วูจินมองภาพโฮโลแกรมของปราสาทบิบิแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ บิบิทำงานได้ดี เขาจึงไม่ต้องมาวุ่นวายมาก
การลงทุนเป็นเรื่องดี แต่ถ้าแต้มของเขาถูกใช้จนหมดคงแย่ ไม่มีแต้มเขาจะฟื้นฟูกำลังพลไม่ได้ และรักษาอาณาเขตมิติไว้ไม่ได้ ลอร์ดมิติหลายรายแล้วที่เสียอาณาเขตมิติไปเพราะการจัดการไม่ดี
“ทำแบบนี้ต่อไปนะ ไม่ว่ายังไงเธอต้องปกป้องอาณานิคมนี้ให้ได้”
แต่นี่เพื่อครอบครัวของเขา ยิ่งกว่านั้น เขาจะกลับมาที่โลกได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการคงอยู่ของอาณานิคมนี้
“เข้าใจแล้ว”
วูจินเตรียมจะลุกขึ้น แต่บิบิตะโกนขึ้นมาเมื่อเห็นหน้าต่างโฮโลแกรม
“อ๊ะ? เจ้านาย เกิดดันเจี้ยนเบรกล่ะ”
ทันทีที่พูดจบ เสียงฝีเท้าเร่งร้อนก็ดังขึ้นจากคนสองคน
คนหนึ่งคือกัปตันของเรือบรรทุกเครื่องบิน ปาร์คกิลซู อีกคนคือโนซามผู้รับผิดชอบด้านออกแบบและบำรุงรักษา
“ยินดีที่ได้พบครับ พระราชา!”
“คำนับท่านจ้าว”
ทั้งสองมาอย่างกะทันหัน วูจินหันไปทางพวกเขา
“เราจะเห็นด้านล่างได้หรือเปล่า?”
“ได้ครับ!”
ปาร์คกิลซูใช้จอในหอบังคับการดึงภาพแผนที่ของพื้นที่ด้านล่างขึ้นมา เมื่อเขาซูมภาพเข้าไปก็จะเป็นภาพความละเอียดสูง
“สามที่เหรอ?”
จุงมินชานยังมีสีหน้ามืดมนเมื่อเดินกลับเข้ามา เขาพูดกับวูจินเสียงอ่อนล้า
“ไม่นานนี้เกิดดันเจี้ยนเบรกหลายครั้ง ไม่มีสัญญาณเตือนก่อนการเบรก แต่อย่างน้อยเกาหลียังดีกว่าที่อื่น”
“ที่อื่นล่ะ?”
“ในเกาหลีกำจัดศัตรูได้ภายในไม่เกินหนึ่งวัน แต่หลายประเทศถูกมอนสเตอร์ครอบครองสถานที่สำคัญหลายชั่วโมงก่อนจะโจมตี”
วูจินเลิกคิ้ว
“มีอาณานิคมอื่นเกิดขึ้นมาไหม?”
“ยัง แต่มีความพยายามจะสร้างเป็นพักๆ”
“หมายความว่ายังไง?”
“ในจีน มีบางคนป้อนข้อมูลของอาณานิคม”
“ทำไม?”
“ผมแค่เดา แต่น่าจะเพราะพวกเขาอยากได้ชิ้นส่วนมิติ”
“ชิ”
วูจินเดาะลิ้น หลับตาลง
เขาคาดไว้แล้วว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น คนพูดถึงสันติภาพและการปกป้องโลก แต่คนเคลื่อนไหวตามความโลภ สุดท้ายถึงจะรู้ว่าการเอาเปรียบกันเองเป็นเรื่องเสียเปล่า
เขาต้องการปกป้องโลกเพื่อครอบครัวของเขาจะได้ปลอดภัย เขาก็เคลื่อนไหวไปตามผลประโยชน์ส่วนตัวเช่นกัน...
เขารู้สึกว่าตัวเองเหลือเวลาไม่มากแล้ว
“ฉันคงต้องจัดการเรื่องข้างล่างเอง”
“เจ้านายยุ่งออก ให้เราจัดการเถอะ!”
“เธอ?”
บิบิไม่ได้ลงสนามรบกับเขามานาน เลเวลเธอจึงยังต่ำ ถ้าไปสู้กับพวกมอนสเตอร์โดยไม่จำเป็นอาจบาดเจ็บได้...
“เราแค่โจมตีด้วยเมืองอาณานิคม”
“อ้อ...”
วูจินพยักหน้า นี่คือเมืองเคลื่อนที่ได้
เขาวางอาณานิคมบนเรือบรรทุกเครื่องบินเพื่อเวลาเจอการโจมตีที่รับไม่ไหวจะได้หนีไป คาดไม่ถึงว่าเรือจะเคลื่อนที่ไปบนฟ้าแทนมหาสมุทร
อาวุธและกำลังพลที่ตั้งบนเรือไม่แค่ใช้สู้ในทะเล ตอนนี้มันสามารถโจมตีลงมาจากท้องฟ้า
“ความคิดดีนี่”
“ให้เราจัดการไหมคะ?”
“ได้ ยกให้เป็นหน้าที่เธอ”
ดันเจี้ยนเบรกที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้าจะเกิดขึ้นอีก วูจินจัดการทั้งหมดไม่ได้
เขาต้องทำสิ่งที่มีแต่เขาที่ทำได้
‘เครื่องประหารของทราช’
เขาต้องแก้ปริศนาข้อนี้
ถ้าเขาจะแก้ปัญหานี้ เขาต้องทำเซ็ทไอเทมของทราชอีกครั้ง มันจะบอกใบ้วิธีแก้ปัญหาให้เขา
ที่ที่เขาต้องอยู่คืออัลเฟน ไม่ใช่โลก
“บิบิ”
“ค่ะ เจ้านาย!”
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ห้ามเสียอาณานิคมไป”
“วางใจเราได้เลย!”
วูจินลูบศีรษะบิบิอีกครั้ง จากนั้นลอดผ่านอุโมงค์ไปยังอัลเฟน
“ฮึๆ เริ่มเลยดีกว่า”
บิบิหัวเราะพลางมองหน้าจอที่แสดงเหตุการณ์เบื้องล่าง
***
ใกล้สถานีแดจุนมีร้านขายของขบเคี้ยวแห่งหนึ่ง
นักเรียนมัธยมปลาย 3 คนกำลังกินต๊อกโบกีใกล้สถานี พวกเขามองกลุ่มเราส์ที่อยู่ใกล้ๆอย่างนับถือ (ต๊อกโบกี - เกี้ยมอี๋?ผัดกับซอส)
“เฮ้อ ชีวิตฉันต้องเปลี่ยนไปแน่ถ้าพลังในตัวตื่นขึ้น”
“ฮะ ซื้อหวยยังถูกง่ายกว่าเลย”
“ไอ้บ้า ใครจะไปรู้ กุงซูที่อยู่ห้อง 4 กลายเป็นเราส์ไปแล้วนะ”
“ก็จริงนะ”
ถ้านักเรียนมีพลังกลายเป็นเราส์ มันคือเรื่องโชคดีขนาดถูกล็อตเตอรี่ยังเทียบไม่ติด
ไม่มีใครไม่มีความฝัน และไม่มีวัยรุ่นที่ไม่อยากเป็นฮีโร่
“แต่เราส์แรงค์ต่ำก็ไม่ต่างจากกรรมกรนะ”
“ไม่งั้นเขาจะเรียกโหลยโท่ยเหรอ?”
เราส์แรงค์ต่ำก็เหมือนดาราไม่มีชื่อเสียง
แต่ไม่มีใครไม่อยากได้โอกาสเป็นดารา ต่อให้ต้องทำงานหนักแทบตายก็ไม่เป็นไร
“อ๊ะ ถ้าเราได้เป็นเราส์ก็ไปสมัครงานที่อลันดาลได้ พวกเขาเลือกแต่คนไม่เก่ง”
“อืม นั่นอาจจะแค่แกล้งทำก็ได้นะ”
“จริงด้วย อลันดาลไม่ใช่แหล่งผลิตเราส์นะ เวลานิดเดียวก็กลายเป็นเราส์แรงค์สูงไปเลย ประหลาดแล้ว”
แต่ มีเหตุผลที่อธิบายสิ่งที่พวกเขาทำได้ชัดเจน ถ้าพวกเขาจ้างเราส์ที่มีแววล่ะ?
“ก็คงงั้น...”
มินแจฝันอยากเป็นเราส์
“เฮ้ นายเรียนเก่งออก ทำไมถึงอยากเป็นเราส์ล่ะ”
การศึกษาไม่ใช่สิ่งรับประกันความสำเร็จในชีวิตเหมือนเมื่อก่อน ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นสิ่งพื้นฐานที่สุดที่ต้องมีสำหรับความก้าวหน้าในชีวิต
ในโลกที่วุ่นวายด้วยมอนสเตอร์ การศึกษายิ่งสำคัญขึ้น
“เฮ้อ ไปเรียนพิเศษกันเถอะ”
มินแจกับเพื่อนเขมือบของทอดจนหมด พวกเขากำลังจะออกจากร้านแต่ต้องชะงักตรงหน้าทางเข้า
ฮื่อ!
มอนสเตอร์ไม่ใช่สิ่งหายากอีกต่อไป
แต่ทว่า ถ้าคนที่เคยเห็นมอนสเตอร์แต่ในทีวีมาเจอเข้าจริงๆจะรู้สึกอย่างไร?
มอนสเตอร์ตัวมหึมาถือสิ่งที่เหมือนค้อนหรือท่อนเหล็ก มันกำลังจะฟาดอาวุธลงมา
“ว...วิ่ง!”
มินแจอ้าปากแข็งค้างของตน เสียงตะโกนของเขากระตุ้นให้เพื่อนๆขยับตัว
กึง กึง!
มอนสเตอร์ร่างใหญ่ดูน่าเกรงขามแต่มันเชื่องช้า มินแจกับเพื่อนวิ่งสุดชีวิตและสามารถทิ้งห่างจากมันได้
“แฮ่กๆ เกิดอะไรขึ้น?”
“ดันเจี้ยนแถวนี้คงระเบิด”
“ที่หลบภัยอยู่ตรงไหน?”
“ไม่รู้ ฉันทำมือถือตก”
ทั้งสามคนโชคดี เจอมอนสเตอร์ครั้งแรกพวกเขาเจอแค่ตัวเดียว ขณะพวกเขากำลังมองไปรอบๆอย่างตกใจ มอนสเตอร์ก็ปรากฏตัวมากขึ้น
ดันเจี้ยนเพิ่งระเบิด ไม่มีทางที่จะมีมอนสเตอร์แค่ตัวเดียว
มอนสเตอร์ 4 ตัว รูปร่างหน้าตาเหมือนตัวก่อนหน้าปรากฏตัว
มนุษย์ 3 คนกลัวจนหนีไม่ได้ พวกมอนสเตอร์ล้อมพวกเขา
“ช...เชี่ย”
“...”
เพื่อนของมินแจไม่มีแม้แต่แรงตอบ เพิ่งเกิดดันเจี้ยนเบรกไม่นาน พวกเขาหาที่หลบภัยไม่ได้ ตอนนี้พวกเขาคือเหยื่อที่จะถูกมอนสเตอร์พวกนี้ล่า
“เราซวยแล้ว”
“มินแจ ทำไงดี?”
“ทำไงล่ะ? พวกเราก็แค่ตาย”
ตลกดี เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย มินแจรู้สึกสงบแทนที่จะกลัว สุดท้ายก็ตายอยู่ดี แล้วเขาจะกลัวทำไม?
เมื่อเลิกคิดเรื่องกลัว วูจินก็เห็นสถานการณ์รอบๆได้ดีขึ้น
‘กองทัพยังไม่มา แถวนี้มีแต่พวกเรา’
ดูเหมือนกองทหารยังไม่เคลื่อนไหว เขายังไม่ได้ยินเสียงปืนหรือการต่อสู้ใดๆ เขาได้ยินแต่เสียงกรีดร้องของคนและเสียงคำรามของมอนสเตอร์
ดูเหมือนดันเจี้ยนเพิ่งระเบิดไปไม่นาน
ตอนนี้มีมอนสเตอร์เพียงสี่ตัว แต่มันจะเพิ่มขึ้นอีกมาก โอกาสรอดชีวิตของพวกเขาไม่มี
“เราตาย”
“ม...มินแจ ทำไงดี?”
“ทำไมนายเอาแต่ถามคำถามเดิม?”
“ฮือ”
มินแจอยากได้เหลือเกิน
ถ้าเขามีพลัง เขาจะใช้พลังของเขาเพื่อสู้หรือหนี แต่เขาเป็นแค่นักเรียนธรรมดาที่กำลังจะไปเรียนพิเศษ
ถ้าเขาตายไป คนจะพูดถึงเขาอย่างไรนะ?
เขาโชคร้ายที่มาหยุดตรงสถานีแดจุนเพราะความหิว ดูท่าว่าต๊อกโบกีจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาเสียชีวิต
“เวร”
ถ้าเขาเป็นเราส์ คงไม่ไร้พลังแบบนี้ เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกบที่ถูกงูจ้อง
พวกมอนสเตอร์บีบวงล้อมเข้ามา มันกำลังจะฟาดอาวุธลง
พวกเขาจะตายแบบเละเทะ
“เวรเอ๊ย!”
เขาจับมือเพื่อนทั้งสองด้วยความกลัว ถ้าเป็นตอนปกติ เพื่อนคงตะโกนใส่
เปรี๊ยะ!
สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น
พลังบางอย่างกันอาวุธพวกนั้นไว้ แล้วอาวุธก็กระเด็นออกไป
“...!”
มินแจตาโตอย่างตกใจ
“มินแจ!”
“มันอะไรวะ? นายเห็นไหม?”
“เกิดอะไรขึ้น?”
มินแจแทบไม่ได้ยินเสียงตกใจของเพื่อน เขารู้ว่านี่คืออะไร
‘ฉันกลายเป็นเราส์’
เขารู้สึกได้ จู่ๆมันก็ผุดขึ้นมาในหัวเขา วิธีใช้บาเรีย
มอนสเตอร์ที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหวี่ยงอาวุธอีกครั้ง
มันคำรามเสียงดังเมื่อบาเรียกางออกอีกครั้ง
กึง!
ถ้ามีสิ่งกีดขวาง พวกมันแค่ต้องทำลายมันเสีย
กึง! กึง!
อาวุธฟาดใส่บาเรียอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บาเรียจะทนได้อีกไม่นานนัก
“อึก”
มินแจปวดศีรษะแทบตาย เขากัดฟัน ถ้าเขาทนการโจมตีไม่ได้ พวกเขาจะตายกันหมด
ในที่สุดเขาก็กลายเป็นเราส์ แต่ต้องมาตายอย่างเปล่าประโยชน์...
กี๊ซ!
มินแจครางอย่างหมดหวังเมื่อได้ยินเสียงจากท้องฟ้า
“ฉันต้องตายจริงๆเหรอ?”
ท้องฟ้าเป็นสีดำสนิทเมื่อฝูงนกสีดำโฉบลงมา
เขาเคยเห็นพวกมันในข่าว และยังเห็นในหนังสือขายดีอันดับหนึ่งชื่อสารานุกรมภาพสัตว์ประหลาด
ไวเวิร์น
มันเป็นที่ชื่นชอบ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นมอนสเตอร์นิสัยดี มันสามารถกัดศีรษะคนขาดในคำเดียว
เขาไม่มีทางป้องกันมันได้
เขาเห็นไวเวิร์นกว่า 100 ตัว”
“เฮ้อ”
บาเรียระเบิด
ร่างเขาสั่นเทาแสดงว่ามาถึงขีดจำกัดแล้ว เขาใช้พลังต่อไม่ไหวแล้ว
มอนสเตอร์เข้ามาใกล้มินแจและเพื่อนๆแต่แล้วก็ถูกดึงขึ้นไปบนฟ้า
ไวเวิร์นกระชากมอนสเตอร์สี่ตัวขึ้นไป แล้วทิ้งมันลงมาจากที่สูง
ไม่ได้มีแต่ไวเวิร์น มีคนประหลาดกำลังขี่พวกมัน พวกเขากำลังใช้เวท
เวทส่งไปยังมอนสเตอร์ที่เริ่มมารวมกัน
“ก...เกิดอะไรขึ้น”
มินแจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหนี เขาถูกมอนสเตอร์ล้อม เขาตื่นและกลายเป็นเราส์ และตอนนี้ฝูงไวเวิร์นกำลังบินลงมาจากฟ้า...
จากนั้นก็มีฝูงมอนสเตอร์มารวมตัวกันเต็มถนน
ไวเวิร์นตัวหนึ่งบินลงมาใกล้มินแจกับเพื่อน มันคือผู้ขี่ไวเวิร์นจากเผ่าราทิค เขามีผิวสีน้ำเงินหูกางใหญ่
“นี่คือการช่วยเหลือ ขึ้นมา”
ต่างจากรูปร่างหน้าตาประหลาด นักขี่สามารถพูดภาษาเกาหลีได้ชัดเจนเพราะยาภาษา มินแจกับเพื่อนรีบขึ้นไปบนหลังไวเวิร์น
เคียะ!
ไวเวิร์นบินขึ้นไป และนักเรียนเกาะมันไว้แน่น
บนหลังไวเวิร์นแต่ละตัวมีนักขี่เผ่าราทิคหนึ่งหรือสองคน พวกเขาใช้เวทโจมตีอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
และมีกระสุนปืนใหญ่หลายอันที่ดูเหมือนจรวดยิงใส่ด้านล่าง
“...”
มินแจเหลือบมองลงไปข้างล่างแล้วกลืนน้ำลาย
‘นึกว่าฉันโชคร้ายแล้วนะ แต่ไม่ใช่’
เขาคิดว่าตัวเองโชคร้ายเมื่อไปเจอกับมอนสเตอร์
แต่เมืองที่กำลังถูกไฟลุกท่วมเบื้องล่างเปลี่ยนความคิดเขา
เขากับเพื่อนเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตไม่กี่คนของเมือง
ถนนทุกสายในเมืองมีมอนสเตอร์ท่วมท้น
***
ในถ้ำเยือกแข็ง
อิเอลโลเดินไปเดินมาด้วยความโกรธ ทำให้ถ้ำสั่นสะเทือนและน้ำแข็งแตก ลีซังโฮคุกเข่าตัวสั่น
“ที่นี่ไม่มีเทพ!”
“โปรดยกโทษให้ผมด้วย”
ลีซังโฮก้มศีรษะต่ำ ในใจสาปแช่ง บนโลกไม่มีเทพแล้วมันเป็นความผิดของเขาเหรอ?
“เจ้าต้องหาให้เจอ หาให้พบ!”
“ครับ”
มันเป็นไปไม่ได้ แต่ลีซังโฮไม่โง่พอจะพูดออกมา เขาตอบเสร็จแล้วก็จากไปทันทีเพื่อไปหาเทพที่ไม่มีอยู่ในโลก
“รหัส...รหัส...”
มือของอิเอลโลสั่น
เขากลับมายังที่นี่ แต่จะไม่มีรหัสได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้ที่โลกจะไม่มีรหัส
เป็นบอสยังต้องใช้รหัส โอ้ว 555
ตอบลบระหัสที่เจ้าต้องการนั้นคือ 264112
ตอบลบ