วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 116

บทที่ 116 – สภาพการณ์ของอลันดาล


เสียงสัญญาณเตือนภัยดัง ผู้คนหลั่งไหลออกมาจากอาคาร คนเปียกน้ำยืนบังทางออกเหมือนเป็นกำแพง

“เฮ้ หลีกทางสิ! ยืนทื่อกันอยู่ทำไม!”

ความอยากเอาชีวิตรอดของชอยเทโอนั้นสูงมาก เขาผลักคนจนล้มและออกมาข้างนอกได้ในที่สุด

“ดี ฉันยังไม่ตาย”

เขาไม่รู้ว่าไฟไหม้รุนแรงขนาดไหน แต่ย้ายไปอยู่ที่ปลอดภัยถือเป็นการรอบคอบกว่า เขารอเฉยไม่ได้

เขาไม่ไว้ใจระบบดับเพลิงของตึกรัฐสภา ความระแวงกับความกลัวตายของชอยเทโอนั้นบวมพอๆกับพุงของเขา

เมื่อเขาหลุดจากกลุ่มคนมาได้ก็เจอกับอากาศสดชื่น น้ำจากสปริงเกอร์ทำชุดสูทเปียกโชกเขาจึงรู้สึกไม่ดีนัก มีค่าซักแห้งที่เขาต้องจ่าย ชอยเทโอตัดสินใจซื้อเสื้อใหม่... ความใส่ใจในภาพลักษณ์ของเขาที่หายไปตอนหนีไฟไหม้คืนกลับมาแล้ว

“เฮ้ย! ทำไมจู่ๆมันถึงวุ่นวายขึ้นมา!”

ชอยเทโอตวาดถามคนอื่น เขาอยากรู้ว่าทำไมถึงเกิดไฟไหม้แต่ไม่มีใครตอบเขา ทุกคนยืนตัวแข็ง

“เอ๊ะ?”

คนที่ยืนตรงทางออกยืนหันหน้ามาทางชอยเทโอ

สองฝั่งมองกันอย่างน่าอึดอัด ที่จริงแล้วพวกเขามองด้านหลังชอยเทโอ ชอยเทโองงแล้วหันหลังไป

“เอ๊ะ?”

มีหลายคนนอนหลั่งเลือด ไม่ใช่ พวกเขากลายเป็นศพไปแล้ว เพื่อนสนิทของเขา ปาร์คโซกุคก็เป็นหนึ่งในนั้น

การสังหารหมู่เกิดขึ้นในสภาเกาหลี เมื่อเจอกับเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ ชอยเทโอไม่ร้องเอะอะและไม่โทรเรียกตำรวจ

“....”

เขาถอยหลังเข้าไปในฝูงชนเงียบๆ

เขากวาดตามองสถานการณ์ไปรอบๆ

อัศวินมรณะของคังวูจินที่เขาเห็นในห้องประชุมกำลังล้อมตึก และไม่ใช่แค่อัศวินมรณะ

‘ฉันเคยเห็นพวกมันที่อัฟกานิสถาน’

เขาเคยเห็นพวกมันในข่าวบ่อยจนเบื่อ กองทัพโครงกระดูกของคังวูจินซึ่งมีประมาณ 10,000 ตัว ดูท่าว่าคังวูจินจะสามารถเรียกพวกมันมาที่ไหนก็ได้ พวกมันจำนวนหลายพันกำลังล้อมรัฐสภา

สัญญาณเตือนภัยทำให้เขาหนีออกมาจากตึก แต่ตอนนี้เขายืนตะลึงมองเหล่าทหารโครงกระดูกทำการฆาตกรรม

ชายคนหนึ่งที่ยืนข้างชอยเทโอถามเสียงเบา

“เขามันบ้า คิดว่าหลังจากนี้เขาจะรอดตัวไปได้ยังไง?”

“นั่นน่ะสิ”

นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆแค่คนที่ไม่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับคนในสังคมสุดท้ายก็จะไม่มีความสุข เขาจะกลายเป็นศัตรูของเกาหลี... ไม่ใช่ เขาจะกลายเป็นอาชญากรตัวอันตราย นี่เป็นคนละเรื่องกับการกำจัดกลุ่มผู้ก่อการร้ายในตะวันออกกลาง

เขาฆ่าสมาชิกรัฐสภาที่ไม่มีความผิดอะไร...

โชคดี นี่ไม่ใช่การสังหารไม่เลือกหน้า

“พวกโครงกระดูกแยกคนที่จะฆ่าออกได้ด้วยเหรอ?”

“ผมไม่...”

ชายที่กำลังกระซิบตอบนิ่งไป อัศวินมรณะในเกราะดำกำลังนำโครงกระดูกกลุ่มหนึ่งมาหยุดตรงหน้าเขา

[ยืนยันเป้าหมาย]

อัศวินมรณะมองตรงมาที่ชอยเทโอ

“อ...อะไร?”

ชอยเทโอผงะถอยไปด้านหลัง ฝูงชนยืนเบียดกันแน่นจนเขาไม่มีที่ไป

“ห...หลีกทาง! ฉันชอยเทโอ! หลีก!”

เขาดิ้นรนแต่ทำได้แค่ให้คนหลีกทางให้ไม่กี่ก้าว อัศวินมรณะคว้าแขนของชอยเทโอ

ร่างของชอยเทโอขัดขืนเรี่ยวแรงของอัศวินมรณะไม่ได้เลย เขาถูกโยนขึ้นไปกลางอากาศและหล่นโครมบนพื้น

[ลากมันไปหาท่านจ้าว]

“เคะๆๆๆ”

ทหารโครงกระดูกรับคำสั่งอัศวินมรณะ พวกมันยึดแขนขาของชอยเทโอแล้วออกเดิน

“ป...ปล่อยนะ! พวกมอนสเตอร์สกปรก!”

ชอยเทโอดิ้น แต่ทหารโครงกระดูกเดินต่อไปพลางส่งเสียงน่าขนลุก พวกเขามาถึงที่ๆคังวูจินและศพจำนวนมากรออยู่

“คนที่ 32 เหรอ?”

ทหารโครงกระดูกหยุดตรงหน้าวูจินและโยนเทโอลงพื้น จากนั้นกระชากศีรษะเขาหงายขึ้น

“อั๊ก ปล่อยฉันนะ!”

เขารู้ว่าตะโกนไปก็ไม่มีประโยชน์แต่ก็ยังดิ้นรนเต็มที่ เขาเห็นอนาคตของตัวเอง เขาเห็นซากศพกระจัดกระจายบนพื้น

วูจินทวนความจำแล้วก็จำหน้านี้ได้

“มันคือชอยเทโอ จัดการมัน”

[รับบัญชา]

อัศวินมรณะถือหอกเดินมาใกล้ ชอยเทโอดิ้น

“ค...คุณทำแบบนี้ทำไม?”

“นายจะเข้าใจถ้าได้ดูข่าว”

“ถ...ถ้าคุณฆ่าผม ผมจะดูได้ยังไง!”

“แย่เลยนะ”

“แกคิดว่ามีพลังแล้วจะเป็นพระเจ้าเหรอ? อย่างน้อยก็ให้ฉันรู้เหตุผลสิโว้ย!”

ทำไมถึงเล่นกับชีวิตคนอื่นแบบนี้?

วูจินยิ้มเยาะให้กับคำพูดของชอยเทโอ

“นายเกี่ยวข้องกับลีซังโฮไม่ใช่เหรอ? นายยังได้กำไรตั้งมากจากดันเจี้ยนเบรก ที่สำคัญ นายมีส่วนกับการยิงจรวดฆ่าฉัน พวกนั้นไงล่ะเหตุผล”

ชอยเทโอลืมตากว้าง เขาไม่สนใจเหตุผล เขาแค่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ

“ฉันไม่เกี่ยว! ฉันบริสุทธิ์! แกฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ยังไง! กฎหมายจะว่ายังไง!”

“เหตุผลพวกนั้นเพียงพอกับการฆ่านาย”

ชอยเทโออยากกระอักเลือด มีคนบ้าขนาดนี้ด้วยเหรอ? นี่เกิดใจกลางเกาหลี ยิ่งกว่านั้นยังเป็นการฆาตกรรมหน้าอาคารรัฐสภา

“ไอ้บ้า! ที่นี่คือเกาหลีใต้ สาธารณรัฐเกาหลี! ทำแบบนี้แกคิดว่าจะรอดเหรอ?”

วูจินยักไหล่

“นายห่วงตัวเองดีกว่านะ”

“ไอ้...”

ไม่ว่าเขาพูดอะไรชายคนนี้ก็ไม่สนใจ คนบ้าแบบนี้โผล่มาได้ยังไง?

คังวูจิน เราส์แรงค์ AA ผู้พิทักษ์ของเกาหลี? ความหวังของโลก? แบบอย่างของเราส์?

เหลวไหลทั้งเพ ไอ้บ้าตรงหน้าเขาคือผู้ก่อการร้ายที่ใช้มอนสเตอร์ กล้าทำเรื่องโหดเหี้ยมขนาดนี้ในประเทศประชาธิปไตย...

[เจ้าล่วงเกินราชา]

หอกของอัศวินมรณะแทงหัวใจชอยเทโอ

“บ...บ้า...”

เสียงของเขาเงียบหายไป ชอยเทโอล้มลง วูจินฉีกเอกสารที่เกี่ยวกับชายคนนี้ทิ้ง ยังเหลือเอกสารอีกหลายใบในมือเขา

“พวกมันออกมาช้าจริง”

วูซุงฮุนอาเจียนจนหมดท้องไปแล้ว ซุงฮุนกับลีคังจินยืนอยู่ด้านหลังวูจินเงียบๆ วูซุงฮุนคิดถึงเรื่องหลายๆอย่าง

“เฮ้อ ถ้าตอนนั้นฉันขายออมเนียแทนกาแล็กซี่ แทนที่จะโดนตบคงโดนฆ่าไปแล้ว”

เขานึกถึงการพบกันครั้งแรกอันน่ากลัวของเขาในฐานะคนขายโทรศัพท์กับวูจินแล้วโล่งใจ

ลีคังจินก็มีหลายอย่างๆต้องคิดในหัวเช่นกัน

‘เขาบ้าหรือเปล่า?’

ลีคังจินเป็นคนที่เกลียดการเมืองเกาหลียิ่งกว่าใคร

เขารู้ว่าไม่มีนักการเมืองคนไหนมือสะอาด บางคนเขามองเป็นเศษสวะไม่สมควรมีชีวิตอยู่ แต่กฎหมายปกป้องคนพวกนี้...

ที่ลีคังจินทำได้ก็แค่ส่งพวกเขาเข้าคุกสักสองสามเดือน ซึ่งไม่ต่างจากส่งพวกเขาไปพักร้อน สิ่งเดียวที่มีผลก็คือทำให้ชื่อเสียงเสียหาย

แต่ คังวูจิน...

‘เขาเป็นนักปฏิวัติเหรอ?’

เขาจะถอนต้นตอเน่าๆของเกาหลี? เขาทำเรื่องนี้ลงไปทั้งๆที่รู้ว่าจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์เกาหลีว่าเป็นฆาตกรใจโฉด?

ระหว่างลีคังจินคิดหนักเรื่องการกระทำของคังวูจิน การประหารก็มาถึงจุดจบ

ไม่ นี่ไม่ใช่การแก้แค้นเสียทีเดียว มันเหมือนการเตือนมากกว่า

“ไปกันเถอะ”

วูจินก้าวเท้าเดินง่ายๆเหมือนการเลิกงานกลับบ้าน  วูซุงฮุนที่อาเจียนจนหมดแรงกับลีคังจินเดินตาม ซุงฮุนถามอย่างระมัดระวัง

“แบบนี้ไม่เป็นไรจริงๆเหรอครับท่านประธาน?”

วูซุงฮุนเป็นกังวลเพราะกล้องจับภาพพวกเขาไว้ทุกองศา พวกเขาจะไม่ถูกจับจริงๆเหรอ?

“ไม่เป็นไร ไปตามกล้องด้านโน้นมาที่นี่”

“ครับ”

วูซุงฮุนวิ่งไปทำตามคำสั่ง

สภาถูกอัศวินมรณะกับทหารโครงกระดูกล้อม และมีทหารล้อมกองทัพโครงกระดูก

ในกลุ่มทหาร ซุงฮุนเห็นตากล้องกับนักข่าว ขณะที่เขาเข้าไปใกล้พวกเขา ปืนหลายกระบอกเล็งมาทางเขา ซุงฮุนขาสั่น

“อย่าเข้ามานะ”

“ประธานของผมมีเรื่องจะพูด ขอกล้องไปให้เขาด้วยครับ”

“...”

หัวหน้าหน่วย พันเอกปาร์ค มีสีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ

พวกเขาทำเรื่องผิดปกติจนเกินกว่าจะเรียกว่าบ้าแล้วยังอยากได้กล้องอีก หรือจะบ้าจริงๆ?

“ผมจะไป”

ผู้บริหารเน็ตเวิร์คคิดว่านี่จะเป็นสกู๊ปพิเศษจึงวิ่งออกไป เขายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อข่าว นักข่าวกลืนน้ำลายแล้ววิ่งตามผู้บริหารไปกับตากล้อง

วูจินถามผู้บริหารเน็ตเวิร์ค

“นี่ถ่ายทอดสดใช่ไหม?”

“เอ๋? ครับ”

วูจินมองกล้องแล้วประกาศ

***

ประธานาธิบดีดูโทรทัศน์ด้วยกันกับเสนาธิบดีทำเนียบ เขายกเลิกการไปรัฐสภา

‘คำเตือนกับข้อเสนอ...’

คำที่คังวูจินพูดยังไม่หายไปจากความคิดเขา

“คุณคิดว่ายังไงกับเรื่องนี้?”

“เขาก่อกบฏร้ายแรงต่อประเทศของเรา”

เสนาธิการตอบอย่างแน่ใจ

ประธานาธิบดีส่ายหน้า

“ไม่ใช่ ผมถามเรื่องข้อเสนอของเขา”

“...นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมตัดสินใจได้...”

“ฮืม...”

นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ประหลาดมากขนาดนั้น แต่อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี การแบ่งเกาหลีเหนือใต้เป็นเรื่องเศร้าพอแล้ว ถ้าหากมีประเทศอื่นเกิดขึ้นมาอีก...

ประธานาธิบดีคิมบย็องแมนจมอยู่ในความคิดของเขาตอนที่เลขานุการของเขาคนหนึ่งวิ่งมาหา

“โทรศัพท์จากรัฐมนตรีกลาโหมครับ”

ไม่ต้องรับโทรศัพท์เขาก็รู้ว่าเรื่องอะไร

เขาสั่งให้กองทหารล้อมคังวูจิน และสั่งชัดเจนไม่ให้ทำอะไร

“ส่งมา”

คิมบย็องแมนรับโทรศัพท์ เสียงร้อนรนก็ดังขึ้น

[คังวูจินพูดว่าถ้าเราไม่คลายวงล้อมภายใน 5 นาทีเขาจะโจมตี ขอคำสั่งจู่โจมด้วยครับ เราต้องโจมตีก่อน]

เขาคิดว่าการโจมตีก่อนจะล้มคังวูจินได้เหรอ? แม้แต่กลุ่มผู้ก่อการร้ายในตะวันออกกลางยังแพ้เพราะพลังโจมตีไม่พอ

อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเกาหลีจริงๆ?

หลังจากคิดอย่างจริงจัง คิมบย็องแมนตอบ

“คลายวงล้อม”

[...เราไม่ควรทำอย่างนั้นนะครับ นี่เป็นการกบฏสูงสุดต่อประเทศ เราต้องลงโทษเขา]

“มีผู้เสียชีวิตกี่ราย?”

[57 รายครับ รวมผู้แทนปาร์คโซกุค]

คิมบย็องแมนตัดสินใจ คังวูจินทำตามที่สัญญาไว้จริงๆ

“ปล่อยพวกเขา นี่เป็นคำสั่ง”

[...ทราบแล้วครับ]

คิมบย็องแมนตัดสายแล้วพูดกับเลขานุการ

“เตรียมงานแถลงข่าว”

“ครับ”

คิมบย็องแมนถอนหายใจหนักหน่วง

***

พนักงานที่มารวมตัวกันในห้องประธานของอลันดาลแอบมองรองประธานจุงมินชาน เขานอนระทวยบนโซฟา สีหน้าของเขาเหมือนคนที่เสียบ้านเมืองตัวเองไป

อาการปวดศีรษะของเขารุนแรงจนยาไม่มีผล เขาจึงผูกเนคไทรอบศีรษะ

คิมเฮมินปลอบใจจุงมินชาน

“ยอมแพ้เถอะรองประธาน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประธานของเราก่อเรื่อง”

“เฮ้อ นี่มันคนละระดับกับการก่อเรื่องแล้ว...”

“...”

เฮมินเห็นด้วย

เรื่องของคังวูจินแปะอยู่ในข่าวทุกข่าว

“ว้าว ลูกพี่เป็นที่ 1 ในหัวข้อค้นหาอีกแล้ว”

ซุงกูหัวเราะแจ่มใสพลางยื่นสมาร์ทโฟนให้ดู รอยคล้ำรอบตาของมินชานยิ่งมืดขึ้นอีก

ทำไมเราส์ของกิลด์เราเป็นแบบนี้กันหมด?

คีย์เวิร์ดในลำดับค้นหาเต็มไปด้วยคำอย่าง คังวูจิน,อลันดาล,กบฏ,จู่โจมรัฐสภา,ฯลฯ

งานของจุงมินชานคือดูแลเหตุการณ์หลังคังวูจินก่อเรื่อง เขามีตำแหน่งรองประธาน แต่ความเครียดความกดดันจากงานนี้ไม่น้อยเลย ประธานของเขาชอบก่อเรื่องระดับโลก

“เอายาอีกเม็ดสิครับ”

“เฮ้อ ก็ได้”

เขารับยาคลายเครียดจากคิมเฮมินมาใส่ปากแล้วดื่มน้ำ

[ข่าวด่วน ประธานาธิบดีออกแถลงการณ์เมื่อไม่นานนี้ ท่านยอมรับการประกาศเอกราชของกิลด์อลันดาลและยอมรับอลันดาลในฐานะประเทศหนึ่ง อลันดาลจะมีอำนาจอธิปไตย...]

ปู้ด!

มินชานพ่นน้ำลงโต๊ะ เม็ดยาคลายเครียดกระเด็นลงพื้น ทุกคนหันมาสนใจเขาหลังจากการโชว์พ่นน้ำพุ

“ท...ท่านประธานคิดจะเป็นพระราชาจนได้”

เขาพึมพำเหมือนวิญญาณหลุดจากร่าง สตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ดูโทรทัศน์อยู่พูดขึ้น

“เขาเป็นราชาอยู่แล้ว”

เขาเป็นจ้าวแห่งอลันดาล สำหรับเธอ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เธอคิดว่ามีอาณาจักรกี่แห่งที่ตกอยู่ในกำมือของผู้ไม่ตาย เกาหลีรอบคอบที่ไม่ต่อต้านเขา

การสังเวยชีวิตคนเพียง 57 คนช่วยเกาหลีเอาไว้





สารบัญ                                       บทที่ 117


เนื้อเรื่องมันมืดลงๆ...


1 ความคิดเห็น: