วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ชีวิตข้าฯ - บทที่ 77.3

 บทที่ 77.3

ชายชรานักเวทดำผู้ทำพิธีเบื้องหน้าแท่นพิธีรู้สึกถึงพลังของมัน เมื่อไม่มีคริสตัลคานีเลียนที่ใช้สะกดพลังของพฤกษาโลกและรักษาเสถียรภาพของพิธีกรรมเอาไว้ พลังมหาศาลจึงถูกใช้ไป

ชายชรากระทั่งใช้พลังเวทและวิญญาณของคนของเขาเป็นเครื่องบูชายัญเพื่อบังคับเริ่มพิธี แต่ตอนนี้มันมาถึงขีดจำกัด เห็นได้ชัดว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปพิธีกรรมจะล้มเหลว

จากนั้นเขารู้สึกถึงฝีเท้ามาจากทางด้านหลัง

พวกนักเวทดำที่รออยู่ข้างนอกเหรอ?

ไม่ใช่ ถ้าเป็นนักเวทดำ พวกเขาต้องรู้สึกถึงพลังแข็งแกร่งจากแท่นพิธีและไม่เข้าใกล้ ดังนั้น เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาหมายถึงพวกพาลาดินกำลังมา

ชายชรากัดปาก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาบุกเข้ามาตอนไหนเพราะจดจ่อกับพิธีกรรม แต่การมาถึงตรงนี้แปลว่าพวกเขาจัดการกับนักเวทดำข้างนอกไปแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้พิธีกรรมต้องล้มเหลวแน่

ชายชราปัดความวิตกกังวลทิ้งไปและเลิกควบคุมพิธีกรรม

“ขอความรุ่งเรืองจงมาสู่ท่านผู้นั้น”

ชายชราสละตนเพื่อให้พิธีกรรมสำเร็จ พลังเวทจากแท่นพิธีรัดร่างของชายชราอย่างตะกละและกลืนเขาเข้าไป

แท่นพิธีเริ่มเปล่งแสงสีดำ

***

“หมอบลง!” เลชาร้องเมื่อรู้สึกว่าคลื่นพลังเวทรุนแรงขึ้นกะทันหัน

แลนซีลอตกับแมคหมอบลง

เลชาเสกเวทมนตร์ไม่ให้พวกเธอถูกคลื่นพลังเวทพัดปลิว เธอส่งเสียงหอบหลังจากต้านคลื่นพลังเวทนานนาที

“ฮ่า!”

เลชาผู้มีเหงื่อท่วมตัววิ่งไปยังต้นตอของพลังเวทโดยไม่แม้แต่หยุดพักปาดเหงื่อ ตึงเครียดจากพลังเวทดูไม่เป็นมงคล เธอเตรียมตัวพร้อม 

ในห้องลึกเข้าไปในวิหาร มีศพของพวกนักเวทดำ แท่นพิธี และชายชราคนหนึ่ง

ชายชรายืนเหม่อตรงแท่นพิธี จากนั้นหันแต่ศีรษะมามองพวกเธอ

เห็นชายชราหันศีรษะมาในมุมผิดธรรมชาติ พวกเธอตระหนักว่าเขาไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว

ตอนนั้นเอง แมคสะบัดดาบปล่อยรัศมีดาบใส่สัตว์ประหลาดในร่างชายชรา มันเป็นผลจากสัญชาติญาณที่รู้สึกไม่ดีและการตัดสินใจด้วยเหตุผลว่าสัตว์ประหลาดต้องถูกกำจัดทันที

สัตว์ประหลายยกมือและพยายามจะยิงพลังเวทดำออกมาหยุดรัศมีดาบ แต่แขนถูกฟันขาดก่อนจะเรียกพลังเวทดำออกมา

- (ร่างเหรอ?)

สัตว์ประหลาดสะบัดแขนด้วนพลางส่งเสียงฟังไม่ออกเหมือนพูดทวนจากหลังไปหน้า จากนั้นพลังเวทดำหุ้มแขนที่ถูกตัดออกและหันไปทางจุดที่ถูกตัด และในทันใดนั้น แขนที่ถูกตัดก็กลับไปติดที่ไหล่ตามเดิม

จากนั้นสัตว์ประหลาดมองเลชา

- (เจ้ามีคริสตัลคานีเลียน)

สัตว์ประหลาดส่งเสียงหัวเราะประหลาด

- (ขอบคุณ ข้าได้ร่างเพราะเจ้า)

เลชาไม่เข้าใจที่มันพูด แต่รู้สึกขนลุก เธอส่งพลังเวทจำนวนมากไปโจมตีมัน

- (มนุษย์ทำแบบนี้เมื่อได้ยินคำขอบคุณเหรอ? ข้ากำลังศึกษาเรื่องความคิดพื้นฐานของมนุษย์อยู่)

เลชาโจมตี แต่สัตว์ประหลาดฟื้นฟูบาดแผลอย่างรวดเร็ว

เลชาตัวสั่นจากการใช้พลังเวทมากเกินไป เธอรู้สึกเหมือนจะหมดสติเดี๋ยวนั้น แต่ยังสังเกตการฟื้นตัวของสัตว์ประหลาดอย่างใกล้ชิด

“แท่นพิธี...! แฮ่ก พลังเวทของสัตว์ประหลาดมาจากแท่นพิธีนั่น!”

เมื่อเลชาใช้มือสั่นระริกชี้ไปที่แท่นพิธี แมคพุ่งไปที่สัตว์ประหลาดโดยไม่พูดอะไร แลนซีลอตตามไป

สัตว์ประหลาดร้องเมื่อเห็นแลนซีลอตฟันดาบที่อาบด้วยรัศมีดาบใส่แท่นพิธี

- (เจ้าคิดจะทำอะไร?!)

สัตว์ประหลาดไม่สนใจแมคที่กำลังฟันร่างของมันและพยายามโจมตีแลนซีลอต แต่มันไล่ตามแลนซีลอตไม่ได้เพราะร่างของมันต้องฟื้นสภาพจากการถูกแมคฟันขาดครั้งแล้วครั้งเล่า

แท่นพิธีถูกรัศมีดาบของแลนซีลอต ทำให้เกิดรอยแตกและเริ่มพัง

- (ไม่! ข้าเพิ่งได้ร่างมา! ข้าจะตายแบบนี้ไม่ได้!)

แมคแทงดาบใส่ศีรษะของมัน สัตว์ประหลาดยิงพลังเวทออกมาอย่างสะเปะสะปะเพื่อกำจัดเขา

“เร็ว!”

รู้สึกถึงความเร่งด่วนทางด้านแมค แลนซีลอตโจมตีแท่นพิธีแรงกว่าเดิม

พลังเวทของสัตว์ประหลาดทำให้แมคลอยไปทางผนังห้อง สัตว์ประหลาดโจมตีใส่แลนซีลอต

กึง!

ขณะสัตว์ประหลาดจะโจมตีแลนซีลอต แท่นพิธีก็พังและแสงสีดำที่ปล่อยจากวงเวทบนแท่นพิธีเริ่มเลือนหาย พร้อมกันนั้น ร่างของสัตว์ประหลาดเปลี่ยนเป็นเถ้าโดยเริ่มจากส่วนปลาย พลังเวทของมันกระจายไป

- (ข้าแค่อยากได้ร่าง ข้าคงไม่ตายแบบนี้ถ้าข้าได้ร่างที่...)

เมื่อสัตว์ประหลาดหายไปอย่างหมดจด แลนซีลอตทรุดลงตรงนั้นหลังจากเห็นการโจมตีของมันที่มาหยุดตรงจมูกเขา

“เฮ้อ! น่ากลัวชะมัด” แลนซีลอตอยากจะร้องตรงนั้นด้วยความโล่งอกและหวาดกลัว

เมื่อเห็นสัตว์ประหลาดหายไป เลชาที่พยายามรักษาสติเอาไว้ก็เป็นลม

“อุ๊บ!”

แมคถูกเหวี่ยงไปด้วยพลังรุนแรงขนาดทำลายผนังวิหารที่พลังของพฤกษาโลกค้ำจุนไว้ ถึงอย่างนั้นเขาก็วิ่งมารับร่างของเลชาไว้ทัน

“โอย ข้าปวดไปทั้งตัวเลย”

แมคค่อยๆวางร่างเลชาลงบนพื้นแล้วขยับตัว ซี่โครงเขาน่าจะหักไปสักสามซี่

แมคที่ซี่โครงหักไม่แค่หนึ่งหรือสองซี่ย่อมเอายาพิเศษของเมอร์ปาออกมาจากกระเป๋าที่เข็มขัดเป็นธรรมดา

“โอย แลนซีลอต เจ้าต้องแบกเธอเองแล้วล่ะ”

ขวดยาแตกไปตอนกระแทกกับผนัง

“ขาข้าขยับไม่ได้”

แลนซีลอตมองแมคน้ำตาคลอ แมคถอนหายใจ

***

เหล่าพาลาดินกำจัดนักเวทดำในดินแดนศักดิ์สิทธิ์หมด พวกเขาสะบัดดาบให้เลือดหลุดออกและใส่ดาบคืนฝัก

“ขอบคุณท่านเซนต์ เพราะท่านช่วยสนับสนุน พวกเราเลยกำจัดพวกมันได้เร็ว”

มาริโอทัก ฮิลลิสยิ้มอย่างเมตตา “ไม่หรอก นั่นเพราะพลังของพาลาดิน ข้าต่างหากที่กลายเป็นภาระของพวกเจ้า ต้องขอโทษด้วย”

รอยยิ้มที่จริงใจและศักดิ์สิทธิ์กว่าใคร เหมือนจะชำระล้างจิตใจของเขา

มาริโอเชื่อว่าข่าวลือว่าเซนต์ใจดีกับทุกคนและเกลียดคนชั่วเป็นความจริง วิบริโอผู้เป็นคนรักและเพื่อนร่วมงานของเขา มักจะยิ้มอย่างอึดอัดใจทุกครั้งที่มีคนพูดถึงฮิลลิส เขาเชื่อว่าเธอยิ้มอย่างนั้นเพราะกังวลว่าเธอจะดูน่าขำถ้าอวดน้องตัวเอง

“แต่พาลาดินมาริโอ ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่?” อัลบาทอสถาม

มาริโอลังเลก่อนตอบ “ข้ามาตามคำสั่งของคาโด เฟอนันโด”

“พระคุณเจ้าคาดินัล เฟอนันโด?”

“ใช่ ท่านได้ข้อมูลว่ามีพวกนอกรีตที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจักรวรรดิและให้พวกเรามาตรวจสอบ”

ในวิหาร เฟอนันโดเป็นผู้ยึดมั่นในศาสนา สมัยหนุ่มเขาเป็นหัวหน้าหน่วยสืบสวนพวกนอกรีต ถ้ามีข่าวลือเกี่ยวกับพวกนอกรีตก็ไม่แปลกที่เขาจะส่งพาลาดินของตนเองมาตรวจสอบ

“แต่ทำไมท่านเซนต์ถึง-”

เมื่อมาริโอถามก็เกิดพลังเวทชั่วร้ายพลุ่งขึ้น

“ยังมีนักเวทดำรอดอยู่!”

ฮิลลิสและเหล่าพาลาดินรุดไปทางต้นตอของพลังเวทด้วยความโกรธ ต้นตอมาจากด้านในวิหารใจกลางซาฮาราม เหล่าพาลาดินยิ่งโกรธเคืองเพราะเหตุนั้นและตรงเข้าไป

เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องที่อยู่ลึกที่สุดของวิหาร พวกเขาเห็นศพของพวกนักเวทดำ ผนังแตกหัก และแท่นพิธีที่ถูกทำลาย

“โอ้ มาแล้วเหรอ? เซนต์หญิง ขอโทษนะแต่ช่วยรักษาข้าทีได้ไหม?”

เมื่อแมคยกมือขึ้นท่ามกลางศพนักเวท ฮิลลิสช็อคและรักษาเขาอย่างรวดเร็ว

“อา ขอบคุณ”

เมื่อซี่โครงของเขาประสานกลับในทีเดียว แมคขยับตัวไปมา เขาไม่รู้สึกผิดปกติ ดูเหมือนมันได้ผลดีกว่ายาของเมอร์ปาเสียอีก

ฮิลลิสถามถึงพลังเวทชั่วร้ายที่ยังเหลืออยู่ในห้อง แมคตอบตามความจริง

“แท่นพิธีพังไปแล้วจริงๆ”

มาริโอตรวจสอบหน้าแท่นพิธี

หลังจากฟังคำบอกเล่าของแมค ฮิลลิสพูดขึ้น “พวกเจ้ามาเซนต์เพอซิวาลกับพวกเราได้ไหม? ข้าอยากจะมอบรางวัลให้จริงๆ”

แมคมองแลนซีลอต ซึ่งส่ายหน้าอยู่แล้ว

“เราต้องตรงไปที่เมืองหลวง ไม่มีเวลาไปเพอซิวาลหรอก”

มาริโอและลูกน้องของเขากำลังจะโกรธที่แลนซีลอตกล้าปฏิเสธข้อเสนอของฮิลลิส แต่ฮิลลิสขยับก่อน

เธอไปหาแลนซีลอตและพูด “เจ้าจะหาใครในเมืองหลวงเหรอ? เมืองหลวงกว้างมากนะ มีแค่เจ้าสามคนหาคงลำบาก แต่วิหารของเรามีสาวกเยอะมาก ถ้าข้าร่วมมือกับเจ้า หาคนหนึ่งคนในทั้งจักรวรรดิได้ไม่ยาก อย่าว่าแต่แค่ในเมืองหลวงเลย”

แลนซีลอตตอบทันที “เราจะไป เซนต์เพอซิวาล”

ถ้าพวกเขาได้ฮิลลิสช่วยหาเดนเบอร์ก อาจใช้เวลาน้อยลง

ในอดีต ผู้เปรื่องปราดเดนเบอร์กเคยบอกเขาให้ใช้ทุกอย่างที่ใช้ได้

***

ในเทือกเขาแห่งหนึ่ง ชายวัยกลางคนขี่ม้ามาเยือนยังคฤหาสน์เก่าที่มีเถาวัลย์เกาะกำแพง

เมลเซีย ชายตาเดียว ขี่ม้าเป็นหลายวันโดยไม่ได้อาบน้ำ เขาผูกม้ากับต้นไม้แถวนั้นและตรงเข้าไปในคฤหาสน์

เขาเข้าคฤหาสน์โดยไม่เคาะประตูหรือเช็ดรองเท้าและตรงไปที่ชั้นสอง เขาหยุดสูดลมหายใจลึกหน้าห้องใหญ่ที่สุดในคฤหาสน์

ก๊อกๆ!

ประตูเปิดออกเอง

ในห้อง ชายชราใส่หน้ากากดำนั่งนิ่งบนเก้าอี้ กำลังมองไปข้างนอกหน้าต่าง

เมื่อเมลเซียเข้าห้อง ประตูปิดเอง เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงตรงนั้น

“ข้าขอโทษ ข้าทำ ‘การทดลอง’ ที่ท่านสั่งไม่สำเร็จ”

ชายชราพูดอย่างสงบ “อย่างนั้นหรือ”

ปฏิกิริยาตอบรับแสดงว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์ซาฮารามเป็นไปด้วยดี เมลเซียลังเลว่าจะถามถึงชื่อของชายชราไหม แต่คำถามนั้นไร้ประโยชน์

“ข้าต้องเตรียมการทดลองชิ้นต่อไป”

ชายชราหน้ากากดำลุกขึ้นและหยิบจดหมายบนโต๊ะ กระดาษมีรูปของกลุ่มดาว 12 ราศี และแกะตัวหนึ่ง



สารบัญ                                                   บทที่  78


จบบทนอกเรื่องจนได้ TwT บทหน้ากลับไปทางพระเอกแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น