บทที่ 95 – ผืนทรายสะเทือน (4)
ในอีกด้านหนึ่ง เมโลดี้รู้สึกแค้นเคืองวูจิน
“ทำไมตอนนั้นท่านถึงไม่โกรธแบบนี้?”
ผู้ไม่ตายในความทรงจำของเธอคือจ้าวแห่งอลันดาล
เขาเอาดินแดนรกร้างแห่งหนึ่งและประกาศเป็นอาณาเขตของเขา ตั้งชื่อว่าอลันดาล เขาไม่เคยปรารถนาในดินแดนอื่น ไม่เคยรุกรานอาณาเขตใด แต่ถ้าดินแดนของเขาถูกล่วงล้ำ เขาจะใช้พลังทั้งหมดที่มีตอบโต้ผู้ล่วงล้ำ
สิ่งเดียวที่เขาปกป้องคืออลันดาล
เมื่ออาณาจักรแตกเป็นเสี่ยง พวกเธอตั้งสหภาพขึ้นมาเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง แต่ผู้ไม่ตายปกป้องแต่อลันดาล ถ้าผู้ไม่ตายปกป้องอัลเฟนด้วย...ถ้า...
ตอนนี้อลันดาลจะปลอดภัยไหม?
“องค์เทพี ได้โปรดอย่าให้เขาโกรธไปกว่านี้...”
หากวูจินกลายเป็นศัตรูของคนบนโลก เขาอาจแยกตัวออกมาเป็นเพียงคนดู แล้วโลกก็จะกลายเป็นแบบเดียวกับอัลเฟน
คนบนโลกจะยุ่งอยู่แต่กับการรักษาตัวเอง จะไปคิดช่วยอัลเฟนได้หรือ?
“ได้โปรดให้ความโกรธของเขานำไปสู่ความพ่ายแพ้ของทราห์เน็ต...”
เมโลดี้เข้าใจแล้ว
วูจินไม่ใช่ผู้ช่วย เขาเป็นไม่ได้
เขาเป็นตัวแทนของทราช เทพแห่งการทำลาย
ถ้าจะขอความช่วยเหลือจากผู้ไม่ตาย ไปร่วมมือกับเผ่าอิมพ์น่ารังเกียจยังดีกว่า
เธอได้แต่หวังว่าความโกรธของเขาจะพุ่งไปยังทราห์เน็ต
เธอหวังให้เขาสังหารทำลายศัตรูของพวกเธอ
“ขอให้ความเป็นระเบียบเกิดขึ้นหลังจากการทำลาย...”
การแสดงความเคารพต่อเทพไม่ได้มีแต่การยกย่องและความรัก ความกลัวก็ด้วย
“ขอให้ผู้ไม่ตายกลายเป็นเทพแห่งการทำลาย...”
เมโลดี้หวังจากใจจริง
เธอไม่รู้ว่าคำขอของเธอจะสมหวังหรือไม่ เธอบอกไม่ได้ว่ารูปปั้นเทพีกำลังยิ้มหรือร้องไห้
***
ห้องบัญชาการของกลุ่มกบฏ
“โว้ย!”
คาริม หัวหน้ากลุ่มกบฏกำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“โครงกระดูกพวกนั้นมันอะไรวะ!”
ฐานทัพของพวกเขาถูกทำลาย กองกำลังที่ยึดเมืองก็เช่นกัน เมืองเป็นที่ๆมีพลเมืองรวมกับพวกต่อต้าน ดังนั้นกองทัพสหรัฐจึงไม่มีทางทิ้งระเบิดลงมาได้
แม้แต่กองทหารพื้นราบก็ไม่กล้าบุกลึกเข้ามาในเมือง สำหรับพวกต่อต้าน พลเมืองก็คือโล่ดีๆนี่เอง
แต่แล้วกองทัพโครงกระดูกก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ พวกมันถาโถมเข้ามาในเมือง
ปืนใช้กับพวกมันไม่ได้ผล โครงกระดูกน่ารังเกียจพวกนั้นเหมือนโผล่มาจากดันเจี้ยน หนำซ้ำยังมีความสามารถแยกแยะผู้ต่อต้านกับพลเมืองออก
แต่ใช่ว่าพวกโครงกระดูกจะปล่อยพลเมืองไว้
ไม่สำคัญว่าเป็นฝ่ายไหน พวกโครงกระดูกฆ่าทุกคนที่ขัดขืน
และที่แย่ที่สุดคือพวกบ้านี่มุ่งตรงมาที่เขา
เมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย คาริมจะย้ายไปตามที่ซ่อนต่างๆ แต่เจ้าพวกบ้านี่จะเปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้ามาที่เขาเสมอ
‘ตำแหน่งของฉันถูกเปิดเผย’
ไม่รู้ว่าพวกมันใช้วิธีอะไร แต่พวกบ้านี่มุ่งหน้ามาที่เขา
มีนักข่าวสงครามตามทำข่าวกองทัพโครงกระดูก ดังนั้นเขาจึงแน่ใจว่าเป้าหมายของพวกมันคือตัวเขาเอง
ถ้าหนีไม่ได้ก็มีแต่ต้องสู้
ยิ่งเร็วยิ่งดี ก่อนที่กองกำลังของเขาจะถูกทำลายไปจนหมด
อีกอย่าง พวกมันใช้ศพปลุกโครงกระดูกขึ้นมา ยิ่งนานจำนวนโครงกระดูกไม่มีทางน้อยลงมีแต่จะมากขึ้น
“รวบรวมคนเสร็จแล้วครับ”
“ออกไปข้างนอกเถอะ”
เขาเคยแต่ออกคำสั่งจากที่มืด แต่ตอนนี้เขาต้องออกไปกับกองกำลังต่อต้านของเขา เพราะพวกมันมีวิธีตามหาเขาเจอ ถ้าเอาแต่หลบเฉยๆไม่ทำอะไรสุดท้ายเขาก็ตาย
ไม่ได้หมายความว่าอาวุธของพวกเขามีน้อย
ฉันจะแสดงให้พวกมันเห็น
ตัวแทนของพระเจ้า คาริม เดินออกจากที่ซ่อน โดยไม่รู้เลยว่าเงาของเขากำลังยิ้ม
***
พวกนักข่าวไปอยู่ตรงยอดเขาแห่งหนึ่ง
ตอนแรกมีแค่ทอมกับนักข่าวสงครามสามคน ตอนนี้นักข่าวที่ตามวูจินเพิ่มเป็น 30 คนแล้ว เครื่องไม้เครื่องมือของพวกเขาถูกส่งมา ให้ถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เน็ตยังได้
มีรถสำหรับทำข่าว 5 คัน
พวกเขาอยู่ห่างไปพอควรเพื่อไม่ให้ถูกโจมตีจากศัตรู แต่ตรงนี้ไม่มีสิ่งกีดขวางจึงสามารถจับภาพทุกอย่างบนสนามรบได้ด้วยกล้องคุณภาพสูง
[ศึกครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเรา]
ข่าวของนักข่าวทอมมีคนดูมากเป็นประวัติการณ์ เสียงของเขาส่งผ่านคนทั่วโลก
[นี่คือการเตือนผู้ก่อการร้ายอย่างเด็ดขาด นี่คือเป้าหมายเดียวของเขา]
กล้องจับไปที่วูจินนำกองทัพผีดิบอย่างห้าวหาญ เขาขี่ม้าปีศาจไปช้าๆ ล้อมรอบด้วยอัศวินมรณะ เหมือนแม่ทัพกำลังมุ่งหน้าสู่สงคราม
[เนโครแมนเซอร์ คังวูจิน นี่คือข้อความที่เขาบอกต่อโลก]
กล้องหันไปที่กลุ่มกบฏ มีรถถังเรียงเป็นแถว มีกระทั่งรถขนจรวด มองเห็นร่องรอยการใช้เวทย์มนตร์ คงมีพวกเราส์อยู่ในกลุ่มกบฏด้วย พวกเขาไม่ได้ใส่เครื่องแบบเหมือนกัน ไม่มีเครื่องมือเงางาม แต่กลุ่มกบฏมีมากกว่าหมื่นคน พลังของพวกเขาไม่อาจดูถูกได้
[เขาปลุกกองทัพขึ้นมาเพื่อจบการก่อการร้าย]
กล้องหันไปทางหน้าทอม
[สหรัฐอเมริกาและสหประชาชาติเจรจากันเรื่องส่งกำลังช่วยเหลือมา แต่ยังไม่มีการตัดสินใจชัดเจน แต่ครั้งนี้ คังวูจินกำลังเตรียมจบสงครามครั้งสุดท้าย]
ทอมพูดต่ออย่างจริงจัง
[ผมเชื่อว่าต้องมีคนระแวงสงสัยในตัวเนโครแมนเซอร์ที่บงการกองทัพอันเหลือเชื่อนี้]
[แต่ผมเป็นผู้สื่อข่าวสงครามมาตลอด 15 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นความหวังท่ามกลางความสิ้นหวัง]
กล้องหันไปทางกองทัพผีดิบ
มีทหารโครงกระดูกมากกว่าหมื่น มีกระทั่งนักเวทย์โครงกระดูกในชุดคลุมดำจำนวนหลายร้อย
กล้องซูมเข้าจับภาพของคังวูจิน
[ผมหวังจริงๆว่าเขาจะเปลี่ยนจากราชาของผู้ตายเป็นเทพองค์หนึ่ง]
การต่อสู้กำลังเริ่มขึ้น
[ถ้าเขาชนะ ผมจะนับถือเขาเป็นเทพ]
จบคำ น้ำตาของทอมก็ไหล
***
วูจินขี่ชิงชิงให้มันวิ่งตามสบาย อัศวินมรณะอยู่ล้อมรอบเขา พาหนะของคิบะใหญ่กว่าม้าปีศาจตัวอื่นราวครึ่งตัว มันเป็นหมาป่า
[ข้าไม่นึกเลยว่าจะได้วิ่งไปกับราชาอีกครั้ง!]
แม้แต่ในหมู่ออร์คซึ่งชื่นชอบสงคราม คิบะก็ยังเป็นนักรบที่เก่งกล้าที่สุด เขาสู้ในสงครามนับไม่ถ้วน เขาตื่นเต้นนักกับสงครามเบื้องหน้าที่จะได้สู้อยู่แนวหน้ากับผู้ไม่ตาย
“อา นายเตรียมรอได้เลย”
วูจินยิ้มน้อยๆ
หลังจากได้อาชีพวอริเออร์ วูจินต้องอยู่ข้างหลังอีกต่อไป หน้าที่หลักของเขายังเป็นสร้างกองทัพแต่คราวนี้เขาไม่อ่อนแออีกแล้ว
[วะฮ่าๆๆ ท่านจ้าวของเรากลายเป็นราชาตัวจริงแล้ว]
แรนซัมยินดีกับอาชีพสองอาชีพของวูจินที่สุด อัศวินมรณะตนอื่นก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน
พวกมันกำลังกวาดล้างฐานทัพของกลุ่มกบฏ ตอนนี้เลเวลเฉลี่ยจึงเพิ่มเป็น 20 อัศวินมรณะแต่ละตนบังคับทหารโครงกระดูกประมาณ 200 ตัว วูจินส่งทหารโครงกระดูกเกือบหมื่นให้
วูจินต้องการค่าบงการเพียง 1 แต้มสำหรับอัศวินมรณะแต่ละตน ค่าบงการอีกส่วนใช้บงการกาเกบิ โดลเซ ชิงชิงและบิบิ ส่วนที่เหลือใช้เรียกนักเวทย์โครงกระดูก
ตอนนี้นักเวทย์โครงกระดูกมี 1,200 ตัว
ถ้าเขาได้ชุดเซ็ททราช เขาจะเรียกนักเวทย์โครงกระดูกเพิ่มได้อีกหลายเท่า แต่เท่านี้ก็ไม่แย่แล้ว
“เสียดายเจนิสไม่อยู่ด้วย”
ถ้าลิช เจนิส อยู่ที่นี่ การสู้ศึกขนาดใหญ่ก็ยิ่งง่าย แต่ไม่เป็นไร หลังจากกลับเกาหลี วูจินจะเพิ่มเลเวลเป็น 80 ในเวลาไม่นานโดยเข้าดันเจี้ยนกับซุงกูและเฮซอล
“ดูเหมือนพวกมันจะออกมาแล้วนะ”
วูจินรู้สึกว่าพลังงานของกาเกบิเข้มข้นขึ้น เขาจึงรู้ว่าหัวหน้ากลุ่มกบฏออกมาจากที่ซ่อนใต้ดินแล้ว
“ไปหาพวกมันกันเถอะ“
วูจินเรียกอาวุธแล้วเปลี่ยนเป็นค้อน
ชิงชิงพ่นลมหายใจแล้ววิ่งไปข้างหน้า ทหารโครงกระดูกเริ่มครอบคลุมพื้นที่
[ข้าอดใจไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ข้าวิ่งเคียงข้างราชา!]
[มันคือเทศกาล เทศกาลแห่งเลือด!]
วูจินยิ้มใส่พวกอัศวินมรณะที่กำลังคุยกันอย่างตื่นเต้น กองทัพผีดิบมากกว่า 10,000 ตนทำให้เขาเกือบคิดไปว่าตัวเองอยู่ที่อัลเฟน
บรรดาอสูรของเขาคิดถึงวูจินบนโลก ในขณะเดียวกัน พวกมันไม่อาจลืมผู้ไม่ตายของอัลเฟน
สำหรับวูจินนี่เหมือนความทรงจำที่ห่างไกล เขาเคยอยู่อย่างชั่วร้าย นี่เป็นเรื่องสิ่งที่เขาไม่อาจทำได้อีก นรกยังไม่จบ ยิ่งกว่านั้นเขากำลังจะเปิดทางสู่นรกกับมือเขาเอง และไม่รู้ว่าเส้นทางนี้จะจบตรงไหน
“กวาดล้างพวกมันให้หมด!”
ชิงชิงวิ่งเต็มแรง
[ตามราชาไป!]
หมาป่าของคิบะตามหลังวูจิน ตามด้วยรัคโตและแรมซัน อัศวินมรณะเร่งม้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ห่ากระสุนไร้ประโยชน์สาดใส่พวกมัน จรวดยิงใส่พวกมันอย่างอันตรายขึ้นมาบ้าง
อัศวินมรณะแต่ละตนมีทักษะเฉพาะที่มีประโยชน์ พวกมันจึงไม่ตายแค่จากจรวด แต่ระเบิดกำจัดทหารโครงกระดูกไปได้บ้าง
รถถังเล็งแล้วยิง
ม้าปีศาจเคลื่อนที่อย่างลึกลับซับซ้อน ขัดกับกฎฟิสิกส์ทั้งหมด พวกมันหลบกระสุน พอเข้าไปใกล้รถถังได้ก็ไม่มีปัญหาอีกต่อไป
เฮลิคอปเตอร์ 5 ลำกลางอากาศน่าเป็นห่วงกว่า
เฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดไปทางทหารโครงกระดูกด้านหลัง วูจินใช้ทักษะควบวิญญาณ
เหล่าผีปรากฏขึ้นกลางอากาศ ชิงชิงเหยียบพวกมันขึ้นไป เมื่อเข้าไปใกล้เฮลิคอปเตอร์ วูจินเรียกหอกกระดูกแล้วขว้าง
กระจกหน้าแตก หอกกระดูกพุ่งเสียบหัวใจคนขับเฮลิคอปเตอร์ มันหมุนอย่างเสียการควบคุม วูจินเรียกโดลเซมาดูดมันเข้าไป
เหล็กถูกบดขยี้ คนข้างในถูกผลักออกมา ใบพัดยังหมุนไม่หยุด เอียงไปทางเฮลิคอปเตอร์ลำอื่น
มันชนกับเฮลิคอปเตอร์ลำอื่น ลำตัวถูกบดเหมือนลำแรกแล้วถูกโดลเซดูดเข้าไป
[โก!]
โดลเซคำราม ดูดพลังเวทย์ของไปทีเดียว พลังงานตรงกลางของโดลเซดึงเฮลิคอปเตอร์ที่เหลือไปสร้างเป็นร่างกายของโกเลม
โกเลมเหล็กติดใบพัด เหมือนนักดาบที่ติดดาบหลายเล่ม
โดลเซหล่นลงพื้นแล้วออกวิ่งอย่างบ้าคลั่ง จรวดรอบเอวของเขายิงใส่ศัตรู
ถูกอาวุธหนักยิงใส่อย่างคาดไม่ถึงทำให้ศัตรูปั่นป่วน
อย่าคิดว่าม้าปีศาจมีไว้ขี่อย่างเดียว พวกมันวิ่งเร็วกว่ารถสปอร์ตและเหยียบรถถังแหลกได้
ขณะด้านหน้าทำลายล้าง นักเวทย์โครงกระดูกก็เข้ามาใกล้แล้วยิงเวทย์
บอลไฟเป็นร้อยๆทำให้ที่ๆมีกบฏอยู่กลายเป็นทะเลเพลิง อัศวินมรณะฟาดฟันในสนามรบ สร้างนรกบนดิน
***
ผู้ต่อต้านที่กำลังยิงปืนไรเฟิลเริ่มตัวสั่นเทา
“นี่...ต้องเป็นฝันร้ายแน่ๆ”
“ฝันร้ายน่ารักอย่างเราหาไม่ง่ายนะเมี้ยว”
“อ๊าก”
ผู้ต่อต้านขวัญเสียเมื่อเห็นแมวพูดได้ พอสบตากับแมวตัวนั้นก็สลบไป
“ขอให้ฝันร้ายน่ารักๆนะเมี้ยว”
ความกลัวที่เขารู้สึกอยู่จะกลายเป็นความฝัน
คงอีก 100 ปี? กว่าจะรู้ตัวว่าฝันไปเขาก็ตายไปแล้ว...
“เมี้ยว”
บิบิหันไปหาเหยื่อรายต่อไป
***
“บ้าชัดๆ”
หัวหน้ากลุ่มกบฏ คาริม หยุดสั่น ความจริงตรงหน้ามันบ้าเกินไปจนเขาไม่รู้สึกกลัว
พวกเขาทำลายโครงกระดูกไป 2,000 ตัว
แต่พวกเขาทำลายไอ้พวกที่ขี่ม้าได้เลย โครงกระดูกที่ถูกทำลายไปก็เกิดใหม่อีกครั้งด้วยศพของฝ่ายเขา
สนามรบค่อยๆสงบลง
มีแต่เสียงปืนไกลๆ เสียงกรีดร้อง เสียงหัวเราะของพวกผีดิบ โครงกระดูกสังหารทุกคนไม่เหลือ
คังวูจินเข้าใกล้คาริมช้าๆ
‘มันนี่เอง’
เจ้าของกองทัพผีดิบ เนโครแมนเซอร์ที่ไม่เคยมีมาก่อนและทรงพลัง
เขาหนี เขาซ่อนไม่รู้กี่ครั้ง แต่มันตามเขาไม่หยุด
“พระเจ้าต้องโกรธแน่!”
คาริมตะโกนเหมือนสิ้นหวัง
“พระเจ้าจะโกรธทำไม ฉันแค่เก็บกวาดขยะ”
“...พระเจ้าจะลงโทษพวกแก...”
ค้อนในมือวูจินกระแทกหัวคาริม
หัวหน้ากลุ่มกบฏไม่มีค่าเป็นตัวประกัน ชายคนนี้เปลี่ยนความเชื่อให้เข้ากับความคิดตัวเอง วูจินไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องคุยด้วย
เขาฆ่าคนที่สมควรตาย ง่ายๆแค่นั้น
เลือดจากค้อนหยดลงพื้น
“ออกมา”
กาเกบิออกมาจากศพของคาริมแล้วกลับไปที่วูจิน เขาฟังรายงานจากกาเกบิ แล้วประสบการณ์ต่างๆที่กาเกบิรวบรวมตอนตามคาริมก็ถูกวูจินกลืนเข้าไป
มีผู้ก่อการร้ายที่อื่นนอกจากในอัฟกานิสถาน
“โลกนี้มีขยะเยอะจริง”
วูจินหัวเราะขมแล้วสะสางสนามรบต่อ
บรรยากาศช่วงแรกๆกลับมาแล้ว นี่สิวูจินที่เรารู้จัก หลังจากปั้นเด็กมานานก็ได้ลุยแบบเดือดๆซักที
ตอบลบแล้วก็กลับไปปั้นเด็กต่อ XD
ลบมาไทยด้วยนะคับ
ตอบลบ