วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

แปลเพลง Kathy Troccoli - Stubborn Love

 แปลเพลงกันดีกว่า

ที่จริงคนแปลกะจะหาเพลงรักเนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์นะ แต่ผัดวันประกันพรุ่งมาจนเกือบหมดเดือนแล้ว...

ว่าจะแปลเพลงโปรด Stubborn love ของ The lumineers แต่ตอนค้นหาเพื่อจะฟังเพลงโดนพาไปของ Kathy Troccoli ซะงั้น ฟังแล้วก็รู้สึกเพราะดีนะ 

ลิงค์ไปยูทูปมิวสิคค่ะ แถบข้างๆมีเนื้อเพลงให้ด้วย สะดวกดี 

Stubborn Love - Kathy Troccoli

Caught again, Your faithless friend

Don't You ever tire of hearing what a fool I've been?

Guess I should pray, but what can I say?

Oh, it hurts to know the hundred times I've caused You pain

Though "Forgive me" sounds so empty when I never change

Yet You stay and say, "I love You still"

Forgiving me time and time again

ถูกจับได้อีกแล้ว เพื่อนผู้ไร้สัจจะของคุณ

ไม่เหนื่อยบ้างเหรอกับการฟังว่าฉันโง่ขนาดไหน?

ฉันควรต้องสวดภาวนาสินะ แต่จะให้พูดยังไง?

โอ มันเจ็บเมื่อรู้ว่าฉันทำให้คุณปวดร้าวเป็นนับร้อยครั้ง

แต่คำว่า “ยกโทษให้ด้วย” ฟังว่างเปล่าเมื่อฉันไม่เคยเปลี่ยนแปลง

แต่คุณยังคงอยู่และพูดว่า “ฉันยังรักคุณ”

ยกโทษให้ฉันครั้งแล้วครั้งเล่า

It's Your stubborn love that never lets go of me

I don't understand how You can stay

Perfect love embracing the worst in me

How I long for Your stubborn love

มันคือรักดื้อรั้นของคุณที่ไม่เคยปล่อยวางจากฉัน

ไม่เข้าใจว่าคุณยังอยู่เคียงข้างได้ยังไง

ความรักเที่ยงแท้ โอบกอดส่วนที่เลวร้ายที่สุดของฉัน

ฉันโหยหาในรักดื้อรั้นของคุณมากเพียงใด

Funny me, just couldn't see

Even long before I knew You, You were loving me

Sometimes I cry, You must cry too

When You see the broken promises I've made to You

I keep saying that I'll trust You, though I seldom do

Yet You stay and say, "You love me still"

Knowing someday I'll be like You

ฉันมันน่าขำ ทำยังไงก็ไม่เคยเห็นเลย

ว่าตั้งแต่ก่อนจะได้รู้จักคุณ คุณก็รักฉันอยู่แล้ว

บางครั้งฉันร้องไห้ คุณก็ต้องร้องไห้เหมือนกันแน่

เมื่อคุณเห็นว่าฉันผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคุณ

ฉันเอาแต่พูดว่าจะเชื่อคุณ แต่แทบไม่เคยทำเลย

แต่คุณยังอยู่และพูดว่า “คุณยังรักฉัน”

รู้ว่าสักวันฉันจะเป็นเหมือนคุณ

And Your stubborn love, it never lets go of me

I don't understand how You can stay

Perfect love embracing the worst in me

How I long for Your stubborn love

และความรักดื้อรั้นของคุณ ไม่เคยปล่อยวางจากฉัน

ไม่เข้าใจว่าคุณยังอยู่เคียงข้างได้ยังไง

ความรักเที่ยงแท้ โอบกอดส่วนที่เลวร้ายที่สุดของฉัน

ฉันโหยหาในรักดื้อรั้นของคุณมากเพียงใด

It's Your stubborn love that never lets go of me

I don't understand how You can stay

Perfect love embracing the worst in me

And You never let me go, I believe I finally know

I can't live without Your stubborn love

มันคือรักดื้อรั้นของคุณที่ไม่เคยปล่อยวางจากฉัน

ไม่เข้าใจว่าคุณยังอยู่เคียงข้างได้ยังไง

ความรักเที่ยงแท้ โอบกอดส่วนที่เลวร้ายที่สุดของฉัน

และคุณไม่เคยปล่อยฉันไป ฉันเชื่อว่าในที่สุดฉันรู้แล้ว

ฉันไม่อาจอยู่ได้ถ้าไม่มีรักดื้อรั้นของคุณ


----


เพลงนี้เป็นเพลงแนวที่เค้าเรียกว่า ป๊อบคริสเตียน ค่ะ

ความรัก แน่นอน ว่าคือรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์

เพราะถ้าเป็นความรักของคนรักกัน สำหรับเรานะ เลิกแน่นอน คนหนึ่งถล่มตัวซะ มองอีกคนอยู่สูงเกิน ความสัมพันธ์มันไม่บาลานซ์ ต่อให้อีกฝ่ายดียังไง ถ้าเรามองว่าเราไม่คู่ควรกับเค้า ความนับถือตัวเองมันทำให้ไม่มีความสุข ยิ่งไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเองด้วย

คิดว่าเพราะเป็นความรักที่ยากจะเป็นไปได้แบบนี้แหละค่ะ เราถึงรู้สึกว่ามันเพราะ และเสียงคนร้องก็เพราะด้วย ชอบๆ

จบอีกหนึ่งเพลง ไว้เจอกันใหม่เพลงหน้าค่ะ ^^//


ชีวิตข้าฯ - บทที่ 88

 บทที่ 88

ผมยืนหน้าห้องปรุงยาของผู้ต้องสงสัยรายที่สาม และเอากุญแจไขได้ทุกอย่างออกมา ประตูถูกล็อกซึ่งเป็นเรื่องปกติ ผมบรรจงเสียบอโลโฮโมราเข้าไปในรูกุญแจและหมุน

คลิก!

ล็อกถูกปลดทำให้ประตูเหวี่ยงเปิดออก ผมเข้าไปโดยไม่พูดอะไร ผมรู้สึกถึงคนกำลังวุ่นวายอยู่ในห้องปรุงยา จึงตัดสินใจเดินไปทางพวกเขา

ชายคนหนึ่งดูเหมือนจะเป็นเจ้าของห้องปรุงยา เขากำลังเก็บกระเป๋าอย่างรีบร้อนและพูดกับอีกคน “บ้าเอ๊ย! เจ้าไม่เคยบอกว่าเราต้องหนี!”

เจ้าของห้องปรุงยาใส่เสื้อขาว แสดงว่าเป็นนักแปรธาตุ กำลังพูดกับชายชราผมหงอกใส่เทลโค้ตเหมือนพ่อบ้าน

ชายชราตำหนิเจ้าของห้องปรุงยา “เจ้าพูดอะไร? ที่เป็นอย่างนี้เพราะเจ้าทำงานไม่ได้เรื่อง!”

เจ้าของห้องปรุงยาเถียงคำตำหนิที่ไม่ยุติธรรม “ข้าทำถูกแล้ว! ข้าทำให้เขาตายตามคำสั่งของเจ้า!”

“ถ้าอย่างนั้นทำไมเขายังอยู่ล่ะ?”

เมื่อชายชราเริ่มโกรธ อีกคนก็ทึ้งผมตัวเอง “ไม่รู้! บ้าจริง นอกจากจะมีคนล้างท้องเขาทันทีที่พิษกำเริบ!”

“ยังไงก็ตาม เขารอด และเศษฮอร์นก็ถูกส่งไปให้นักเวทหลวง อาจต้องใช้เวลาตรวจส่วนผสมของมัน แต่หนีก่อนดีกว่า” ชายชราพูด

ฮอร์น! รอดไป ผมห่วงว่าจะตามหาคนร้ายผิดทาง แต่พวกเขาพูดออกมาหมด

“เวรเอ๊ย ถ้าตรวจหาพิษเสร็จ ข้าก็ไม่พ้นตกเป็นผู้ต้องสงสัย! ถ้าหนีตอนนี้ข้าคงถูกทำให้เป็นคนร้าย!”

“ไม่หรอก โชคดีอย่างที่ข้าได้ยินว่าผู้เข้ารับการฝึกเป็นข้าราชการถูกจับ ถ้าไปได้สวย เด็กฝึกคนนั้นน่าจะถูกกล่าวหาเป็นคนร้าย”

นักเล่นแร่แปรธาตุดีใจ “จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นทำไมเราต้องหนีด้วย?”

ชายชราถอนหายใจ “เผื่อไว้ก่อน เจ้าไม่ชอบเหรอปลอดภัยไว้ก่อนน่ะ? ต้องคิดเผื่อเกิดกรณีเลวร้ายที่สุดด้วย”

“ก็จริง แต่...” นักเล่นแร่แปรธาตุทอดเสียง เหมือนไม่ชอบใจที่ต้องหนี

ชายชราพูด “ต่อให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมา นายท่านบอกว่าจะให้ตัวตนใหม่แก่เจ้า ดังนั้นอย่ากังวลเกินไปนักและเก็บของให้เสร็จ”

สีหน้าของนักเล่นแร่แปรธาตุดีขึ้น ผมก็ยิ้มด้วย ไม่ต้องหา ผมก็เห็นเลือดโทรลน้ำแข็ง สารสกัดจากหม้อข้าวหม้อแกงลิงยักษ์ และฮอร์นถูกใส่ลงไปในกระเป๋าของเขา

วัตถุดิบพวกนั้นเป็นของแพงและหายาก เลือดโทรลน้ำแข็งหายากขนาดแม้แต่ผมเองยังไม่มี ไม่จำเป็นต้องฟังต่อแล้ว ผมกระโจนเข้าไปตีท้ายทอยนักเล่นแร่แปรธาตุโดยไม่ปล่อยให้เขามีเวลาตอบโต้

“อั่ก!” นักเล่นแร่แปรธาตุสลบ

ชายชราตื่นกลัวกับการมาอย่างกะทันหันของผม “เจ้า เจ้าเป็นใคร!”

ผมยิ้มให้ชายชราที่ตั้งท่าสู้แทนที่จะหนี สองคนนี้ตลกจริงๆ คิดจะสู้กับใคร?

“หึๆๆ แค่คนที่เจ้าพยายามจะใส่ร้ายให้เป็นอาชญากร?” ผมพุ่งเข้าไปตรงระหว่างแขนของชายชราและต่อยเขาเบาๆที่ท้อง

“แค่ก!” ท่าตั้งรับและกล้ามท้องของชายชราแข็งแรง เหมือนฝึกมาไม่น้อย

เขาควรจะหนีทันทีที่เห็นผม อาจเพราะรูปร่างหน้าตาของผมทำให้เขาไม่ระวัง นึกว่าจะข่มผมได้

ผมกระชากคอเสื้อของชายชราที่กำลังทรุดและดึงเขาขึ้นมา

ผมยกชายชราขึ้นมาจนสบตาเขาที่กำลังเบลอด้วยความเจ็บ และยิ้มอย่างใจดี “ไม่ต้องห่วง เจ้าจะจำข้าไม่ได้เพราะความทรงจำจะหายไปหมด”

มีวิธีลบความทรงจำหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้แรง เวทมนตร์ หรือยา

ชายชราจ้องผมอย่างระแวง “อะไร...!”

ได้เวลาปิดม่านสอบสวนแล้ว หรือพูดอีกอย่างคือ ได้เวลาทำให้เขาเสียใจที่มาหาเรื่องผม ฮ่าๆๆ

***

เมื่อหัวหน้าหน่วยอัศวินกวางขาวมาถึงสถานที่ที่ได้รับรายงาน อาคารถูกล้อมด้วยเชือก ‘ห้ามเข้า’ มองจากที่ไกลๆเห็นแต่ควันจางๆลอยจากอาคาร เพราะมันผ่านมาสักพักแล้ว

เมื่อเขาข้ามเชือก’ห้ามเข้า’เข้าไป คนเฝ้าคนหนึ่งก็ทำความเคารพเขา “เคารพ!”

หัวหน้าอัศวินยกมือและตรงไปที่เต้นท์หน้าอาคาร

เมื่อเขาเข้าไป อัศวินใต้บังคับบัญชาสองคนก็ทำความเคารพ “เคารพ!”

“เกิดอะไรขึ้น?”

อัศวินคนหนึ่งอธิบาย “ครับ! เราสงสัยว่าเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเล่นแร่แปรธาตุ ตอนนี้กำลังสืบสวน”

“ข้าได้ยินว่ามีพยานเห็นรองหัวหน้าเข้าไป จริงหรือเปล่า?”

“เรื่องนั้น ขอโทษครับ ควันยังไม่หมด ถ้าจะเข้าไปจะลำบาก”

คำตอบทำให้หัวหน้าอัศวินโกรธ แต่เขากดมันไว้และพูดต่อ “ข้าได้ยินว่ามีคนสลบตอนที่พยายามจะเข้าไป พวกเขาเป็นยังไงบ้าง?”

ถ้าควันเป็นควันพิษ การให้ทหารและอัศวินเข้าไปจะเป็นอันตรายต่อพวกเขา ไม่ว่าเขาจะเป็นห่วงรองหัวหน้าอัศวินแค่ไหนก็ตาม

“ครับ ข้าไม่มั่นใจเพราะนักเวทหลวงกับนักบวชยังไม่มา แต่ข้าเชื่อว่าพวกเขาแค่หลับ”

“หลับ? ได้ยินจากรายงานว่ามันอาจมีพิษ”

อัศวินตอบอย่างยุ่งยากใจ “นั่นเป็นพวกเราคิดเอาเองตอนกำลังตกใจครับ แต่ข้าลองใช้เวทมนตร์ตรวจร่างกายพวกเขา เพราะเห็นพวกเขาพูดเหมือนกำลังละเมอ”

หัวหน้าอัศวินถลึงตาใส่ลูกน้อง “เจ้ากำลังบอกว่ารายงานไปทั้งๆที่ไม่รู้สถานการณ์ชัดเจน”

“ขอโทษครับ”

“ไม่ ดีแล้วที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่” เขาพูด ออกจากเต้นท์ไปยืนหน้าอาคารที่ควันยังคงลอดออกมา

“หัวหน้า! มันอันตราย!”

“ไม่เป็นไร” หัวหน้าอัศวินให้ลูกน้องของเขาถอยไปและชักดาบ

หัวหน้าอัศวินสูดลมหายใจลึก ส่งพลังเวทไปที่ดาบและฟันไปทางทางเข้าอาคาร ลมจากดาบเข้าไปในอาคารและผ่านข้างในอาคาร แก๊สสลบที่ยังเหลือในอาคารถูกพัดออก

“อา!” อัศวินและทหารที่อยู่ใกล้ๆถอยหลบ หัวหน้าอัศวินวิ่งเข้าไปในอาคารพร้อมกับกลั้นหายใจ

ในอาคาร เหมือนห้องปรุงยาของนักเล่นแร่แปรธาตุ ตรงกลางเป็นที่ว่างขนาดใหญ่และห้องเล็กๆอีกหลายห้องที่ใช้เก็บวัตถุดิบ หัวหน้าอัศวินตรงไปที่ต้นตอของควัน

ที่นั่นมีคนสลบหลายคน มีชายที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของห้องปรุงยา, กลุ่มคนที่เหมือนอันธพาล, และรองหัวหน้าอัศวิน

รองหัวหน้าอัศวินกำลังนอนมือประสานกัน ท่ามกลางกระสอบเหมือนกำลังค้นหาอะไรอยู่ หัวหน้าอัศวินจะขยับรองหัวหน้าอัศวินแต่เห็นกระดาษที่มีข้อความเขียนไว้และดอกไม้ในมือรองหัวหน้าอัศวิน

-หลับใหลที่นี่ขณะสู้กับคนขายยาผิดกฎหมาย 

ตกใจกับข้อความ, เขาตรวจรองหัวหน้าอัศวินว่ายังหายใจอยู่หรือเปล่า และโล่งใจที่เห็นว่ายังหายใจเป็นปกติ คำว่าหลับใหลไม่ใช่คำอุปมา มันแปลตรงตามตัวอักษรว่าเขาหลับอยู่

หัวหน้าอัศวินกังวลกับคำว่า คนขายยาผิดกฎหมาย คิดไปคิดมาขณะแบกรองหัวหน้าอัศวินบนหลัง อย่างไม่แน่ใจ, เขาเปิดกระสอบและเห็นผงสีขาวข้างใน

แม้ข้อความจะอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มันไม่มีเหตุผลเลย อันธพาลที่สลบรอบรองหัวหน้าอัศวินคือคนขายยา และรองหัวหน้าอัศวินสู้กับพวกเขา

รองหัวหน้าอัศวินถูกมอบหมายหน้าที่ให้ตามผู้รับการฝึกไปจับคนร้ายวางยาพิษเพลแกรนท์ แล้วทำไมจู่ๆเขามาสู้กับกลุ่มคนขายยา? ทำไมเขาไม่เห็นผู้รับการฝึกอยู่กับรองหัวหน้าอัศวิน?

เขาควรจะได้ยินเรื่องทั้งหมดเมื่อรองหัวหน้าอัศวินตื่น หัวหน้าอัศวินรีบออกจากอาคารเมื่อรู้สึกว่ากำลังจะกลั้นหายใจต่อไม่ไหวแล้ว

***

หลังจากสอบสวนชายชรา ผมวางเขานอนข้างนักเล่นแร่แปรธาตุบนพื้น ชายชราไม่มีร่องรอยบาดแผลภายนอก แต่จิตใจเขาขาดรุ่งริ่ง เอาเถอะ ความทรงจำของเขาถูกลบไปอย่างเรียบร้อย ดังนั้นผมแน่ใจว่าจะไม่มีผลกับชีวิตประจำวันของเขา แต่ถ้าเขาเห็นหน้าผม มีโอกาสสูงที่จะเกิดอาการชัก

มันเป็นการสืบสวนที่เข้มข้น แต่ผมไม่รู้สึกผิดเมื่อคิดถึงสิ่งที่ชายชราทำลงไป ตรงข้ามผมเสียดายที่ไม่ทำให้หนักกว่านี้ ชายชราคือคนที่ทำน้ำโคลนเลอะผมเมื่อคราวก่อน เขาเป็นพ่อบ้านของมาร์ควิสบัลเธียน ผู้ถูกใช้จัดการกับงานสกปรก

กฎหมายห้ามเรื่องการรค้าทาส ชายชราถูกมอบหมายให้หาคนมาเป็นเครื่องสังเวยให้แม่มดคนหนึ่งผู้ร่วมมือกับมาร์ควิส นอกจากนี้ ชายชรายังเคยหาเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายเพื่อสนองตัณหาของมาร์ควิสด้วย

มาร์ควิสบัลเธียนเป็นขยะตาเฒ่าตัณหากลับ แต่พ่อบ้านที่ทนเขาได้ก็ขยะเหมือนกัน โดยส่วนตัวแล้วผมเกลียดคนอย่างพ่อบ้าน พวกเสียชาติเกิด

ผมหยิบกระดาษเขียนคำสารภาพที่ประทับรอยนิ้วโป้งแทนลายเซ็น และกระเป๋าตังค์ของชายชราออกมา จากนั้นหันไปหานักเล่นแร่แปรธาตุ หมอนี่ก็ตลกเหมือนกัน ตามที่ชายชราสารภาพ นักเล่นแร่แปรธาตุจะถูกกำจัดตอนหนี

ต่อให้ถ้าหัวหน้าเพลแกรนท์สงสัยมาร์ควิสบัลเธียน  ก็ต้องมีคนร้ายมายืนยัน นักเล่นแร่แปรธาตุเป็นคนแรกที่สมควรเป็นผู้ต้องสงสัย ดังนั้น ชายชราตัดสินใจจะกำจัดเขาเสีย

พูดอีกอย่างคือก่อนหน้านี้เป็นแค่การแสดง นักเล่นแร่แปรธาตุทำงานให้มาร์ควิสบัลเธียนมากเกินไป ซึ่งแปลว่าเขารู้ความลับมากเกินไป การกำจัดเขาเป็นสิ่งเลี่ยงไม่ได้ แค่มันมาเกิดเอาตอนนี้

ตอนแรกเขาถูกบังคับเพราะต้องการเงิน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นคนที่ชอบวางยาพิษคนบริสุทธิ์ ดังนั้นผมจึงไม่มีความเห็นใจให้เขา

ผมยกมือของนักเล่นแร่แปรธาตุที่สลบอยู่และกดนิ้วโป้งข้างใต้คำสารภาพของชายชรา คราวนี้เขาก็กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในทุกอย่างที่ชายชราสารภาพ

ถึงเขาจะไม่เกี่ยวกับการค้าทาสและถูกตัดสินประหารชีวิต มันไม่ใช่เรื่องของผม ไม่ว่าอย่างไร การวางยาพิษหัวหน้าเพลแกรนท์เองก็พอให้โดนโทษประหารชีวิตแล้ว



สารบัญ                                           บทที่ 89


วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ชีวิตข้าฯ - บทที่ 87

บทที่ 87

ขณะพวกเราเดินทางไปยังผู้ต้องสงสัยรายที่สอง ภาระยื่นมือมาทางผมและพูด “เอามา!

“เอาอะไร?”

สีหน้าท่าทางของเขาให้อารมณ์แบบอันธพาลขู่กรรโชกทรัพย์ “ตรา! เฮ้! เมื่อกี๊แกแอบอ้างเป็นอัศวินนะ! มันเป็นอาชญากรรม! อยากกินข้าวโอ๊ตไปตลอดชีวิตเหรอ?”

สำนวนกินข้าวโอ๊ตที่นี่ก็เหมือนกินข้าวคลุกถั่วในชาติก่อนของผม เพราะแม้แต่ในสลัมยังไม่กินข้าวโอ๊ตกัน แต่มันเป็นอาหารหลักในคุกหลวง

ผมเดาะลิ้น “ชิ เอาไป”

ภาระคำรามขณะรับตรา “กลับไปเจ้าโดนแน่”

ผมทำเสียงหึ “เอาสิ ข้าจะบอกว่าเจ้าสมรู้ร่วมคิด”

“...อะไรนะ?”

ผมมองภาระที่ทำหน้าอึ้ง และยิ้มอย่างผู้ชนะ “คิดดูสิ หัวหน้าอัศวินต้องเชื่อแน่ว่าข้าราชการอ่อนแออย่างข้าขโมยตราจากรองหัวหน้าอัศวินได้”

“เอ่อ นั่น-”

“ต่อให้เขาเชื่อ เจ้าลำบากแน่ที่ปล่อยให้ข้าราชการอ่อนแออย่างข้าขโมยตราไปได้”

ภาระจนคำพูด

“ถ้ายังไงก็ถูกลงโทษอยู่ดี เงียบไว้ไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเราไม่พูด ใครจะรู้? โอ๊ะ เจ้าของห้องปรุงยาคนเมื่อกี๊? ถ้าเราพูดเหมือนกัน ก็ฝังคำให้การนั้นได้ ฮุๆๆ” ผมรู้สึกเหมือนเป็นปีศาจลากเขาสู่ทางบาป แต่ช่างมันเถอะ

ภาระตะโกนด้วยความรู้สึกขัดแย้ง “ดูที่เจ้าทำสิ! ถ้าหมอนั่นร้องเรียน ข้าจะถูกลงโทษทางวินัย!

การร้องเรียนที่ภาระพูดถึงไม่ใช่การแอบอ้างแต่เป็นการบุกรุก มาคิดดูแล้วก็จริง เราพังประตู กล่าวหาเขาว่าค้ายาโดยไม่มีหลักฐาน จากนั้นค้นบ้านโดยที่เขาไม่ยินยอมและเจอหนังสือลับเข้าให้ ถ้าเป็นผม ผมก็จะร้องเรียน

“ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องของข้า” ผมยักไหล่ ภาระทำหน้าโกรธ กำหมัดแน่นแต่แล้วก็คลายออก

ถ้าเขาจะต่อยผมจริงๆ ผมจะได้ตะโกน “จะตีข้าเหรอ?” และ “ใครก็ได้!” น่าเสียดาย

ภาระตะโกนเหมือนเพิ่งรู้ “ไม่จริงน่า! เจ้ายังโกรธที่ข้าล้อเรื่องแผนที่เหรอ?!

ภาระมองผมด้วยความช็อก

“ฮ่าๆๆ! ไม่มีทาง” ผมหัวเราะและเตะประตูห้องปรุงยาของผู้ต้องสงสัยรายที่สอง

โครม!

เหมือนคราวที่แล้ว ประตูหลุดจากกรอบปลิวไป

“ออกมา!

“ดูสิ เจ้าโกรธ!

บอกว่าไม่ไง แหม ภาระไม่ค่อยเชื่อที่คนอื่นพูดเลย แต่เขามีลางสังหรณ์ดีอย่างกับนักสืบ ไม่ได้ช่วยเลย

ผมคว้าคอเสื้อของผู้ต้องสงสัยรายที่สอง ผู้กำลังหนีเหมือนรายแรก

“คุณดาเวนใช่ไหม?”

จู่ๆก็ถูกคว้าคอเสื้อก่อนจะทันได้พูด, ผู้ต้องสงสัยรายที่สองพยักหน้าอย่างลนลาน “ปล่อย ปล่อยมือได้ไหม?”

ผมเมินและพูด “มีรายงานว่าเจ้าผลิตและขายยาที่นี่ ถ้ายอมให้ค้นดีๆจะไม่มีความรุนแรง”

“อะไรวะ!” ผู้ต้องสงสัยรายที่สองหน้าซีด และภาระขมวดคิ้วเหมือนรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นอย่างนี้

ที่ผมออกตัวแรงกว่าครั้งแรกเพราะภาระเอาตราอัศวินกวางขาวคืนไป ผมขยิบตาให้ภาระ เขาถอนหายใจแล้วแสดงตราออกมา

ผมปล่อยคอเสื้อของผู้ต้องสงสัยรายที่สองและเดินเข้าไปข้างในอย่างไม่รอช้า

“ดะ เดี๋ยว!” ผู้ต้องสงสัยรายที่สองพยายามจับผม แต่ผมหลบอย่างง่ายดายและเริ่มค้นห้องปรุงยา

การจัดวางในห้องปรุงยาคล้ายกับของผู้ต้องสงสัยคนแรก นี่คงเป็นสไตล์ห้องปรุงยาที่เป็นที่นิยมในเมืองหลวง ถ้าต่อไปยูเรียอยากเรียนการเล่นแร่แปรธาตุอย่างจริงจัง ห้องแบบนี้คงมีประโยชน์ ถึงอย่างไรผมก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่ชอบตามเทรนด์

น่าเสียดาย ในห้องปรุงยานี้ มีสารสกัดจากหม้อข้าวหม้อแกงลิง แต่ไม่มีเลือดโทรลน้ำแข็ง น่าเศร้าที่ผู้ต้องสงสัยรายที่สองไม่ใช่คนร้าย ผมเริ่มลนลานเล็กน้อยว่ามาผิดทางหรือเปล่า แต่จะเปลี่ยนวิธีก็สายไปแล้ว

ผมมองหาช่องลับ พื้น เพดาน ผนัง เป็นสามแห่งที่มีพลังเวทรวมกันอย่างหยาบๆ ผมเดินไปยังช่องลับในผนัง ซึ่งมีพลังเวทรวมไว้มากที่สุด และฉีกกระดาษปิดผนังออก

“ไม่!” ผู้ต้องสงสัยรายที่สองตะโกน แต่ภาระขวางเขา

เปลือกนอกนี่คือการตรวจค้นยา ภาระมีสีหน้าไม่เต็มใจ แต่ไม่ว่าจะเพื่อผมหรือเพื่อจับอาชญากร เขาทำได้ดี

“ออกมานะ หนังสือโป๊!” ผมร่ายคาถาและสลายเวทมนตร์บนผนัง ผมเปิดประตูช่องลับ หวังว่าจะได้เห็นสวรรค์อีก

“นี่อะไร?” ช่องลับเต็มไปด้วยกระสอบใส่ผงสีขาว

“ไอ้เวรนี่ดันเป็นคนขายยาจริงๆ”

ผู้ต้องสงสัยรายที่สองถอยจากภาระเมื่อผมหยิบกระสอบใส่ยาออกมา

“ฮึ่ม! ข้าไม่รู้ว่าเจ้ารู้ได้ยังไง แต่พลาดไปแล้วเถอะที่มากันแค่สองคน!” ผู้ต้องสงสัยรายที่สองใช้บทพูดตัวโกงทั่วไป และพวกอันธพาลก็ปีนขึ้นมาจากช่องลับที่พื้น

เมื่อถูกล้อม ภาระเข้ามายืนบังหน้าผมเป็นการปกป้องและชักดาบออกมา “เวร ข้าไม่น่ามาเกี่ยวข้องกับคนอย่างเจ้าเลย!

แม้จะดูเหมือนเขาเสียใจจริงๆ เจตนาปกป้องผมอย่างอัศวินก็ยังน่านับถือ

“ข้าต้องให้พวกเจ้าคายออกมาว่ารู้เรื่องนี้มาจากไหน”

ผู้ต้องสงสัยรายที่สองตะโกนอย่างมีชัย เห็นแล้วน่าหัวเราะดี

“พยายามอยู่ข้างหลังข้า กับคนเยอะขนาดนี้ข้าไม่แน่ใจว่าจะปกป้องเจ้าได้” ผมถอนหายใจและพูดต่อ “พอตื่นมาเรื่องก็จบแล้ว”

“อะไรนะ?”

ผมแอบโชว์หน้ากากกันแก๊สพิษให้ภาระเห็นเมื่อเขาหันมา จากนั้นเอาระเบิดแก๊สสลบที่ผมทำตอนอยู่ในหมู่บ้านจากกระเป๋ามิติและเขย่าให้ดู

“เจ้า! เดี๋ยวก่อน!” ทันทีที่ภาระรู้สึกสังหรณ์ร้ายและจะพูดอะไรออกมา ผมโยนระเบิดใส่พื้น

“ลองชิมระเบิดของข้าดู!

ระเบิดแก๊สสลบชนพื้นและส่งเสียงบึ้มเบาๆ แล้วปล่อยแก๊สสลบมา

“อะไร นั่นอะไร?!” พวกอันธพาลตื่นตระหนก แต่สายไปแล้ว

แก๊สลอยเต็มห้องในทันที ทำให้ทุกคนในห้องปรุงยาสลบไปยกเว้นผม

“ดี ไปได้สวย”

ที่จริงผมทำระเบิดแก๊สสลบเพื่อใช้ตอนหนีออกจากบ้าน แต่พอทำเสร็จถึงเพิ่งรู้ว่าถ้าจะหนีได้ผมต้องไปข้างนอก และระเบิดแบบนี้ใช้ได้ดีในที่ปิด ใช้ไม่ดีนักในที่เปิด ยิ่งกว่านั้น แก๊สสลบต้องถูกสูดหายใจเข้าไปจึงจะได้ผล แต่ดูจากความจุของปอดของพวกคนในหมู่บ้าน มันเปล่าประโยชน์ จริงๆนะ ผมไม่รู้ว่าทำไปทำไม

นอกจากระเบิดแก๊สสลบ ผมมีระเบิดแสง,แก๊สน้ำตา,และระเบิดควันอีกหลายแบบ แต่ถ้าคิดสักนิด ผมคงรู้ว่าของพวกนั้นไม่ช่วยในการหนี สมัยนั้นอาจเพราะยังเด็ก ผมจึงสร้างของไร้ประโยชน์ขึ้นมามากมาย

ผมเอาเชือกที่ซื้อจากกรันเวลมามัดแขนขาของพวกค้ายา ผมใช้เวทมนตร์เพิ่มความเหนียวของเชือกเผื่อไว้ และเอาแผนที่จากภาระที่กำลังนอนน้ำลายยืด

“ขอยืมก่อนนะ”

อา ในที่สุดก็ได้ทิ้งภาระนี้สักที เพื่อให้แน่ใจ เอาแผนที่ไปด้วยดีกว่าเพื่อไม่ให้เขาตาม ผมเลือกระเบิดแก๊สสลบเพราะอยากซ่อนพลังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกอย่าง มันทำให้ทิ้งภาระได้ง่ายกว่าด้วย

เมื่อจับคนร้ายได้ ผมต้องสอบสวนเขา ถ้าเขาเกิดจะรักความถูกต้องขึ้นมาระหว่างพวกเรากำลังรีดไถข้อมูลคงน่ารำคาญ ผมออกจากห้องปรุงยาก่อนจะมีคนร้องเรียนและพวกอัศวินมา

***

หัวหน้าหน่วยอัศวินกวางขาวกำลังเขียนรายงานส่งให้ผู้ใหญ่เกี่ยวกับการวางยาพิษเพลแกรนท์ แม้หัวหน้าอัศวินจะเป็นตำแหน่งสูงสุดในการรักษาความปลอดภัยของเมืองหลวง เพลแกรนท์เป็นสมาชิกอาวุโสขององค์กรข่าวลับของนายกรัฐมนตรีอาร์คันทา และขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี พูดอีกอย่างคือ รายงานที่เขาเขียนอยู่นี้เขียนให้อาร์คันทา

หัวหน้าอัศวินหยุดมือและถอนหายใจ “ทำไมข้าปล่อยเขา?”

เขาหมายถึงเดน ชายที่ถูกจับในฐานะผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ เมื่อเดนบอกว่าเขารู้จักองค์กรข่าวแม่ใหญ่ หัวหน้าอัศวินก็รู้สึกเชื่อถือขึ้นมา จึงให้คนสนิทที่เขาเชื่อใจที่สุดตามไป เขานับถือความฉลาดพูดของเดน เพราะปกติเขาไม่มีทางอนุญาต

ในขณะเดียวกัน เขาเริ่มกังวลว่าจะเขียนอย่างไรในรายงาน หัวหน้าอัศวินไม่รู้ตัว แต่ที่เขาเชื่อใจเดนเพราะถูกเวทมนตร์สะกดจิต ตอนนี้ไม่เหลือเวทมนตร์แม้แต่เศษเสี้ยวไว้เป็นหลักฐาน แต่ความเชื่อใจยังคงอยู่

ความรู้สึกขอบคุณที่ช่วยชีวิตเพลแกรนท์เป็นตัวขยายความรู้สึกเชื่อใจ แต่มันจะจางไปในอีกไม่กี่วัน แต่เมื่อเขาจะเขียนถึงเดน เขาไม่รู้ว่าจะเขียนอย่างไร

ขณะที่เขาถอนหายใจอีก ลูกน้องก็เข้ามาตะโกนเสียงร้อนรน “หัวหน้า! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!

“มีอะไร?”

“มีควันลอยในเมืองหลวง น่าสงสัยว่าเป็นแก๊สพิษ!

“จัดการกันยังไงแล้ว?” แม้เสียงของอัศวินจะสงบเหมือนปกติ ใจเขาไม่สงบเท่า

“คนที่สูดเข้าไปแค่นิดเดียวจะสลบทุกคน จึงจัดการอะไรไม่ได้ตอนนี้ แต่มีพยานบอกว่าเห็นรองหัวหน้าเข้าไปที่นั่นก่อนเกิดควัน”

“อะไรนะ! ที่ไหน?” หัวหน้าอัศวินรีบถาม

ลูกน้องของเขารายงานว่าควันเกิดที่ห้องปรุงยาของดาเวน ทันทีที่ได้ยิน หัวหน้าอัศวินรีบตรงไปยังที่เกิดเหตุและเริ่มปวดศีรษะขึ้นมา คนที่เขาให้ตามเดนไปจับคนร้ายได้ไปที่ห้องปรุงยานั้น

ดังนั้น คนในห้องปรุงยาถ้าไม่เป็นคนร้ายก็ผู้ต้องสงสัย พูดอีกอย่างคือแก๊สน่าสงสัยอาจเป็นการก่อการร้ายมากกว่าอุบัติเหตุในห้องปรุงยา ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน เขาหวังว่ารองหัวหน้าอัศวินจะปลอดภัย

 

 

สารบัญ                                                บทที่ 88