บทที่ 69 – ไปอเมริกา
“อ๊าก!”
ซุงกูเปิดประตูหลังของรถสุดรักแล้วส่งเสียงโหยหวน
“อึก เหม็น... เกิดอะไรขึ้น?”
วูจินบีบจมูกแล้วถอยหลัง
“เฮ้อ เขาอ้วก”
เฮมินมองไปที่ที่นั่งด้านหลังรถแล้วส่ายหน้า
ซุงฮุนยังหลับ แต่อาเจียนกำลังอุ่นๆอยู่ในรถของซุงกู
“ฉันเรียกคนขับให้แล้วนะ ท่านประธาน เราไปที่ถนนใหญ่กันเถอะ” จุงมินชานตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาพูดกับวูจินเมื่อโทรเรียกคนขับรถเสร็จ (TN-หมายถึงบริการเรียกคนขับรถให้มาขับรถตัวเองให้โดยจะคิดราคาตามระยะทางที่ขับ ส่วนใหญ่ก็เป็นกรณีเมาจนขับรถกลับเองไม่ได้แล้วไม่อยากทิ้งรถกลับแท็กซี่ เกาหลีมีใช้กันเยอะ ไทยมี ยูดริ้งค์ไอไดรฟ์ เป็นเจ้าแรก)
“นั่นสินะ รถนี่คงเอาคนไปได้ไม่หมด... ฉันไปแท็กซี่แล้วกัน เจอกันพรุ่งนี้ซุงกู”
“เจอกันพรุ่งนี้ กรรมการฮง”
“ดูแลคุณซุงฮุนด้วยนะครับ”
วูจิน มินชานกับเฮมินจากไป ซุงกูมองไปด้านหลังรถน้ำตาคลอ
“ฮึก ผมขอโทษ...ฮือ”
ซุงกูไม่รู้ว่าซุงฮุนละเมอหรือเมาจนไม่ได้สติ เขาสงสาร แต่ก็โกรธด้วย...
“บรื้นๆลูกพ่อ...”
เขาเพิ่งจะซื้อรถมาได้ไม่นานเลยแต่มันกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว
ซุงกูกล้ำกลืนน้ำตาระหว่างรอคนขับรถมา
***
วูจินลงจากรถมายืนตรงถนนใหญ่หน้าซอยทางเข้าบ้าน
“เจอกันพรุ่งนี้”
“ครับ ท่านประธานเข้าบ้านเถอะ”
วูจินโบกมือแล้วเดินเข้าซอย เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเขาเรียกบิบิออกมา ควันมารวมกันแล้วแมวตัวหนึ่งก็เกาะบนบ่าวูจิน
“เมี้ยว ถึงบ้านแล้วเหรอ?”
ตอนอสูรของวูจินอยู่ในห้องรออัญเชิญ พวกมันจะเห็นและรู้สึกเหมือนวูจิน สำหรับบิบิ เธออยากอยู่ในห้องรออัญเชิญมากกว่าอยู่บ้าน เธอไม่อยากอยู่ห่างจากวูจิน
“ทำไม? กังวลเหรอ?”
“เฮ้อ กังวลสิเหมียว”
วูจินหัวเราะแล้วเอาบิบิลงจากบ่ามาอุ้ม
“ป่านนี้โซอาคงสนิทกับหมาแล้วล่ะ”
แต่แรกโซอาก็อยากได้สุนัข ตอนนี้คงยอมปล่อยบิบิแล้ว
“รหัสเข้าบ้านตอนนี้คือ...”
วูจินเปิดบันทึกในโทรศัพท์มือถือ จากนั้นกดรหัสทางเข้าหน้าประตูบ้าน
เมื่อเข้าบ้าน สิ่งแรกที่ต้อนรับวูจินคือสุนัข มันวิ่งมาทางเขา
“โฮ่งๆๆ แฮ่”
“หือ?”
เขาไม่อยู่ไม่กี่วัน แต่สุนัขโตขึ้นมาก วูจินดีดนิ้วใส่หน้าผากมัน
“ไม่เห็นกันไม่กี่วันก็แยกเขี้ยวใส่ซะแล้ว”
วูจินยกสุนัขตัวค่อนข้างใหญ่ขึ้นมา จ้องตามันเขม็ง สุนัขทนสบตาไม่ไหวเลยหันไปทางอื่น
“หงิงๆ”
โซอามาช่วยสุนัขเอาไว้
“แม่ขา! พี่ชายมาแล้ว”
โซอากระโดดดึ๋งๆมาทางวูจิน เขาปล่อยสุนัขแล้วอ้าแขนกว้าง
“โอ้โห โซอาคิดถึงพี่หรือเปล่า?”
“อื้อ”
หลังจากกอดลวกๆ โซอาหันไปทางบิบิแล้วคว้าตัวไว้ทันที
“บิบิ คิดถึงพี่สาวหรือเปล่า?”
“...”
“เหมียว?”
บิบิไม่อยู่ แทนที่โซอาจะลืมกลับยิ่งคิดถึงเธอมากขึ้น
วูจินหัวเราะแหะๆ บิบิส่งสายตาขอความช่วยเหลือมาทางเขา
“โซอาไม่ชอบเล่นกับหมาเหรอ?”
“หนูเล่นกับบ็อกวี แต่บิบิดีกว่า”
“บ็อกวีนี่ชื่อหมาเหรอ?”
“อื้ม!”
หลังจากตอบรับอย่างสดใส โซอาอุ้มบิบิวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วหาพ้อยท์เตอร์ ตอนนั้นแม่ของวูจินก็ออกมา
“กลับมาแล้วเหรอวูจิน?”
“ครับ”
“คุยกันหน่อยเถอะ”
วูจินตามแม่เข้าไปในห้องครัว หลังจากนั่งตรงโต๊ะกินข้าวตัวเล็ก แม่เขาเปิดตู้เย็นรินน้ำใส่แก้วให้วูจิน
“ลูกดื่มเหล้ามาเหรอ?”
“ครับ”
“อ้อ กับประธานาธิบดีเหรอ?”
“เปล่า ผมไปกินเลี้ยงกับคนที่ที่ทำงาน”
ดูท่าข่าวจะรายงานหลังจากกลับจากเกาหลีเหนือเขามุ่งหน้าไปที่ชองวาแดทันที วูจินรู้สึกแปลกเลยเปลี่ยนเรื่อง
“อีกหน่อยผมจะไปเจอประธานาธิบดีเอง แล้วทำไมโซอายังไม่หลับ?”
งานเลี้ยงบริษัทเลิกเร็ว แต่ตอนนี้ก็ปาไป 5 ทุ่มแล้ว
“พรุ่งนี้วันเสาร์ โซอาบอกว่ารอเจอพี่ก่อนค่อยหลับ”
“หืม”
งั้นทำไมเธอถึงเล่นแต่กับบิบิล่ะ?
“โซอายังไม่ชินกับลูกเท่าไหร่ ลูกควรรู้ไว้”
“...”
โซอาเล่นกับบิบิแต่เหลือบมาทางครัวบ่อยๆ
วูจินมาคิดดูแล้วเขาเคยอยู่กับโซอาตอนเธอยังเป็นเด็กทารก แต่โซอาจำเขาไม่ได้ อยู่ๆเธอก็ได้พี่ชาย ซึ่งไม่ค่อยกลับบ้าน...
“อืม หรือเราจะไปเที่ยวกันทั้งครอบครัวดี?”
“แม่ไม่ได้บอกเพราะจะเอาเวลาไปจากลูกที่กำลังยุ่งๆอยู่นะ”
วูจินรู้สึกเขินเมื่อฟังคำพูดของแม่
“เมื่อก่อนโซอาป่วยบ่อย หมอบอกว่าตอนนี้เธอแข็งแรงดี แต่บางครั้งก็มีอาการเหมือนเมื่อก่อน”
วูจินกับพ่อของเขาหายตัวไป แม้อย่างนั้นค่ารักษาพยาบาลของโซอาก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ครอบครัวจนลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อวูจินเข้าดันเจี้ยน ครอบครัวก็มีเงินซื้อทุกอย่างที่อยากได้ ลีซูกยุงจึงพาลูกสาวไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่ผลการตรวจร่างกายกลายเป็นว่าโซอาไม่ได้ป่วยเป็นอะไร
“โซอายังเด็กนัก เห็นลูกเป็นลมบ่อยๆแม่ก็...”
เมื่อแม่เริ่มมีน้ำตา วูจินก็หนักใจ
“เด็กคนนั้นป่วย แต่หมอเอาแต่บอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร แม่ห่วงจนไปพาไปหาคนทรง เค้าบอกว่าโซอาถูกผีสิง”
“เอ้อ ไม่มีผีตัวไหนมาสิงโซอาหรอกแม่”
คนที่โดนผีสิงคือวูจิน ไม่มีวิญญาณร้ายตัวไหนตามหลอกหลอนโซอา
และเขาก็ระวังตัวมากไม่ให้ผีมายุ่งเกี่ยวกับคนในครอบครัวเขา ตอนต้องนอนห้องเดียวกันวูจินก็พยายามอยู่กับครอบครัวให้น้อยที่สุด
“ลูกรู้เรื่องแบบนี้ได้ไง?”
จะตอบแบบไหนดีล่ะ ...แม่ ลูกชายแม่น่ะผู้เชี่ยวชาญเรื่องผีเลย
“ถึงจะรู้ว่าคนทรงคนนั้นพยายามจะหลอกแม่ แต่คำพูดของเธอทำให้แม่ไม่แน่ใจ”
“ไม่ๆ คนทรงนั่นเหมือนหลอกลวงเลย...”
“แม่พูดเพราะแม่โกรธที่ตัวเองช่วยอะไรลูกชายที่กำลังทำหน้าที่สำคัญไม่ได้ นานๆทีก็ดูแลน้องตัวเองบ้างนะลูก”
ลีซูกยุงเห็นคังวูจินในข่าวทุกวันจึงรู้ว่าเขายุ่ง ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งจะทำงานให้เกาหลีเหนือสำเร็จไปหรือ?
นางไม่อยากให้วูจินกังวลเรื่องครอบครัว อยากให้เขาทำงานได้เต็มที่ แต่อาการเจ็บป่วยของโซอาเกินกำลังของนาง
เด็กน้อยกำลังเจ็บปวดแต่ไม่มีวิธีรักษา เห็นแล้วนางเจ็บใจจนแทบพูดออกมาไม่ได้
“ขอโทษครับแม่ ผมจะสนใจน้องให้มากกว่านี้”
วูจินกอดแม่ที่กำลังสะอื้นแน่น
วูจินไปที่ห้องนั่งเล่น เล่นกับโซอาสักพัก มีแมวเป็นตัวกลางพวกเขาเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนานไม่มีเคอะเขิน
จนดึกแม่ของวูจินจึงพาโซอาที่ยังอยากเล่นต่อเข้านอน ในห้องนั่งเล่นเหลือแต่วูจิน บิบิและบ็อกวี
“โฮ่งๆๆ”
หลังจากเล่นมาเต็มที่ บ็อกวีก็ยังไม่หายตื่นเต้น มันทำจมูกฟุดฟิดแล้วถูไถหน้ากับบิบิ
“เมี้ยว! ไปไกลๆนะเมี้ยว”
ปั่บ!
“เอ๋ง”
บิบิตะปบหัวบ็อกวี มันวิ่งหนีไป
“เมี้ยว ไปหาแมวตัวใหม่กันเถอะ เราขอฆ่ามอนสเตอร์ดีกว่า นี่มันเหนื่อยไป”
“ก็แค่เล่นกับโซอาแป๊บเดียวเอง มันแย่นักเหรอ?”
“เมี้ยว มันเหนื่อยเพราะเราต้องแกล้งเป็นแมวมากกว่า”
...เครียดเพราะเรื่องนี้เอง วูจินบอกด้วยสีหน้าจริงจัง
“ทนอีกนิดนะ”
“ก็ได้เหมียว”
“งั้นอยู่ที่บ้านอีกสักพัก ช่วยสังเกตด้วยว่าโซอามีผีร้ายเข้าใกล้หรือเปล่า”
เขาไม่คิดว่าโซอาจะถูกผีตามสิง แต่เมื่อแม่พูดเขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นไปไม่ได้ วูจินคิดจะให้กาเกบิตามโซอา แต่กาเกบิยังเป็นเงาระดับต่ำจะส่งผลไม่ดีกับคนที่ถูกสิง
ตอนนี้ บิบิเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“วิญญาณของเด็กคนนั้นเข้มแข็งมากเหมียว วิญญาณร้ายกระจอกเกาะเธอไม่ได้หรอกเมี้ยว”
“เผื่อไว้ก่อนนะ”
“เข้าใจแล้วเหมียว”
บิบิเป็นอสูรของวูจิน เธอจึงเข้าใจความรู้สึกของเขา รู้ว่าครอบครัวสำคัญต่อเขาขนาดไหน
บิบิตามวูจินเข้าห้องนอน
“หงิงๆ”
เหลือบ็อกวีตัวเดียว มันมองทางเดินมืดๆอย่างกังวล ไม่นานประตูของวูจินก็แง้มออก บิบิเดินออกมา
“เมี้ยว เข้ามาสิเมี้ยว”
บ็อกวีกระดิกหางตามบิบิเข้าไปในห้องวูจิน แล้วนอนตรงปลายเตียง
***
วันนี้เป็นวันเสาร์ แต่วูจินเข้าออฟฟิศแต่เช้า
แม่ของวูจินอยากเจอโดจีวอน พวกเขาจึงนัดทานอาหารกลางวันด้วยกัน ตอนเย็นทั้งสองคนจะไปเจอกับเพื่อนสมัยเรียน ก่อนหน้านั้นเขาต้องมีงานต้องทำให้เสร็จ
เพราะเป็นวันเสาร์ พนักงานเลยไม่มาทำงาน มีแต่สมาชิกแรกก่อตั้งที่มาทำงานแต่เช้า พวกเขากำลังรอวูจิน
“ท่านประธาน”
“เฮมินล่ะ?”
“อยู่ในห้องเก็บของ”
“ไปที่นั่นกันเถอะ”
มินชานได้รับคำสั่งจากวูจินให้ซื้อตึกทั้งชั้น มินชานจ่ายเงินเพิ่มเป็นค่าขนย้ายสำนักงานอื่นๆที่อยู่ชั้นเดียวกันแล้วติดต่อผู้รับเหมามาเคลียร์พื้นที่จนหายรก นี่ยังแก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัยด้วย
พวกเขาตัดสินใจใช้พื้นที่ราว 1800 ตารางฟุตของชั้นเป็นที่ตั้งแผนกขายกับห้องเก็บของไว้เก็บอาร์ติแฟค
ห้องเก็บของเก็บอาร์ติแฟคจำนวนไม่มาก ใส่ได้ไม่เต็มคันรถบรรทุก หนำซ้ำยังเป็นไอเทมธรรมดากับวัตถุดิบทั่วไปเสียส่วนใหญ่
ข้อแรก อลันดาลมีเราส์เพียงสองคน วูจินกับซุงกู ช่วยไม่ได้ที่หาของมาได้เท่านี้
อัตราการตกของอาร์ติแฟคจะสูงเฉพาะพิชิตดันเจี้ยนครั้งแรก ดังนั้นเทียบกับจำนวนเราส์ที่มีแค่สองคน หามาอาร์ติแฟคมาได้เท่านี้ก็ถือว่ามากแล้ว
“หายเมาแล้วยัง?”
“...น่าอายจริงๆผม”
วูซุงฮุนยังมีอาการเมาค้าง เขาคอตก
ด้านมินชานกับเฮมินผ่านชีวิตพนักงานบริษัทมาโชกโชน สีหน้าจึงเป็นปกติ ส่วนซุงกูถูกฝึกฝนจนร่างกายแข็งแกร่ง เขาดูสดชื่น
“งั้นฉันเอาออกมาแล้วนะ?”
“ครับ”
ทุกคนมองวูจินอย่างคาดหวัง วูจินเปิดคลังแล้วเริ่มเอาของสะสมของคิมจองอึนออกมา
คิมจองอึนไม่ใช่เราส์ แต่เขารวบรวมอาร์ติแฟคกับตำราทักษะไว้เป็นจำนวนมาก ช่องเก็บของในคลังวูจินไม่พอจนต้องใช้ค่าความสำเร็จซื้อช่องเพิ่ม
ราวกับวูจินกำลังคว้าไอเทมมาจากอากาศ ไอเทมเริ่มไหลลงพื้นเหมือนกองผ้าในตลาด
“...”
จำนวนไอเทมห่างชั้นจากการหาจากดันเจี้ยนหลายๆรอบไปไกลโข ทุกคนอ้าปากค้าง
“ทำอะไรกันน่ะ? จัดของสิ”
“อะไรนะครับ?”
“แยกเป็นไอเทมที่ขายในตลาดได้กับของโจร”
...ท่านประธานยอมรับว่าเป็นของโจรหน้าตาเฉยเลยแฮะ
มินชานคงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกถ้าวูจินดื้อดึงสั่งให้เขาเอาไอเทมทั้งหมดไปขายตลาด มินชานซึ้งใจ
วูจินเทอาร์ติแฟคมากมายออกมาจนเต็มพื้นที่ห้องเก็บของ ถ้าจะเคลื่อนย้ายคงต้องใช้รถบรรทุก 3 คัน
ทุกคนเริ่มแยกของตามคำสั่งของมินชาน
วัตถุดิบทั่วไปกับตำราทักษะที่มีจำนวนมากไม่น่าสนใจนัก พวกเขามองหาไอเทมที่มีรูปร่างพิเศษหรือความสามารถแปลกๆ
โดยคร่าวๆ พวกเขาแยกกองหนึ่งเป็นไอเทมที่มองก็บอกได้ว่าคืออะไร
ไอเทมแปลกๆ มีบ้างที่มีค่าต่ำ แต่ส่วนใหญ่เป็นไอเทมประสิทธิภาพสูง มีอาร์ติแฟค 10 ชิ้นที่กะราคาคร่าวๆอย่างต่ำก็หนึ่งถึงสองพันล้านวอน
“พวกนี้ฉันใช้แล้วกัน”
วูจินเอาต่างหูคู่หนึ่งมาใส่ มันไม่โดดเด่นนัก ส่วนอาร์ติแฟคอื่นๆเขาเก็บใส่คลัง
เขาเปิดใช้งานทักษะขั้นพัฒนาของเขา ใส่อาร์ติแฟคทั้งหมดลงใน [กล่องผสมของ] ด้านล่างมีตัวเลือกสองข้อ ปุ่ม[ผสม]ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และปุ่ม[แยก]ส่องแสงกระพริบ
วูจินกดปุ่ม[แยก]อย่างไม่ลังเล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น