บทที่ 75.1
“ถ้าไม่ได้แล้วเจ้าทำได้ยังไง?”
“ฮุๆ ข้ามีวิธี ที่จริงคือ การแสวงบุญครั้งนี้ตัดสินขึ้นกะทันหัน”
แลนซีลอตและเลชาเอียงคอ ถ้าไม่อยากมีกองอัศวินมาด้วย แค่ไม่ออกแสวงบุญก็ได้นี่? เมื่อแลนซีลอต คนที่ว่ากันว่ามีสามัญสำนึกที่สุด และเลชา เอียงคอ ฮิลลิสก็ตระหนักว่าเธออธิบายไม่ชัดเจน
“โอ๊ะ ในวิหารของเรา นักบวชขั้นสูงที่มีตำแหน่งพอสมควรต้องออกเดินทางแสวงบุญอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ปกติจะไปก่อนกลายเป็นนักบวชขั้นสูงหรือไม่ก็เมื่อแก่มากแล้ว แต่ข้ายังอายุน้อยเกินไป”
แม้แลนซีลอตจะเรียนมาเยอะจากกระทรวงต่างประเทศ เขาไม่รู้กฎยิบย่อยพวกนี้
ฮิลลิสอวดต่อ “ดังนั้นข้าเลยคิดว่า ทำยังไงถึงจะทิ้งอัศวินน่ารำคาญพวกนี้ไปได้นะ?”
ที่จริง ถ้ามีคนมากับเธอมากๆ การเดินทางก็จะยิ่งสะดวกขึ้น แต่ฮิลลิสรักอิสระมากจนถ้ามีคนรับใช้หลายคนแล้วเธอจะรู้สึกอึดอัด
ยกเว้นคนสนิทของฮิลลิสแล้ว คนอื่นจะคิดว่าฮิลลิสมีนิสัยแบบเซนต์ ดังนั้นเธอจึงต้องระวังเรื่องการใช้คำพูดและกิริยา ฮิลลิสเป็นเซนต์แน่นอน แต่นิสัยของเธอห่างไกลจากเซนต์ในความคิดของคนอื่นมาก
“หลังจากคิดอยู่นาน วิธีที่ดีที่สุดคือประกาศว่าข้าจะออกแสวงบุญ เรียกรวมตัวอัศวินแล้วหนีก่อนการกำหนดแผนการเดินทาง”
ฟังดูง่าย แต่ในความเป็นจริง มันสำเร็จหลังจากชนะการโต้เถียงอย่างเร่าร้อนกับโป๊บและนักบวชขั้นสูงคนอื่นๆ
ขณะเล่าเรื่องของเธอ ฮิลลิสเปิดหน้าต่าง “เอาล่ะ อีกไม่นาน แดนศักดิ์สิทธิ์ซาฮา-”
ตูม!!
เสียงระเบิดกลบเสียงของฮิลลิส เกวียนหยุดกะทันหันทำให้คนข้างในเสียหลักล้มไปข้างหน้า
ฮิลลิสได้สติแล้วรีบถามผ่านหน้าต่าง “เกิดอะไรขึ้น?”
“เราถูกโจมตี! เซนต์ อย่าออกมานะครับ!”
ได้ยินเสียงพาลาดินข้างนอก เลชากับแลนซีลอตหยิบอาวุธและลงจากเกวียน
“อันตราย!” ฮิลลิสพยายามหยุดแต่นึกขึ้นได้ว่าพวกเขาเป็นคนเผ่ากา
เธอลืมเรื่องนี้เพราะพวกเขาดูต่างจากที่เธอจินตนาการไว้มาก
เพราะทำอะไรไม่ได้ ฮิลลิสจึงคุกเข่าลงและภาวนา “พระแม่หนึ่งเดียวของข้า โปรดเมตตาช่วยและรักษาบาดแผลให้ลูกของท่าน-”
ด้วยคำภาวนา ร่างกายของฮิลลิสส่องแสงและส่งพรให้พาลาดินนอกเกวียน พรและเวทมนตร์รักษาวนรอบร่างพาลาดิน พวกเขาชักดาบและตะโกน
“พระเจ้าอยู่กับพวกเรา!”
“โอ้!”
มันคือกำเนิดของแมลงสาบ
***
การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อขบวนแสวงบุญเกือบถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เหล่าพาลาดินหยุดและมองรอบๆ กองกำลังที่มาจู่โจมดูเหมือนจะเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ประกอบด้วยนักเวทหลายคน เหล่าพาลาดินกัดฟันเมื่อเห็นนักเวทอยู่บนเนินทราย มองที่ชุดที่พวกนักเวทสวมอยู่เป็นพิเศษ
“ไอ้พวกนักเวทดำ!”
หลายยุคสมัยแล้ว นักเวทดำถือเป็นศัตรูของศาสนาส่วนใหญ่
จากบันทึกทางศาสนาเช่นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ นักเวทดำคือลูกหลานของผู้ทำบาปขับไล่พระเจ้าไปจากโลก เพื่อพลังแล้ว พวกเขาทรยศพระเจ้าผู้สร้างโลกและอยู่ร่วมกับพวกเขา
แน่นอนว่า ไม่รู้ว่าบันทึกทางศาสนาเป็นความจริงหรือไม่ แต่ถ้าไม่นับเรื่องนี้ พวกเขาคือกลุ่มที่ใช้มนุษย์เป็นเครื่องบูชายัญและสร้างอันเดด การเหยียดหยามชีวิตแบบนี้ทำให้นักเวทดำเป็นศัตรูของโลก
เหล่าพาลาดินปลุกพลังเวทและจ้องศัตรูด้วยเลือดเดือดพล่าน แมครู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเหล่าพาลาดแล้วรู้สึกตื่นเต้น พลังของเหล่าพาลาดินต่างจากเมื่อคืนอย่างสิ้นเชิง เขาสะกดความต้องการต่อสู้กับเหล่าพาลาดินและปัดเวทที่ลอยมาทางเขา
พลังของเหล่าพาลาดินขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากนักบวช ดูจากพวกวิบริโอที่สามารถถ่วงเวลาบลัดดี้กับวิลเลียมเมื่อได้รับการสนับสนุนจากเฟอนันโด และเมื่อคิดว่าฮิลลิสมีพลังศักดิ์สิทธิ์เหนือกว่าโป๊บ พาลาดินเหล่านี้ถือว่าทัดเทียมกับชาติพันธุ์นักสู้
“พวกเราคือ!”
หัวหน้าพาลาดินเริ่ม ที่เหลือพูดต่อ
“ผู้แข็งแกร่ง! ผู้ไม่แพ้!”
หัวหน้าพาลาดินออกคำสั่ง “หน่วย 1,2 กับ 3 อยู่ที่นี่ ที่เหลือไปกับข้า!”
“ครับ!”
ในสิบสามคน พาลาดินเก้าคนอยู่ อีกสี่คนขี่อูฐตรงไปยังกลุ่มที่ยิงเวทบนเนินทราย ปกติแล้วคนเพียงสี่คนเป็นกำลังรบอ่อนแอ แต่เพราะฮิลลิสเน้นสนับสนุนสี่คนนี้ พวกเขากลายเป็นกำลังรบที่ไม่อาจมองข้าม
แมคกระตุ้นอูฐที่เขาขี่ไปกับพวกพาลาดิน “ข้าไปด้วย! แลนซีลอต ฝากดูแลคุณหนูด้วย!”
“ครับ!”
แลนซีลอตชักดาบ เขายามถือดาบดูอ่อนแอไม่น่าพึ่งได้ แต่แลนซีลอตโตมากับเดน เพื่อเล่นกับเดนเขาถูกบังคับให้อดทนกับการเรียนการสอนแบบดูมสโตน ดังนั้นเขาจึงแข็งแกร่งอย่างน้อยก็เท่ากับปกติของคนเผ่ากา
กองพันกับคนห้าคนปะทะกัน แม้จะสู้กับคนจำนวนน้อยนิด นักเวทดำก็ไม่ดูถูกพวกพาลาดิน ทุกครั้งที่เหล่าพาลาดินตวัดดาบ คนสองสามคนก็เสียเลือดล้มจึงไม่มีทางดูถูกเหล่าพาลาดินได้
“ทุกคนใช้ยาเพิ่มพลัง!” หัวหน้ากองพันร้องสั่ง ทหารดื่มยาพร้อมกัน จากนั้นพลังเวทสีดำก็ค่อยๆไหลจากร่างทหาร
ยาที่พวกเขาดื่มทำให้พลังเวททะลักล้น แต่เมื่อประสิทธิภาพของยาหมดลงพวกเขาจะเจ็บปวดไปหนึ่งสัปดาห์ ความเจ็บปวดมันมากพอทำให้ฆ่าตัวตายได้ ถึงอย่างนั้น ถ้าไม่ใช้ตอนนี้พวกทหารคงถูกเหล่าพาลาดินฆ่า
“พลหอก!”
แม้จะให้ทหารใช้ยาแล้ว หัวหน้ากองพันยังไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้เหล่าพาลาดินและแทงจากที่ไกล อย่างไรเสียยาก็มีผล 3 วัน
“พลธนู!” ทหารถือธนูบนเนินทรายขึ้นศร
“ยิง!” หัวหน้าออกคำสั่ง คนถือธงโบกธงแดง ธนูลอยพุ่งพร้อมกันไปยังเกวียนที่ฮิลลิสนั่ง
เหล่าพาลาดินกัดฟัน ตอนนี้พวกเขาต้องเชื่อในพาลาดินที่คุ้มกันฮิลลิสและฝ่าไปจัดการพลธนูและนักเวทดำ
“รีบฝ่าไปเร็ว!”
ขณะเดียวกัน เหล่าพาลาดินที่คุ้มกันฮิลลิสหัวเราะใส่ธนูที่พุ่งมา มันเป็นยิ้มที่มีแต่คนเตรียมใจตายแล้วที่ทำได้ พวกเขาตั้งใจปกป้องฮิลลิสต่อให้ตัวเองกลายเป็นเถ้าถ่าน
“กลุ่ม1! ขึ้นไปบนหลังคาเกวียน! กลุ่ม2 กับกลุ่ม3 ไปข้างหน้า!”
พาลาดินกลุ่ม1 ปีนขึ้นไปบนหลังคาเกวียนและยกโล่ ต่อให้ถูกยิงจนพรุนพวกเขาก็ไม่ตายหากไม่ขาดจากการสนับสนุนของฮิลลิส พวกเขาหลับตาและเร่งพลังเวทขึ้นเตรียมรับห่าธนู
ตอนนั้นเอง เสียงร้องดังขึ้นจากในเกวียน “ป้องกัน! ป้องกัน! ป้องกัน!”
เลชาชูไม้เท้าที่ซื้อจากวาแรนท์และกางโล่สามชั้นรอบเกวียนและพาลาดิน ธนูถูกโล่แล้วกระเด้งออก
“โอ้! คุณหนูกา!” เหล่าพาลาดินร้องอย่างดีใจ
แต่ท่ามกลางเสียงร้องดีใจ ลูกธนูก็สร้างรอยแตกในโล่ เวทถูกใช้โดยไม่มีการเตรียมและร่ายคาถาจึงไม่เสถียร เลชารู้ดีจึงสร้างโล่ไว้สามชั้น
เมื่อลูกธนูแรกสร้างรอยแตกได้ ลูกธนูที่เหลือก็ตามมา และโล่ชั้นแรกก็แตกลงพร้อมเสียงแหลม
เลชาหยิบน้ำยาและเมล็ดพืชเมล็ดหนึ่งออกมาจากกระเป๋ามิติและโยนไปพลางร่ายคาถา “ลมหายใจของชีวิตนั้นเปี่ยมเมตตา! จงโต!”
เมล็ดพืชที่ถูกโยนกลายเป็นหน่อพืชกลางอากาศ ขวดน้ำยาที่ถูกโยนพ้นโล่ถูกลูกธนูยิงแตก น้ำยาหกใส่หน่อพืชและทำให้มันโตขึ้นทันที พริบตาเดียว หน่อพืชกลายเป็นต้นไม้และถูกลูกธนูยิงใส่ ถึงกระนั้นมันก็ยังโตต่อไปและหล่นพื้นอย่างหนัก
“ต้นกำเนิดแห่งชีวิต อาบมัน!”
ไม้เท้าของเลชาดึงน้ำจากรอบๆมาทั้งหมด แอ่งน้ำเป็นสีแดงอ่อนเหมือนเอาเลือดของนักเวทดำและทหารที่กำลังต่อสู้มาด้วย
เลชาโบกไม้เท้า แอ่งน้ำพุ่งใส่ต้นไม้ที่กำลังขยายรากในทะเลทราย น้ำบริสุทธิ์ย่อมดีที่สุด แต่ดูจากสภาพแวดล้อมของต้นไม้แล้ว น้ำที่มีสิ่งปนเปื้อนก็พอใช้ได้
น้ำแห้งซึมลงพื้นอย่างรวดเร็ว ต้นไม้ที่เลชาสร้างขึ้นดูดมันอย่างรวดเร็วและเติบโตขึ้น ในพริบตาเดียว ต้นไม้ก็ใหญ่พอแทนที่โล่ของเลชาและรับลูกธนูแทน
เห็นต้นไม้ใหญ่จนบดบังไม่เห็นลูกธนู เหล่าพาลาดินส่งเสียงเชียร์
“ว้าว!”
“คุณหนู! คุณหนู!”
เหล่าพาลาดินเรียกเลชาว่าคุณหนูเหมือนแมค
“อย่าเรียกข้าว่าคุณหนูนะ!” เลชาขมวดคิ้ว อยากให้เรียกด้วยชื่ออย่างธรรมดามากกว่า แต่เหล่าพาลาดินไม่ฟังเลย
เชื่อว่าพวกเขาเรียกเธออย่างนี้เพราะแมค เลชาสาบานว่าถ้าเขากลับมาเมื่อไหร่จะเตะหน้าแข้งเขา
เหมือนรู้สึกถึงคำสาบานของเลชา แมคที่กำลังสู้อย่างแข็งขันจาม
“ฮัดเช้ย!”
“เป็นหวัดเหรอ พี่กา?” หัวหน้าพาลาดินที่เพิ่งสังหารทหารไปสองคนในทีเดียวถาม
“เปล่า ทรายคงเข้าจมูกน่ะ” แมคตอบสบายๆก่อนจะปาดคอทหารสามคนในทันที
“ดีแล้ว ขนาดสุนัขยังไม่เป็นหวัดหน้าร้อนเลย” หัวหน้าพาลาดินพูด
“ฮ่าๆๆ งั้นถ้าข้าเป็นหวัดก็แย่กว่าสุนัขอีกน่ะสิ ท่านพาลาดิน”
พวกเขาคุยเล่นในระหว่างสังหารศัตรู
“ข้าอัลบาทอส พี่กา”
“เรียกข้าแมคเถอะ ท่านพาลาดิน”
คนแปลคิดว่าใช้คำว่ารถม้าแต่อูฐลากมันแปลกๆเลยเปลี่ยนเป็นเกวียน แต่ใช้คำว่าเกวียนก็แปลกพอกันแฮะ @A@
การสอนสไตล์ดูมสโตน แลนซีลอตก็ต้องไปสู้กับมังกรเหมือนกันสินะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น