างเมื่อเห็นราคาของเครื่องป้องกันที่เขาเคยใช้ นี่ไม่ใช่ของที่เขาจะใช้ค่าความสำเร็จแลกมาได้เลย โชคดีที่มีสูตรสร้างเครื่องป้องกันขายในราคา 10,000 แต้ม

วูจินตัดสินใจซื้อมาหนึ่งอัน

[เกียรติยศแห่งทราช]

หมวกเกราะที่ผสานพลังของ ทราช เทพแห่งการทำลาย

วัตถุดิบ : หัวใจมังกร(1) แท่งทองขาว(3) หัวใจแวมไพร์(2)...

รายการวัตถุดิบมีมากกว่า 20 รายการ วูจินดูวัตถุดิบในร้าน ราคาต่างกันไป แต่เมื่อรวมกันแล้ว เขาต้องใช้
ประมาณ 4 ล้านแต้ม

ซื้อแบบสำเร็จรูปถูกกว่าซื้อวัตถุดิบมาสร้างเองมาก

‘งั้นก็ลองหาวัตถุดิบก่อน ถ้าไม่ไหวจริงๆค่อยซื้อ’

วูจินตัดสินใจรวบรวมวัตถุดิบเท่าที่จะหาได้ และซื้อเฉพาะอันที่หาไม่ได้จากร้านแลกเปลี่ยนความสำเร็จ วิธีนี้จะประหยัดไปได้บ้าง วูจินซื้อสูตรเครื่องป้องกันส่วนอื่นๆในเซ็ทของทราช

[การปกป้องจากทราช] – ชุดเกราะ

[ศักดิ์ศรีแห่งทราช] – เข็มขัด

[ทัณฑ์แห่งทราช] – ถุงมือ

[การเดินขบวนของทราช] – รองเท้าบูท

เมื่อซื้อเสร็จวูจินตรวจดูวัตถุดิบทั้งหมด

การหาวัตถุดิบโดยวิธีแยกส่วนไอเทมมีขีดจำกัด ตอนนี้เขายังสร้างชุดป้องกันไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียว

‘อืม ฉันยังไม่รีบเท่าไหร่’

เขาจะค่อยๆหาซื้อในตลาด รวบรวมวัตถุดิบระหว่างเข้าดันเจี้ยน ถ้ายังไม่พอก็จะแยกส่วนอาร์ติแฟค
หลังจากพนักงานจัดไอเทมเสร็จแล้ว วูจินเรียกพวกเขามาใกล้ๆ

“ซุงกู นายโซโล่ดันเจี้ยน 4 ดาวไม่ไหวแน่ ไปเข้าดันเจี้ยน 3 ดาวซะ”

“ครับลูกพี่ ผมจองเวลาไว้แล้ว”

เป้าหมายของซุงกูไม่ใช่หาบลัดสโตนแต่เป็นการฝึกฝน หลายวันมานี้เขารู้สึกเหมือนในที่สุดก็ได้ผลตอบแทนจากตอนใช้แรงงานขุดบลัดสโตนเสียที

“เฮมิน นายคอยดูแลซุงกู”

“แน่นอนครับ”

ตอนนี้ซุงกูเป็นเราส์แรงค์ C และอีกไม่นานจะเป็นแรงค์ B เขากำลังเติบโตเป็นมือโปรที่แม้แต่กิลด์ใหญ่ๆยังคอยดูแลอย่างดี

เฮมินซึ่งเป็นคนของหน่วยสนับสนุนสนิทกับผู้จัดการฮงซุงกู ดังนั้นเขาย่อมไม่ละเลยหน้าที่สนับสนุนซุงกู

“มินชาน เรื่องตั๋วไปอเมริกาล่ะ?”

“เรียบร้อยแล้วครับ ท่านประธานมีกำหนดการไปในอีกหนึ่งสัปดาห์”

“ดี อืม นายจัดการทุกเรื่องด้วยตัวเองได้ดีเลย”

มินชานไม่พูดอะไร เขาเขินแต่ก็ภูมิใจที่วูจินชม ไม่เหมือนในกิลด์แฮมเมอร์ที่เขามีอำนาจจำกัด ที่อลันดาลเขาจัดการทุกอย่าง

อดไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกว่าได้ทำงานเต็มที่

วูจินมองหน้าไม่มีชีวิตชีวาของวูซุงฮุน

“นายก็รักษาอาการเมาค้างไป”

“...ครับ”

วูจินสั่งทุกคนเสร็จ เขาหันหลังเตรียมออกไป

“อ้อ ฉันเลือกสมาชิกใหม่เข้ามา เธอเป็นแรงค์ F อีกไม่นานคงมาที่นี่”

“อะไรนะ?”

นี่ถือเป็นข่าวใหญ่ ทุกคนจึงสนใจกันใหญ่ วูจินยิ้ม

“เดี๋ยวพวกนายก็เห็นเอง แค่นี้ล่ะ ขยันเข้า”

“โชคดีครับท่านประธาน”

“โชคดีครับ”

วูจินออกจากที่ทำงาน โทรศัพท์หาจีวอน

“วูจิน”

“นักเขียนโด เธออยู่ไหน”

“อะไรของนาย? ฉันอยู่ที่ร้านกาแฟ”

“เดี๋ยวฉันไปหาที่นั่นนะ”

“ไม่ต้อง ฉันจะออกไปแล้ว เจอกันหน้าร้านนะ”

“ได้”

วูจินคุยเสร็จแล้วมุ่งหน้าไปทางคาเฟ่ แองเจิล แองเจิล

ระหว่างเขากำลังข้ามถนน เขาเห็นโดจีวอนออกมาจากร้าน

เมื่อเธอเห็นวูจินก็โบกมือทักทายด้วยสีหน้าสดใส วันนี้เธอยิ่งสวยกว่าปกติ

“ไปกันเถอะ แม่กับน้องฉันคงอยู่ที่ร้านอาหาร”

“ทำไงดีล่ะ ตื่นเต้นจัง”

“แค่กินข้าวเอง”

แม้จะได้ยินวูจิน แต่จีวอนก็ยังปิดความตื่นเต้นไม่ไหว

เมื่อวูจินกับจีวอนเดินด้วยกัน คนผ่านไปมารอบๆต้องเหลือบมองพวกเขาอย่างน้อยคนละครั้ง

“ว้าว”

“คนนั้นสวยจัง”

“ผู้ชายดูคุ้นๆนะ?”

“ผู้ชายเหรอ? จำไม่ได้แต่ไม่สนหรอก”

จีวอนสวยจนดึงดูดความสนใจของทุกคน แล้วยังสามารถทำให้ทุกคนจำหน้าของเราส์แรงค์ AA ที่ออกโทรทัศน์บ่อยๆไม่ได้

“ที่นั่นไง เข้าไปกันเถอะ”

“ฮู้ว”

จีวอนหายใจเข้าลึกๆเพื่อให้ความตื่นเต้นจางลง จากนั้นจีวอนกับวูจินเข้าไปในร้านอาหารที่นัดหมายไว้ด้วยกัน

***

มีคำกล่าวว่า ในโรงเรียนอนุบาล ครูสวยๆจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ดูเหมือนจะจริง

โซอาถามจีวอนไม่หยุด การสนทนาทำให้มื้ออาหารเป็นกันเอง

“ตั้งแต่ได้เห็นหน้าหนูในทีวี ฉันก็สงสัยมาก ฉันต้องเจอหนูสักครั้งให้ได้ ขอบคุณที่มานะ”

“ไม่ค่ะแม่ หนูดีใจที่แม่ชวนมา พูดตามสบายเถอะค่ะ”

“แหม ไม่ๆ หนูเป็นลูกสาวคนสำคัญของพ่อแม่นี่นา”

ดูท่าแม่ของวูจินจะชอบจีวอนพอดู หลังจากกินข้าวเสร็จ นางพาโซอาลุกขึ้นทันที

“พวกเราไปแล้ว เดทกันต่อเลยจ้ะ”

นางแยกตัวไปหลังจากกินข้าวไม่นานเหมือนไม่อยากรบกวนพวกเขา วูจินฝืนยิ้มพลางมองแม่จากไป แม่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับชีวิตรักของเขา หลังจากได้เจอผู้หญิงที่วูจินคบอยู่ก็พอใจแค่นี้

ครอบครัวเขามาแล้วก็ไป แทบทำให้จีวอนรู้สึกว่าจะตื่นเต้นไปทำไม

“ยังเหลือเวลาอีกเยอะ เรามีมีทติ้งกันตอนเย็นใช่ไหม? ใครมาบ้าง?”

“นายรู้จักนัมจียุคกับปาร์กโซฮีหรือเปล่า”

“ชื่อคุ้นๆนะ”

“จียุคเคยสนิทกับนาย...”

“อ้าวเหรอ? ถ้างั้นฉันคงเข้ากับเขาได้ใหม่ แล้วทำอะไรกันต่อดี? ดูหนังไหม?”

“อืม ดูหนังกันเถอะ”

“ได้ เดินไปกันเถอะ”

โรงภาพยนตร์อยู่ห่างไปหนึ่งสถานี

พวกเขาเดินไปด้วยกัน วูจินจับมือจีวอนและแก้มเธอกลายเป็นสีแดง

***

ในรถตู้สีดำคันหนึ่ง

“เฮ้อ ไม่ชอบแบบนี้เลย”

ซินดี้ สมาชิกกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปที่มีกัน 4 คน ชื่อ ยูริเกิร์ล ถอนหายใจ

ผู้จัดการส่วนตัวของเธอหัวเราะ

“ฮะๆ นี่ก็งานนะ รีบไปเถอะ ผู้กำกับกำลังรอเราอยู่”

“เฮ้อ หนังนี่จะมีคนดูเยอะขึ้นเหรอถ้าเราทำแบบนี้?”

“มันเป็นเรื่องของการสร้างภาพลักษณ์ เธอคิดเหรอว่าพอถ่ายทำเสร็จก็ถือว่าจบ? เรายังต้องโปรโมทหนังกันอย่างหนัก คนจะว่ายังไงถ้าไม่เห็นนางเอกไปโชว์ตัวบนเวที? ต่อให้คนดูหนังไม่เพิ่มขึ้นแต่เธอก็ยังได้แฟนเพิ่มขึ้นนะ”

“อา ฉันอยากพักจังเลย”

ยูริเกิร์ลอยู่มา 6 ปีแล้ว และความนิยมกำลังลดลงเพราะต้องแข่งกับเกิร์ลกรุ๊ปที่อายุน้อยกว่า แต่ความนิยมของซินดี้ยังคงเดิม และเธองานยุ่งจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน

เธอเปลี่ยนสายเป็นนักแสดงได้สำเร็จ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้เธอขึ้นไปที่จุดสูงสุดอีกจุดของอาชีพนักแสดง

“รีบไปกันเถอะ”

“ก็ได้”

ซินดี้สวมแว่นกันแดด จากนั้นลงจากรถ เธอมีโหนกแก้มสูงตามธรรมชาติ เธอยิ้มอย่างสง่างาม แต่คนที่คิดว่าจะมามุงกลับไม่มี

ปกติแล้ว แม้เธอจะไปไหนมาไหนอย่างเป็นความลับแต่แฟนคลับก็จะมามุง แต่คราวนี้เธอไม่เห็นใครเลย พนักงานดูแลความปลอดภัยที่รอซินดี้อยู่ทักทายเธอ

“พี่ผู้จัดการ ฉันว่าเรารักษาความลับได้ดีเกินไปนะ”

“ก็...ว่างั้น”

ผู้จัดการตกใจนิดๆ

“แต่ก็ดี แบบนี้เราก็ได้พัก ไปเถอะ”

ซินดี้เข้าไปในห้องรับรอง และคนรุมล้อมอยู่ตรงด้านหนึ่งของห้อง

“ตรงนั้นมีอะไรเหรอ? ทีมอื่นนอกจากเรามาเหรอ?”

“เอ๋ รอแป๊บ ฉันไปเช็คก่อน”

ผู้จัดการวิ่งไปที่กลุ่มคน แล้ววิ่งกลับมา พูดด้วยท่าทางตื่นเต้น

“สุดยอดเลย!”

“อะไรเหรอ?”

“คังวูจิน! คังวูจินมาดูหนังด้วย”

“เหรอ?”

ซินดี้รู้ว่าคังวูจินคือใคร เขาเป็นเราส์ที่มีชื่อเสียงยิ่งกว่าดารา

“พี่”

“หือ?”

“ฉันอยากได้เบอร์โทรเขา”

ผู้จัดการขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งเครียด ไม่เห็นด้วย

“เฮ้ ทำไมทำตัวแบบนี้อีกแล้ว เราจะมีข่าวเสียหายไม่ได้แล้วนะ”

“พี่ ฉันบอกตอนไหนว่าจะจีบเขา? ฉันแค่จะสร้างความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่ดี ไปเอาเบอร์มาให้หน่อยสิ”

“เฮ้ ฉันสัญญากับท่านประธานไว้...”

“พี่อยากให้ฉันไปขอเองเหรอ? คนจะไม่จำหน้าฉันได้เหรอ?”

นั่นจะยิ่งเป็นปัญหาใหญ่

นักข่าวคงชอบเรื่องแบบนี้ และคงเข้ามารุมล้อมพวกเขา

ผู้จัดการพยายามหาข้ออ้างอื่น

“เขาพาแฟนมาด้วยนะ”

“เฮ้อ”

ซินดี้ถอนหายใจ ลดแว่นลงเล็กน้อย มองผู้จัดการด้วยสายตามั่นใจ

“พี่ ฉันซินดี้นะ ซินดี้แห่งยูริเกิร์ล”

“...”

อา เธอเป็นนักแสดงที่ดี ตั้งใจทำงาน ทำตัวดีกับเพื่อนร่วมงาน ผู้จัดการของซินดี้ชอบทุกอย่างในตัวเธอยกเว้นเรื่องที่เธอทำตัวเหมือนว่าการเป็นดาราหมายถึงเธอมีอำนาจทุกอย่าง

“หรือจะให้ฉันไปเอง?”

“ไม่...ฉันไปเอง”

ก่อนจะเป็นเรื่องใหญ่ ผู้จัดการมุดผ่านกลุ่มคนแน่นหนาเข้าไปแล้วกลับมา ซินดี้เห็นสีหน้าเขาก็เดาได้ว่าผลเป็นอย่างไร

“อะไรกัน? ไม่ได้เหรอ?”

“...อืม”

“พี่บอกหรือเปล่าว่าเป็นผู้จัดการของซินดี้?”

“บอก”

“แล้วเขายังไม่ให้อีกเหรอ?”

“เขาถามว่าเธอเป็นใคร...”

“...”

ซินดี้เห็นพนักงานดูแลความปลอดภัยพยายามกลั้นหัวเราะ เธอขยับแว่นแล้วเดินเข้าไปด้วยท่าทางสงบนิ่ง

‘ฮึ ไม่รู้จักฉันเหรอ? ปฏิเสธฉันเหรอ?’

ซินดี้บังคับตัวเองไว้ได้อย่างเฉียดฉิวเมื่อศักดิ์ศรีถูกเหยียบย่ำ เธอเดินไปห้องพักที่ทางโรงภาพยนตร์เตรียมไว้ให้ หลังจากทักทายผู้กำกับและนักแสดงหลักคนอื่น เธอเข้าไปในโรงฉายภาพยนตร์เพื่อทักทายแฟนๆจากเวที

***

วูจินยกตั๋วหนังขึ้นระหว่างเข้าไปในโรง เขากระซิบกับจีวอน

“เราโชคดีที่มีคนยกเลิกตั๋ว”

“นั่นสิ นายไม่อึดอัดเหรอ วูจิน?”

“ทำไม?”

“ที่คนมามุงนาย...”

วูจินยิ้ม

“ชินแล้วล่ะ เธออึดอัดเหรอ? อยากใส่หน้ากากอีกไหม?”

“คิก ไม่เอา ฉันไม่เป็นไร”

จีวอนคิดถึงหน้ากากแล้วหัวเราะ

ตอนใบหน้าเธอเป็นแผล คนมองเธอด้วยสายตาสมเพชและรังเกียจ แต่ตอนนี้สายตาที่คนอื่นมองมาเธอรับได้ ไม่สิ ที่จริงแล้วมันขุดความรู้สึกที่เธอฝังไว้ขึ้นมา

สมัยเรียน จีวอนถูกเรียกว่าเทพธิดา เธอเป็นศูนย์รวมความสนใจของทุกคน

วูจินกับจีวอนนั่งที่ ไม่สนใจสายตาของทุกคน รอให้หนังฉาย

“อ๊ะ ดูเหมือนนักแสดงจะออกมาทักทายบนเวทีด้วยล่ะ”

จีวอนรู้สึกโชคดี เพราะรอบนี้จำเป็นต้องมีการจองล่วงหน้า ดวงตาเธอเป็นประกาย

ผู้กำกับและนักแสดงออกมาแล้วแนะนำตัว

“สวัสดีครับ ผมลีเจฮง เป็นผู้กำกับของวีรสตรีมูริม”

“สวัสดีค่ะ ซินดี้ นักแสดงนำฝ่ายหญิงค่ะ”

“สวัสดีครับ ผมชีเจซง รับบทเป็นทหารที่มีหน้าที่ปกป้องคุณซินดี้”

ระหว่างดูนักแสดงแนะนำตัว จีวอนก็นึกได้

“นายจำซินดี้คนนั้นได้ไหม? เธอเรียนชั้นเดียวกับเราตอนสมัยม.ปลาย นักเรียนการแสดงห้องแปดคนนั้นไง”

ขนาดเพื่อนห้องเดียวกันวูจินยังจำไม่ได้ แล้วเขาจะไปจำคนห้องอื่นได้อย่างไร? เขาพอจำได้แค่ว่าเคยมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นนักเรียนการแสดง...

“เหรอ? จำไม่ได้”

“อืม เธอน่าจะประสบความสำเร็จที่สุดในรุ่นเราแล้วล่ะ ไม่สิ นายน่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าแล้วมั้ง?”

“ช่างมันสิ”

วูจินกำลังยิ้มอยู่เมื่อซินดี้มองมา

“เอ๊ะ? เธอมองมาทางพวกเราหรือเปล่า เธอจำนายได้เหรอ?”

“งั้นมั้ง”

ตอนจีวอนเข้าห้องน้ำ ผู้จัดการมาหาเขาเพื่อขอเบอร์โทรศัพท์... เขาไม่ชอบเรื่องแบบนี้เลย

ซินดี้ยังจ้องวูจินต่อไป เธอยกไมโครโฟนขึ้นมาเตรียมพูด




สารบัญ                                         บทที่ 71

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น