บทที่ 47 – ดันเจี้ยนเบรก
จีวอนเดินไปโดยมีหมวกสวมบนหัว เธอเผลอยิ้ม
“แปลกคน”
เดี๋ยวก็ใส่หน้ากาก เดี๋ยวก็พาไปเดท
เธอไม่ได้สนุก ไม่ต้องวิตกกังวลอะไรแบบนี้นานแล้ว...
หัวใจเธอยังเต้นแรงจากความตื่นเต้น
เขาดูไม่สนใจแต่ก็ดูใส่ใจเธอด้วย มันทำให้เธอใจเต้น
ติ๊ง
[อย่าสระผมหนึ่งวัน ยาจะถูกล้างไปด้วย
นอนซะ]
“ฮุ อะไรของนาย?”
คิดจะเปิดคลินิกเสริมความงามเหรอ?
ตอนที่ดอกไม้ไฟจุดเสร็จและคนมาห้อมล้อมพวกเธอ
วูจินมอบยาให้เธอเป็นของขวัญและทามันบนศีรษะเธอ
ทีแรกมันให้ความรู้สึกคันยิบเหมือนถูกยุงกัด
แต่หลังจากนั้นเธอรู้สึกสดชื่น ตอนนี้เธอรู้สึกสมองปลอดโปร่ง
จีวอนหัวเราะพลางตอบข้อความ
[จ้า ขอบคุณสำหรับวันนี้
คุณหมอก็รีบไปนอนเถอะ]
“ฮะๆ”
เธอกลับมาค่อนข้างเร็ว ดังนั้นเมื่อจีวอนมาถึงหอพัก
เฮจินกับนายองกำลังจะออกไปเข้ากะกลางคืน
“อ๊ะ? พวกเธอจะไปทำงานเหรอ?”
“...”
เฮจินกับนายองไม่ตอบคำ เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยก็ออกไป
จีวอนยักไหล่เมื่อเห็นท่าทางเย็นชาของพวกเธอ
“เฮ้อ”
จีวอนถูกเฉยชาใส่จนชิน เธอถอนหายใจแล้วเตรียมตัวเข้านอน
ล้างหน้าเสร็จก็ออกมาจากห้องน้ำ เธอเห็นกล่องใส่ไก่ทอดบนโต๊ะ
‘รุ่นน้องพวกนั้นกินไก่ทอดก็พอใจดีแล้ว…’
“อุ๊บ”
นึกถึงประโยคนั้นแล้วใบหน้าของรุ่นน้องที่เพิ่งออกจากห้องไปก็ลอยขึ้นมาในหัว
พวกเธอเหมือนออร์คกับกอบลินจริงๆ
ริมฝีปากของจีวอนเริ่มยกขึ้น เธอตีแก้มตัวเอง
“ไม่ๆ เราต้องไม่เป็นแบบนี้”
อย่ามองคนแต่ภายนอก
เธอรู้ดีว่าการทำแบบนั้นมันผิดและทำร้ายคนอื่นขนาดไหน
หลังจากทายาบำรุงผิวพรรณต่างๆแล้ว จีวอนสังเกตเห็นว่าแผลของเธอไม่บวมเท่าเดิม
“เอ๊ะ? หรือยานั้นจะได้ผล”
เราส์มีโอกาสเจอไอเทมมหัศจรรย์หลายอย่าง
เขาอาจทายาที่ให้ผลดีมากกับเธอก็ได้
กลับบ้านสัปดาห์หน้า เธอต้องขอบคุณเขาดีๆ
เมื่อจีวอนนั่งลงบนเตียงก็เห็นกระเป๋าใบเล็ก
“อ้อ”
รางวัลที่ได้จากการหมุนกงล้อ ข้างในคงไม่มีของดีอะไร
แต่เธอก็ยังสนใจ
จีวอนเปิดถุง ข้างในเป็นกล่องอัญมณี
“เอ๊ะ?”
เมื่อเปิดกล่อง ข้างในเป็นแหวนวงหนึ่ง
“อะไรเนี่ย”
นี่เป็นการหมุนกงล้อที่จัดข้างถนน ไม่มีให้แหวนหรอก
วูจินเป็นคนเตรียมเหรอ แล้วจีวอนก็เริ่มคิดว่าวันนี้ทั้งวันมันประหลาด
โรงหนังว่างเปล่า เธอได้แหวนมาหนึ่งวง
แล้วยังห้องอาหารราคาแพงกับดอกไม้ไฟอีก พวกคนถือดอกไม้ก็ด้วย...
จีวอนหน้าแดง
“ไม่จริงน่า”
วูจินสารภาพรักกับเธอเหรอ เอ๋... ไม่จริง...
เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อมองแหวน
ความรู้สึกก็หันไปทาง ‘อาจจะ’
สิ่งเดียวที่ทำให้จีวอนไม่เชื่อเต็มที่คือท่าทีของวูจิน
“อ้า ไม่รู้แล้ว”
จีวอนล้มบนเตียง เธอเขียนข้อความแล้วลบ เขียนแล้วลบ
สุดท้ายก็ไม่ได้ส่งข้อความหาวูจิน
เธอได้รับจากเขามามากพอแล้ว
ถ้าคิดจะคบหาเขาอีกจะมากเกินไปไหม
จีวอนมองรูปในโทรศัพท์
เธอยิ้มมองรูปเซลฟี่ของไอรอนแมนกับสไปเดอร์แมน
เธอไม่ได้ถ่ายรูปตัวเองมานาน 5 ปีแล้ว จีวอนมองรูปถ่ายแต่ละรูปแล้วหลับไป
***
เช้าวันจันทร์
สำนักงานของกิลด์อลันดาล
“หนึ่ง”
“อย่า สอ”
“สอง”
“ใส่เกือก”
วูจินนั่งตรงโซฟา นิ้วเคาะที่วางแขน เขาเคาะหนึ่งที
วูซุงฮุนก็วิดพื้นหนึ่งที
“เฮ้ย ซุงฮุน”
“ครับผม”
ซุงฮุนลุกพรวด
“ทำแค่ที่ฉันสั่ง มีอะไรจะพูดไหม?”
“ผมพยายามจะแสดงความภักดีแต่ผิดพลาดไปครับ”
วูจินยิ้ม
เรื่องนั้นเขารู้ดี และด้วยเหตุนี้ซุงฮุนจึงยังมีชีวิตอยู่
ถ้าสิ่งที่วูซุงฮุนทำมาจากความคิดประสงค์ร้ายอย่างนั้นศีรษะของเขาคงหลุดกระเด็นแทนการวิดพื้น
“ทำแต่พอเหมาะ พอเหมาะน่ะ”
“ครับผม”
“นายไปเอาเงินมาจากไหน?”
“ผมใช้บัตรเครดิตร่วมของกิลด์...”
“...”
“หนึ่ง”
“อย่า ส...”
ซุงฮุนลงไปวิดพื้นโดยกึ่งๆอัตโนมัติ
คนที่มาช่วยไว้คือจุงมินชาน
“อ้าว? ท่านประธานมาแล้วเหรอ? เอ๋? คุณซุงฮุนก็ด้วย...”
“ฉันบอกว่าวันนี้ไม่ต้องทำงาน ไม่รู้เหรอ?”
“ฮะๆๆ ตอนนี้ผมจะพักได้ยังไง?”
กิลด์เพิ่งตั้งได้แค่สัปดาห์เดียว เขาเป็นกรรมการใหญ่
แต่มีพนักงานให้ใช้ไม่มาก หมายถึงงานที่เขาต้องทำเยอะขึ้นเรื่อยๆ
งานที่ต้องจัดการมีเป็นภูเขา เขาจะพักได้อย่างไร?
วูจินไม่ห้ามมินชาน เขาก็มาทำงานวันหยุดเหมือนกัน
“งั้นก็ทำงานเถอะ”
“ครับ อ้อ เรื่องที่กระทรวงกลาโหมเรียบร้อยแล้วนะ”
“จริงเหรอ? พวกเขายอมรับเราไหม?”
“ครับ เมื่อกระทรวงสั่ง ท่านประธานต้องให้ความร่วมมือ
10 ครั้ง ถ้าทำตามนั้นได้ก็ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร”
วูจินยิ้ม
เมื่อเกิดดันเจี้ยนเบรก เขาก็แค่เดินทางไปที่นั่น
จัดการมอนสเตอร์ หรือเคลียร์ดันเจี้ยนที่รัฐบาลสั่งมา
“ทำได้ดีมาก กรรมการจุง ฮะๆๆ”
วูจินให้คำชมที่หาได้ยาก จุงมินชานมีสีหน้าพอใจ
“ไปกินกันเร็วๆเถอะ”
“ฮะๆ ครับ”
วูจินอารมณ์ดีขึ้น จึงปล่อยซุงฮุนไป
“เฮ้อ เข้าดันเจี้ยนแบบไม่มีซุงกูไปด้วยก็น่าเบื่อเกิน”
ทราห์เน็ตไม่บุกโลกในเร็วๆนี้แน่
วูจินจึงตัดสินใจพักต่ออีกวัน เขาพิงโซฟาแล้วเปิดโทรทัศน์
วูจินเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ และหยุดตรงรายการโชว์ชื่อ ‘มิสเทอเรียส ทีวี เซอร์ไพรส์’
เป็นรายการพิเศษเกี่ยวกับดันเจี้ยน พูดถึงเรื่องลึกลับเกี่ยวกับดันเจี้ยน
และเชิญคนจำนวนหนึ่งมาเสนอสมมุติฐานในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
[มอนสเตอร์เป็นรูปแบบชีวิตจากมิติอื่น
ดันเจี้ยนเป็นการเตือนว่าโลกจะถูกทำลายในอีกไม่ช้า...]
มีคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญดันเจี้ยน
และนักวิทยาศาสตร์หลายคนให้สัมภาษณ์
พวกเขาพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในดันเจี้ยนในช่วง 5 ปีมานี้
และได้สร้างข้อสันนิษฐานขึ้นมา
บ้างก็ว่าดันเจี้ยนมีมานานกว่า 5 ปี
บ้างก็ว่าสิ่งมีชีวิตจากโลกอื่นกำลังบุกโลก พวกเขายังคุยถึงข่าวลือแปลกๆ
[ถ้าคิดว่าการบุกโลกจะมาจากห้วงอวกาศอย่างเดียวอย่างนั้นก็เรียกว่าเรามองแต่มุมมองกายภาพ
ดันเจี้ยนนั้นเหมือนอุโมงค์ สรุปคือมันเป็นฐานหรือประตูของสิ่งมีชีวิตจากโลกอื่น อีกไม่นานสิ่งเหล่านั้นจะสามารถข้ามมายังโลกได้]
“เขาพูดถูก”
วูจินเห็นด้วยกับคำกล่าวของนักวิทยาศาสตร์ต่างชาติ นักวิทยาศาสตร์คนนั้นแสดงหลักฐานต่างๆยืนยันคำพูดของตัวเอง
[แม้จะสร้างประตูขึ้นมาแล้ว
แต่พวกเขายังข้ามมาไม่ได้ทันที ดันเจี้ยนเบรกจะเกิดหลังเวลาผ่านไป 30 วัน
ทำไมถึงเป็น 30 วัน? ผมได้สร้างข้อสันนิษฐานที่เกี่ยวกับไอเทมรีเทิร์นสโตน
มันเป็นกุญแจเดียวที่สามารถสลายบาเรียลงได้ ผมคาดว่ามอนสเตอร์ต้องรักษารีเทิร์นสโตนให้ได้
30 วัน พวกมันถึงจะสามารถใช้ความสามารถกุญแจของหินนี้...]
“หือ? ฟังแล้วน่าจะเป็นไปได้นะ?”
ทำไมมอนสเตอร์ถึงออกมาได้เฉพาะหลัง 30
วันจากดันเจี้ยนถูกสร้างขึ้น? หรือบาเรียไม่ได้มีเพื่อปกป้องดันเจี้ยน แต่มีเพื่อปกป้องโลก
[มอนสเตอร์ที่มาจากดันเจี้ยนในตอนแรกนั้นอ่อนแอ
เดินโงนเงนเหมือนถูกวางยา ตอนแรกพวกเราได้รับความเสียหายมหาศาล
นั่นเพราะยังไม่เตรียมตัวรับมือกับมอนสเตอร์ แต่เมื่อเทียบมอนสเตอร์ตอนนี้กับตอนแรก
มอนสเตอร์ในอดีตอ่อนแอกว่าแน่นอน]
คลิปเหตุการณ์เกิดดันเจี้ยนระเบิดครั้งแรกที่วูจินไม่เคยเห็นฉายขึ้นมา
“พวกมันร่างเล็ก ผมแน่ใจว่าพวกมันยังก่อรูปไม่ได้เพราะมีพลังงานต่ำ”
เรื่องนี้บิบิก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว
[หลังจากเหตุการณ์ดันเจี้ยนระเบิดครั้งแรกแล้วเป็นอย่างไร?
ตอนนั้นพวกเรามีเพียงดันเจี้ยน 4 ดาว แต่หลังจากนั้นก็เกิดดันเจี้ยน 5 และ 6
ดาวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป อีกไม่นานก็จะเกิดดันเจี้ยน 7 ดาว]
โดยไม่รู้ตัว
วูจินก็ฟังเรื่องที่ศาสตราจารย์ในโทรทัศน์พูดอย่างตั้งใจ
ข้อสันนิษฐานของเขาตรงทีเดียว
ดันเจี้ยนที่มีพลังงานมากกว่าเดิมปรากฏขึ้น
ความถี่ของการเกิดดันเจี้ยนก็เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง
และเราส์ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
ในตอนแรก ระดับที่สูงที่สุดของเราส์คือ แรงค์ C
ตอนนี้เป็นยุคของเราส์แรงค์ A ถ้ารอสักนิดอาจจะเกิดเราส์แรงค์สูงกว่าแรงค์
A อีก
ไม่ ต้องมีแน่นอน เรื่องอื่นวูจินไม่แน่ใจแต่เรื่องนี้เขารู้แน่
เราส์แรงค์ A
เพียงเทียบได้กับนักเวทย์วงแหวนที่ 6
แน่นอนว่าต้องมีระดับสูงกว่านั้น
แล้วอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เราส์เพิ่มจำนวนขึ้น
อะไรทำให้ดันเจี้ยนระดับสูงเกิดขึ้น โลกเปลี่ยนไปตรงไหน?
ศาสตราจารย์ในโทรทัศน์ส่งคำเตือน
[ดันเจี้ยนไม่ใช่เหมือง
บลัดสโตนที่พวกเราปล้นมาอาจเป็นเหยื่อล่อที่พวกนั้นปล่อยไว้]
ประโยคนั้นเหมือนค้อนทุบใส่ศีรษะวูจิน
บลัดสโตนมีพลังงาน
ต้นตอของพลังงานคือพลังเวทย์
“รวบรวมพลังเวทย์...”
บลัดสโตนใช้เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของพลังเวทย์บนโลก
มันจะเพิ่มจำนวนเราส์ และเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของโลกให้เหมาะสมกับการคงอยู่ของมอนสเตอร์...
“ศาสตราจารย์คนนี้ชื่ออะไรนะ?”
ไม่นานชื่อของศาสตราจารย์ก็โผล่มา วูจินจดชื่อเขาไว้
เจมส์ ทอปเลอร์ ชาวอังกฤษ
วูจินจมอยู่กับโทรทัศน์จนกระทั่งได้ยินเคาะประตู
“ท่านประธาน ผมมินชาน”
“เข้ามา”
มินชานพูดกับวูจินด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ
“กระทรวงกลาโหมติดต่อมา”
“กระทรวงกลาโหม? จะส่งพวกเราไปแล้วเหรอ?”
“ครับ แต่เราไม่ต้องไปเข้าร่วมก็ได้
ถ้าส่งจดหมายอ้าง...”
งานของมินชานคือหาข้ออ้างดีๆ
“ไม่ เราจะไป เกิดอะไรขึ้น?”
“ดันเจี้ยนเบรก”
นี่จะเป็นครั้งแรกที่วูจินจะได้เห็นดันเจี้ยนเบรกกับตา
“ที่ไหน?”
“เดกู สถานีจูจุนทางออกที่ 3”
“ซุงฮุนเลิกงานแล้วยัง?”
“เขายังอยู่ครับ”
“เตรียมรถ”
“ครับ”
นี่เป็นภารกิจร่วมครั้งแรกของอลันดาลกับกระทรวงกลาโหม
เริ่มที่เดกู
***
“อืม...”
จีวอนลืมตามองนาฬิกา แล้วก็ต้องตกใจ
“ฮึก!”
สี่ทุ่มยี่สิบนาที
เธอนอนตอนประมาณเที่ยงคืน
ดังนั้นจึงเท่ากับนอนไปเกือบทั้งวัน ไม่ได้ดื่มเหล้าแท้ๆแต่หลับไปนานขนาดนี้...
นายองกับเฮจินที่ทำงานกะเดียวกับเธอกลับไม่ยอมปลุก
จีวอนไม่มีเวลาอาบน้ำ เธอรีบวิ่งไปพลางสวมหมวกไปด้วย
“แฮ่กๆ สวัสดีค่ะ!”
“อ๊ะ ครับ”
ยามประจำหอพักมองจีวอนอย่างสงสัย
“ใครกัน?”
จีวอนกระแทกบัตรบันทึกเวลาเข้างานเกือบไม่ทัน
เธอเข้าไปที่ห้องเปลี่ยนชุด ก้มหัวให้เพื่อนพนักงานคนอื่น
“ขอโทษที่มาสายค่ะ”
เธอไม่ได้เข้างานสาย
แต่ทุกคนเปลี่ยนเสื้อกันเรียบร้อยแล้ว กำลังชงกาแฟสำเร็จรูปอยู่
ทุกคนจ้องจีวอน
‘ฮือ ฉันนอนมากไป’
เมื่อวานเธอไม่ได้มาทำงาน วันนี้ก็เกือบสายอีก
ไม่มีใครเห็นใจเธอแน่ สายตาของทุกคนทำให้จีวอนอึดอัดจึงรีบเปลี่ยนชุด
“ตายแล้ว”
“นั่นจีวอนจริงๆเหรอ?”
“พี่?”
ทุกคนประหลาดใจเมื่อเห็นจีวอน จีวอนก้มหัวลงด้วยความอาย
“ขอโทษที่มาสายค่ะ”
พูดแล้วจีวอนก็ใส่ชุดทำงาน ตบๆเนื้อตัวให้เรียบร้อย
ขณะกำลังจะสวมหมวกทำงานเธอก็สังเกตเห็นตัวเองในกระจก
“เอ๋?”
จีวอนลดหมวกที่กำลังจะสวมลง
“อา...”
เธอตกใจจนพูดไม่ออก
อา ทุกคนไม่ได้ตกใจที่เธอมาช้า แต่เพราะหน้าเธอต่างหาก
“คุณ...คุณจีวอน ผมคุณ...”
“พี่ หน้าพี่...”
จีวอนมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง
แผลที่ปิดครึ่งหนึ่งของหน้าเธอหายไปแล้ว
หนังศีรษะที่ถูกลอกออกจนเป็นแผลบวมและน่าเกลียด ตอนนี้แผลหายไป
และศีรษะก็มีผมเงางามปกคลุม
ความยาวของผมไม่เท่ากัน แต่เธอไม่สนใจ
จีวอนแตะหน้าด้วยมือสั่นเทา
“หน้า...หน้าของฉัน...”
น้ำตาร่วงจากดวงตาของจีวอน
เป็นวูจิน ยาที่วูจินทาให้เธอ...
น้ำตาของจีวอนไหลกลบตาจนมองอะไรลำบาก
แต่เธอก็หาเบอร์ของวูจินในโทรศัพท์จนเจอแล้วกดโทรออก
[ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
กรุณาฝากข้อความ...]
“อา”
จังหวะไม่ดีเลย จีวอนไม่รู้จะทำอย่างไรกับความสุขและความขอบคุณที่ท่วมท้นในใจเธอดี
[รายงานข่าวด่วนค่ะ สถานีจูจุนทางออกที่
3 ของจังหวัดเดกูใกล้จะเป็นดันเจี้ยนเบรก การอพยพคนในท้องที่เสร็จไปแล้ว
และเราส์คังวูจินได้เข้าดันเจี้ยนไป...]
ดันเจี้ยนเบรก ดันเจี้ยนระเบิด เป็นอันเดียวกันนะคะ
ขอบคุณครับ
ตอบลบ