วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2563

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 204

บทที่ 204 – เขตแดนระหว่างความจริงกับโลกเสมือนจริง (2)

 

“กัปตัน ระบบหยุดยั้งการทำงานเริ่มแล้ว”

“ทางรหัสโลกล่ะ?”

“คำสั่งส่งไปแล้ว เราจะพาตัวคิมคังชุลกลับมาใน 5 นาที”

“ดีล่ะ เข้าไปข้างในกันเถอะ”

สิบนาที

พวกเขาต้องเอาตัวคังวูจินออกมาก่อนแล้วจึงตามด้วยคิมคังชุล

ความวุ่นวายที่เกิดในโลกจะถูกย้อนกลับไป ทุกอย่างจะเริ่มใหม่อีกครั้ง

กัปตันลีโอนีและลูกน้องของเขาลงบันไดสถานีโซล

***

ลีซูกยองยืนบังโซอาและพูดเสียงสั่น

“ย...อย่าเข้ามานะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมใช้เวลาแป๊บเดียว”

คิมคังชุลเดินเข้ามาด้วยสีหน้าวางเฉย เขากำลังทำในสิ่งที่ต้องทำ

“ฉันไม่ยอมหรอก! ไอ้บ้า”

นางไม่ได้ถูกข่มขู่แต่นางบอกได้ว่าเขาจะทำอะไร นางทำตามสัญชาติญาณความเป็นแม่ ปกป้องลูกของตัวเอง

ลีซูกยองกอดคิมคังชุลไว้

“โซอา หนีไป!

“แม่!

“เร็ว!

โซอาวิ่งอย่างลังเลไปทางประตู ข้างนอกยามรักษาความปลอดภัยล้มเกลื่อนพื้น

คนธรรมดาจะรั้งเราส์แรงค์ A ได้อย่างไร?

“อ๊า!

คิมคังชุลผลักลีซูกยองออกไปอย่างง่ายดาย

“ยังไงคุณก็จำเรื่องนี้ไม่ได้อยู่แล้ว”

ชะตาของพวกเขาจะเริ่มใหม่อีกครั้ง เขาจะหายไปจากโลกนี้ และนางจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้น

บาปที่เขากำลังทำอยู่จะถูกกวาดหายไป

“ชิ”

เขาถูกรั้งไว้เพียงครู่เดียว แต่นานพอให้โซอาหนีออกไป

คิมคังชุลรีบออกจากห้องและหยุดชะงัก ซินดี้กับโดจีวอนกำลังมาที่ห้องนี้ และโซอาหลบอยู่หลังพวกเธอ

“ใครน่ะ?”

“คิมคังชุลไม่ใช่เหรอ?”

สาวสวยสองคนคุยกัน สีหน้าคิมคังชุลเคร่งเครียดขึ้น

“เกิดอะไรขึ้นกับคนที่นี่? คุณเป็นคนทำเหรอ?”

“เกิดอะไรขึ้น?”

พวกเธอพยายามพูดอย่างสุภาพ แต่พวกเธอกำลังกลัว

พวกเธอมาเพื่อเล่นกับโซอาโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมาถึงก็เห็นว่าพวกยามรักษาความปลอดภัยล้มบนพื้น โซอาถูกชายคนหนึ่งไล่ตาม ชายคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นเราส์ที่เก่งที่สุดของเกาหลี และถูกขังในห้องขังของอลันดาล พวกเธอเผชิญหน้ากับเขา

ไม่ว่าจะมองอย่างไร นี่คือสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้ใจและน่ากลัว

“ชิ”

คิมคังชุลออกวิ่ง เวลาที่ตกลงไว้ใกล้เข้ามา ถ้าเขาอยากถูกช่วยออกจากโลกปลอมนี้ เขาต้องมีรหัส

ในดวงตาของเด็กหญิงมีน้ำตาเม็ดโต

คิมคังชุลถือเหล็กหมาด มันเพียงพอจะดับชีวิตน้อยๆนี้

“อ๊า!

คิมคังชุลพุ่งเข้ามาเหมือนวัวคลั่ง โดจีวอนและซินดี้ร้อง นี่เป็นวิธีสู้อย่างเดียวของพวกเธอ

ฟู่วๆ

เสียงร้องช่วยพวกเธอเอาไว้

ซินดี้หรี่ตาหนีความร้อนเมื่อมองเปลวไฟตรงหน้า เธอนึกว่าคิมคังชุลกำลังติดไฟ แต่เมื่อมองดีๆ คิมคังชุลกำลังสู้กับไฟลูกหนึ่ง

ลูกไฟเหวี่ยงแขนขา เธอเริ่มเห็นมันเป็นรูปเป็นร่างขึ้น

มันคือผู้ชายในชุดแดง เหมือนชุดประจำชาติเกาหลี

เขามีผิวขาว ผมคิ้วและตาเป็นสีแดง หล่อ

“หลบไป ผมกำลังพยายามช่วยโลกนี้อยู่นะ”

“ไม่มีทาง”

ชายผมแดงหัวเราะอย่างไม่เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร คิมคังชุลก็กำลังโจมตีผู้หญิงและเด็กที่ไม่มีทางสู้ สิ่งที่เขาทำห่างไกลจากการช่วยโลก

“ไม่มีเวลาแล้วนะ!

รอยยิ้มของชายผมแดงทำให้คิมคังชุลยิ่งรู้สึกร้อนใจ

“นายหยุดดีกว่า”

“ถอยไป!

ต่างจากคิมคังชุลที่กำลังร้อนรน ชายอีกคนทำเหมือนเขามีเวลามาก

เราส์ตรงหน้าเขาเป็นเราส์ธาตุไฟผู้ต่อสู้กับแรงค์ A อย่างเขาได้ง่ายดาย

“ไม่ได้การแล้ว”

มือของชายคนนั้นส่องแสงเหมือนกำลังจะละลายก่อนจะกลายเป็นไฟ เปลวไฟมาถึงคิมคังชุล มันรัดรอบตัวคิมคังชุล เขาล้มลง

คิมคังชุลดิ้นรนบนพื้นแต่ไม่มีทีท่าจะยอมแพ้ เขาเม้มปากและพ่นเข็มลอยไปทางศีรษะโซอาในพริบตา

ปึก

“กล้าดียังไง?”

กำแพงไฟตั้งตรงหน้าโซอา ก่อนเข็มจะถึงเป้าหมายมันก็ถูกความร้อนละลายไปก่อน

“หืม ผมควรจะเผานายดีไหม?”

ตอนนี้เชือกไฟเพียงรัดตัวคิมคังชุลไว้ เขาเพียงรู้สึกอุ่นๆ แต่ถ้าเพิ่มความร้อนอีกหน่อย เชือกไฟสามารถเผาคิมคังชุลเป็นเถ้าถ่าน

แต่ชายคนนั้นไม่ต้องตัดสินใจเอง

“อา เดี๋ยวก่อน!

จู่ๆคิมคังชุลก็ดิ้น

ร่างเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเทา และหายไปเหมือนไม่เคยมีมาก่อน

เขาเคยเห็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว สิ่งที่หายไปโดยไม่ทิ้งศพไว้

“เอ๊ะ? เขาเป็นลอร์ดมิติเหรอ?”

เขาเอียงคอสงสัย โดจีวอนและซินดี้เดินมาหาและก้มศีรษะให้เขา

“ข...ขอบคุณ”

พวกเธออยู่ในอลันดาลมาหลายสัปดาห์ รู้จักเราส์ดังๆหลายคน แต่พวกเธอเห็นชายคนนี้เป็นครั้งแรก

“เฮะ พี่สะใภ้ ผมเอง”

“คะ?”

โดจีวอนกับซินดี้แปลกใจ ชายผมแดงยิ้ม

“ผมไง ซุงกู”

เขาชนะคำสาปจากลมหายใจมังกร และคืนชีพในฐานะคนครึ่งมังกร เขาคือคุณชายไฟฮงซุงกู

“ม...ไม่จริง”

“เฮือก!

โดจีวอนและซินดี้ส่ายหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ

ซุงกูไม่ได้หล่อขนาดนี้...

***

สถานีโซล

“เร็ว!

สมาชิกทีมเร่งฝีเท้าตามเสียงเร่งของกัปตัน พวกเขาวิ่งในอุโมงค์มืดโดยพึ่งแสงจากเตียงเข็นที่ลอยต้านแรงโน้มถ่วง

“ใกล้ถึงเป้าหมายแล้ว”

พวกเขาอยู่ข้างในสถานีใต้ดิน

ในนั้นมีแคปซูลเป็นแถวยาวเชื่อมต่อกัน แต่ละแคปซูลติดป้ายหมายเลขไว้

พวกเขากำลังมองหาอันๆหนึ่ง

G-529

กัปตันลีโอนีออกคำสั่งเมื่อเห็นชายชาวเอเชียในแคปซูล

“เปิดฝา”

“ครับผม”

สมาชิกทีมวางเครื่องมือเปิดแคปซูล

พวกเขาทำแบบนี้มาหลายครั้งจึงปฏิบัติอย่างสอดคล้องกัน พริบตาเดียวพวกเขาก็ปลดเข็มขัดทั้งหมดที่ผนึกแคปซูลไว้ออก

“เปิด”

อากาศหลุดออกมาและเห็นร่างเปลือยของชายคนหนึ่ง สายยางสอดในปากและหูของชายคนนี้ มีเครื่องมือติดเข้ากับศีรษะหัวใจและส่วนต่างๆของร่างกาย เหมือนชายคนนี้กำลังติดอยู่ในรังแมงมุม มันดูน่ากลัว

“เอาเขาออกมา”

“ครับ!

เครื่องเชื่อมต่อถูกดึงออก ชายคนนี้ถูกวางบนเตียงเข็น ที่เหลือก็แค่ต้องพาเขาออกไป

พวกเขาใช้เวลาไปเพียง 3 นาที 30 วินาที

เปรี๊ยะ!

“อ๊าก!

สมาชิกทีมคนหนึ่งหงายหลังเมื่อเครื่องมือช็อต

“มีอะไร?”

“ผ...ผมไม่รู้”

“ตัดมันเลย!

“ครับ!

ถ้าดึงชายคนนี้ออกมาไม่ได้ พวกเขาแค่ต้องตัดออก แต่ทว่า...

เปรี๊ยะๆ

สมาชิกทีมตัวสั่นจากการถูกไฟดูด กระแสไฟถูกส่งออกมาเมื่อเครื่องตัดแตะบาเรียบางอย่างที่ทำจากกระแสไฟ

“อา!

“เชี่ย!

ลีโอนีวิ่งออกมาดึงลูกน้องเขาออกไปได้ ลูกน้องคนนั้นสลบไปแล้ว

“เกิดอะไรขึ้นวะ!

กัปตันลีโอนีเคยช่วยคนมาหลายครั้งแล้ว เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เขาจึงสับสน

เขาไม่รู้ว่าควันมาจากกระแสไฟหรือไม่ แต่มันวนรอบร่างชายคนนั้น

“มีล็อกพิเศษแบบอื่นหรือไง?”

ก่อนหน้านี้เขาเคยแต่ดึงอิเอลโลออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาดึงคังวูจินกลับโลกจริง

“กัปตัน เราไม่มีเวลามากแล้ว”

“เวร!

เขาไม่มีวิธีแก้ ยืนอยู่ตรงนี้ไปก็เสียเวลาเปล่า และสมาชิกของเขาสลบไปสองคนแล้ว

“วางทุกคนบนเตียง เราไปช่วยคิมคังชุลก่อน”

“ครับ!

สมาชิกที่เหลือวางสมาชิกสองคนที่สลบบนเตียงและไปทางแคปซูลของคิมคังชุลอย่างเร่งรีบ

***

ความมืด

ที่จริงแล้วเขาไม่มีทางบอกได้ว่าข้างนอกมืดหรือสว่าง แสงเล็กๆลอยในความว่างเปล่า

อา

แสงเกิดขึ้นพร้อมกับความมืด จากนั้น...

“แหวะ! 

เขาสะกดอาการคลื่นไส้ไม่ได้จึงอาเจียนออกมา

“เราต้องเอาตัวเขาไป เหลือเวลาไม่มากแล้ว”

เสียงของลีโอนีทำให้คิมคังชุลลืมตามองรอบๆ สมาชิกทีมยกตัวเขาขึ้นและวางบนเตียงเข็น เมื่อเขาพลิกตัวก็เห็นเพดานที่ดูคุ้นตา

สถานีใต้ดิน

ที่นี่คือโลกพระจันทร์?

หรือว่าเป็นโลกจริง?

โลกปลอม... เขาหลุดจากมายานั่นแล้วเหรอ?

คิมคังชุลหลับตา

ฉันถูกช่วยไว้แล้ว

เขารู้สึกโล่งใจและจำเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เขาลืมตากว้าง

“รหัส...โลก...ผมเอามันมา...ไม่ได้”

“อะไรนะ?”

ลีโอนีชะงัก สีหน้าเขาไม่ดี

“เชี่ย ออกจากที่นี่กันก่อน”

พวกเขาต้องออกจากที่นี่ภายใน 10 นาที ไม่อย่างนั้นผู้พิทักษ์จะเริ่มทำงาน สมาชิกทีมออกเดินอย่างรวดเร็ว

***

ปราการลอยฟ้า ปราสาทของบิบิ

“เฮ้อ เกือบไปแล้ว”

จุงมินชานและคนอื่นๆมาถึงช้ากว่า ทั้งหมดที่พวกเขาทำได้คือปลอบใจโซอาและลีซูกยองที่ถูกผลัก

“ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัวจริงๆ ผมขอโทษ”

นี่ไม่ใช่การบุกรุกจากข้างนอก คิมคังชุลเป็นคนที่ถูกขัง การลอบโจมตีของเขาเกือบทำให้ทุกอย่างพินาศ

“แล้วลูกพี่อยู่ไหนครับ?”

“เอ่อ”

จุงมินชานคราง ฮงซุงกูเปลี่ยนไปมาก ถ้าไม่ใช่วิธีพูดของเขาจุงมินชานคงจำเขาไม่ได้ บรรยากาศรอบตัวเขาเปลี่ยนไปมาก

“เขาบอกว่ามีเรื่องอยากตรวจสอบที่โลกพระจันทร์เลยไปที่นั่น”

“โลกพระจันทร์อยู่มิติไหน?”

“นั่นมัน...”

จุงมินชานลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกทุกอย่างที่รู้จากวูจิน ซุงกูฟังอย่างสงบและตอบโดยไม่มีท่าทีประหลาดใจอะไร

“งั้นพวกเราก็แค่ต้องปกป้องคุณหนูโซอาจนกว่าลูกพี่จะกลับ”

ไม่แค่รูปร่างภายนอกเปลี่ยนไป ความคิดของเขายิ่งเรียบง่ายกว่าเดิม

“อา ใช่ แต่...”

จุงมินชานถูกการลอบโจมตีของคิมคังชุลทำให้ลืมไปแต่มีปัญหาหนึ่งที่จวนตัวมาก

“ลอร์ดมิติที่เข้มแข็งมากกำลังตรงมาที่ฐานทัพพวกเรา เป้าหมายของมันคงเป็น...”

“ผมจะไปต้อนรับเขาเอง”

ซุงกูกลายเป็นพึ่งพาได้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

ต่อหน้าความมั่นใจของซุงกู จุงมินชานออกความเห็นอื่น

“เราย้ายป้อมหนีดีไหม?”

“เฮะ ลองสู้ดูก่อนค่อยหนีก็ได้”

พึ่งพาได้ซะที่ไหน ชะล่าใจเกินไป...

“อา คุณฮีซอลจะกลับมาแล้วล่ะ คุณบิบิ”

“พูด”

“เฮะๆ คุณกลายเป็นผู้ใหญ่แบบนี้แล้วผมไม่ค่อยชินเลย”

ด้านความสูงเธอเพิ่มขึ้น และส่วนอื่นๆก็เพิ่มด้วย ซุงกูหัวเราะอายๆ

“คุณฮีซอลพาเพื่อนๆกลับมาด้วย เราย้ายป้อมไปที่ทะเลได้ไหม?”

“ได้สิ”

“งั้นช่วยหน่อยนะครับ ผมขอไปสู้แถวๆนี้อบอุ่นร่างกาย”

ซุงกูไปที่ดาดฟ้า เปลี่ยนทั้งร่างเป็นสีแดงแล้วกระโดดขึ้นไป

เขาเหมือนนกฟีนิกซ์ คนของอลันดาลมองอย่างทึ่ง

“เราจะไปยังอินชอน”

ประชากรส่วนใหญ่จากโซลไปแล้ว แหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุดคือทะเลตะวันตก ปราสาทบิบิมุ่งไปทางนั้น

หลังจากนั้น หน่วยแฟนธ่อมที่นำโดยบลังกาได้หน้าที่ปกป้องโซอา ลอร์ดมิติอาจลอบโจมตี ดังนั้นกองทัพผีดิบ เผ่าราทิค หน่วยไวเวิร์นและระบบป้องกันของปราการจึงระวังตัวเต็มที่

คนที่ไม่มีหน้าที่ต่อสู้ลงไปอยู่ใต้ดาดฟ้า ไปที่พื้นที่หลบภัย หลังจากปราสาทบิบิเข้าสู่ระบบป้องกันตัวเต็มที่แล้วพวกเขาก็มาเหนือทะเลตะวันตก

อุโมงค์ส่งแสง เชฮีซอลออกมา

มินชานต้อนรับเธออย่างยินดี

“คุณฮีซอล!

“ดิฉันขอโทษที่มาช้าค่ะ”

“ไม่หรอก ผู้บังคับการฮีซอลกลับมาผมก็สบายใจได้แล้ว ช่วยนำหน่วยพวกเราด้วย”

เขาเป็นแค่นายกรัฐมนตรี เชฮีซอลเคยเป็นทหารจึงเหมาะกับการออกคำสั่งรบมากกว่า ยิ่งกว่านั้นเธอยังมีความสามารถเทเลพาธี

“อา แล้วก็เพื่อนๆของดิฉัน...”

“อ้อ มิตรของเราจากอัลเฟนมาสินะ โชคดี...”

จุงมินชานอ้าปากค้างเมื่อมองสิ่งที่ออกมาจากอุโมงค์

อุโมงค์ถูกขยายขึ้นจนเหมือนจะขาดออก ร่างหนึ่งออกจากอุโมงค์มาเรื่อยๆขณะไต่ขึ้นไปบนฟ้า

โอ!

มันส่งเสียงคำราม ร่างยาวของมันวนรอบปราการลอยฟ้าก่อนจะกระโดดลงสู่ทะเล

มันต่างจากมังกรในตำนานแถบตะวันตก แต่เหมือนมังกรในตำนานเอเชีย

ปัญหาคือมันไม่มาแค่ตัวเดียว มีมังกร 17 ตัว

ที่ดาดฟ้า

นักสู้ถูกจัดให้อยู่บนดาดฟ้า...

เผ่าราทิคที่ยืนเฝ้าอยู่กับไวเวิร์นต้องประหลาดใจ

อัศวินมรณะ กำลังหลักของกองทัพผีดิบก็เช่นกัน...

[ไม่น่าเชื่อ]

กระทั่งลิชเจนิสผู้ปกป้องอัลเฟนมาตลอด 200 ปี...

[มังกรวารี...]

มังกรเหล่านี้คือมังกรรุ่นสุดท้ายของอัลเฟน... ความยากลำบากทั้งหมดที่เธอฝ่าฟันมาเอาแรงไปจากเธอจนหมด ฮีซอลหัวเราะอย่างอ่อนล้า

“ดิฉันได้เพื่อนใหม่ค่ะ”

 

สารบัญ                              บทที่ 205