บทที่ 42 – การสอบเข้า (6)
“เอ่อ คุณหนู ขอโทษนะแต่เพราะพวกเรามีแต่เงินใหญ่ โรงแรมที่นี่ไม่รับ เราเลยต้องไปหาตลาดที่หมู่บ้านพวกเราติดต่อซื้อขายเพื่อแลกเงิน” แลนซีลอตพูดอย่างขอโทษเพื่อให้เลชาเข้าใจ
เลชารู้สึกละอายและพูด “ข้าต่างหากต้องขอโทษ เอาล่ะ ข้าเริ่มอายแล้วเราหยุดกันดีกว่า ข้าทำตัวเป็นเด็กเอง” จากนั้นพูดต่อ “แล้วก็ไม่ต้องเรียกข้าว่าคุณหนู ข้าไม่อยากถูกเพื่อนของน้องชายตัวเองเรียกว่าคุณหนู”
“ถ้าอย่างนั้นจะให้ข้าเรียก...”
“พี่ก็ได้ พี่เลชา พูดสิ” (1)
แลนซีลอตดูงงงัน “ไม่ได้หรอก...”
“ลังเลทำไม เจ้ายังเรียกเดนว่าเดนเลย”
“นั่นเพราะเดนคือเดน...”
สำหรับแลนซีลอต เดนเบอร์กเป็นเพื่อนสนิทและเป็นคนที่เขานับถือ เลชาหัวเราะและยีผมแลนซีลอต
“ข้าจะเรียกเจ้าว่าแลนด้วยนะ เห็นบอกว่าเดนเรียกเจ้าแบบนั้นใช่ไหม?”
เห็นเขาพยักหน้า เลชาก็พยักหน้าด้วย “ข้าเรียกเจ้าว่าแลน เพราะฉะนั้นเจ้าสบายใจได้และเรียกว่าพี่หญิง เข้าใจไหมแลน?”
“ครับ พี่-พี่เลชา”
เห็นเขาอายหน้าแดง เลชาก็กอด “น่ารัก! ถ้าคนน่ารักอย่างเจ้าเป็นน้องข้าก็ดีสิ แทนที่จะเป็นเดนที่ข้างนอกกับข้างในไม่เหมือนกัน”
“ไม่ ไม่จริงนะ! เดน...เดนเก่งออก! เข้มแข็ง! ใจดีด้วย!”
เลชากับแมคหัวเราะลั่น
“เอ ไม่รู้สิ เขาเข้มแข็งจริง แต่ใจดีนี่... ข้าว่าเขาเป็นคนฉลาดและเจ้าเล่ห์ชอบใช้ประโยชน์จากคนอื่น”
“ไม่ใช่นะ! เดนเป็นคนเห็นอกเห็นใจคนอื่นและเป็นมิตรต่างหาก”
แลนซีลอตดิ้นหลุดจากอ้อมกอดของเลชาและโบกมืออย่างร้อนใจ
“อ๊า! ไม่พูดด้วยแล้ว!” แลนซีลอตงอนแล้วเดินนำหน้าไป
มองทูตอายุเยาว์ แมคกับเลชาต่างคิดว่าเขาน่ารักดี
“ไปด้วยกันสิ!”
แลนซีลอตเดินไม่เหลียวหลัง แต่เห็นได้ชัดว่าเดินช้าลง เขาข้ามถนนแล้วหยุดหน้าอาคารใหญ่หลังหนึ่ง
“นี่คือตลาด ‘ดรูวาล’ ที่ซื้อขายกับหมู่บ้านของเรา”
แมคกับเลชามองอาคารขนาดใหญ่อย่างอึ้ง
“ว้าว นี่มันใหญ่กว่าศาลากลางของหมู่บ้านเราเลยไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นสิ”
ตลาดดรูวาลเรียกตัวเองว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของวาแรนท์เมืองสุดท้าย ขนาดบอกว่าใหญ่ 1.5 เท่าของศาลากลางของเมือง
“ทำอะไรอยู่? เข้าไปกันเถอะ”
เมื่อแลนซีลอตเรียก คนทั้งสองก็ได้สติและเข้าไปในอาคาร
ภายในอาคารค่อนข้างเสียงดัง เหมือนห้องประมูลที่มีนักเวทกำลังประมูลชิ้นส่วนสัตว์ประหลาด
แลนซีลอตผ่านการประมูลเล็กๆนั้นไปและตรงไปยังที่ชายหนุ่มผู้เหมือนจะเป็นพนักงานต้อนรับยืนอยู่
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?”
เมื่อชายหนุ่มถาม แลนซีลอตหยิบบัตรใบเล็กๆออกมาจากแขนแล้วยื่นให้เขาดู
“ทราบแล้วครับ ข้าจะพาท่านไปที่ห้องรับรอง สองคนที่อยู่ด้านหลังก็มาด้วยกันใช่ไหมครับ?”
“ใช่ ทั้งหมดสามคน”
ชายหนุ่มยิ้มและนำทางพวกเขาไปที่ชั้นสาม หน้าประตูหรูหรา ชายหนุ่มดึงเชือกที่โยงจากเพดาน ไม่นานก็มีเสียงกระดิ่ง จากนั้นเขาก็เปิดประตู
“โปรดวางใจได้ว่าห้องนี้เก็บเสียง ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัว”
ชายหนุ่มคำนับและกลับไปที่ชั้นหนึ่ง เลชากับแมคที่ยังมึนๆเดินตามแลนซีลอตเข้าห้องไป
เมื่อทั้งสามเข้ามาในห้อง ประตูก็ปิดลงโดยอัตโนมัติ เลชารู้สึกถึงพลังเวทตระหนักว่าประตูปิดด้วยเวทมนตร์
มองไปรอบๆ มีเวทเก็บเสียงและเวทที่ไม่รู้จักอื่นๆติดอยู่ ถ้าเป็นเดนเบอร์กหรือผู้เฒ่าเมอร์ปาครูของเธอ พวกเขาคงรู้จักเวทพวกนั้น แต่เลชาไม่มีความสามารถขนาดนั้น
ประตูข้างเลชาเปิดออกและชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามา
“โอ้ ลูกค้าวีไอพีนี่เอง เชิญนั่งครับ”
ชายวัยกลางคนดูแข็งแรงนั่งลงบนโซฟาตรงโต๊ะรับแขก คนอื่นนั่งตาม
“ว้าว คุณหนู เก้าอี้นี่นุ่มชะมัด”
แมคร้องอย่างทึ่ง เลชาหน้าแดง “เงียบเถอะ น่าขายหน้า”
เธอพูดอย่างนั้นแต่ก็ประหลาดใจกับความนุ่มของโซฟาเช่นกัน
ชายวัยกลางคนยิ้มและรินน้ำชา “ไม่เป็นไรครับ โซฟานี่เป็นของสั่งทำพิเศษ มีหลายคนที่ประหลาดใจกับมัน”
แค่พูดปลอบใจไปอย่างนั้นเอง แขกปกติมีแต่พวกจิ้งจอกเฒ่า เขาคงรู้สึกว่าท่าทางของแมคกับเลชาแปลกใหม่และตลกดี
“นอกจากคุณแลนซีลอต ข้าเพิ่งพบพวกคุณเป็นครั้งแรก ถ้าไม่ว่าอะไร ขอทราบชื่อได้ไหม?”
แลนซีลอตตอบ “คนนี้เป็นหนึ่งในผู้เข้มแข็งที่สุดของเผ่ากาของเราและเป็นรองกัปตันของกลุ่มนักรบ และคนนี้เป็นเจ้าหญิงของเรา”
แมคทำหน้าภูมิใจและเลชาเหมือนจะพูดว่าพูดเกินไปแล้ว แต่แมคส่งสายตาห้าม เลชาจึงหุบปาก
ชายวัยกลางคนยืนและคำนับด้วยความเคารพ “ขออภัยที่ข้าแสดงกิริยาไม่สมควร เจ้าหญิง ข้าคือ ซาฮานนา วอน ฟิลาเดล หัวหน้าสาขาวาแรนท์ของตลาดดรูวาล”
เลชาขัดเขินกับความเคารพมากเกินไปที่ไม่มีคนในหมู่บ้านทำ แลนซีลอตรับการคำนับแทนเจ้าหญิงที่กำลังลังเล
“คุณผู้จัดการสาขา เจ้าหญิงของเราไม่คุ้นกับธรรมเนียมของจักรวรรดิ อีกอย่าง เธอไม่เคร่งครัดเรื่องธรรมเนียมมารยาท คุณไม่ต้องเกร็งไป”
“ขอบคุณคุณแลนซีลอต แต่ถ้าเป็นเจ้าหญิงของเผ่ากาแล้ว ท่านยิ่งสูงศักดิ์กว่าเจ้าหญิงจากประเทศเล็กๆอีก โปรดไว้หน้าคนไม่สำคัญอย่างข้า เพราะหากข้าแสดงท่าทางไม่เหมาะสมก็เท่ากับตลาดแสดงท่าทางไม่เหมาะสม โปรดให้ข้าทำความเคารพ”
ซาฮานนายังไม่เงยหน้าขึ้นปล่อยให้เลชาอึ้งไป มันยิ่งดูน่าอึดอัดเพราะเขาดูตั้งใจจริง ไม่เหมือนแมคที่พูดหยอกเล่น
ในเวลาเดียวกัน แมคพูดกับซาฮานนา “พวกเราเข้าใจเรื่องธรรมเนียมของเจ้า แต่เราไม่มีเวลา ข้าไม่อนุญาตให้เสียเวลาไปกับธรรมเนียมที่ไม่จำเป็น”
ซาฮานนาเงยหน้าขึ้น “ข้าเพียงแต่พยายามรักษามารยาทพื้นฐาน มันติดเป็นนิสัยไปแล้ว แต่ข้าจะไม่ทำให้พวกท่านเสียเวลาไปมากกว่านี้” เขากระแอมแล้วนั่งลง
“อย่างที่รองกัปตันพูด พวกเราไม่ค่อยมีเวลานัก ข้าเข้าเรื่องเลยนะ”
ซาฮานนาตกลง แลนซีลอตจึงหยิบเหรียญทองคำขาว 5 เหรียญจากหน้าอกและวางบนโต๊ะ
“เราต้องการเงินเพื่อใช้ในจักรวรรดิ ช่วยเอาเหรียญทองคำขาวเหล่านี้ไปแลกให้ด้วย”
ซาฮานนาดูเจ็บปวด “ขออภัย แต่สาขาของเราตอนนี้ไม่มีเงินพอแลกเหรียญทองคำขาว 5 เหรียญ”
พวกเขามีเหรียญทองคำขาวสำหรับซื้อขายกับเผ่ากา แต่ไม่มีเหรียญอื่นเพียงพอกับการแลก หากเอาเหรียญทุกเหรียญในตลาดมาอาจมีพอ แต่พวกเขาต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เงินที่ใช้ได้ถูกเอาไปหมด
เพราะแลนซีลอตเข้าใจเรื่องนี้ เขาจึงตั้งใจเปิดเผยตัวตนของแมคกับเลชา เพราะสถานะที่แตกต่างกันก็จะมีกฎแตกต่างกัน
จากมุมมองของซาฮานนา ถ้าเขายังต้องการค้าขายกับเผ่ากาต่อไปในอนาคต เขาต้องยอมทำตามคำขอนี้ แต่เหรียญทองคำขาว 5 เหรียญมันแลกยากเกินไป ผู้จัดการมองกลุ่มที่นั่งตรงข้าม
ด้วยสายตาเฉียบคมของเขา เขาไม่คิดว่าเด็กสาวตรงหน้าเป็นเจ้าหญิงเป็นเรื่องโกหก แต่ดูเหมือนเธอจะไม่มีอิทธิพลในเผ่ากามากนัก ถึงอย่างนั้นก็ตาม เจ้าหญิงก็คือเจ้าหญิง ใครก็บอกไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าล่วงเกินเธอ
แต่คนที่เป็นรองกัปตันนั้นอันตราย ประสาทสัมผัสของเขาที่ฝึกฝนจากการทำงานในวาแรนท์เป็นสิบๆปีบอกอย่างนั้น ถ้าล่วงเกินชายคนนั้น ไม่ต้องพูดเรื่องอนาคตเลย ชีวิตจะตกอยู่ในอันตรายทันที แรงกดดันที่เขาปล่อยออกมาไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย
อัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองสู้ไม่ได้ อัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดต้องร่วมมือกับกองอัศวินร้อยคนถึงจะพอสู้ได้ ไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่ประสาทสัมผัสของคนที่ฝ่าฟันจนกลายเป็นผู้จัดการในวาแรนท์ อีกชื่อว่าวัลฮาลา เป็นสิ่งยืนยัน
ข้าจะแลกได้เท่าไหร่ พวกเขาต้องไม่ขอแลกทั้งหมดแน่ 2 เหรียญ? หรือ 3?
ซาฮานนายิ้มในใจ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร เขาต้องพูดประโยคนี้ก่อน
“มันมากเกินไปจริงๆครับ”
ในเวลาเดียวกันนั้น แมคปล่อยรัศมีออกมาอย่างรุนแรง
จู่ๆซาฮานนาก็รู้สึกเหมือนความทรงจำเก่าๆในชีวิตของเขาผ่านสายตาไป แต่เขาเมินเฉย เรื่องแบบนี้เขาเคยผ่านมาไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองครั้ง สถานการณ์ที่เขาต้องเจอกับข้อเรียกร้องสูงเกินไปจากฝ่ายติดอาวุธเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกินอาหาร ถ้าเขายอมถอย เขาคงไม่มีความมั่นใจมากอย่างตอนนี้
“ถ้าอย่างนั้นเอาอย่างนี้ เราจะซื้อของสักหน่อย และคุณก็ทอนเงินให้พวกเรา ดีไหม?”
ซาฮานนายินดี อีกฝ่ายก็รู้ว่าพวกเขาเรียกร้องเกินไป รัศมีของแมคค่อยๆจางลง
“ถ้าแบบนั้นพวกเราย่อมทำให้ได้ ท่านอยากได้ของแบบไหน?”
“ก่อนอื่น เอาของที่แลกเปลี่ยนง่าย”
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะเอาทอง เงิน และเพชรพลอยมาให้เลือก ราคาของมันไม่ตกง่าย และไม่กินพื้นที่มากจึงพกพาง่าย ร้านขายทองและเงินมีแทบทุกเมือง พวกท่านสามารถขายเมื่อไหร่ก็ได้”
“เอาสิ เจ้าหญิง รองกัปตัน มีของที่อยากได้ไหม?”
ซาฮานนาพูดต่อจากแลนซีลอตทันที
“ตลาดรูวาลมีของดีจากทั่วจักรวรรดิ ตั้งแต่อัญมณี ดาบ วัตถุเวทมนตร์ เครื่องมือ น้ำหอม อสังหาริมทรัพย์ ไม่มีอะไรที่เราไม่มี”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าอยากได้ไม้เท้า” เลชาพูด
ซาฮานนาตาโต “ท่านหมายถึงไม้เท้าเวทมนตร์ใช่ไหม? ข้าจะเอาที่ดีที่สุดมาให้ แล้วรองกัปตันต้องการอะไรไหม?”
“ไม่ก่อน เรื่องอาวุธ ข้าไม่ไว้ใจช่างนอกหมู่บ้าน”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเครื่องมือดูแลอาวุธล่ะครับ? หินลับมีด น้ำมัน ผ้าไหม อาวุธต้องการการดูแลพอดูไม่ใช่เหรอครับ?”
“จริง”
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปเอาของเหล่านั้นมาด้วย”
ซาฮานนาออกไปเอาของ เลชาถอนหายใจแล้วหยิกแก้มแลนซีลอต
“เจ้าหญิง ใครเป็นเจ้าหญิง? ข้าบอกใช่ไหมว่าไม่ชอบ มันทำให้ข้าขนลุก”
“เอ่อ... แต่พวกเราต้องกดดันอีกฝ่ายถึงจะแลกเงินได้”
แลนซีลอตลูบแก้มอย่างเจ็บ
“เออ เขาก็ตลก แค่เงินก็แลกไม่ได้”
เลชาทำเสียงฮึ แต่แลนซีลอตส่ายหน้า
“มองจากด้านเขาก็แน่อยู่แล้ว มันเหมือนบอกให้เอาเงินทั้งหมดที่สาขามีออกมา”
“พูดอะไรของเจ้า?”
“เหรียญทองคำขาวนี่มีมูลค่าเป็นเงินจำนวนมหาศาล เหรียญทองคำขาวสองเหรียญซื้อวัตถุดิบทำยาให้หมู่บ้านเราใช้ได้ครึ่งปี”
“อะไรนะ?!”
“พวกวัตถุเวทมนตร์ที่เจ้าหญิงใช้ก็รวมอยู่ในวัตถุดิบนั้นด้วย”
“อย่าเรียกฉันว่าเจ้าหญิง” เลชาหยิกแก้มแลนซีลอตอีก
“เข้าใจแล้วครับพี่”
(1) ไม่ใช้ นูนา อ่านออกเสียงไม่เป็นจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น