วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ชีวิตข้าฯ - บทที่ 75.1

 บทที่ 75.1

“ถ้าไม่ได้แล้วเจ้าทำได้ยังไง?”

“ฮุๆ ข้ามีวิธี ที่จริงคือ การแสวงบุญครั้งนี้ตัดสินขึ้นกะทันหัน”

แลนซีลอตและเลชาเอียงคอ ถ้าไม่อยากมีกองอัศวินมาด้วย แค่ไม่ออกแสวงบุญก็ได้นี่? เมื่อแลนซีลอต คนที่ว่ากันว่ามีสามัญสำนึกที่สุด และเลชา เอียงคอ ฮิลลิสก็ตระหนักว่าเธออธิบายไม่ชัดเจน 

“โอ๊ะ ในวิหารของเรา นักบวชขั้นสูงที่มีตำแหน่งพอสมควรต้องออกเดินทางแสวงบุญอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ปกติจะไปก่อนกลายเป็นนักบวชขั้นสูงหรือไม่ก็เมื่อแก่มากแล้ว แต่ข้ายังอายุน้อยเกินไป”

แม้แลนซีลอตจะเรียนมาเยอะจากกระทรวงต่างประเทศ เขาไม่รู้กฎยิบย่อยพวกนี้

ฮิลลิสอวดต่อ “ดังนั้นข้าเลยคิดว่า ทำยังไงถึงจะทิ้งอัศวินน่ารำคาญพวกนี้ไปได้นะ?”

ที่จริง ถ้ามีคนมากับเธอมากๆ การเดินทางก็จะยิ่งสะดวกขึ้น แต่ฮิลลิสรักอิสระมากจนถ้ามีคนรับใช้หลายคนแล้วเธอจะรู้สึกอึดอัด

ยกเว้นคนสนิทของฮิลลิสแล้ว คนอื่นจะคิดว่าฮิลลิสมีนิสัยแบบเซนต์ ดังนั้นเธอจึงต้องระวังเรื่องการใช้คำพูดและกิริยา ฮิลลิสเป็นเซนต์แน่นอน แต่นิสัยของเธอห่างไกลจากเซนต์ในความคิดของคนอื่นมาก

“หลังจากคิดอยู่นาน วิธีที่ดีที่สุดคือประกาศว่าข้าจะออกแสวงบุญ เรียกรวมตัวอัศวินแล้วหนีก่อนการกำหนดแผนการเดินทาง”

ฟังดูง่าย แต่ในความเป็นจริง มันสำเร็จหลังจากชนะการโต้เถียงอย่างเร่าร้อนกับโป๊บและนักบวชขั้นสูงคนอื่นๆ

ขณะเล่าเรื่องของเธอ ฮิลลิสเปิดหน้าต่าง “เอาล่ะ อีกไม่นาน แดนศักดิ์สิทธิ์ซาฮา-”

ตูม!!

เสียงระเบิดกลบเสียงของฮิลลิส เกวียนหยุดกะทันหันทำให้คนข้างในเสียหลักล้มไปข้างหน้า

ฮิลลิสได้สติแล้วรีบถามผ่านหน้าต่าง “เกิดอะไรขึ้น?”

“เราถูกโจมตี! เซนต์ อย่าออกมานะครับ!”

ได้ยินเสียงพาลาดินข้างนอก เลชากับแลนซีลอตหยิบอาวุธและลงจากเกวียน

“อันตราย!” ฮิลลิสพยายามหยุดแต่นึกขึ้นได้ว่าพวกเขาเป็นคนเผ่ากา

เธอลืมเรื่องนี้เพราะพวกเขาดูต่างจากที่เธอจินตนาการไว้มาก

เพราะทำอะไรไม่ได้ ฮิลลิสจึงคุกเข่าลงและภาวนา “พระแม่หนึ่งเดียวของข้า โปรดเมตตาช่วยและรักษาบาดแผลให้ลูกของท่าน-”

ด้วยคำภาวนา ร่างกายของฮิลลิสส่องแสงและส่งพรให้พาลาดินนอกเกวียน พรและเวทมนตร์รักษาวนรอบร่างพาลาดิน พวกเขาชักดาบและตะโกน

“พระเจ้าอยู่กับพวกเรา!”

“โอ้!”

มันคือกำเนิดของแมลงสาบ

***

การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อขบวนแสวงบุญเกือบถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เหล่าพาลาดินหยุดและมองรอบๆ กองกำลังที่มาจู่โจมดูเหมือนจะเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ประกอบด้วยนักเวทหลายคน เหล่าพาลาดินกัดฟันเมื่อเห็นนักเวทอยู่บนเนินทราย มองที่ชุดที่พวกนักเวทสวมอยู่เป็นพิเศษ

“ไอ้พวกนักเวทดำ!”

หลายยุคสมัยแล้ว นักเวทดำถือเป็นศัตรูของศาสนาส่วนใหญ่

จากบันทึกทางศาสนาเช่นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ นักเวทดำคือลูกหลานของผู้ทำบาปขับไล่พระเจ้าไปจากโลก เพื่อพลังแล้ว พวกเขาทรยศพระเจ้าผู้สร้างโลกและอยู่ร่วมกับพวกเขา 

แน่นอนว่า ไม่รู้ว่าบันทึกทางศาสนาเป็นความจริงหรือไม่ แต่ถ้าไม่นับเรื่องนี้ พวกเขาคือกลุ่มที่ใช้มนุษย์เป็นเครื่องบูชายัญและสร้างอันเดด การเหยียดหยามชีวิตแบบนี้ทำให้นักเวทดำเป็นศัตรูของโลก 

เหล่าพาลาดินปลุกพลังเวทและจ้องศัตรูด้วยเลือดเดือดพล่าน แมครู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเหล่าพาลาดแล้วรู้สึกตื่นเต้น พลังของเหล่าพาลาดินต่างจากเมื่อคืนอย่างสิ้นเชิง เขาสะกดความต้องการต่อสู้กับเหล่าพาลาดินและปัดเวทที่ลอยมาทางเขา 

พลังของเหล่าพาลาดินขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากนักบวช ดูจากพวกวิบริโอที่สามารถถ่วงเวลาบลัดดี้กับวิลเลียมเมื่อได้รับการสนับสนุนจากเฟอนันโด และเมื่อคิดว่าฮิลลิสมีพลังศักดิ์สิทธิ์เหนือกว่าโป๊บ พาลาดินเหล่านี้ถือว่าทัดเทียมกับชาติพันธุ์นักสู้

“พวกเราคือ!”

หัวหน้าพาลาดินเริ่ม ที่เหลือพูดต่อ

“ผู้แข็งแกร่ง! ผู้ไม่แพ้!”

หัวหน้าพาลาดินออกคำสั่ง “หน่วย 1,2 กับ 3 อยู่ที่นี่ ที่เหลือไปกับข้า!”

“ครับ!”

ในสิบสามคน พาลาดินเก้าคนอยู่ อีกสี่คนขี่อูฐตรงไปยังกลุ่มที่ยิงเวทบนเนินทราย ปกติแล้วคนเพียงสี่คนเป็นกำลังรบอ่อนแอ แต่เพราะฮิลลิสเน้นสนับสนุนสี่คนนี้ พวกเขากลายเป็นกำลังรบที่ไม่อาจมองข้าม

แมคกระตุ้นอูฐที่เขาขี่ไปกับพวกพาลาดิน “ข้าไปด้วย! แลนซีลอต ฝากดูแลคุณหนูด้วย!”

“ครับ!”

แลนซีลอตชักดาบ เขายามถือดาบดูอ่อนแอไม่น่าพึ่งได้ แต่แลนซีลอตโตมากับเดน เพื่อเล่นกับเดนเขาถูกบังคับให้อดทนกับการเรียนการสอนแบบดูมสโตน ดังนั้นเขาจึงแข็งแกร่งอย่างน้อยก็เท่ากับปกติของคนเผ่ากา

กองพันกับคนห้าคนปะทะกัน แม้จะสู้กับคนจำนวนน้อยนิด นักเวทดำก็ไม่ดูถูกพวกพาลาดิน ทุกครั้งที่เหล่าพาลาดินตวัดดาบ คนสองสามคนก็เสียเลือดล้มจึงไม่มีทางดูถูกเหล่าพาลาดินได้

“ทุกคนใช้ยาเพิ่มพลัง!” หัวหน้ากองพันร้องสั่ง ทหารดื่มยาพร้อมกัน จากนั้นพลังเวทสีดำก็ค่อยๆไหลจากร่างทหาร

ยาที่พวกเขาดื่มทำให้พลังเวททะลักล้น แต่เมื่อประสิทธิภาพของยาหมดลงพวกเขาจะเจ็บปวดไปหนึ่งสัปดาห์ ความเจ็บปวดมันมากพอทำให้ฆ่าตัวตายได้ ถึงอย่างนั้น ถ้าไม่ใช้ตอนนี้พวกทหารคงถูกเหล่าพาลาดินฆ่า

“พลหอก!”

แม้จะให้ทหารใช้ยาแล้ว หัวหน้ากองพันยังไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้เหล่าพาลาดินและแทงจากที่ไกล อย่างไรเสียยาก็มีผล 3 วัน

“พลธนู!” ทหารถือธนูบนเนินทรายขึ้นศร

“ยิง!” หัวหน้าออกคำสั่ง คนถือธงโบกธงแดง ธนูลอยพุ่งพร้อมกันไปยังเกวียนที่ฮิลลิสนั่ง

เหล่าพาลาดินกัดฟัน ตอนนี้พวกเขาต้องเชื่อในพาลาดินที่คุ้มกันฮิลลิสและฝ่าไปจัดการพลธนูและนักเวทดำ

“รีบฝ่าไปเร็ว!”

ขณะเดียวกัน เหล่าพาลาดินที่คุ้มกันฮิลลิสหัวเราะใส่ธนูที่พุ่งมา มันเป็นยิ้มที่มีแต่คนเตรียมใจตายแล้วที่ทำได้ พวกเขาตั้งใจปกป้องฮิลลิสต่อให้ตัวเองกลายเป็นเถ้าถ่าน

“กลุ่ม1! ขึ้นไปบนหลังคาเกวียน! กลุ่ม2 กับกลุ่ม3 ไปข้างหน้า!”

พาลาดินกลุ่ม1 ปีนขึ้นไปบนหลังคาเกวียนและยกโล่ ต่อให้ถูกยิงจนพรุนพวกเขาก็ไม่ตายหากไม่ขาดจากการสนับสนุนของฮิลลิส พวกเขาหลับตาและเร่งพลังเวทขึ้นเตรียมรับห่าธนู

ตอนนั้นเอง เสียงร้องดังขึ้นจากในเกวียน “ป้องกัน! ป้องกัน! ป้องกัน!”

เลชาชูไม้เท้าที่ซื้อจากวาแรนท์และกางโล่สามชั้นรอบเกวียนและพาลาดิน ธนูถูกโล่แล้วกระเด้งออก

“โอ้! คุณหนูกา!” เหล่าพาลาดินร้องอย่างดีใจ

แต่ท่ามกลางเสียงร้องดีใจ ลูกธนูก็สร้างรอยแตกในโล่ เวทถูกใช้โดยไม่มีการเตรียมและร่ายคาถาจึงไม่เสถียร เลชารู้ดีจึงสร้างโล่ไว้สามชั้น

เมื่อลูกธนูแรกสร้างรอยแตกได้ ลูกธนูที่เหลือก็ตามมา และโล่ชั้นแรกก็แตกลงพร้อมเสียงแหลม

เลชาหยิบน้ำยาและเมล็ดพืชเมล็ดหนึ่งออกมาจากกระเป๋ามิติและโยนไปพลางร่ายคาถา “ลมหายใจของชีวิตนั้นเปี่ยมเมตตา! จงโต!”

เมล็ดพืชที่ถูกโยนกลายเป็นหน่อพืชกลางอากาศ ขวดน้ำยาที่ถูกโยนพ้นโล่ถูกลูกธนูยิงแตก น้ำยาหกใส่หน่อพืชและทำให้มันโตขึ้นทันที พริบตาเดียว หน่อพืชกลายเป็นต้นไม้และถูกลูกธนูยิงใส่ ถึงกระนั้นมันก็ยังโตต่อไปและหล่นพื้นอย่างหนัก

“ต้นกำเนิดแห่งชีวิต อาบมัน!”

ไม้เท้าของเลชาดึงน้ำจากรอบๆมาทั้งหมด แอ่งน้ำเป็นสีแดงอ่อนเหมือนเอาเลือดของนักเวทดำและทหารที่กำลังต่อสู้มาด้วย 

เลชาโบกไม้เท้า แอ่งน้ำพุ่งใส่ต้นไม้ที่กำลังขยายรากในทะเลทราย น้ำบริสุทธิ์ย่อมดีที่สุด แต่ดูจากสภาพแวดล้อมของต้นไม้แล้ว น้ำที่มีสิ่งปนเปื้อนก็พอใช้ได้

น้ำแห้งซึมลงพื้นอย่างรวดเร็ว ต้นไม้ที่เลชาสร้างขึ้นดูดมันอย่างรวดเร็วและเติบโตขึ้น ในพริบตาเดียว ต้นไม้ก็ใหญ่พอแทนที่โล่ของเลชาและรับลูกธนูแทน

เห็นต้นไม้ใหญ่จนบดบังไม่เห็นลูกธนู เหล่าพาลาดินส่งเสียงเชียร์

“ว้าว!”

“คุณหนู! คุณหนู!”

เหล่าพาลาดินเรียกเลชาว่าคุณหนูเหมือนแมค

“อย่าเรียกข้าว่าคุณหนูนะ!” เลชาขมวดคิ้ว อยากให้เรียกด้วยชื่ออย่างธรรมดามากกว่า แต่เหล่าพาลาดินไม่ฟังเลย

เชื่อว่าพวกเขาเรียกเธออย่างนี้เพราะแมค เลชาสาบานว่าถ้าเขากลับมาเมื่อไหร่จะเตะหน้าแข้งเขา

เหมือนรู้สึกถึงคำสาบานของเลชา แมคที่กำลังสู้อย่างแข็งขันจาม

“ฮัดเช้ย!”

“เป็นหวัดเหรอ พี่กา?” หัวหน้าพาลาดินที่เพิ่งสังหารทหารไปสองคนในทีเดียวถาม

“เปล่า ทรายคงเข้าจมูกน่ะ” แมคตอบสบายๆก่อนจะปาดคอทหารสามคนในทันที

“ดีแล้ว ขนาดสุนัขยังไม่เป็นหวัดหน้าร้อนเลย” หัวหน้าพาลาดินพูด

“ฮ่าๆๆ งั้นถ้าข้าเป็นหวัดก็แย่กว่าสุนัขอีกน่ะสิ ท่านพาลาดิน”

พวกเขาคุยเล่นในระหว่างสังหารศัตรู

“ข้าอัลบาทอส พี่กา”

“เรียกข้าแมคเถอะ ท่านพาลาดิน”



สารบัญ                                            บทที่ 75.1


คนแปลคิดว่าใช้คำว่ารถม้าแต่อูฐลากมันแปลกๆเลยเปลี่ยนเป็นเกวียน แต่ใช้คำว่าเกวียนก็แปลกพอกันแฮะ @A@

การสอนสไตล์ดูมสโตน แลนซีลอตก็ต้องไปสู้กับมังกรเหมือนกันสินะ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น