วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 66

บทที่ 66 – ผลได้ที่เกินคาด (2)


วูจินเดินออกมาจากอุโมงค์ใต้ดิน

“หยุดเถอะค่ะ!”

ด้วยวิธีการบางอย่าง เชฮีซอลหาวูจินจนเจอ เธอวิ่งมาทางเขาแล้วขวางทางเขาไว้ ใบหน้ายังบิดเบี้ยวเหมือนยังไม่หายเจ็บ

“หยุดเถอะค่ะ ยังไม่สายเกินไป เรายังพอแก้ไขได้”

เชฮีซอลหมายความตามที่พูดจริงๆ ถ้าเรื่องยังเป็นแบบนี้ต่อสงครามจะเกิดขึ้น เธอต้องป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น เชฮีซอลพูดอย่างจริงใจที่สุด

“นี่ไม่ใช่ทางแก้ หยุดเถอะค่ะ”

เธอคิดอย่างนั้นจริงๆ สงครามหมายถึงชีวิตคนเป็นหมื่นๆต้องสูญเสียไป เธอต้องการหยุดโศกนาฎกรรมไม่ให้เกิดขึ้นไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

วูจินมองเธอเฉยๆ

ฮีซอลมองวูจิน ดวงตาสั่นไหว

“มะ...ไม่จริง!”

เขาทำลงไปแล้ว คิมจองอึนตายแล้ว

เชฮีซอลทรุดลงกับพื้น อา จะเกิดฝนเลือดอีกครั้งแล้ว

เธอทำพลาดไป ไม่ควรขอให้กิลด์อลันดาลมาเคลียร์ดันเจี้ยน 6 ดาวของพย็องยังเลย

ฮีซอลนั่งมึน วูจินมองแล้วอมยิ้ม

“ยังไม่ตายน่ะ”

“จริงเหรอคะ? ดีจริงๆ... ยัง? นี่ยังวางแผนจะสังหารเขาอยู่เหรอคะ?”

ฮีซอลกลืนน้ำลาย

“อืม เรื่องนั้นไว้ดูอีกที”

วูจินอยากเห็นว่าเขาจะลงโทษคนที่สั่งให้เกิดระเบิดพลีชีพอย่างไร

“กรุณายับยังไว้ด้วยค่ะ ถ้าคุณยังไม่หายโกรธ เอาชีวิตดิฉันไปก็ได้ ดิฉันพูดจริง”

เชฮีซอลลุกขึ้นคุกเข่า

“จริงเหรอ?”

“สงครามคาบสมุทรเกาหลีอาจไม่มีวันจบ สงครามครั้งล่าสุดเพื่อผ่านไปไม่ถึง 100 ปี ที่นี่ไม่ควรต้องเจอกับเรื่องเศร้าแบบนั้นอีก ถ้าแค่ชีวิตของดิฉันทำให้คุณพอใจได้...”

เธอไม่ได้สนใจว่าความขัดแย้งจะเปลี่ยนเป็นสงครามโลก แต่สงครามนี้จะเกิดบนคาบสมุทรเกาหลี ดินแดนที่เธอรักจะล่มสลาย ดังนั้นแค่ยอมสละชีวิตเพื่อหยุดสงครามถือว่าคู่ควรแล้วไม่ใช่เหรอ?

วูจินหรี่ตามองฮีซอล วิญญาณของเธอไม่ได้ไร้มลทินเหมือนของจีวอน แต่นี่เป็นครั้งแรกบนโลกที่ได้เห็นวิญญาณที่เจิดจ้าขนาดนี้

นี่แปลว่าความตั้งใจของเธอเป็นความตั้งใจแท้จริง เธอไม่ได้โกหกเรื่องที่จะยอมเสียสละชีวิตตัวเอง

“ร้อยโทเชฮีซอล”

“ค่ะ”

“เธอตั้งใจจะสละชีวิตให้ฉันจริงๆ?”

“แน่นอนค่ะ ถ้ามันหยุดเรื่องหายนะไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ได้”

ถ้าคิมจองอึนยังมีชีวิตอยู่พวกเขาก็ยังสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ วูจินยักไหล่

“ฆ่าเธอเฉยๆคงเสียของเปล่า... ลาออกจากกองทัพซะ”

“ดิฉันฟังผิดหรือเปล่าคะ?”

“พอลาออกแล้วก็มาทำงานกับฉัน แล้วฉันจะไว้ชีวิตจองอึน”

“...”

สีหน้าฮีซอลเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความฝันของเธอคือการเป็นทหารไม่ใช่เหรอ?

ตอนนั้นเอง วูจินรู้สึกว่ามีคนเข้ามาใกล้เขา คนกลุ่มหนึ่งออกมาจากอุโมงค์

“รีบสะสางให้เสร็จ หารีพยังกานให้เจอ”

วูจินยิ้มเมื่อได้ยินเสียงคิมจองอึน

“หรือฉันจะไปจับหมูนั่นดี?”

“...ดิฉันจะเข้ากิลด์คุณค่ะ”

วูจินยิ้มกว้าง

คนที่มีความตั้งใจแบบเชฮีซอลนั้นหายาก วูจินได้ของที่คาดไม่ถึงมาแล้ว เขาเดินจากไปยิ้มๆ

เขารู้ว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนในวังอนุสรณ์จากความทรงจำของกาเกบิ ได้เวลาลักทรัพย์ของสะสมของคิมจองอึนแล้ว

“งั้นเธอก็ไปแก้ไขสถานการณ์เถอะ”

“...”

อะไรของเขา? ทำเรื่องป่วนขนาดนี้ยังมาบอกง่ายให้เธอแก้ไขสถานการณ์...

ก่อนเรื่องจะสงบลง วูจินมุ่งหน้าไปที่ห้องงานอดิเรกของคิมจองอึนอย่างรวดเร็ว

***

สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

รีพยังกานและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเขาถูกจับ มีกระทั่งผู้บริสุทธิ์ที่ถูกจับรวมไปด้วย ตัวแทนจากเกาหลีใต้จากไปและปล่อยให้คิมจองอึนเป็นคนจัดการคนเหล่านี้เอง

คิมจองอึนตัวสั่นด้วยความโกรธ

“คุณตายแน่! กล้าดียังไงถึงมาขโมยสมบัติที่ผู้อื่นสละเลือดน้ำตาหามา? คุณแย่งอนาคตไปจากสาธารณรัฐตัวเองหรือ? เลวมาก!”

“ประธาน...ผมไม่รู้จริงๆ...”

“ยังกล้าโกหกอีก? ลงโทษพวกเขาไปจนกว่าจะยอมพูด”

“ครับ”

รีพยังกานถูกมัดแขนห้อยลงมาเหมือนเนื้อในร้านขายเนื้อ พนักงานสวบสวนเริ่มฟาดเขา คิมจองอึนมองด้วยสายตาเย็นชาพยายามระงับความโกรธ

สมบัติที่คนของเขารวบรวมมาอย่างยากลำบากหายไปหมด สิ่งเดียวที่เหลือคือรูปถ่ายของเขากับคังวูจินและลายเซ็น... คิมจองอึนโกรธจัดเพราะใครบางคนขโมยของๆเขาไปหมด

เขาใช้เวลา 5 ปีในการสะสมของเหล่านั้น

คนเดียวที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคือรีพยังกาน เขาคงวางแผนกบฏมานานแล้ว คงวางแผนใส่ร้ายตัวแทนจากเกาหลีใต้...

‘ถ้าไม่ใช่เพราะสหายคังวูจิน ผมอาจตกที่นั่งลำบาก’

เขาไม่ตาย คังวูจินรอดชีวิต และแผนกบฏของรีพยังกานก็ถูกเปิดเผย

‘พวกเขาไม่เกี่ยว’

ไม่ใช่ว่าเขาไม่สงสัยคนจากเกาหลีใต้ แต่พวกเขามากับรถแค่สองคัน เขาไม่คิดว่าสมบัติจำนวนมากจะถูกขโมยไปได้

เราส์ในกลุ่มมีเพียงแรงค์ AA คังวูจิน และแรงค์ F เชฮีซอล

พวกเขาถูกตรวจสอบว่าใช้อาร์ติแฟคหรือเปล่า ซึ่งไม่พบอาร์ติแฟคเกี่ยวกับมิติพิเศษ ต่อให้เจอ อาร์ติแฟคพวกนั้นก็เก็บของได้ไม่มาก

อาร์ติแฟคมิติพิเศษที่ดีที่สุดเป็นของราชวงศ์หนึ่งในตะวันออกกลาง ซึ่งก็เก็บได้เพียงตู้เย็น 300 ลิตร
ดังนั้นคนเดียวที่สามารถทำได้คือคนของเกาหลีเหนือ

“ไอ้เลว อดทนนักนะ”

คิมจองอึนกัดฟันเมื่อเห็นรีพยังกานไม่ยอมสารภาพ

***

“ถึงพันมุนจอมแล้วค่ะ”

“เฮ้อ ถึงซะที”

ฮีซอลไม่พูดอะไรระหว่างวูจินบิดขี้เกียจ

สามวันนี้ วูจินเอาแต่นอน ทีมเจรจาต้องทำหน้าที่เจรจาต่อรอง

หลังจากการกบฏในเกาหลีเหนือคลี่คลายเรียบร้อย คังวูจินจากเกาหลีใต้กลายเป็นข่าวในฐานะผู้มีหน้าที่สำคัญในทุกเหตุการณ์

ไม่ว่าความเป็นจริงจะเป็นเช่นไร สถานการณ์ของเกาหลีใต้ก็ดีขึ้น

วูจินจัดการเราส์แรงค์สูงในเกาหลีเหนือที่เหลือจนหมด เกาหลีเหนือไม่มีกำลังมากพอจะเข้าดันเจี้ยน 6 ดาว

พวกเขาตัดจีนออก ดังนั้นความสัมพันธ์ของสองประเทศจึงเลวร้าย รัสเซียก็ไม่ใช่ตัวเลือก สุดท้ายเกาหลีใต้จึงเป็นฝ่ายเข้าดันเจี้ยนโดยมีเกาหลีเหนือแบ่งผลประโยชน์ไป

ถ้าไม่นับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพย็องยัง ผลลัพท์ถือว่าดีมากสำหรับเกาหลีใต้ วูจิน ตัวต้นเหตุ กลับนอนสบายในวังอนุสรณ์

ขนาดอยู่ท่ามกลางเสียงยิงประหารรีพยังการและคนของเขาที่ดังขึ้นแต่เช้า วูจินยังหลับได้

เชฮีซอลไม่มีขวัญกล้าเหมือนวูจิน เธอจึงกระสับกระส่ายตลอดเวลาที่อยู่ที่เกาหลีเหนือ บรรยากาศคุกรุ่นทำให้การเจรจาตึงเครียด

พวกเขาผ่านพันมุนจอม ถือว่าถึงเกาหลีใต้แล้ว แต่เธอยังไม่สบายใจ

“ดิฉันมีเรื่องจะถามค่ะ”

“พูดสิ”

เชฮีซอลไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่คังวูจินเปลี่ยนมาพูดกับเธอแบบสบายๆ

“ทำไมคุณยอมหยุดมือหลังจากบอกให้ดิฉันเข้ากิลด์อลันดาลคะ?”

วูจินกล้าพอตบหน้าหัวหน้ากิลด์ฮวารางท่ามกลางการถ่ายทอดสด เมื่อดูจากนิสัยดุร้ายของเขาแล้วมันทำให้เธอสงสัย เธอรู้ว่าถ้าวูจินอยากจะทำอะไรก็ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงความคิดเขาได้ง่ายๆ

“อยากได้ยินอะไรล่ะ?”

“อะไรนะคะ?”

เชฮีซอลเกาศีรษะ เธออายที่จะพูดสิ่งที่คิด

เธออยากได้ยินคำชมเหรอ? อยากรู้ว่าเธอมีดีตรงไหน? อยากได้ยินเขาพูดว่าเธอหยุดเขาไม่ให้สังหารเผด็จการของเกาหลีเหนือได้อย่างไร?

พอมาคิดดูแล้ว เธอแค่อยากถามทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว

วูจินมองนอกหน้าต่าง ฮีซอลมองด้านหลังเขาแล้วหน้าแดงด้วยความอาย

“ไม่มีอะไรค่ะ”

เชฮีซอลกระแอม วูจินยิ้ม

“ถ้าเราหาคนดีมีความสามารถเข้าองค์กร องค์กรก็จะวิ่งไปได้เอง”

“...”

เขาไม่ต้องการคนหักหลังอยู่ในกิลด์

เขาไม่ต้องการควบคุมลูกน้องของตัวเอง เขาอยากได้คนมาจัดการเรื่องยุ่งยากน่ารำคาญแทนเขา เรื่องนี้เป็นเรื่องเย้ายวนใจเขามาก

“เธอมีค่า เป็นคนเด่นมีสิ่งน่าสนใจหลายอย่าง...”

“...”

ทำให้เขาอยากได้เธอมาเป็นลูกน้อง จะได้สั่งได้

วูจินละสายตาจากวิวนอกหน้าต่างหันกลับมา เขาเห็นหน้าของทหารอายุน้อย ดวงตาเธอสั่นไหวเพราะคำพูดของเขา เธอไม่ร้องแต่ดวงตาชื้น

“ดิฉันจะไปหาคุณทันทีหลังจากลาออกจากกองทัพค่ะ”

“อืม”

วูจินตัดสินใจไม่บอกเธอว่าเขาไม่คิดจะฆ่าคิมจองอึนอยู่แล้ว

***

สำนักงานของกิลด์อลันดาล

ทีวีจอใหญ่เครื่องเดียวของสำนักงานอยู่ในห้องประธาน ดังนั้นสมาชิกแรกก่อตั้งจึงมารวมกันที่นี่ พวกเขากำลังดูรายการพิเศษเวอร์ชั่นตัดต่อจากข่าวที่เกิดขึ้นในช่วงสามวัน

พวกเขาดูบ่อยจนเกือบจะจำเนื้อหาได้หมดแล้ว

พวกเขาเห็นวูจินถี่จนไม่รู้สึกเหมือนวูจินไม่อยู่ที่สำนักงาน

[ค่ะ ถ้าเรารวบรวมจากข่าวจนถึงตอนนี้ ดูเหมือนรีพยังกานจะเป็นตัวหลักในการกบฏ เขาเป็นผู้บัญชาการหน่วยรบพลังพิเศษเกาหลีเหนือ คุณคิดว่าอย่างไรคะ?]

[ความสามารถของเราส์ก็เหมือนดาบสองคมครับ เราส์ข้ามผ่านขีดจำกัดของมนุษย์ พวกเขาปกป้องประเทศของเราจากพวกสัตว์ประหลาด แต่อีกด้าน ก็มีพวกที่ก่ออาชญากรรม เราส์จะอันตรายมากสำหรับระบอบการปกครองแบบเกาหลีเหนือ การทรยศของผู้บัญชาการหน่วยรบพลังพิเศษทำให้ระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก]

[คนที่เคลียร์ดันเจี้ยน 6 ดาวคือหัวหน้ากิลด์อลันดาล หากไม่ใช่ประธานคังวูจิน การกบฎอาจนำมาสู่จุดสิ้นสุดสมัยของคิมจองอึนก็ได้ เรื่องนี้คิดว่าอย่างไรคะ?]

[ถ้าผู้นำคนใหม่มีความคิดสุดโต่ง เราคงอันตรายกว่านี้ ประธานคังวูจินมีความดีความชอบในการช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเหนือกับใต้ไว้ครับ]

[เขาจะได้เหรียญหรือเปล่า?]

[ได้ครับ การกระทำอันกล้าหาญของประธานคังวูจินในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างเหนือกับใต้...]

[แล้วการที่ประธานคังวูจินถูกฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกายซึ่งยังไม่คลี่คลาย คิดว่า...]

ติ๊ด

เมื่อเริ่มทวนเรื่องเดิม จุงมินชานปิดโทรทัศน์ ทุกคนหันไปมองหน้ากันอย่างตึงเครียด

“ชัวร์ปึ๊ก 100% ทุกคนก็รู้นิสัยท่านประธานใช่ไหม?”

“...”

ทุกคนเห็นด้วยกับคำพูดของวูซุงฮุนเงียบๆ

“เรื่องเริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้น หรือประธานเราจะไปข่มขู่คิมจองอึน? เขาว่ารีพยังกานขโมยอาร์ติแฟคของเกาหลีเหนือไปหมด นั่นฟังเหมือนฝีมือประธานเราเลย”

คิมเฮมินไม่เชื่อการคาดเดาอันแม่นยำของวูซุงฮุน

“เอ๋ ไม่มั้ง ต่อให้ท่านประธานจะไม่เคารพกฎหมายเท่าไหร่ คุณคิดว่าเขาจะขโมยเลยเหรอ?”

“เรียกเขาไม่เคารพกฎหมายน่ะใจดีไป ไม่ยั้งคิดเลยเหอะ”

ซุงกูพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“เอ่อ นี่เป็นเรื่องตอนผมเจอท่านประธานครั้งแรก...”

เขาเล่าเรื่องวูจินฆ่าปาร์ตี้เบโดซู สีหน้าของสมาชิกแรกก่อตั้งมืดครึ้มเมื่อซุงกูเล่าว่าวูจินเอาเงินจากคนตาย วูซุงฮุนพูดอย่างมั่นใจ

“บ๊ะ เป็นไงล่ะ? ที่ข่าวพูดมันเชื่อได้ไม่หมดหรอก...”

“จะว่าไป ก่อนตั้งกิลด์ลูกพี่บอกว่าเขาอยากไปลอบสังหารคิมจองอึนด้วยนะครับ...”

“เห็นไหมล่ะ! อูย ขนลุกเลยผม”

วูซุงฮุนฟังซุงกูแล้วยิ่งตื่นเต้น

“หรือท่านประธานจะฆ่าคิมจองอึนไปแล้ว”

“เฮ้ย ไม่จริงอ่ะ”

“นายบอกว่าประธานเราอยากฆ่าเขาไม่ใช่เหรอ? เขาต้องวางแผนไว้แน่ หรือเขาจะโตมาในครอบครัวชาตินิยม? เขาคงไม่พอใจเกาหลีเหนือแน่”

“อ่า ลูกพี่แค่โกรธที่ได้หมายเกณฑ์...”

วูซุงฮุนเลิกคิ้ว

“แค่ได้หมายเกณฑ์เนี่ยนะ? มันเกี่ยวอะไร...”

“เขาไม่อยากเข้ากองทัพ...”

“ป้าด ดูท่านประธานคิดสิ พวกนายไม่ขนลุกเหรอ?”

เขาอยากฆ่าเผด็จการของประเทศหนึ่งเพราะไม่อยากเข้ากองทัพ

“เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วผมก็ไม่คิดจะว่าอะไรนะ แต่ สมัยที่ผมขายมือถือ...”

กริ๊ก

ซุงฮุนชะงักเมื่อประตูห้องประธานถูกเปิดออก

“พวกนายเป็นไงกันมั่ง?”

“...”

ทุกคนตัวแข็งทื่อเมื่อวูจินโผล่มา วูจินไม่ได้เห็นพวกเขานานเลยส่งยิ้มสดใส

“หืม มีอะไร?”

“ผมนึกว่าท่านประธานกำลังร่วมงานเลี้ยงกับประธานาธิบดีเสียอีก?”

“ฉันจะไปทำไม? ฉันอยากดื่มเหล้ากับพวกนายต่างหาก”

อ่า เขาผิดสัญญากับประธานาธิบดีง่ายๆเลยเหรอ?

“อื๋อ หูฉันมันคันๆ? ใครนินทาหรือเปล่า?”

ฟังเสียงวูจินแล้วทุกคนหันไปทางวูซุงฮุนทันที ม่านตาวูซุงฮุนหดตัวและสั่นวูบ ทันใดนั้นเขายืนขึ้นแล้วปรบมือมองไปทางวูจิน

แปะๆๆ!

“มาปรบมือให้ท่านประธานของเราเถอะ ท่านเหนื่อยมามากและกลับมาอย่างวีรบุรุษ ขอบคุณครับ พวกเราภูมิใจในตัวท่าน”

คนอื่นทำตามช้าไปหน่อย วูจินหัวเราะ เขาหรี่ตามองวูซุงฮุนที่พูดด้วยท่าทางเกินจริง

“นั่นสินะ”

วูซุงฮุนเหงื่อตก





สารบัญ                                   บทที่ 67


---
อะไรสนุกกว่านินทาหัวหน้า ไม่มี lol อย่าโดนจับได้ละกัน

4 ความคิดเห็น:

  1. ผมชอบสไตล์การแปลของคุณนะครับ555

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. ขอช่องทางติดต่อเจ้าของ blog หน่อยได้มั้ยง่า หาในเฟสก็ไม่มี

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ส่งเมล์ได้ค่ะ ที่อยู่บนเมล์อยู่บนสุดของหน้าจ้า

      ลบ