วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2563

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 202

 

บทที่ 202 – เทพแห่งการทำลาย (2)

 

“โลก”

“ที่นี่คือโลก”

วูจินยกมุมปากขึ้น

“ไม่ใช่อันปลอมนี่”

วูจินมองแอดมินแห่งมิติที่ไม่พูดตอบ รู้สึกเหมือนกำลังมองก้อนกลมโอเวอร์ไมนด์ที่ทำจากแสงสีแดง

มันใส่ชุดเกราะทำไม...

เลียนแบบมนุษย์เหรอ หรือมันมีประโยชน์อย่างอื่น?

เขาเดาไม่ออกว่าเพื่อเหตุผลอะไร

“ทำไมไม่ตอบล่ะ?”

“อะไรคือจริงอะไรคือปลอม?”

เสียงดังขึ้น มันสั่นสะเทือนในหัวเขา

วูจินกำลังจะตอบแต่เงียบไป

อะไรเป็นตัวตัดสินว่าสิ่งหนึ่งจริงหรือปลอม?

อะไรเป็นตัวกำหนดความจริง หรือความจริงเสมือน...

ความคิดนี้ทรมานวูจิน เขาส่ายศีรษะไล่มันออกไป ความจริงอันไหนเนื้อแท้เป็นยังไงไม่สำคัญ

“โลกพระจันทร์ ส่งฉันไปที่นั่น”

“เจ้าไปไม่ได้”

วูจินหน้าเครียดเมื่อฟังคำตอบของแอดมินแห่งมิติ

ท็อปเลอร์พูดถูกเหรอ? โลกนี้เป็นของปลอม? ถ้ามีการแบ่งระหว่างความจริงและโลกเสมือน แอดมินแห่งมิติก็คือผลิตผลของโลกเสมือน มันไม่มีทางส่งวูจินไปโลกพระจันทร์ได้เพราะมันอยู่ในโลกจริง

“ทำไม?”

ความเงียบเป็นคำตอบที่เพียงพอแล้ว

ถ้าแอดมินแห่งมิติไม่มีทางแก้ วูจินมีธุระกับมันเพียงอย่างเดียว

วูจินเรียกอาวุธนักรบออกมายกขึ้น

“ตายเสียเถอะ”

มันไม่ตอบ

แต่มันขยับ

พูดให้ถูกคือมันดิ้นดีไหม?

แอดมินแห่งมิติทำจากแสง มองสีหน้ามันไม่ออก

มันกำลังปล่อยพลังงานมหาศาลออกมาพร้อมกับแสงที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนสายฟ้ากำลังถูกบีบตัว เหมือนมวลแสงกำลังกลายเป็นโกเลมแสงในร่างมนุษย์

ตอนแรก แอดมินแห่งมิติเหมือนกำลังใส่เกราะหลวมๆ แต่แล้วร่างของมันก็ขยายจนเหมาะกับเกราะ แขนขางอกออกมา ตอนนี้มันสูงราว 3 เมตรแล้ว

ประกายสายฟ้าส่งออกมาทุกครั้งที่มันขยับตัว ต่อให้ไม่ได้สู้กับมันอยู่ วูจินยังรู้สึกถึงพลังปะทุภายในตัวมัน

“ถ้าอยากสู้ฉันก็ยินดี”

วูจินมองอย่างจริงจัง เขาพูดอย่างมั่นใจกับบัลลังก์ที่ 72

เขาจะชนะได้ไหม?

เพราะตัวตนของมันดูทรงพลังมากเหรอ? วูจินไม่เคยสงสัยแบบนี้ก่อนการต่อสู้มานานแล้ว

“ฮึ่ม”

วูจินพุ่งใส่มันเหมือนจะไล่ความลังเลไป

มันจะทำจากแสงหรืออะไรก็ช่าง

เขาแค่ต้องฆ่ามัน

หอกแทงแขนของบัลลังก์ที่ 72 ไปอย่างไม่ถูกขัดขวาง เมื่อวูจินจะดึงมันออก มันกลับติดแน่นเหมือนฝังอยู่ในคอนกรีต

วูจินไม่รู้จะอธิบายยังไง เขาไม่รู้ว่ามันเป็นบาดแผลหรือรอยแยก เขาเห็นแขนมันบิดตัว และหอกไม่ยอมขยับแม้เขาจะดึงมันสุดแรง

กำปั้นของมันอัดใส่สีข้างวูจิน

วูจินกระแทกจมเนินทราย เขาพุ่งขึ้นมาจากเนินทรายและกระโจนใส่แอดมินมิติ

“ออกมา”

วูจินเก็บอาวุธนักรบและเรียกออกมาใหม่ เขาเปลี่ยนมันเป็นดาบใหญ่

อาวุธนักรบเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างอิสระ และเขาเรียกเก็บเอาออกเมื่อไหร่ก็ได้ อาวุธแบบนี้ทำให้พัฒนารูปแบบการต่อสู้ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ดาบใหญ่ฟันแขนเหมือนฟันผ่านน้ำ แต่แขนเชื่อมต่อกลับไปอย่างง่ายดายจนทำให้สงสัยว่ามันเคยถูกฟันขาดจริงๆหรือเปล่า

ไม่ว่าจะฟันที่คอหรือขา ผลที่ได้ก็เหมือนเดิม

มันไร้ผล เพราะเขากำลังฟันใส่สิ่งที่ไม่มีร่างกายจริง

พอเผลอไปวูบหนึ่งมันก็ชกเขา วูจินถูกต่อยกระเด็น เขายืนขึ้นพลางถ่มทรายในปาก

เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ เกราะผีทำงานและวิญญาณถูกใช้ไปกับการป้องกันการโจมตี

“เวร”

มันไม่ใช่ทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์

มันทำจากแสง เป็นสิ่งไม่มีตัวตน แล้วเขาจะสู้มันยังไง?

“น่ารำคาญชะมัด”

วูจินเปลี่ยนอาวุธเป็นธนู

เขาน้าวสาย ลูกธนูปรากฏขึ้น มันพุ่งไปที่ร่างแอดมินแห่งมิติ ธนูฝ่าอากาศเหมือนตกอยู่ในสนามแม่เหล็ก มันลอยช้าลงก่อนจะถูกกลืนเข้าไปในร่างแอดมินแห่งมิติ

ดูเหมือนการโจมตีทางกายภาพไม่ได้ผล ธนูแสงก็ไม่มีประโยชน์

เขาควรจะเรียกอสูรรับใช้ของเขาออกมาสู้ไหม?

เสียพลังเวทเปล่าๆ

เขาไม่รู้ว่ากองทัพผีดิบหรืออัศวินมรณะจะมีประโยชน์แค่ไหน เขาแน่ใจว่ารงรงก็ไม่ช่วยเท่าไหร่เช่นกัน

วูจินคิดจะเรียกลิชเจนิส แต่เลิกล้มความคิดไป

ฉันต้องประหยัดพลังเวทไว้

ต่อให้ไม่มีร่างจริง มันก็ควรมีวิญญาณ

เขาตัดสินใจเดิมพันทุกอย่างกับการลงทัณฑ์ของทราช

มีดบินถูกปาใส่แอดมินแห่งมิติ มันปัดมีดทั้งหมดออก

มือแสงจับมีดบินเล่มหนึ่ง

เกราะ?

มีดทั้งหมดที่เล็งใส่ร่างทะลุมันไป ไม่ใช่ว่าอาวุธของเขาทะลุผ่านรอยแผล ที่ถูกต้องคือแอดมินแห่งมิติปล่อยให้อาวุธผ่านร่างมันไป

เกราะมันไว้ป้องกันพวกนิวเคลียสหรือเปล่า?

มันเป็นข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้

มันถูกทำให้เป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่ง และมันต้องการแกนกลางทำหน้าที่เป็นนิวเคลียส ไม่อย่างนั้นมันก็เป็นวิญญาณหรือไม่ก็ผี

มันปกป้องจุดอ่อนไว้ใต้เกราะ ดังนั้นไม่สำคัญว่ามันเป็นอะไร ถ้ามันรู้จักจุดเด่นจุดด้อยของตัวเองก็แสดงว่ามันมีวิญญาณ

มีดบินหายไป แส้มาอยู่ในมือของวูจิน อาวุธนักรบเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยๆ การต่อสู้เปลี่ยนไปอีก

แส้ตวัดเหมือนงู มันพันเกราะของแอดมินแห่งมิติ นี่เป็นอย่างเดียวที่ทำให้เขาจำกัดความเคลื่อนไหวของแอดมินแห่งมิติ มันจะหนีไปไม่ได้จนกว่าจะถอดเกราะออก

เมื่อเขากระตุกแส้ ร่างของแอดมินมิติลอยมาทางเขาโดยไม่มีการขัดขืน มันมาทางเขาอย่างรวดเร็ว...

ตูม!

“อั่ก”

กำปั้นของแอดมินมิติทำให้วูจินกลิ้งอีกรอบ วูจินอ้าปากกระอักเลือดรสเหล็ก

วิญญาณของเขาถูกใช้ไปหมด เมื่อไม่มีเกราะผี แรงต่อยของมันจึงเจ็บน่าดู

ศัตรูคราวนี้เป็นคนละชั้นกับศัตรูที่เขาเคยสู้มา

“น่ารำคาญชะมัด”

ดูภายนอก วูจินคาดว่ามันจะใช้พลังสายฟ้าหรือพลังระเบิด เขาคิดว่ามันจะใช้เวท แต่มันใช้แต่หมัด

การโจมตีกายภาพไม่มีผลกับร่างของมัน และเขารู้สึกเหมือนร่างของมันไม่อยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ

“เวรเอ๊ย”

วูจินพุ่งเข้าไปใหม่ ถ้าเขาใช้เวทมาพัวพันมันได้ก็ดี แต่เขาเสียพลังเวทไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะใช้การลงทัณฑ์ของทราชไม่ได้

“ข้ารู้ว่าเจ้าคิดจะทำอะไร”

“เหรอ?”

วูจินปาดเลือดจากปากแล้วยิ้ม

“ลองป้องกันดูสิ”

ทรายปลิวคละคลุ้งเมื่อเขาพุ่งเข้าใส่แอดมินมิติ

แอดมินแห่งมิติตั้งท่าบอกได้ว่ามันกำลังเอาจริง หมัดครั้งก่อนๆเหมือนมันปัดแมลงวัน คราวนี้จะเป็นของจริง

กระดูกเขาคงหัก

ไม่สิ ที่ต้องเป็นห่วงมากกว่ากระดูกคือชีวิตของเขา

ตึง!

วูจินไม่หยุด เขากระโดดใส่ร่างของแอดมินแห่งมิติ เขายิ้มอย่างมั่นใจ แต่แอดมินแห่งมิติก็ยิ้มเช่นกัน

มันพยายามจะต่อยแต่แขนของมันไม่ขยับ เหมือนบางอย่างกำลังยื้อมันไว้... เหมือนร่างของมันถูกตรึง...

วูจินยิ้มขณะเกาะบนเกราะ

ใบหน้าบิดเบี้ยวของแอดมินแห่งมิติอยู่ห่างจากเขาแค่คืบ

“ต่อให้รู้ นายก็ป้องกันไม่ได้”

มันเป็นสิ่งทำจากแสง แต่มันใส่เกราะ แปลว่ามันมีเงา กาเกบิถูกสั่งให้รอโอกาสนี้

“ลาขาดล่ะ”

วูจินจับศีรษะของแอดมินแห่งมิติ

พลังเวทของวูจินถูกดึงออกไปในทีเดียว เขารู้สึกในตัวว่างเปล่าซึ่งไม่ใช่ความรู้สึกดี แต่เขายังรู้สึกถึงชัยชนะต่อแอดมินแห่งมิติ

“อา!

วูจินเห็นวิญญาณของมันถูกดูดเข้าไปในการลงทัณฑ์ของทราช วูจินกำหมัด

ตึง

เกราะร่วงลงสู่พื้น แสงสีแดงถูกดูดเข้าไปหมด

“เฮ้อ จบแล้ว”

วิญญาณที่วูจินสะสมไว้ป้องกันหมัดไปหลายครั้งและตอนนี้เขาใช้ทุกอย่างหมดเกลี้ยง ถ้ามีศพหรือวิญญาณอยู่ใกล้ๆเขาสามารถดูดมันเพื่อเติมพลังเวทได้ แต่เขามายังพื้นที่รกร้างว่างเปล่าจนไม่มีวิญญาณให้เห็นสักดวง

วูจินหยุดไม่ให้เทพลงมา

เขาหยุดสิ่งที่จะกลายเป็นอันตรายต่อโลกไปแล้ว

มันคงต้องใช้เวลากว่าจะคืนชีพได้ เขาต้องหาวิธีไปยังโลกพระจันทร์ก่อนอิเอลโลหรือแอดมินแห่งมิติจะคืนชีพมาสร้างปัญหาอีก

เขาจะสามารถฆ่าเทพของโลกที่อยู่บนโลกพระจันทร์และเอารหัสมา

มันเป็นวิธีที่เขาจะได้รหัสโดยที่โซอายังปลอดภัย

“ชิง...”

วูจินกำลังจะเรียกชิงชิงออกมาแต่เขารู้สึกถึงพลังเวทจำนวนมากไหลออกมาจากพื้น

ชุดเกราะลอยกลางอากาศและถูกเติมด้วยแสงสีฟ้า สิ่งๆหนึ่งกำลังก่อตัวขึ้นอีกขณะปล่อยแสงสีฟ้าออกมา

มันรวบรวมพลังจากรอบๆและร่างของมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้วูจินกังวล

มวลแสงขยายใหญ่ขึ้นจนกระทั่งมันระเบิดออก เหมือนมันพยายามจะดูดกลืนทุกอย่างที่อยู่ใกล้ๆ

พายุทรายลอยขึ้นบดบังดวงอาทิตย์ ความมืดทำให้มองไม่เห็นอะไร แต่แอดมินแห่งมิติเริ่มก่อประกายแสงขณะที่มันได้แสงสีแดงคืนมา

“สุดท้าย ผลก็เหมือนเดิม”

มันใช้พลังไปหมด แต่มันชนะและรอดชีวิต มันรวบรวมรหัสจากมิติทั้ง 72 แห่งรวมถึงโลก งานของมันเสร็จแล้ว...

[คึๆ ข้ารอเวลานี้มานานเท่าไหร่แล้ว?]

ดวงตาใหญ่ดวงหนึ่งเกิดขึ้นในส่วนมืด มันหัวเราะขณะมองลงมาที่แอดมินแห่งมิติ

ปีศาจเงากาเกบิหัวเราะชั่วร้ายพลางวนรอบแอดมินแห่งมิติ

[ข้าถูกปลุกจากโทษของความตาย ข้าจะเผยตัวตนของข้าให้โลกนี้เห็นอีกครั้ง]

กาเกบิวนรอบร่างของแอดมินแห่งมิติเหมือนกำลังจะบีบอัดเข้าไปในตัวมัน เงาดำเริ่มรวมกับแสงสีแดง

แสงสีแดงคล้ำลง และเมื่อถึงจุดหนึ่งมันกลายเป็นสีดำสนิท

“คึๆๆ”

ความมืดแยกออกเป็นรอยยิ้มกว้าง

การจุติโดยยืมร่างศพ?

เทียบไม่ได้หรอก

นี่คือการคืนชีพอย่างสมบูรณ์

มันไม่ใช่สิ่งไม่แน่นอนที่ถูกเรียกมาโดยยืมพลังของเนโครแมนเซอร์ นี่คือการคืนชีพอย่างสมบูรณ์

“ฮ่าๆๆ”

มันคือสิ่งที่สร้างโลกนี้มาตั้งแต่แรก...

หลังจากเวลาอันเนิ่นนาน เทพแห่งมิติทั้งมวลได้ลงมาแล้ว

***

 ต้นไม้โลกบนภูเขาเซารุส โลกอัลเฟน

“อา...”

เมโลดี้ส่งเสียงเศร้า มีชายคนหนึ่งยืนตรงหน้าเธอ เขามีผิวหนังโปร่งใสดูซีด เธอพยายามยื่นมือออกไป...

ซ่า

ชายคนนั้นเปลี่ยนเป็นควันดำเข้าไปในมือเธอ มันเหมือนถูกดูดเข้าไป

“อา...”

เธอเห็นวิญญาณ ผู้ตายกำลัง... วิญญาณกำลังส่งเสียงร้องด้วยความเศร้าลึกซึ้ง เหมือนเสียงร้องของพวกเขาดังท่วมโลก เมโลดี้หลับตาลงแต่ยืนนิ่งด้วยความพยายามทำตัวให้ชินกับมัน

“เฮ้อ”

ต่อให้เธออยากช่วยพวกเขาเธอก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เขาไม่ใจดีแบบเทพีแห่งการทำนาย และเขาไม่ส่งเทพพยากรณ์

เมโลดี้เริ่มเห็นวิญญาณในวันหนึ่ง เธอพยายามจะโอบอุ้มวิญญาณเหล่านั้น แต่เมื่อเธอทำอย่างนั้นพวกเขาก็กลายเป็นควัน

เธอกำลังถอนหายใจยาวเมื่อสหายคนหนึ่งมาถึง

“สตรีศักดิ์สิทธิ์”

“หัวหน้าทีมฮีซอล!

เธอคือผู้หญิงจากโลก ผู้ติดตามของคังวูจิน...

เชฮีซอลกลับมาแล้ว

“คุณไปอยู่ที่ไหนมา?”

“...ดิฉันพยายามหาพลังที่จะมีประโยชน์กับราชาค่ะ...”

“เจอไหม?”

“ค่ะ”

เธอตอบอย่างไม่ลังเล ใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจ ตอนนั้นเอง ไฟที่ไม่ดับตรงหน้าต้นไม้โลกก็ดับไปตามลม

ไฟดวงหนึ่งลุกโพลงขึ้นพร้อมกับเงาร่างหนึ่งปรากฏให้เห็น

 

 

สารบัญ                                           บทที่ 203

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น