วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

ชีวิตข้าฯ - บทที่ 88

 บทที่ 88

ผมยืนหน้าห้องปรุงยาของผู้ต้องสงสัยรายที่สาม และเอากุญแจไขได้ทุกอย่างออกมา ประตูถูกล็อกซึ่งเป็นเรื่องปกติ ผมบรรจงเสียบอโลโฮโมราเข้าไปในรูกุญแจและหมุน

คลิก!

ล็อกถูกปลดทำให้ประตูเหวี่ยงเปิดออก ผมเข้าไปโดยไม่พูดอะไร ผมรู้สึกถึงคนกำลังวุ่นวายอยู่ในห้องปรุงยา จึงตัดสินใจเดินไปทางพวกเขา

ชายคนหนึ่งดูเหมือนจะเป็นเจ้าของห้องปรุงยา เขากำลังเก็บกระเป๋าอย่างรีบร้อนและพูดกับอีกคน “บ้าเอ๊ย! เจ้าไม่เคยบอกว่าเราต้องหนี!”

เจ้าของห้องปรุงยาใส่เสื้อขาว แสดงว่าเป็นนักแปรธาตุ กำลังพูดกับชายชราผมหงอกใส่เทลโค้ตเหมือนพ่อบ้าน

ชายชราตำหนิเจ้าของห้องปรุงยา “เจ้าพูดอะไร? ที่เป็นอย่างนี้เพราะเจ้าทำงานไม่ได้เรื่อง!”

เจ้าของห้องปรุงยาเถียงคำตำหนิที่ไม่ยุติธรรม “ข้าทำถูกแล้ว! ข้าทำให้เขาตายตามคำสั่งของเจ้า!”

“ถ้าอย่างนั้นทำไมเขายังอยู่ล่ะ?”

เมื่อชายชราเริ่มโกรธ อีกคนก็ทึ้งผมตัวเอง “ไม่รู้! บ้าจริง นอกจากจะมีคนล้างท้องเขาทันทีที่พิษกำเริบ!”

“ยังไงก็ตาม เขารอด และเศษฮอร์นก็ถูกส่งไปให้นักเวทหลวง อาจต้องใช้เวลาตรวจส่วนผสมของมัน แต่หนีก่อนดีกว่า” ชายชราพูด

ฮอร์น! รอดไป ผมห่วงว่าจะตามหาคนร้ายผิดทาง แต่พวกเขาพูดออกมาหมด

“เวรเอ๊ย ถ้าตรวจหาพิษเสร็จ ข้าก็ไม่พ้นตกเป็นผู้ต้องสงสัย! ถ้าหนีตอนนี้ข้าคงถูกทำให้เป็นคนร้าย!”

“ไม่หรอก โชคดีอย่างที่ข้าได้ยินว่าผู้เข้ารับการฝึกเป็นข้าราชการถูกจับ ถ้าไปได้สวย เด็กฝึกคนนั้นน่าจะถูกกล่าวหาเป็นคนร้าย”

นักเล่นแร่แปรธาตุดีใจ “จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นทำไมเราต้องหนีด้วย?”

ชายชราถอนหายใจ “เผื่อไว้ก่อน เจ้าไม่ชอบเหรอปลอดภัยไว้ก่อนน่ะ? ต้องคิดเผื่อเกิดกรณีเลวร้ายที่สุดด้วย”

“ก็จริง แต่...” นักเล่นแร่แปรธาตุทอดเสียง เหมือนไม่ชอบใจที่ต้องหนี

ชายชราพูด “ต่อให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นมา นายท่านบอกว่าจะให้ตัวตนใหม่แก่เจ้า ดังนั้นอย่ากังวลเกินไปนักและเก็บของให้เสร็จ”

สีหน้าของนักเล่นแร่แปรธาตุดีขึ้น ผมก็ยิ้มด้วย ไม่ต้องหา ผมก็เห็นเลือดโทรลน้ำแข็ง สารสกัดจากหม้อข้าวหม้อแกงลิงยักษ์ และฮอร์นถูกใส่ลงไปในกระเป๋าของเขา

วัตถุดิบพวกนั้นเป็นของแพงและหายาก เลือดโทรลน้ำแข็งหายากขนาดแม้แต่ผมเองยังไม่มี ไม่จำเป็นต้องฟังต่อแล้ว ผมกระโจนเข้าไปตีท้ายทอยนักเล่นแร่แปรธาตุโดยไม่ปล่อยให้เขามีเวลาตอบโต้

“อั่ก!” นักเล่นแร่แปรธาตุสลบ

ชายชราตื่นกลัวกับการมาอย่างกะทันหันของผม “เจ้า เจ้าเป็นใคร!”

ผมยิ้มให้ชายชราที่ตั้งท่าสู้แทนที่จะหนี สองคนนี้ตลกจริงๆ คิดจะสู้กับใคร?

“หึๆๆ แค่คนที่เจ้าพยายามจะใส่ร้ายให้เป็นอาชญากร?” ผมพุ่งเข้าไปตรงระหว่างแขนของชายชราและต่อยเขาเบาๆที่ท้อง

“แค่ก!” ท่าตั้งรับและกล้ามท้องของชายชราแข็งแรง เหมือนฝึกมาไม่น้อย

เขาควรจะหนีทันทีที่เห็นผม อาจเพราะรูปร่างหน้าตาของผมทำให้เขาไม่ระวัง นึกว่าจะข่มผมได้

ผมกระชากคอเสื้อของชายชราที่กำลังทรุดและดึงเขาขึ้นมา

ผมยกชายชราขึ้นมาจนสบตาเขาที่กำลังเบลอด้วยความเจ็บ และยิ้มอย่างใจดี “ไม่ต้องห่วง เจ้าจะจำข้าไม่ได้เพราะความทรงจำจะหายไปหมด”

มีวิธีลบความทรงจำหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้แรง เวทมนตร์ หรือยา

ชายชราจ้องผมอย่างระแวง “อะไร...!”

ได้เวลาปิดม่านสอบสวนแล้ว หรือพูดอีกอย่างคือ ได้เวลาทำให้เขาเสียใจที่มาหาเรื่องผม ฮ่าๆๆ

***

เมื่อหัวหน้าหน่วยอัศวินกวางขาวมาถึงสถานที่ที่ได้รับรายงาน อาคารถูกล้อมด้วยเชือก ‘ห้ามเข้า’ มองจากที่ไกลๆเห็นแต่ควันจางๆลอยจากอาคาร เพราะมันผ่านมาสักพักแล้ว

เมื่อเขาข้ามเชือก’ห้ามเข้า’เข้าไป คนเฝ้าคนหนึ่งก็ทำความเคารพเขา “เคารพ!”

หัวหน้าอัศวินยกมือและตรงไปที่เต้นท์หน้าอาคาร

เมื่อเขาเข้าไป อัศวินใต้บังคับบัญชาสองคนก็ทำความเคารพ “เคารพ!”

“เกิดอะไรขึ้น?”

อัศวินคนหนึ่งอธิบาย “ครับ! เราสงสัยว่าเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเล่นแร่แปรธาตุ ตอนนี้กำลังสืบสวน”

“ข้าได้ยินว่ามีพยานเห็นรองหัวหน้าเข้าไป จริงหรือเปล่า?”

“เรื่องนั้น ขอโทษครับ ควันยังไม่หมด ถ้าจะเข้าไปจะลำบาก”

คำตอบทำให้หัวหน้าอัศวินโกรธ แต่เขากดมันไว้และพูดต่อ “ข้าได้ยินว่ามีคนสลบตอนที่พยายามจะเข้าไป พวกเขาเป็นยังไงบ้าง?”

ถ้าควันเป็นควันพิษ การให้ทหารและอัศวินเข้าไปจะเป็นอันตรายต่อพวกเขา ไม่ว่าเขาจะเป็นห่วงรองหัวหน้าอัศวินแค่ไหนก็ตาม

“ครับ ข้าไม่มั่นใจเพราะนักเวทหลวงกับนักบวชยังไม่มา แต่ข้าเชื่อว่าพวกเขาแค่หลับ”

“หลับ? ได้ยินจากรายงานว่ามันอาจมีพิษ”

อัศวินตอบอย่างยุ่งยากใจ “นั่นเป็นพวกเราคิดเอาเองตอนกำลังตกใจครับ แต่ข้าลองใช้เวทมนตร์ตรวจร่างกายพวกเขา เพราะเห็นพวกเขาพูดเหมือนกำลังละเมอ”

หัวหน้าอัศวินถลึงตาใส่ลูกน้อง “เจ้ากำลังบอกว่ารายงานไปทั้งๆที่ไม่รู้สถานการณ์ชัดเจน”

“ขอโทษครับ”

“ไม่ ดีแล้วที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่” เขาพูด ออกจากเต้นท์ไปยืนหน้าอาคารที่ควันยังคงลอดออกมา

“หัวหน้า! มันอันตราย!”

“ไม่เป็นไร” หัวหน้าอัศวินให้ลูกน้องของเขาถอยไปและชักดาบ

หัวหน้าอัศวินสูดลมหายใจลึก ส่งพลังเวทไปที่ดาบและฟันไปทางทางเข้าอาคาร ลมจากดาบเข้าไปในอาคารและผ่านข้างในอาคาร แก๊สสลบที่ยังเหลือในอาคารถูกพัดออก

“อา!” อัศวินและทหารที่อยู่ใกล้ๆถอยหลบ หัวหน้าอัศวินวิ่งเข้าไปในอาคารพร้อมกับกลั้นหายใจ

ในอาคาร เหมือนห้องปรุงยาของนักเล่นแร่แปรธาตุ ตรงกลางเป็นที่ว่างขนาดใหญ่และห้องเล็กๆอีกหลายห้องที่ใช้เก็บวัตถุดิบ หัวหน้าอัศวินตรงไปที่ต้นตอของควัน

ที่นั่นมีคนสลบหลายคน มีชายที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของห้องปรุงยา, กลุ่มคนที่เหมือนอันธพาล, และรองหัวหน้าอัศวิน

รองหัวหน้าอัศวินกำลังนอนมือประสานกัน ท่ามกลางกระสอบเหมือนกำลังค้นหาอะไรอยู่ หัวหน้าอัศวินจะขยับรองหัวหน้าอัศวินแต่เห็นกระดาษที่มีข้อความเขียนไว้และดอกไม้ในมือรองหัวหน้าอัศวิน

-หลับใหลที่นี่ขณะสู้กับคนขายยาผิดกฎหมาย 

ตกใจกับข้อความ, เขาตรวจรองหัวหน้าอัศวินว่ายังหายใจอยู่หรือเปล่า และโล่งใจที่เห็นว่ายังหายใจเป็นปกติ คำว่าหลับใหลไม่ใช่คำอุปมา มันแปลตรงตามตัวอักษรว่าเขาหลับอยู่

หัวหน้าอัศวินกังวลกับคำว่า คนขายยาผิดกฎหมาย คิดไปคิดมาขณะแบกรองหัวหน้าอัศวินบนหลัง อย่างไม่แน่ใจ, เขาเปิดกระสอบและเห็นผงสีขาวข้างใน

แม้ข้อความจะอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มันไม่มีเหตุผลเลย อันธพาลที่สลบรอบรองหัวหน้าอัศวินคือคนขายยา และรองหัวหน้าอัศวินสู้กับพวกเขา

รองหัวหน้าอัศวินถูกมอบหมายหน้าที่ให้ตามผู้รับการฝึกไปจับคนร้ายวางยาพิษเพลแกรนท์ แล้วทำไมจู่ๆเขามาสู้กับกลุ่มคนขายยา? ทำไมเขาไม่เห็นผู้รับการฝึกอยู่กับรองหัวหน้าอัศวิน?

เขาควรจะได้ยินเรื่องทั้งหมดเมื่อรองหัวหน้าอัศวินตื่น หัวหน้าอัศวินรีบออกจากอาคารเมื่อรู้สึกว่ากำลังจะกลั้นหายใจต่อไม่ไหวแล้ว

***

หลังจากสอบสวนชายชรา ผมวางเขานอนข้างนักเล่นแร่แปรธาตุบนพื้น ชายชราไม่มีร่องรอยบาดแผลภายนอก แต่จิตใจเขาขาดรุ่งริ่ง เอาเถอะ ความทรงจำของเขาถูกลบไปอย่างเรียบร้อย ดังนั้นผมแน่ใจว่าจะไม่มีผลกับชีวิตประจำวันของเขา แต่ถ้าเขาเห็นหน้าผม มีโอกาสสูงที่จะเกิดอาการชัก

มันเป็นการสืบสวนที่เข้มข้น แต่ผมไม่รู้สึกผิดเมื่อคิดถึงสิ่งที่ชายชราทำลงไป ตรงข้ามผมเสียดายที่ไม่ทำให้หนักกว่านี้ ชายชราคือคนที่ทำน้ำโคลนเลอะผมเมื่อคราวก่อน เขาเป็นพ่อบ้านของมาร์ควิสบัลเธียน ผู้ถูกใช้จัดการกับงานสกปรก

กฎหมายห้ามเรื่องการรค้าทาส ชายชราถูกมอบหมายให้หาคนมาเป็นเครื่องสังเวยให้แม่มดคนหนึ่งผู้ร่วมมือกับมาร์ควิส นอกจากนี้ ชายชรายังเคยหาเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายเพื่อสนองตัณหาของมาร์ควิสด้วย

มาร์ควิสบัลเธียนเป็นขยะตาเฒ่าตัณหากลับ แต่พ่อบ้านที่ทนเขาได้ก็ขยะเหมือนกัน โดยส่วนตัวแล้วผมเกลียดคนอย่างพ่อบ้าน พวกเสียชาติเกิด

ผมหยิบกระดาษเขียนคำสารภาพที่ประทับรอยนิ้วโป้งแทนลายเซ็น และกระเป๋าตังค์ของชายชราออกมา จากนั้นหันไปหานักเล่นแร่แปรธาตุ หมอนี่ก็ตลกเหมือนกัน ตามที่ชายชราสารภาพ นักเล่นแร่แปรธาตุจะถูกกำจัดตอนหนี

ต่อให้ถ้าหัวหน้าเพลแกรนท์สงสัยมาร์ควิสบัลเธียน  ก็ต้องมีคนร้ายมายืนยัน นักเล่นแร่แปรธาตุเป็นคนแรกที่สมควรเป็นผู้ต้องสงสัย ดังนั้น ชายชราตัดสินใจจะกำจัดเขาเสีย

พูดอีกอย่างคือก่อนหน้านี้เป็นแค่การแสดง นักเล่นแร่แปรธาตุทำงานให้มาร์ควิสบัลเธียนมากเกินไป ซึ่งแปลว่าเขารู้ความลับมากเกินไป การกำจัดเขาเป็นสิ่งเลี่ยงไม่ได้ แค่มันมาเกิดเอาตอนนี้

ตอนแรกเขาถูกบังคับเพราะต้องการเงิน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นคนที่ชอบวางยาพิษคนบริสุทธิ์ ดังนั้นผมจึงไม่มีความเห็นใจให้เขา

ผมยกมือของนักเล่นแร่แปรธาตุที่สลบอยู่และกดนิ้วโป้งข้างใต้คำสารภาพของชายชรา คราวนี้เขาก็กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในทุกอย่างที่ชายชราสารภาพ

ถึงเขาจะไม่เกี่ยวกับการค้าทาสและถูกตัดสินประหารชีวิต มันไม่ใช่เรื่องของผม ไม่ว่าอย่างไร การวางยาพิษหัวหน้าเพลแกรนท์เองก็พอให้โดนโทษประหารชีวิตแล้ว



สารบัญ                                           บทที่ 89


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น