วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 157

บทที่ 157 – การรับสมัครเราส์ (2)


“พักกันเถอะค่ะ”

“ฮู่ว กลับไปรวมกลุ่มเถอะ”

เมื่อฮีซอลให้สัญญาณ เบคจองโดถอนหายใจยาวพลางปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก

หลังจากเขาได้พลังกลายเป็นเราส์ เขาคิดว่าตัวเองเดินอยู่บนเส้นทางลำบากแล้วเมื่อเข้าดันเจี้ยนระดับค่อนข้างยาก แต่ดูเหมือนเขาจะคิดไปเอง

เขาออกล่าบนโลกจาคุในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาและสู้จนถึงขีดจำกัดของตัวเอง อาจเพราะเหตุนี้เขาจึงเห็นว่าความสามารถของเขาก้าวหน้าขึ้นกว่าเมื่อก่อน

ความไม่แน่นอนทำให้เขารู้สึกกดดัน แต่การเปลี่ยนแปลงที่ได้มาถือว่าไม่เลว

“พี่เป็นไงบ้าง?”

“โอ้ น้องคัง มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ผมเพิ่งมาถึง ว่าแต่พี่เป็นไงบ้าง?”

“สู้แบบนี้เป็นเครื่องกระตุ้นอย่างดีเลยล่ะ”

“ถ้าพี่ต้องการ เราร่วมทางกันได้นะ”

เบคจองโดส่ายศีรษะ เขาเป็นคนนอก ไม่ควรรบกวนนานไปกว่านี้

“ไม่ล่ะ ฉันได้มาเยอะแล้วจากการสำรวจครั้งนี้ อีกอย่างพอกลับกิลด์ฉันยังมีงานต้องทำอีกมาก”

“แล้วแต่พี่แล้วกัน”

วูจินไม่บังคับ

ถ้าเขาขาดเราส์ก็แค่หาเพิ่ม แบบที่ทำกับซุงกู ฮีซอลและบลังกา

สายตาของเบคจองโดมีความรู้สึกเสียดาย แต่เขาไม่อาจทิ้งกิลด์ KH มาอยู่ใต้วูจิน ดังนั้นจึงไม่พูดถึงเรื่องนี้ต่อ

“เจมินอยู่ไหนล่ะ?”

ฮีซอลที่กำลังดูแลสนามรบอยู่เดินมาหาวูจินเมื่อได้ยินคำถาม

“เขาไปที่ป้อมข้างหน้าค่ะ”

วูจินมองตามที่ฮีซอลชี้ เขาเห็นปราสาทตั้งอยู่บนภูเขาเล็กๆลูกหนึ่ง

“คนเดียวเหรอ?”

“ค่ะ”

“หืม”

วูจินลูบคาง

เจมินผ่านพิธีโลหิตโดยใช้หัวใจของลอร์ดแวมไพร์แล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะสามารถโจมตีอาณานิคมของลอร์ดมิติได้ด้วยตัวคนเดียว

“เขาไปดูลาดเลาค่ะ คุณไม่ต้องห่วงเขาหรอก”

“ดูไม่เหมือนเขาไปดูลาดเลานะ”

“คะ?”

“เขากำลังเดินทางกลับหลังจากสู้เสร็จ”

ฮีซอลหันไป เธอเห็นฝูงค้างคาวจากที่ไกลๆ และมีฝูงมอนสเตอร์ไล่ตามค้างคาวมา

“ดูเหมือนเขากำลังวิ่งหนี”

“ไม่ใช่”

“เอ๋?”

“ช่างเถอะ เธอกลับไปทำงานของเธอต่อ”

“ค่ะ”

วูจินมุ่งหน้าไปยังฝูงค้างคาว พวกมันรวมตัวตรงหน้าเขากลายเป็นโดเจมิน เขาดูสงบกว่าเดิมและมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นหน่อย วูจินสบตาเจมิน

วูจินยิ้มประหลาด

“นั่นอะไร?”

“ผมคิดว่าผมคนเดียวคงทำอะไรไม่ได้มาก”

“หืม”

ลูกน้องที่เหมือนซอมบี้ดวงตาสีแดง พวกมันดูอันตราย แค่นับคร่าวๆก็ได้ 300 ตัว

“แฮ่”

ค้างคาวข้างตัวเจมินรวมตัวกันกลายเป็นคาบาล เขาแยกเขี้ยวใส่วูจิน เหมือนมันกำลังแสดงความจงรักภักดีต่อเจ้านายในแบบของตัวเอง

ควันดำรวมตัวกัน แล้วค้อนใหญ่ก็ทุบลงบนหัวของคาบาล

[เป็นแค่ยุงตัวจ้อยบังอาจทำตัวหยาบคายใส่ราชา!]

แม้ค้อนของแรมสันจะทุบหัวไปแล้ว คาบาลยังไม่ตาย

“นายเอาพวกนี้อยู่เหรอ?”

เจมินไม่เข้าใจที่วูจินถามจึงมองตอบอย่างว่างเปล่า

“มันเหมือนนายกำลังพยายามเลียนแบบฉัน ฉันไม่คิดว่าที่นายทำอยู่มันดีนะ”

วูจินไม่ยุ่งกับผีดิบที่เกินค่าบงการของเขา เมื่อผีดิบหลุดจากการควบคุมมันจะกลายเป็นมอนสเตอร์

ลูกน้องที่เจมินสร้างขึ้นมีนิสัยคล้ายพวกผีดิบ

ผีดิบเกลียดสิ่งมีชีวิต และดูเหมือนลูกน้องของเจมินจะยิ่งเลวร้ายกว่า ดูเหมือนพวกมันกระหายเลือดไม่หยุดหย่อน

ในฐานะลอร์ดของพวกมัน เจมินควบคุมพวกมันได้มากแค่ไหน?

“ผม...ผมทำได้”

“จริงเหรอ?”

“...”

“งั้นตอบให้มั่นใจกว่านี้หน่อย”

“ผม...ผมไม่แน่ใจ”

วูจินยิงวิญญาณ มันเหมือนจรวดติดตามตัวที่ตามศัตรูไปจนกว่าจะโดนเป้าหมาย หอกวิญญาณพุ่งใส่ศีรษะของพวกลูกน้อง

เสียงระเบิดดังผลุ พวกลูกน้องไร้หัวล้มลง

โดเจมินรู้สึกหมดแรงเมื่อเห็นกองทัพแวมไพร์ของเขาถูกทำลายอย่างง่ายดาย

วูจินโอบไหล่เจมิน

“เจมิน”

“ครับพี่”

“ปริมาณไม่สำคัญ อย่างแรก พยายามควบคุมตัวแรกให้ดีก่อน”

“...”

ถ้าควบคุมอสูรตัวเองไม่ได้อย่างเด็ดขาด อย่ามีจะดีกว่า

คาบาลใช้พลังจำนวนมากฟื้นสภาพศีรษะของตัวเอง มันมองวูจินด้วยสายตาหวาดกลัว

“ไอ้ตัวแบบนี้ไม่มีประโยชน์กับนาย”

แค่ถูกตีทีเดียวก็แสดงความกลัวมากขนาดนี้

อสูรรับใช้ควรเต็มใจตายเพื่อปกป้องเจ้านาย แบบคาบาลที่กลัวหัวหดนี่อย่ามีจะดีกว่า

หอกวิญญาณทะลุร่างคาบาล มันระเบิดทันที

“...”

ลูกน้องที่เขาสร้างขึ้นถูกฆ่าภายใน 1 นาที เสียงวูจินดังเข้าหูเจมิน

“ไม่ว่านายจะมีลูกน้องมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ถ้านายอ่อนแอ”

วูจินพูดถูก พลังของลอร์ดสามารถถูกสมาชิกในเผ่าที่เขาแบ่งเลือดให้ขโมยไปได้ ฐานะของเขาถูกแย่งชิงไปได้

“ถ้านายจะสร้างกองทัพของตัวเอง นายควรทำช้าๆตั้งใจเลือกให้ดี ดูแบบที่ฉันทำ”

“พี่มีทหารตั้งเยอะ”

วูจินยิ้ม

“พวกโครงกระดูกกับซอมบี้เป็นทหารที่จะทิ้งไปเมื่อไหร่ก็ได้ ดูอสูรของฉันสิ”

เขาใช้เวลารวบรวมพวกมันมากกว่า 20 ปี อัศวินมรณะ 54 ตนถือว่าน้อย

“ผมว่าผมเข้าใจที่พี่จะสื่อ”

“ดี”

วูจินขยี้ผมเจมิน

“อีกอย่าง นายควรพักสายตาสักหน่อย”

“...ครับ”

วูจินยิ้มพลางตบหลังเจมิน จากนั้นเขาหันไปมองคนในปาร์ตี้

“อีก 6 วันตามเวลาโลกหรือ 24 วันจากนี้ จะมีประชุมกิลด์ ฉันอยากให้พวกนายพยายามให้เต็มที่ ทำลายดันเจี้ยนและอาณานิคมให้หมดก่อนถึงวันนั้น”

เมโลดี้ถามด้วยดวงตาเป็นประกาย

“ที่หมายต่อไปของคุณคือที่ไหนคะ?”

“เธอรู้อยู่แล้ว ถามทำไม?”

ดวงตาเมโลดี้มีประกายน้ำตา วูจินยิ้มกว้างกว่าเดิม

“ฉันจะไปอัลเฟน”

ในที่สุดเธอจะได้กลับไปแล้ว

เธออาสามาที่โลกเพื่อดาวบ้านเกิดของเธอ ในที่สุดเธอจะได้กลับไปพร้อมกับผู้ช่วย  เธอรู้สึกตื้นตัน

ที่ไม่น่าเชื่อที่สุดคือผู้ช่วยเหลือนั้นคือผู้ไม่ตาย

***

ขณะที่เจมินกับสมาชิกในปาร์ตี้เริ่มเคลียร์ดันเจี้ยนและอาณานิคมไปทีละแห่ง ซุงกูก็กำลังทำลายลอร์ดมิติ ในเมื่อเขายังไม่อยากตาย เมื่อปาร์ตี้ของเจมินเคลียร์ไปหนึ่งแห่ง ซุงกูเคลียร์ไปสาม

ในระหว่างนั้น วูจินกดดันพวกลอร์ดมิติ

ดันเจี้ยนที่นี่อยู่ในรูปของเสา เทียบกับโลกแล้วที่นี่มีดันเจี้ยนน้อยกว่ามาก แต่ลอร์ดมิติสร้างอาณานิคมไว้มากมายโดยใช้ประตูจำลอง

การสร้างอาณานิคมมีผลดีผลเสียชัดเจน

ในดันเจี้ยน มีข้อจำกัดว่าคนที่เข้าดันเจี้ยนมีมากที่สุดได้แค่ไหน อย่างมากคือไม่เกิน 10 คน แต่อาณานิคมไม่มีข้อจำกัดจำนวนคน อาณานิคมต้องมีทหารและสิ่งก่อสร้างจำนวนมาก

แต่อาณานิคมแก้ปัญหาที่สำคัญที่สุด

มีแต่เราส์ที่เข้าดันเจี้ยนได้ แต่คนที่แทบไม่มีพลังเลยสามารถเข้าอาณานิคมได้

ด้วยเหตุนี้วูจินจึงพยายามสร้างอาณานิคมบนโลก

เขาได้ชิ้นส่วนมิติมาราว 20 อัน ใช้ไป 1 อันเพื่อสร้างอาณานิคมก็ไม่เสียหายอะไร

วูจินทำสงครามมิติสม่ำเสมอ และเจมินชนะทุกครั้ง หลังจากเวลาบนโลกผ่านไป 3 วัน วูจินก็ออกมาจากทางออกที่ 1 ของสถานีโซล

“อา! พระราชา”

พนักงานคนหนึ่งถูกส่งมาเฝ้าที่นี่ เมื่อเห็นวูจินเขาโทรบอกวูซุงฮุนอย่างรีบร้อน

“ครับ เขาเพิ่งออกมา ครับผม”

วูซุงฮุนกลับมาเป็นหัวหน้าเลขานุการอีกครั้ง แต่เปลี่ยนจากหัวหน้าเลขานุการส่วนตัวประธาน เป็นหัวหน้าเลขานุการของพระราชา หน้าที่ของเขาสำคัญกว่าเป็นรัฐมนตรีมาก

“ไม่ต้องบอกเขาหรอก ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”

“ครับ ขอโทษครับ”

“ขอโทษทำไม?”

“...”

วูจินแกล้งพนักงานที่เกร็งเกินเหตุต่ออีกหน่อยก่อนจะจากไป บอดี้การ์ดในชุดสูท 12 คนเดินไปพร้อมกับวูจิน

“ทำไมที่นี่คนเยอะนัก?”

“วันนี้เป็นวันสัมภาษณ์งานครับ”

“อา”

คนที่มาเต็มถนนนี่คือมาเพื่อสมัครงานกับอลันดาล?

วูจินตั้งสมาธิมองฝูงชน ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างเลเวล 11-30 พวกเขาเป็นเราส์แรงค์ F-E

“นั่นคังวูจินไม่ใช่เหรอ”

“น่าจะใช่ เขาเหมือนในรูปเลย”

เห็นได้ชัดว่าวูจินเป็นคนสำคัญ เขามีบอดี้การ์ดห้อมล้อม

เมื่อวูจินมาถึงหน้าประตูอลันดาล นายกรัฐมนตรีจุงมินชาน วูซุงฮุนและพนักงานคนอื่นมารวมตัวกันเพื่อ
รับวูจิน

“วันนี้เป็นวันสัมภาษณ์เหรอ?”

“ครับ ประธาน เรายังไม่ได้ให้ใครเข้ามาเลย”

คนมารวมตัวกันหน้าประตูหน้าของอลันดาล เหมือนผู้มาเข้าสอบรอเข้าไปในสนามสอบ

และดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ชาวเกาหลี คนจากทั่วโลกจำนวนไม่น้อยต้องการเข้าอลันดาล

“ฉันยุ่ง เลือกตอนนี้เลย”

“อะไร เรายังไม่ได้แยกแรงค์พวกเขาเลยด้วยซ้ำ”

มันยังเช้าอยู่ ถ้ามินชานรู้ว่าวูจินจะมาเร็วขนาดนี้ เขาจะแจ้งเปลี่ยนเวลาสัมภาษณ์ให้เร็วกว่านี้...

“ไม่เป็นไร แรงค์ไม่สำคัญ”

วูจินปีนกำแพง

“เงียบ!”

เสียงเขาไม่ดังแต่ทุกคนพุ่งความสนใจมาที่วูจิน เสียงเขามีพลังเวทปนอยู่จึงได้ยินไปถึงคนข้างหลัง

“คนที่ฉันเลือกจะกลายเป็นพลเมืองและเราส์ของอลันดาล ฉันจะเริ่มเดี๋ยวนี้”

นี่ไม่ใช่การสัมภาษณ์แต่เป็นการคัดเลือก เขาจะเลือกคนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง

วูจินใช้ทักษะพื้นฐานเช่น สังเกต วัดค่าและประเมินในการคัดเลือก

“นาย, นายแล้วก็นาย ผ่าน”

“ผม?”

“อะ หา?”

จู่ๆการคัดเลือกก็เริ่มขึ้น คนที่ถูกเลือกงงแต่ผ่านประตูไปอย่างดีใจ การสนับสนุนที่เราส์อลันดาลได้รับดีที่สุดในโลก

พวกเขาจะได้รับการฝึกฝนจากคังวูจิน เราส์ที่เก่งที่สุดของโลก และยังได้ทีมสนับสนุนที่ใหญ่กว่ากิลด์อื่น

หลังจากเลือกเสร็จ วูจินขีดเส้นบนพื้น

“เอาล่ะ คนที่อยู่หลังเส้นนี้กลับบ้านได้”

เกิดเสียงดังในกลุ่มคน 500 คนที่วูจินชี้ คนที่กล้าหน่อยพูดขึ้น

“คุณ คุณทำกับพวกเราแบบนี้ได้ยังไง?”

“ใช่ แค่มองอย่างเดียวก็ตัดสินใจได้แล้วเหรอ?”

วูจินยิ้มเยาะ

“ถ้ามีปัญหาก็มาเป็นพระราชาสิ”

“...”

ไร้เหตุผลสิ้นดี...

“คุณต้องให้โอกาสพวกเราเท่าๆกันสิ”

“ใช่ๆ ผมแน่ใจว่าจะทำได้ดีถ้าถูกเลือก ให้พวกเราได้รับการทดสอบเถอะ”

ได้รับความสนใจจากคังวูจินนั่นล่ะคือการทดสอบ แม้เขาจะเลือกคนที่มีศักยภาพสูงก็อาจมีคนที่วูจินไม่ชอบ หรืออาจมีคนที่ปรับตัวให้เข้ากับวูจินไม่ได้

คนที่ใช้ดาบเก่งไม่ได้หมายความว่าจะเป็นนักฆ่าที่ดี ทุกคนมีศักยภาพต่างกันมีความชอบต่างกัน

ขั้นแรกคือเลือกพวกเขาจากศักยภาพ...

“ก็ได้ ฉันจะให้โอกาสทุกคน”

ถึงจะอธิบายไปคนพวกนี้ก็ไม่เข้าใจ

วูจินเรียกอัศวินมรณะ อัล อัสสาดออกมา ตอนยังมีชีวิตอยู่ อัล อัสสาด เพิ่งถึงแรงค์ AA หรือขั้นที่ 7 เมื่อกลายมาเป็นอัศวินมรณะ เขาได้พลังเป็นแรงค์ S หรือมีพลังขั้นที่ 8

“ฉันไม่อยากเสียเวลา ถ้าพวกนายทนได้ 30 วินาที ผ่าน แต่ถ้าไม่ผ่านคือตาย มีใครจะรับการทดสอบไหม?”

“...”

เงียบ

การทดสอบที่ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน... มันคือการเลือกว่าจะตายหรือทนให้ได้ 30 วินาทีเพื่อเข้าร่วมอลันดาล

บางคนส่ายหน้าแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล แต่ส่วนใหญ่แค่ยืนดูสถานการณ์ พวกเขากำลังรอให้คังวูจินเสนอทางเลือกอื่น

“ผมจะเข้ารับการทดสอบ”

ตอนนั้นเอง เราส์คนหนึ่งเดินออกมาจากแถวข้างหลังอย่างโอ้อวด

วูจินเลิกคิ้ว

“โฮ่ ขั้นที่ 7”

นึกไม่ถึงว่าจะมีเราส์แรงค์ AA โผล่มา

วูจินเพิ่งเคยเห็นชายคนนี้เป็นครั้งแรก แต่คนอื่นไม่

“คิมคังชุล!”

“คิมคังชุลจริงๆด้วย”

เขาเป็นเราส์เบอร์ 1 ของเกาหลีก่อนที่คังวูจินจะปรากฏตัว

เราส์อิสระไม่มีสังกัดกิลด์ คิมคังชุลปรากฎตัว



สารบัญ                                             บทที่ 158


1 ความคิดเห็น: