Chapter 174 – Air Strike (3)
-ดันเจี้ยนระเบิดที่สถานีแดจุนสาเหตุจากความบกพร่องทางการสื่อสารระหว่างกองทัพกับสำนักงานผู้มีพลังพิเศษ จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตราว...
เสียงสงบของผู้ประกาศข่าวดังเข้ามาในหูของเขา
-คังวูจิน ราชาแห่งอลันดาลยังไม่ปรากฏตัว แต่เรือบรรทุกเครื่องบินที่เขาซื้อปรากฏบนท้องฟ้า ฝูงไวเวิร์นและผู้ขี่ไวเวิร์นถูกส่งออกมา พวกเขากำจัดมอนสเตอร์ในบริเวณสถานีแดจุน...
เหมือนจู่ๆเส้นสมองของเขาก็ทำงาน เขาได้สติชัดเจนและจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้
“เฮือก!”
มินแจครางพลางลืมตา ผ้าห่มบางที่คลุมตัวเขาเลื่อนหล่นพื้น เขามองไปรอบๆตัว
เตียงหลายหลังวางเรียงกัน มีหลายคนกำลังนอนอยู่เช่นเดียวกับมินแจ
-โลกกำลังเผชิญกับดันเจี้ยนระเบิดอย่างกะทันหัน แต่คนและสิ่งของสำหรับปกป้องโลกถูกแบ่งไปยังอัลเฟน ความคิดเห็นของสาธารณชนเป็นไปทางลบในเรื่อง...
เมื่อเขาหันไปทางต้นเสียงก็เห็นโทรทัศน์ติดอยู่บนผนัง
มันคือรายการข่าว เมื่อก่อนเขาดูมันบ่อยๆเพื่อดูข่าวเกี่ยวกับดันเจี้ยนเบรก
ที่ต่างไปคือครั้งนี้เขาเป็นคนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และเกือบเสียชีวิต ตอนนี้ที่ๆเขาอยู่คงเป็นโรงพยาบาล
“คุณหายดีแล้วล่ะ”
“...”
เมื่อมินแจหันไปก็เห็นเด็กหญิงตัวเล็กสูงแค่เอวเขา
“ใคร...?”
“หนูชื่อโซอา ฮิๆ หนูเป็นคนขอพรให้คุณ”
โซอาคว้ามือมินแจไว้แล้วหลับตาลง เขาผงะไปกับการกระทำที่คาดไม่ถึง
แต่ไม่นานเขาก็หยุดขัดขืน เขารู้สึกถึงพลังจำนวนมากส่งผ่านจากมือเข้ามา เขารู้สึกจิตใจสงบลง มินแจปิดตาลงอย่างไม่รู้สึกตัว
“เฮ้อ คุณสบายดีแล้วล่ะ กลับบ้านได้ค่ะ”
“ข...ขอบใจ”
มินแจเกาศีรษะอย่างอายๆแล้วขอบคุณ ตอนนี้เขารู้สึกมั่นใจว่าเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง
‘นี่คือการอวยพรเหรอ?’
มินแจเพิ่งพัฒนาความสามารถบาเรียของตัวเองขึ้นมาไม่นาน เขาจึงรู้ได้ เด็กหญิงคนนี้ใช้พลังอวยพร
“อ๊ะ? มินแจ?”
ประตูเปิดออก เพื่อนของมินแจวิ่งมาเขาอย่างดีใจ เมื่อพวกเขาเห็นโซอาก็ก้มศีรษะให้ พวกเขาทำเหมือนเจออาจารย์บนทางเดิน
“ไว้เจอกันใหม่ค่ะ”
โซอาโบกมือแล้วเดินจากไป เพื่อนๆของมินแจก้มศีรษะลา
“ครับ รักษาตัวด้วย”
“เด็กนั่นใครเหรอ?”
“ไปเรียกเขาว่าเด็กได้ไง!”
เพื่อนๆของมินแจโวยวายใหญ่
“เธอเป็นเจ้าหญิงของอลันดาล”
“หา?”
“น้องสาวของคุณคังวูจิน”
“หา? อะไรนะ?”
“น้องสาวของคุณคังวูจิน”
“ฮ้า!”
มินแจตะลึง เขามองมือกับประตูที่โซอาเดินออกไปสลับไปมา
ความอุ่นในมือของเขาและความรู้สึกสงบสุขอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
เขานึกไม่ถึงว่าเธอจะเป็นน้องสาวของคังวูจิน...
เขารู้สึกเหมือนเพิ่งเจอดารา
“ตอนนายเป็นลมฉันนึกว่านายจะตายเสียแล้ว ตกใจหมด”
“ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน?”
เมื่อมินแจถาม เพื่อนเขาตอบอย่างตื่นเต้น
“นายไม่รู้เหรอ? ถ้ามือถือฉันไม่หายฉันถ่ายรูปเซลฟี่ไปแล้ว”
“โรงพยาบาลที่ไหน?”
“ไม่ใช่โรงพยาบาล มันคือปราสาทของบิบิ”
“อะไรนะ?”
“ปราสาทบิบิ! เรือบรรทุกเครื่องบินของอลันดาล”
“ฮะ!”
เขาแทบไม่เชื่อว่านี่คือความจริง เพื่อนของเขาตื่นเต้นมากกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น
“พวกเราเจอกับเรื่องใหญ่”
พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นพวกพระเอกในภาพยนตร์
แต่ มินแจมองเพื่อนของเขาอย่างหดหู่
“ใช่ เราเจอเรื่องใหญ่”
“...”
เพื่อนของเขาเปลี่ยนจากตื่นเต้นเป็นหม่นหมองในแทบทันที
-โลกจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือยิ่งกว่าอัลเฟนไม่ใช่หรือ? นี่คือความเห็นส่วนใหญ่ของประชาชน คำถามนี้ถูกถามไปยังอลันดาล ที่ใดกันแน่ที่ต้องการความช่วยเหลือจากอลันดาล? โลกหรืออัลเฟน?
คำถามของผู้ประกาศข่าวเข้าหูของเขา
เขาเกือบเสียชีวิต เขาไม่ตระหนักถึงความจริงของสถานการณ์ตอนนี้เมื่อดูข่าว แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้วเมื่อเขาเจอเรื่องนี้กับตัว
ถ้าการโจมตีไม่เกิดในแดจุน พวกเขาคงตื่นเต้นไปกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลก
“คนตายไปเยอะเลย...”
เมื่อคำพูดหดหู่ของเพื่อนดังขึ้น ความกังวลที่มินแจข่มไว้ก็เกิดขึ้นอีก คนมากมายถูกสังหาร และมันอาจจะเป็นครอบครัวของเขา...
“กลับบ้านกันก่อนเถอะ”
“อืม เราจะไปยังไง?”
“เราอยู่ที่โซล เพิ่งจอดไม่นาน นั่งรถบัสไปก็ได้”
ระหว่างมินแจสลบ เพื่อนเขาสำรวจเรือบรรทุกเครื่องบินเรียบร้อยแล้วจนมันกำลังจะลงจอด
“ค่ารถล่ะ?”
“...”
สามสหายมองหน้ากัน พวกเขานึกได้ว่าไม่มีใครมีเงินจึงคอตก
“นาย...นายว่าเขาจะให้เรายืมเงินไหม?”
“น่าจะให้นะ เนอะ?”
พวกเขารู้ว่ากำลังทำตัวหน้าไม่อาย คนของอลันดาลช่วยพวกเขาไว้แต่พวกเขาหวังว่าจะได้เงินเป็นค่ารถกลับบ้าน มินแจและเพื่อนเดินออกจากห้อง
***
เขาอยู่ในห้องๆหนึ่งของร้านอินเตอร์เน็ตเกาะเชจู
เมาส์ขยับอย่างว่องไว นิ้วรัวบนคีย์บอร์ด
<5Piktap กำลังเข้าสู่โอเวอร์ไดรฟ์ >
“ฮ่า!”
ลีซังโฮมองตัวละครของเขาที่เพิ่งเปลี่ยนคลาสอย่างรักใคร่
ถ้าชีวิตจริงเหมือนเกมจะดีแค่ไหนนะ?
เทียบกับความจริงแล้วเกมยุติธรรมกว่า ในเกมทุกคนเริ่มต้นเหมือนกัน แพ้ชนะตัดสินกันที่ความพยายามของเจ้าตัว
ถ้าโลกเหมือนเกม เขาคงกำจัดไอ้คังวูจินได้ง่ายดาย
“ประธาน ผมคิดว่าเจอแล้วล่ะครับ!”
ลีซังโฮยังอยู่ระหว่างเล่นเกม เขาถามโดยไม่ละสายตาจากหน้าจอ
“ใคร?”
“ชายวัย 70 โรคกามตายด้านของเขาหายด้วยปาฏิหาริย์ของเทพ”
“ข้อมูลเอามาจากไหน”
“นิตยสารครับ...”
“นิตยสารประเภทไหน”
“กอสซิบครับ”
“...”
ลีซังโฮหันไปมองลูกน้อง เขาเชื่อคนแบบนี้ ไม่แปลกที่กิลด์กับบริษัทของเขาล่ม
“นายอยากถูกอัดเหรอ?”
“ผมจะไปหาอีกทีครับ”
“เฮ้อ”
ลีซังโฮหยิบบุหรี่มาจุดสูบ เขากำลังจะหันไปเล่นเกมต่อ
“ผมก็เจอเหมือนกันครับ”
“แหล่งข้อมูลล่ะ?”
“คอลัมน์ข่าวของยอนฮับครับ”
ลูกน้องของเขาตอบอย่างมั่นใจ ลีซังโฮมอง คนนี้ฉลาดกว่าคนก่อนหน่อย
“สรุปมาสิ”
“เรือบรรทุกเครื่องบินของอลันดาลออกมาตอนสถานีแดจุนระเบิดใช่ไหมครับ? นักเรียน 3 คนโชคดีได้ขึ้นเรือ พวกเขาได้รับการรักษาและส่งกลับบ้าน นี่เป็นบทสัมภาษณ์ของพวกเขา”
ลีซังโฮติดตามคังวูจินและอลันดาล แต่นี่ไม่ใช่ข้อมูลที่เขาต้องการ เขาต้องหาเทพหรือคนที่สามารถทำเรื่องปาฏิหาริย์ได้
“มันว่าไง?”
“ถ้าคุณอ่านบทสัมภาษณ์...”
“โว้ย”
ลีซังโฮรำคาญ เขาออกจากเกมแล้วหันไปมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ของลูกน้อง
“ไหน?”
“ตรงนี้ครับ”
-เธอจับมือผมแล้วส่งคำภาวนา ผมรู้สึกเหมือนร่างกายได้รับการรักษา เหมือนเทวดาตัวน้อยกำลังจ้องลงมา...
“อืม”
ในหมู่เราส์มีผู้รักษาและผู้ใช้เวทสนับสนุนมากมาย
พลังรักษาเกิดขึ้นได้จากการยืมพลังของเทพ ในอีกด้าน เราส์ยังสามารถใช้พลังของตัวเองเร่งกระบวนการรักษาตัว บนโลกไม่มีเราส์ที่สามารถใช้พลังของเทพ
เมโลดี้ สตรีศักดิ์สิทธิ์ผู้โด่งดัง ใช้พลังของเทพได้ แต่เธอมาจากอัลเฟน
“ข้อมูลไม่น้อยไปหน่อยเหรอ?”
พลังศักดิ์สิทธิ์ถูกใช้ในอลันดาล แต่มันก็เป็นไปได้ไม่ใช่เหรอ เขาคงเอาข้อมูลแค่นี้ไปรายงานอิเอลโลไม่ได้
“ผมคิดว่าน่าจะสืบเรื่องนี้ต่อ”
“อืม นายไปจัดการ”
“ครับ”
ลีซังโฮกลับไปเล่นเกมต่อ
พนักงานของเขาอีกหลายคนกำลังท่องเว็บไซท์ พยายามหาข่าว
ลีซังโฮ ลูกน้องคนสนิทของอิเอลโลได้ประโยชน์จากยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร เขารวบรวมข้อมูลอย่างสบาย
***
เขตแดนของอลันดาลใกล้สถานีโซล
ปราสาทบิบิลอยนิ่งบนฟ้า มองขัดกับทิวทัศน์ของเมืองมาก
ทุกคนในเมืองมารวมตัวกันเพื่อดูปราสาทบิบิ เหมือนพวกเขากำลังมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์
อลันดาลกำลังอยู่ในช่วงขนย้าย
นายกรัฐมนตรีจุงมินชานออกแถลงข่าวตามคำขอของสื่อมวลชน
ต่อให้พวกเขาปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์อย่างเย่อหยิ่ง ประเทศหรือสื่อมวลชนไหนก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ แต่ตอนนี้ความเห็นของประชาชนที่มีต่ออลันดาลแย่ลง
ทุกคนหวาดกลัวเพราะดันเจี้ยนระเบิดที่ไม่มีการประกาศล่วงหน้า
หายนะเกิดได้ทุกเมื่อ แต่คนเชื่อว่ามันสามารถป้องกันได้หากมีการเตรียมตัว เมื่อคิดถึงว่าการเตรียมตัวนี้ควรจะให้ใครไปทำ พวกเขาคิดถึงอลันดาล
พูดให้ชัดเจนขึ้นอีกคือพวกเขาคิดถึงคังวูจินของอลันดาล
เขาปรากฏตัวเมื่อเกิดเรื่องคาดไม่ถึง เขาแก้ปัญหาทุกอย่าง แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้วและมันทำให้ทุกคนกระวนกระวายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในเกาหลี
พวกเขาคิดเสมอว่า ‘คังวูจินอยู่ใกล้พวกเรา เขาจะป้องกันทุกอย่างให้พวกเรา’
ความคิดนั้นเปลี่ยนเป็น ‘ฉันกำลังจะตาย เขาไปทำบ้าอะไรอยู่ที่ไหน?’
ถ้ามินชานรายงานความคิดเห็นของมวลชนให้คังวูจินรู้ เขาจะตอบอย่างไรนั้นเดาได้ง่ายมาก เพราะเหตุนี้มินชานจึงออกมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เขาพูดเก่งพูดดี ปัญหาแบบนี้เป็นหน้าที่ของเขา
“เขาเดินทางไปอัลเฟนวันหลังไม่ได้เหรอครับ?”
“นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อความปลอดภัยของโลก พระราชากำลังหาวิธีทำให้พวกเราหลุดจากดันเจี้ยนเหล่านี้”
เมื่อตอบคำถามนี้เสร็จ มินชานรอตอบคำถามต่อไป นักข่าวคนหนึ่งยกมือขึ้น มินชานชี้ไปที่เขา
“มีคนพูดว่าอลันดาลกำลังย้ายไปอัลเฟน”
“นั่นเป็นไปไม่ได้”
“อลันดาลสร้างเรืออาร์คของคังวูจินเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
“...”
นายกรัฐมนตรีของอลันดาลถลึงตาใส่นักข่าวที่ถามคำถาม
เรืออาร์คของคังวูจิน
พวกเขาเริ่มเอาไปเทียบกับเรือโนอาห์บ่อยขึ้น...
พวกเขาหมายถึงเมืองอาณานิคมที่วางบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ปราสาทบิบิ
ชาวโลกไม่รู้ว่าตัวเองจะตายเมื่อไหร่ พวกเขาจึงอาจมองปราสาทบิบิเป็นเครื่องช่วยชีวิตที่ทำให้พวกเขารอดจากหายนะไปได้
มีบทความนับไม่ถ้วนเขียนถึงบุคคลชั้นนำของประเทศสัญญาจะให้เงินอลันดาลเป็นจำนวนมาก พวกเขาหวังจะได้ขึ้นไปบนปราสาทบิบิ
จุงมินชานระวังมากเมื่อข้อกล่าวหานี้ถูกนำมากล่าวถึง
‘ถ้าพวกเขารู้ว่าราชาของพวกเราทำงานหนักแค่ไหนคงไม่พูดแบบนี้...’
คังวูจินต้องการปกป้องโลกยิ่งกว่าใคร ที่จริงแล้วจุงมินชานไม่ได้กลัวความเห็นของประชาชนจะเป็นไปในแง่ลบ เขากลัวว่าคังวูจินจะผิดหวังกับคนบนโลก
เขากลัวว่าคังวูจินจะทิ้งโลกไปเพราะผิดหวังกับความเห็นแก่ตัวของคนบนโลก
ไม่นับเรื่องความลำเอียงของเขา ราชาแห่งอลันดาลไม่มีเหตุผลต้องช่วยโลก
เขาเป็นลอร์ดมิติ ถ้าต้องการเขาสามารถช่วยเพียงครอบครัวของเขาและสมาชิกกิลด์ของอลันดาล
“มันเป็นป้อมปราการ ผมไม่เห็นด้วยที่จะเรียกมันว่าอาร์ค คำถามต่อไป”
นักข่าวคนหนึ่งยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว
“คุณบอกว่ามันเป็นป้อมปราการ คุณวางแผนจะปราบปรามมอนสเตอร์ทั่วเกาหลีหรือ?”
มินชานยิ้มบาง
“แน่นอน เราจะไปยังที่ๆต้องการความช่วยเหลือ ปราบปรามมอนสเตอร์ ไม่แค่ในเกาหลี แต่ทั่วโลก”
“ที่พูดนั่นไม่อันตรายไปหน่อยเหรอครับ? เรารู้ว่าตอนนี้ในอลันดาลว่างเปล่า อลันดาลกำลังย้ายเข้าปราสาทบิบิ พวกคุณวางแผนจะทิ้งเกาหลีไปเหรอ?”
“เราไม่ได้ทิ้งใคร เรากำลังพยายามปกป้องโลก”
“พวกคุณไม่ใช่คนเกาหลีเหรอ?”
“เราคือชาวโลก”
“...”
เขามองนักข่าวแล้วพูดอย่างหนักแน่น
“เกาหลีต้องหยุดความคิดเรื่องพึ่งพาอลันดาล ประเทศควรปกป้องตัวเองได้ เราเป็นแค่ผู้ช่วย”
พวกเขากำลังดูถูกความสามารถในการปกป้องประเทศตัวเองหรือเปล่า? หรือกำลังโวยวายเพราะความสิ้นหวัง?
‘ฉันอาจพูดเรื่องไม่จำเป็นออกไป’
มินชานพูดออกไปโดยไม่คิดเพราะรู้สึกขัดข้องใจ เขารู้สึกเสียใจทีหลัง
เขาไม่รู้ว่ามวลชนทั่วโลกจะคิดอย่างไร แต่อย่างน้อยคนเกาหลีต้องไม่ชอบใจแน่
‘ชักเป็นห่วงข่าวที่จะออกมาพรุ่งนี้แล้วฉัน’
ปากกาขยับยิกบนสมุดของพวกสื่อมวลชน เสียงปากกาเหมือนมันกำลังทิ่มแทงใจเขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น