บทที่ 117 – สภาพการณ์ของอลันดาล (2)
[จากนี้ไปเป็นข่าวคั่นรายการ นักการเมือง 57 รายที่เกี่ยวข้องกับการขีปนาวุธก่อการร้ายในสหรัฐถูกยืนยันตัวตน เราส์คังวูจินกำจัดบุคคลเหล่านี้ไป เรื่องที่นักการเมืองกลุ่มนี้จงใจทำให้เกิดดันเจี้ยนระเบิดและความเสียหายที่เกิดจากพวกเขาถูกเปิดเผย ความโกรธของประชาชน...]
จุงมินชานดูข่าวแล้วถอนหายใจ
“เมื่อไหร่ท่านประธานจะมา?”
“ไม่เกิน 30 นาทีครับ”
สถานีโซลไม่ไกลจากอาคารรัฐสภานัก ข่าวมีแต่เรื่องการฆ่า... การคอร์รัปชั่นและการทำผิดของนักการเมือง ทั้งหมดคือข้อมูลที่เมโลดี้นำมา
[ในการแถลงข่าว ประธานาธิบดีแสดงความขอบคุณหัวหน้ากิลด์อลันดาล คังวูจิน ทันทีที่การปฏิรูปสภาใหม่แล้วเสร็จ จะมีการลงประชามติว่ากิลด์อลันดาลควรแยกประเทศหรือไม่... ]
มินชานถามเฮมิน
“ผู้จัดการคิม ในอินเตอร์เน็ตพูดกันว่ายังไงมั่ง?”
“ไม่โกลาหลอย่างที่คิดครับ เรื่องที่คุยเป็นเรื่องของประธานเราทั้งนั้น แต่สิ่งที่นักการเมืองทำมันเลวเกิน ส่วนใหญ่เห็นใจท่านประธานเราว่าเขาทำถูกแล้ว”
“ขนาดเห็นที่เขาทำในข่าวแล้วน่ะนะ?”
คังวูจินจู่โจมรัฐสภา และถูกถ่ายทอดสด แต่ตอนนี้ความคิดเห็นของประชาชนไม่เลวร้ายนัก
“ครับ ก็ภาพที่เขาฆ่าพวกนั้นจริงๆไม่ถูกปล่อยออกมา...”
ไม่ใช่ว่าคังวูจินแสดงการฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยม เขาแค่แทงหัวใจนักการเมืองที่สมควรตาย การกระทำเช่นนี้เกิดกับสมาชิกสภาในรัฐสภานั้นน่าตกตะลึง แต่เหตุผลที่เขาทำชัดเจน
เหมือนมีใครเป็นคนสร้างฉากพวกนี้...
“เฮ้อ ท่านประธานนี่...”
ไม่ใช่ใครนอกจากท่านประธาน ถ้อยคำแสดงความเห็นชอบกับคังวูจินหลั่งไหลมาในสื่อต่างๆทำให้มินชานสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร
ถ้าใครดูข่าวคงคิดว่าคังวูจินคือวีรบุรุษ พวกเขาทำให้มันเหมือนคังวูจินรู้ล่วงหน้าว่าเกาหลีใต้ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง เขาตามหาและสังหารนักการเมือง 58 รายที่มีความเกี่ยวข้องลึกซึ้งกับผู้ก่อการร้าย เขาช่วยเกาหลีเอาไว้
“สำหรับพวกเราถือว่าโชคช่วยไม่ใช่เหรอครับ?”
“ใช่ แต่ฉันไม่รู้เรื่องแยกประเทศเลย...”
มินชานส่ายศีรษะ
อลันดาลได้อำนาจอธิปไตยมา... นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?
“ตัวอย่างก็มีวาติกันนี่ครับ?”
มินชานถอนหายใจเมื่อได้ยินคิมเฮมินพูด
วาติกันอยู่ในฐานะนครรัฐ แต่สถานะพิเศษทางศาสนาคือเหตุผลหลักที่มันมีเอกราช ไม่มีใครคาดคิดว่าประเทศแบบนี้จะเกิดในเกาหลี
“เฮ้อ ก็คงเป็นไปได้ล่ะนะ”
“เขาคุยกับประธานาธิบดีแล้วนะครับ”
คำพูดของเฮมินไม่ช่วยปลอบใจมินชานเลย ถ้าคังวูจินไม่ต่อรองกับประธานาธิบดีมาก่อน เขาคงไม่พูดเรื่องนี้ในงานแถลงข่าว
“เฮ้อ”
เรื่องสร้างปัญหานี่คังวูจินเก่งเกินใคร ทุกคนทั้งช็อกทั้งกลัวขณะรอให้ประธานกลับมา
ไม่นานรถที่ประธานนั่งก็มาถึงที่ทำงาน
สีหน้าวูซุงฮุนซีดเซียว สีหน้าลีคังจินแดงนิดๆ คังวูจินลงจากรถมีท่าทีไม่ต่างจากปกติแค่ดูง่วงนิดๆ
“อ้าว? พวกนายมาทำอะไรข้างนอก?”
วูจินถามเมื่อเห็นคนมารวมกันที่ลานจอดรถ มินชานเดินออกมา
“ท่านประธาน ทำไมถึงทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้?”
“พื้นตึกรัฐสภาไม่มีรอยเลือดเลยนะ”
พูดออกมาได้...ถ้าจะทำไปทำในอาคารยังดีกว่า ตอนผมเห็นถ่ายทอดสดการโจมตีสภารู้ไหมว่าหัวใจผมเต้นแรงขนาดไหน? โชคดีที่คนที่ถูกฆ่าเป็นคนเลว เป็นเรื่องแปลกที่วูจินได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษ...
“ท่านคุยกับประธานาธิบดีตั้งแต่เมื่อไหร่... ไปคุยกันข้างในเถอะ”
มินชานกำลังจะถามคำถามทั้งหมดในหัว แต่มีคนมากเกินไป เขาจึงพาวูจินไปที่ห้องประธานก่อน
ระหว่างเปลี่ยนที่ มินชานเห็นคนไม่รู้จักจึงถาม
“คุณคือ?”
“อ้อ ผมลีคังจิน ผมทำงานที่สำนักงานอัยการประจำเขตโซล...”
“อ๊ะ! ผู้พิพากษาลีคังจิน”
ผู้พิพากษาหนุ่มลีคังจินโด่งดังเรื่องไม่กลัวใคร คนที่สนใจด้านการเมืองอยู่บ้างจะได้ยินชื่อเขา มินชานจับมือเขา
“ผมจุงมินชาน รองประธานกิลด์อลันดาล”
“ได้ยินเรื่องคุณมามาก”
จุงมินชานนั้นได้รับความสนใจจากสาธารณะชนเทียบเท่ากับคังวูจิน อลันดาลทะยานมาเป็นประเด็นสำคัญในเวลาสั้นๆ และจุงมินชานเป็นผู้ดูแลการปฏิบัติงานทั่วไป เขาย่อมมีชื่อเสียงและมีภาพลักษณ์ดีทีเดียว
เขาไม่ใช่เราส์ เป็นคนธรรมดา ชื่อเสียงส่วนตัวดีขึ้นเรื่อยๆ เขานับเป็นหนึ่งในบุคคลชั้นยอดด้านการจัดสรรทรัพยากรสนับสนุนกิลด์ หลายๆบริษัทต้องการตัวเขา
วูจิน,มินชานและคนอื่นๆเข้าไปในห้องประธาน
ซุงกูออกมาจากดันเจี้ยนแล้ว สมาชิกรุ่นก่อตั้งทุกคนจึงอยู่กันครบ สตรีศักดิ์สิทธิ์ อัศวินเจมส์ ลีคังจินก็อยู่ในห้องด้วย
“ท่านประธาน เรื่องประกาศแยกประเทศนี่มันอะไรกัน?”
“เอ๊ะ? นายรู้ได้ไง?”
หน้าจุงมินชานยับยิ่งขึ้น
“ไม่มีใครไม่รู้หรอก ประธานาธิบดีเกาหลีประกาศไปแล้ว”
“อา เขาคงตัดสินใจได้แล้ว”
วูจินผงกศีรษะพลางนึกถึงประธานาธิบดีคิมบย็องแมนที่ฟังคำเตือนและคำแนะนำของเขา
“ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยยุติธรรมกับพวกนาย เพราะมีเรื่องต้องทำในดันเจี้ยนเยอะฉันเลยดูแลพวกนายไม่เต็มที่... มินชาน นายคงลำบากแย่...”
“ขอบคุณที่รับรู้เรื่องนี้ แต่ทำไมถึงแยกประเทศ...”
ถ้ารู้อยู่แล้วว่ามินชานลำบาก ทำไมไม่หยุดก่อเรื่องล่ะ?
“ถ้าไม่ทำ รัฐบาลก็มากวนเราไม่หยุดไม่ใช่เหรอ? ฉันตัดสินใจสร้างประเทศที่เราจะไม่ถูกรบกวน แบบนี้จะทำให้นายสบายขึ้น”
“...”
สร้างประเทศเพราะเหตุผลง่ายๆแค่นี้? จุงมินชายอึ้ง และประหลาดใจกับความสามารถในการวางแผนของวูจินยิ่งกว่า
“คุณพูดอะไรกับประธานาธิบดีกันแน่?”
“ฉันแค่ให้ข้อเสนอ ฉันบอกเขาว่าจะฆ่าเขาถ้าเขาขัดขวางไม่ให้ฉันตั้งประเทศ”
“...”
“ถ้าเขาไม่ทำอะไร ฉันบอกว่าจะเป็นพันธมิตรกับเขา”
เฮ้อ นี่สมควรเป็นความคิดของคนศตวรรษที่ 21 เหรอ? มินชายหน้าเหี่ยว แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์ชมวูจิน
“คุณใจกว้างจริงๆค่ะ”
“ใช่ไหมล่ะ? ฉันจะฆ่าให้หมดยังได้”
“...”
มินชานรวบรวมสติคืนมาอย่างยากลำบากและถามต่อ
“ประเทศน่ะไม่ใช่ว่าคิดจะตั้งก็ตั้งได้เลยนะ คุณตกลงอะไรไปเหรอ?”
วูจินทบทวนบทสนทนาระหว่างเขากับประธานาธิบดี
“เขาอยากทำสนธิสัญญา...”
“แล้วเนื้อหาของสนธิสัญญาคือ?”
“นายต้องเป็นคนคิด”
“...”
“ไหนนะ ถ้าจะสร้างประเทศเราต้องการอะไรบ้าง คุณคังจิน?”
ที่อัลเฟน เขาแค่ประกาศว่าเขาเป็นราชาก็จบ แต่สังคมสมัยใหม่ไม่ใช่แบบนั้น ถ้าจะทำก็ทำได้แต่ถ้าพวกเขาตั้งใจจะตั้งประเทศจริงๆก็ควรทำให้เรียบร้อย
“อย่างน้อยคุณต้องมีฝ่ายตุลาการ ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ”
“หืม”
วูจินถูกเรียกตัวไปตอนเขาเรียนมัธยมปลายปี 3
อัลเฟนแบ่งเป็นผู้ปกครองกับผู้ถูกปกครอง เขาเป็นหนึ่งเดียวที่ปกครองนานถึง 20 ปีที่อัลเฟน แต่ประชาชนของเขามีแต่อัศวินมรณะกับลิช...
“มินชาน”
“ครับ”
“นายเป็นนายกรัฐมนตรีไป”
“เฮ้อ...”
ประธาน ผมไม่อยากเลื่อนตำแหน่งเร็วขนาดนั้น
พระเจ้าครับ ทำไมท่านให้ผมมาอยู่ในตำแหน่งนี้ ท่านยกย่องความทะเยอทะยานของผมเกินไป
“ที่เหลือนายปรึกษากับคุณลีคังจินแล้วกัน”
“...”
ลีคังจินทำหน้างง
‘ทำไมฉัน...’
เขามาตามคำขอของประธานาธิบดี เขาถูกบอกให้มาเจอกับคังวูจินและให้คำปรึกษา แต่นึกไม่ถึง...
ไม่ใช่ทุกคนในห้องประธานตกตะลึง ซุงกูยิ้มกว้าง
“เฮะๆ ลูกพี่ แล้วผมล่ะ?”
“นายอยากทำอะไรล่ะ?”
“อืม ถ้าลูกพี่เป็นพระราชา ผมก็น่าจะอยู่ในหน่วยราชองครักษ์?”
“โอเค ซุงกูเป็นหัวหน้าหน่วยองครักษ์”
“เฮะๆ ผมต้องไปอวดในเน็ตแล้ว”
พอแรงค์ของเราส์สูงขึ้นไอคิวของซุงกูก็ลดลงเหรอ? ซุงกูพูดเสียงสดใสจนบรรยากาศในห้องประธานดีขึ้น
“ขอโทษครับ ท่านประธาน”
“อ้อ อยากได้ตำแหน่งอะไรล่ะ?”
ซุงฮุนตาเป็นประกาย
นี่ไงล่ะ นี่คือโอกาสครั้งเดียวในชีวิตที่จะไม่เกิดขึ้นอีก
ไม่ว่าเขาขออะไรเขาจะได้รับตามคำขอ
“ประเทศต้องมีทูตใช่ไหมล่ะครับ? ผมคิดว่า...ท่านก็รู้ว่าผมพูดเก่ง...”
“ได้ๆ เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศ? รัฐมนตรี? ตามที่นายสบายใจเลย”
“ผมจะบุกน้ำลุยไฟเพื่อประเทศของเราครับ”
ซุงฮุนมีสีหน้ากล้าหาญ
‘ผมทำได้แล้วแม่ ตระกูลวูต้องภูมิใจในตัวผม’
จุงมินชานส่ายศีรษะ
ถ้ากำลังเล่นกันอยู่ก็ดีสิ
วูจินทำตามคำพูดทุกอย่าง คำพูดของเขากลายเป็นความจริง นี่คือสิ่งที่มินชานกลัว การพูดคุยกันนี้จะเป็นพื้นฐานของการสร้างประเทศ...
“อย่างน้อยก็ขอเป้าหมายให้ผมด้วย”
มินชานตัดสินใจหยุดต่อต้าน เขาขอข้อมูลมากขึ้น
ในเมื่อประธานาธิบดีให้คำสัญญาแล้วจะเปลี่ยนใจคงยาก และถ้านึกถึงกรุงวาติกัน การที่ประเทศเล็กๆจะตั้งขึ้นในเกาหลีใต้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ขนาดและโครงสร้างประเทศก็คือกิลด์นั่นเอง พวกเขาก็แค่ได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศๆหนึ่ง
อย่างที่วูจินต้องการ เขาจะเป็นเจ้าของประเทศที่เขาไม่อยู่ใต้อำนาจใคร
“เป้าหมายอะไร?”
“ครับ จุดประสงค์ของพวกเรา อะไรคือสิ่งที่อาณาจักรอลันดาลต้องการ”
วูจินตอบอย่างไม่ลังเล
“สันติสุขของโลก”
“...”
ตลกเหรอ? หรือเอาจริง?
อย่างน้อยสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็ตัดสินใจจะยอมรับว่าเป็นความจริง
“ฉันไม่รู้จะพูดอย่างไรดีกับการตัดสินใจของท่านจ้าว”
ผู้ไม่ตายเห็นสันติสุขของโลกเป็นเรื่องสำคัญ
เขาคือตัวแทนของเทพแห่งการทำลาย... ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนที่นั่นจะมีแต่ความตายและสิ้นหวัง แต่ตอนนี้เขาเลือกจะปกป้อง
เขาเปลี่ยนไปมาก
และนี่เป็นเรื่องดีสำหรับโลกอัลเฟน คังวูจินทำเพื่อสันติสุขของโลก
วูจินเหลือบมองสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังตื้นตัน จากนั้นพูดกับมินชาน
“นายจัดการที่เหลือ ไม่ต้องคิดอะไรให้ใหญ่มาก”
“เข้าใจแล้ว”
จะไม่ให้คิดใหญ่คงเป็นไปไม่ได้ แต่มินชานตอบอย่างเชื่อฟัง
‘คราวนี้เขาคงไม่ก่อเรื่องใหญ่ไปกว่านี้’
เขาเป็นพระราชาไปแล้ว จะมีอะไรใหญ่กว่านี้อีกล่ะ? มินชานคิดจริงๆว่าในอนาคตจะไม่เกิดเรื่องใหญ่อะไรอีก
‘ฉันแค่ต้องผ่านตรงนี้ไปให้ได้’
เขาต้องสถาปนาประเทศ มันเป็นงานยากมาก แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะก่อกบฏในเกาหลี สิ่งเล็กๆอย่างกิลด์ได้อำนาจอธิปไตย และกิลด์เปลี่ยนเป็นประเทศ
ปัญหาคือสนธิสัญญาสันติภาพกับเกาหลี มินชานต้องสร้างขึ้นมา
“เอาล่ะ นายต้องทำงานหนักอีกนะนายกฯจุง...”
“นายกฯจุง”
จุงมินชานทวนคำพูดของวูจินแล้วแก้มแดงขึ้น หัวใจเขาเต้นแรงขึ้น ไม่ใช่เพราะกังวล
การก่อตั้งประเทศและสนธิสัญญาเป็นงานของมินชานและพนักงานกิลด์ ถ้าเขาไม่เก่ง เขาแค่ต้องหาคนที่เก่งด้านนี้
วูจินมีอีกอลันดาลที่ต้องดูแล แค่ปกครองอาณาเขตมิติเขาก็ยุ่งมากแล้ว
“ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอหน่อย”
วูจินมองสตรีศักดิ์สิทธิ์ เมโลดี้ทำหน้างง
“ค่ะ ท่านจ้าว...”
วูจินและเมโลดี้ลุกขึ้น
เขาสงสัยมาก สตรีศักดิ์สิทธิ์เป็นคนแรกที่ถูกพบในดันเจี้ยน เธอใช้ดันเจี้ยนมาที่โลกได้อย่างไร?
เขาสงสัยเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่กลายเป็นลอร์ดแห่งมิติ
วูจินเปิดอุโมงค์กลับอาณาเขตขึ้นมาตรงที่ว่างข้างที่ทำงานของเขา
“ตามฉันมา”
“ค่ะ...”
วูจินหายเข้าไปในอุโมงค์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ตามไป
อัศวินศักดิ์สิทธิ์ของโบสถ์อาเรียทุกคนมาจากกิลด์ไททัน
การปกป้องสตรีศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งสำคัญ แต่พวกเขาก็ถูกสั่งให้จับตามองเราส์คังวูจิน
“รายงานไททันเดี๋ยวนี้”
อัศวินศักดิ์สิทธิ์เจมส์พูด สมาชิกคนหนึ่งส่งข้อความไปยังเดคอน หัวหน้ากิลด์ไททัน อย่างรวดเร็ว
[คังวูจินตั้งประเทศอลันดาล]
ขอบคุณครับ
ตอบลบ