บทที่ 66 - งานเลี้ยง (17)
แปลก!
ทุกครั้งที่ใส่หน้ากากอันนี้ผมจะลบตัวตนให้จางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เผื่อใครเห็นจะได้ไม่สนใจผมมาก อีกอย่าง ผมใส่เวทมนตร์บนหน้ากากเพื่อเวลาไปหาขุนนางที่รถม้าของเขาทำโคลนกระเซ็นใส่ผมเพื่อแก้... แฮ่ม เพื่อเยี่ยมเยียนจะได้จำผมไม่ได้นอกจากเขาจะมีความสามารถมาก
เมื่อคนใส่หน้ากากชี้หน้าเรียกผม ทั้งกลุ่มก็ปล่อยรังสีสังหารรุนแรง
อะไรกัน?! ฉันไปทำอะไรให้แค้นขนาดนั้นเลย?
คนหนุ่มผู้ซื่อตรงอย่างผมไม่มีทางทำอะไรแบบนั้น พวกเขาจำคนผิดแน่นอน แต่สรุปว่าผมไม่ต้องหาเรื่องยั่วโมโหพวกเขาแล้ว
“ตายซะเจ้ามารร้าย!”
กลุ่มเจ็ดคนโจมตีอย่างต่อเนื่อง เมื่อผมหลบดาบที่แทงใส่ไหล่ขวา อีกดาบก็ฟันใส่ศีรษะจากด้านหลัง และอีกสองคนฟันดาบใส่ขาทั้งสองข้างของผม
ผมกระโดดเบาๆ หลบดาบที่จะฟันใส่ขาขวา เหยียบบนดาบที่ฟันใส่ขาซ้ายและหมุนตัวไปทางขวาพร้อมทั้งดึงตัวกลับไปเล็กน้อยเพื่อหลบดาบจากข้างบน
จากนั้น ผมใช้แรงจากการดึงตัว กระโดดม้วนตัวเตะคางชายใส่หน้ากากที่ฟันใส่ขาซ้ายของผม จากนั้นใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวคอชายฟันใส่ขาขวาแล้วหมุนตัวไปทางขวาอย่างแรง
ตูม!
หลังจากใช้ขาทุ่มชายใส่หน้ากากจนศีรษะเขาจมหลังคาผมก็ม้วนตัวออก แล้วตรงไปทางคนที่จำหน้ากากผมได้ก่อนคนอื่น
ผมรู้สึกเสียใจทีหลังที่ไม่ได้เอาดาบออกมาจากกระเป๋ามิติไว้ก่อน สู้กับพวกเขาแบบไม่มีดาบนี่ผมรู้สึกเหมือนจะตายเอา ตอนนี้ถึงอยากจะเปิดกระเป๋ามิติเอาดาบออกมา คนพวกนี้โจมตีใส่ผมจนไม่มีเวลาทำอย่างนั้น
คนพวกนี้แข็งแกร่งกว่าที่คิด พวกเขาเป็นใครกันแน่? ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าพี่หญิงใหญ่ด้วย ดังนั้นปลดอาวุธพวกเขาก่อนดีกว่า
ผมไปตรงหน้าชายใส่หน้ากากอย่างรวดเร็ว เขาฟันดาบใส่ผมด้วยท่วงท่ายอดเยี่ยมไม่มีการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น แต่โจมตีผิดคนแล้ว
“พันธนาการ!”
“อึ่ก!”
การเคลื่อนไหวของชายใส่หน้ากากถูกหยุดอย่างง่ายดายด้วยเวทมนตร์ของผม ผมฉวยช่องโหว่ขโมยดาบของเขา
เอาล่ะ ถ้าใครให้ดาบมาอย่างน้อยเราก็ต้องขอบคุณเขา!
“ขอบใจนะมาริโอ้ แต่เจ้าหญิงอยู่ในปราสาทหลังอื่น”
ตามมารยาทแล้วต้องชูนิ้วกลางให้ด้วยเวลาพูดอย่างนี้ แต่น่าเสียดายที่มือของผมไม่ว่าง ผมจึงปาดแขนขวาของเขาออกแทน
“อ๊าก!”
เขาเป็นคนที่เก่งและน่ารำคาญที่สุด ผมจึงต้องเขี่ยเขาออกก่อนเขาจะได้ดาบจากคนอื่น แต่เมื่อผมจำได้ว่ามีคนใช้เวทมนตร์รักษาได้ จึงเตะแขนขวาเขาไปไกลๆจากหลังคาเพื่อไม่ให้เขาติดแขนได้ทันที ถ้าผมไม่เตะมันไปไกลๆ เขาจะติดแขนกลับไป ซึ่งแม้จะใช้ไม่ได้ทันทีแต่ก็ไม่ทำให้เสียสมดุลตอนเปลี่ยนไปใช้ดาบมือซ้าย
ที่บ้านเกิดผม แขนขาดเป็นเรื่องปกติเวลาล่าปีศาจ คนที่นั่นจึงถูกฝึกให้ติดแขนเป็นด้วยยาพิเศษของผู้เฒ่าเมอร์ปาและสู้ต่อ
“ท่านอินทรี!”
โอ้ มีเรียกท่านด้วย ดูเหมือนคนที่แขนขาดจะเป็นหมายเลข 1 ผมเตะเขาคืนให้ลูกน้องอย่างใจดี
กลับฝูงซะนะ อินทรี
“เอื้อก!”
ด้วยเสียงที่หลุดจากปอด หัวหน้าล้มลงในอ้อมแขนของลูกน้อง
“แก!”
“มันรู้ได้ยังไงว่าพวกเราเป็นใคร!”
“ฮึ่ย เจ้าหญิงไปอยู่ที่อื่นได้ยังไง!!”
ปฏิกิริยาของพวกเขารุนแรงกว่าที่คิด ตัวตนของพวกนาย? พูดเรื่องอะไร? ฉันแค่พูดเล่น ไม่ต้องเสียใจขนาดนั้นก็ได้!
หัวหน้าใช้เวทมนตร์รักษาไหล่ของเขาที่ถูกฟัน เวทมนตร์ไม่เหมือนปกติจริงๆ เหมือนผมจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ
“อย่าไขว้เขว! เจ้าหญิงอยู่ข้างล่างนี่แน่นอน! อย่าถูกศัตรูหลอก!” หัวหน้าตะโกน
พวกคนใส่หน้ากากหยุดลังเลแล้วพยักหน้า จากนั้นก็ยกดาบขึ้นใหม่ ตอนนี้ ตัดหัวหน้าที่แขนขาดออกก็เหลือ 5 คนที่ล้อมผมอยู่
“ไป!”
พร้อมเสียงตะโกน คนทั้งห้าพุ่งใส่ผมจากทุกด้าน พวกเขาเล็งที่คอของผม หัวใจ ท้อง และด้านซ้ายขวา เพราะพวกเขาโจมตีเข้ามาพร้อมกันจึงต้องแทงเข้ามาอย่างเดียว
ผมกระโจนขึ้นสูงและหลบอย่างง่ายดาย ผมหวังว่าพวกเขาจะแทงกันเองแต่พวกเขาเพียงแทงใส่อากาศเหมือนอ่านใจกันได้
“ตอบรับคำภาวนาของข้า! ทำลายศัตรู!”
เมื่อผมกระโจนและถอยห่างจากกลุ่มคนใส่หน้ากาก หัวหน้าพวกเขาก็โจมตีด้วยเวทมนตร์ ต้องใช้เวทมนตร์ทั้งๆที่กำลังเจ็บคงรวมสมาธิได้ยาก แต่เขาทำได้ดี ผมเสกบาเรียขึ้นมาและชื่นชมเขาในใจ
“โล่!”
ลูกศรแสงโจมตีบาเรียโล่ของผมเหมือนฝน เวทมนตร์หยุดโจมตีเมื่อร่างของผมหล่นลงตรงกลางกลุ่มคนใส่หน้ากาก คราวนี้ผมลงมือก่อน
ผมฟันใส่คนหนึ่งอย่างเฉื่อยชา เขาไม่หลบแต่ใช้ดาบกัน
“หลบไป!” หัวหน้าตะโกน
สายไปแล้ว!
รัศมีคลุมดาบของผมทันทีและปาดผ่านทั้งดาบและคนๆนั้น
เปรี๊ยะ! ฉัวะ!
เริ่มจากเสียงดาบหักและตามด้วยเสียงเนื้อถูกตัด
ผมหลบก่อนเลือดจะพุ่งออกมาและกระโดดใส่คนใส่หน้ากากคนอื่น แม้เขาจะตกใจแต่คงถูกฝึกมาดีเพราะเขายกดาบตอบโต้ แต่ดาบที่ไม่มีความตั้งใจรวมอยู่ย่อมไม่มีความแข็งแกร่งพอ
แคล้ง!
ผมฟันมันออกอย่างง่ายๆ เมื่อท่าของเขาถูกทำลายผมก็ฟันดาบลงที่คอของเขา แต่ตอนนั้นผมก็คิดว่าตัวเองทำเกินไปจึงเปลี่ยนไปฟันที่ไหล่แทน
ถ้าโชคไม่ดีเขาจะไม่อาจยกดาบได้ไปตลอดชีวิต แต่อย่างน้อยก็ไม่ถึงตาย
“อ๊าก!”
ข้างหลังผม คนที่ผมเพิ่งฟันไปกรีดร้อง กระอักเลือด ฟังจากเสียงร้องแหลมขนาดนั้นแล้วน่าจะไม่ตาย
ไม่กี่วินาทีต่อมา คนที่ถูกฟันไหล่ก็กรีดร้อง กุมไหล่ตัวเอง
คนใส่หน้ากากอีกคนไปหาคนบาดเจ็บและพยายามร่ายเวทมนตร์รักษา
โง่มาก! พวกเขาควรจัดการผมก่อนรักษาเพื่อน ลำดับความสำคัญมันกลับกันเสียนี่
คนใส่หน้ากากที่พยายามจะรักษาเพื่อนพ่นเลือดเพราะถูกผมเตะอย่างแรงและหล่นหลังคา ตรงนี้สูงแปดชั้นและแรงเตะของผมดูเหมือนจะทำให้เครื่องในบางอย่างของเขาแตก แต่ว่าพวกเขาถูกฝึกมาดีคงไม่ตาย
แน่ล่ะ ถ้าโชคร้ายก็ไม่รอด
พริบตาเดียวก็เหลือสองคน ชายใส่หน้ากากจึงถอยและร่ายเวทมนตร์โจมตี
“จงมา! โซ่แห่งตราบาปจงผูกมัด!”
วงเวทขยายออกบนพื้นและโซ่แสงสีขาวก็โผล่ออกมามัดรอบผม
“เจ้าโง่! ในเมืองคนบาป ฝนไฟจะตกลงมา!”
อีกคนร่ายคาถา และผมถูกลูกศรไฟระดมยิงใส่
“นรกคือที่หนึ่งเดียวสำหรับผู้นอกรีต พระเจ้า โปรดลงทัณฑ์ชายชั่วผู้หมิ่นบารมีท่าน! ทัณฑ์สวรรค์!”
หัวหน้าผู้คอยเฝ้าระวังผมอยู่ห่างๆ ตะโกนคาถาแล้วยิงสายฟ้าสีขาวใส่
เฮ้ย ฉันเคยเห็นเวทแบบนี้มาก่อนนี่!
คำร่ายยาวและพลังอ่อนแอมาก แต่นี่เป็นเวทเดียวกับที่ชายชราที่ถูกเรียกว่าคาร์ดินัลใช้ตอนผมขโมยรูปปั้นเทพีเมื่อประมาณเดือนก่อน ผมก็คิดอยู่ว่าคำร่ายของพวกเขาฟังศาสนามาก คนใส่หน้ากากพวกนี้คือพวกเดียวกับที่ไล่ตามผมตอนนั้นนั่นเอง
คนพวกนี้ตกใจเมื่อฝุ่นผงจากเวทมนตร์ที่พวกเขาโจมตีจนหลังคาพังสงบลง
“แก...แกโดนเวทมนตร์โจมตีใส่ขนาดนี้แต่ไม่เป็นไรได้ยังไง! แกคือตัวต้านนักเวทในตำนานเหรอ!?”
ถ้ามีร่างกายแบบนั้นก็ดีสิ แต่ที่ผมทำก็แค่สลายเวทมนตร์ก่อนมันจะโดนตัวผมเท่านั้นเอง ไม่ว่ารูปแบบพลังเวทจะเป็นเอกลักษณ์ขนาดไหน เล่นร่ายบ่อยขนาดนั้น ต่อให้ไม่อยากจำผมก็จำได้
“ใช่! ข้าคือตัวต้านนักเวท!” ผมตะโกนและโพสท่าเหมือนนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง น่าเสียดายนิดหน่อยที่ไม่มีลมพัดให้เสื้อขาวของผมพลิ้วตามลม
“นั่นมัน...เป็นไปไม่ได้! ตัวต้านนักเวทจะมีร่างกายแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง แล้วยังใช้เวทมนตร์ได้อีก!”
“พระเจ้า! ใครสร้างร่างผสมแบบนี้ขึ้นมา!”
เฮ้ เกินไปหรือเปล่า? ที่ผมโกหกเพราะไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องตัวเองให้ศัตรูรู้ และหลายครั้งที่การปล่อยข้อมูลเท็จจะใช้หาจุดอ่อนศัตรูได้
ไม่ใช่เพราะเป็นโรคม.สองเด็ดขาด!
ผมตัดสินใจจัดการสามคนที่ยังเหลือ ต้องขอบคุณเวทมนตร์กันเสียงที่อยู่รอบโรงเรียนเวทมนตร์ คนในห้องโถงดูจะไม่รู้ถึงความวุ่นวายตรงนี้
ในทางตรงข้าม ผมไม่คิดว่ากลุ่มคนใส่หน้ากากที่สู้กับลุงบลัดดี้กับที่อยู่ประตูหลังจะไม่รู้ตัว
“เอาล่ะ มาจบกันเสียที ทัณฑ์สวรรค์!” ผมลอกเวทมนตร์ของพวกคนใส่หน้ากากมาใช้
เมื่อสายฟ้าสีขาวก่อตัวขึ้นจากมือของผม พวกคนใส่หน้ากากที่ยังเหลือตะลึงจนถูกโจมตีใส่โดยไม่ทันตั้งตัว
“เรื่องแบบนี้มัน...อ๊าก!”
“ไม่จริง! อ๊าก!”
คนใส่หน้ากากสองคนถูกช๊อตล้มลง เหลือแต่หัวหน้าที่ป้องกันไว้ได้พร้อมกับถือแขนขวาข้างที่ขาดของเขาไว้
“อั่ก! แกมีพลังของพระเจ้าได้ยังไง!”
แต่เขาคงใช้พลังทั้งหมดไปกับการป้องกันเวทมนตร์เมื่อกี้ จึงล้มลงคุกเข่าหอบหายใจและจ้องผมเขม็ง
อึดจังนะ
ผมก้มมองเขา “ข้าเคยบอกแล้ว พระเจ้าอยู่ข้างข้า”
จากนั้น ผมเตะคางของเขา เขากลิ้งไปจนสุดหลังคาและไม่ลุกขึ้นอีก
ไหนดูหน่อย ผมหยิบนาฬิกาพกออกมาดูเวลา ตั้งแต่ลูกเตะเฮคโตปาสคาลก็ผ่านไปประมาณ 10 นาที ใช้เวลาเยอะกว่าที่วางแผนไว้ เพื่อจะให้จัดการเรื่องทุกอย่างให้ง่าย ผมต้องสู้ให้เสร็จภายในสองนาที แต่เสียเวลาไปกว่าที่คาดตั้งห้าเท่า ส่วนหนึ่งก็เพราะผมกระโจนเข้ามาโดยไม่เตรียมพร้อมให้ดี แต่อีกส่วนก็เพราะคนใส่หน้ากากพวกนี้เก่งเกินคาดด้วย
เพราะเหตุนี้ พวกคนใส่หน้ากากที่อยู่ประตูหลังจึงรู้ตัวและกำลังมาทางนี้พร้อมทั้งปล่อยเจตนาสังหารดุดัน สรุปคือผมไม่อาจลักพาตัวเจ้าหญิงแบบเงียบๆได้แล้ว
“เฮ้อ”
ผมถอนหายใจแล้วเปลี่ยนแผนแอบลักพาตัวเจ้าหญิง ถ้าผมทำพลาด พวกคนใส่หน้ากากที่อยู่ประตูหลังกับที่อยู่ตรงจุดระเบิดอาจมาถึงพร้อมกัน ถ้าเป็นแบบนั้น เป็นไปได้ว่าผมจะได้รับบาดเจ็บนอกจากจะมีผมสองคน
ลุงบลัดดี้ก็อยู่ที่จุดระเบิด แต่ก็ต้องคิดเผื่อไว้ด้วยว่าเขาอาจถูกรั้งไว้ตรงนั้น ถ้าเป็นอย่างนั้น ที่นี่จะกลายเป็นสนามรบ
ผมกระโดดลงไปบนระเบียงข้างใต้ ตรงนั้นมีเด็กสาวชื่ออารีเลียอยู่
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ อาเรีย?”
ผมทักทายอย่างเรื่อยๆและตรวจดูวงเวทที่วางในห้องโถง มันดูเป็นความลับและทรงพลัง
อะไรนี่?
วงเวทเชื่อมต่อกับเจ้าหญิง หรือที่จริงคือเชื่อมกับกำไลข้อมือที่เจ้าหญิงสวม แต่วงเวทนี้ร้ายกาจ มันปกป้องอารีเลียได้อย่างแน่นอน
ไม่สิ มันปกป้องความปลอดภัยของเจ้าหญิง ‘เท่านั้น’
ผมแทบกระอักเลือดด้วยความโกรธ แต่สงบใจลง ลงจากราวระเบียงแล้วจับมืออารีเลีย
“หรือควรจะเรียกเจ้าว่าอารีเลียดี?” ผมถามด้วยรอยยิ้ม
ระหว่างพูด ผมใช้นิ้วกลางดึงสร้อยข้อมือของอารีเลียแล้วดัดแปลงวงเวทที่เชื่อมกับมัน
ไม่รู้หรอกนะว่าคนวางแผนนี้ต้องการล่ออะไรออกมาสักกี่อย่าง แต่กล้าเอาความปลอดภัยของผมมาเสี่ยงโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าก็เตรียมตัวไว้เถอะ
บังเอิญเจงๆ พาลาดินคนหนึ่งก็ชื่อมาริโอ lol
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น