วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 95

บทที่ 95 – ผืนทรายสะเทือน (4)


ในอีกด้านหนึ่ง เมโลดี้รู้สึกแค้นเคืองวูจิน

“ทำไมตอนนั้นท่านถึงไม่โกรธแบบนี้?”

ผู้ไม่ตายในความทรงจำของเธอคือจ้าวแห่งอลันดาล

เขาเอาดินแดนรกร้างแห่งหนึ่งและประกาศเป็นอาณาเขตของเขา ตั้งชื่อว่าอลันดาล เขาไม่เคยปรารถนาในดินแดนอื่น ไม่เคยรุกรานอาณาเขตใด แต่ถ้าดินแดนของเขาถูกล่วงล้ำ เขาจะใช้พลังทั้งหมดที่มีตอบโต้ผู้ล่วงล้ำ

สิ่งเดียวที่เขาปกป้องคืออลันดาล

เมื่ออาณาจักรแตกเป็นเสี่ยง พวกเธอตั้งสหภาพขึ้นมาเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง แต่ผู้ไม่ตายปกป้องแต่อลันดาล ถ้าผู้ไม่ตายปกป้องอัลเฟนด้วย...ถ้า...

ตอนนี้อลันดาลจะปลอดภัยไหม?

“องค์เทพี ได้โปรดอย่าให้เขาโกรธไปกว่านี้...”

หากวูจินกลายเป็นศัตรูของคนบนโลก เขาอาจแยกตัวออกมาเป็นเพียงคนดู แล้วโลกก็จะกลายเป็นแบบเดียวกับอัลเฟน

คนบนโลกจะยุ่งอยู่แต่กับการรักษาตัวเอง จะไปคิดช่วยอัลเฟนได้หรือ?

“ได้โปรดให้ความโกรธของเขานำไปสู่ความพ่ายแพ้ของทราห์เน็ต...”

เมโลดี้เข้าใจแล้ว

วูจินไม่ใช่ผู้ช่วย เขาเป็นไม่ได้

เขาเป็นตัวแทนของทราช เทพแห่งการทำลาย

ถ้าจะขอความช่วยเหลือจากผู้ไม่ตาย ไปร่วมมือกับเผ่าอิมพ์น่ารังเกียจยังดีกว่า

เธอได้แต่หวังว่าความโกรธของเขาจะพุ่งไปยังทราห์เน็ต

เธอหวังให้เขาสังหารทำลายศัตรูของพวกเธอ

“ขอให้ความเป็นระเบียบเกิดขึ้นหลังจากการทำลาย...”

การแสดงความเคารพต่อเทพไม่ได้มีแต่การยกย่องและความรัก ความกลัวก็ด้วย

“ขอให้ผู้ไม่ตายกลายเป็นเทพแห่งการทำลาย...”

เมโลดี้หวังจากใจจริง

เธอไม่รู้ว่าคำขอของเธอจะสมหวังหรือไม่ เธอบอกไม่ได้ว่ารูปปั้นเทพีกำลังยิ้มหรือร้องไห้

***

ห้องบัญชาการของกลุ่มกบฏ

“โว้ย!”

คาริม หัวหน้ากลุ่มกบฏกำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“โครงกระดูกพวกนั้นมันอะไรวะ!”

ฐานทัพของพวกเขาถูกทำลาย กองกำลังที่ยึดเมืองก็เช่นกัน เมืองเป็นที่ๆมีพลเมืองรวมกับพวกต่อต้าน ดังนั้นกองทัพสหรัฐจึงไม่มีทางทิ้งระเบิดลงมาได้

แม้แต่กองทหารพื้นราบก็ไม่กล้าบุกลึกเข้ามาในเมือง สำหรับพวกต่อต้าน พลเมืองก็คือโล่ดีๆนี่เอง

แต่แล้วกองทัพโครงกระดูกก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ พวกมันถาโถมเข้ามาในเมือง

ปืนใช้กับพวกมันไม่ได้ผล โครงกระดูกน่ารังเกียจพวกนั้นเหมือนโผล่มาจากดันเจี้ยน หนำซ้ำยังมีความสามารถแยกแยะผู้ต่อต้านกับพลเมืองออก

แต่ใช่ว่าพวกโครงกระดูกจะปล่อยพลเมืองไว้

ไม่สำคัญว่าเป็นฝ่ายไหน พวกโครงกระดูกฆ่าทุกคนที่ขัดขืน

และที่แย่ที่สุดคือพวกบ้านี่มุ่งตรงมาที่เขา

เมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย คาริมจะย้ายไปตามที่ซ่อนต่างๆ แต่เจ้าพวกบ้านี่จะเปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้ามาที่เขาเสมอ

‘ตำแหน่งของฉันถูกเปิดเผย’

ไม่รู้ว่าพวกมันใช้วิธีอะไร แต่พวกบ้านี่มุ่งหน้ามาที่เขา

มีนักข่าวสงครามตามทำข่าวกองทัพโครงกระดูก ดังนั้นเขาจึงแน่ใจว่าเป้าหมายของพวกมันคือตัวเขาเอง
ถ้าหนีไม่ได้ก็มีแต่ต้องสู้

ยิ่งเร็วยิ่งดี ก่อนที่กองกำลังของเขาจะถูกทำลายไปจนหมด

อีกอย่าง พวกมันใช้ศพปลุกโครงกระดูกขึ้นมา ยิ่งนานจำนวนโครงกระดูกไม่มีทางน้อยลงมีแต่จะมากขึ้น

“รวบรวมคนเสร็จแล้วครับ”

“ออกไปข้างนอกเถอะ”

เขาเคยแต่ออกคำสั่งจากที่มืด แต่ตอนนี้เขาต้องออกไปกับกองกำลังต่อต้านของเขา เพราะพวกมันมีวิธีตามหาเขาเจอ ถ้าเอาแต่หลบเฉยๆไม่ทำอะไรสุดท้ายเขาก็ตาย

ไม่ได้หมายความว่าอาวุธของพวกเขามีน้อย

ฉันจะแสดงให้พวกมันเห็น

ตัวแทนของพระเจ้า คาริม เดินออกจากที่ซ่อน โดยไม่รู้เลยว่าเงาของเขากำลังยิ้ม

***

พวกนักข่าวไปอยู่ตรงยอดเขาแห่งหนึ่ง

ตอนแรกมีแค่ทอมกับนักข่าวสงครามสามคน ตอนนี้นักข่าวที่ตามวูจินเพิ่มเป็น 30 คนแล้ว  เครื่องไม้เครื่องมือของพวกเขาถูกส่งมา ให้ถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เน็ตยังได้

มีรถสำหรับทำข่าว 5 คัน

พวกเขาอยู่ห่างไปพอควรเพื่อไม่ให้ถูกโจมตีจากศัตรู แต่ตรงนี้ไม่มีสิ่งกีดขวางจึงสามารถจับภาพทุกอย่างบนสนามรบได้ด้วยกล้องคุณภาพสูง

[ศึกครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเรา]

ข่าวของนักข่าวทอมมีคนดูมากเป็นประวัติการณ์ เสียงของเขาส่งผ่านคนทั่วโลก

[นี่คือการเตือนผู้ก่อการร้ายอย่างเด็ดขาด นี่คือเป้าหมายเดียวของเขา]

กล้องจับไปที่วูจินนำกองทัพผีดิบอย่างห้าวหาญ เขาขี่ม้าปีศาจไปช้าๆ ล้อมรอบด้วยอัศวินมรณะ เหมือนแม่ทัพกำลังมุ่งหน้าสู่สงคราม

[เนโครแมนเซอร์ คังวูจิน นี่คือข้อความที่เขาบอกต่อโลก]

กล้องหันไปที่กลุ่มกบฏ มีรถถังเรียงเป็นแถว มีกระทั่งรถขนจรวด มองเห็นร่องรอยการใช้เวทย์มนตร์ คงมีพวกเราส์อยู่ในกลุ่มกบฏด้วย พวกเขาไม่ได้ใส่เครื่องแบบเหมือนกัน ไม่มีเครื่องมือเงางาม แต่กลุ่มกบฏมีมากกว่าหมื่นคน พลังของพวกเขาไม่อาจดูถูกได้

[เขาปลุกกองทัพขึ้นมาเพื่อจบการก่อการร้าย]

กล้องหันไปทางหน้าทอม

[สหรัฐอเมริกาและสหประชาชาติเจรจากันเรื่องส่งกำลังช่วยเหลือมา แต่ยังไม่มีการตัดสินใจชัดเจน แต่ครั้งนี้ คังวูจินกำลังเตรียมจบสงครามครั้งสุดท้าย]

ทอมพูดต่ออย่างจริงจัง

[ผมเชื่อว่าต้องมีคนระแวงสงสัยในตัวเนโครแมนเซอร์ที่บงการกองทัพอันเหลือเชื่อนี้]

[แต่ผมเป็นผู้สื่อข่าวสงครามมาตลอด 15 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นความหวังท่ามกลางความสิ้นหวัง]

กล้องหันไปทางกองทัพผีดิบ

มีทหารโครงกระดูกมากกว่าหมื่น มีกระทั่งนักเวทย์โครงกระดูกในชุดคลุมดำจำนวนหลายร้อย

กล้องซูมเข้าจับภาพของคังวูจิน

[ผมหวังจริงๆว่าเขาจะเปลี่ยนจากราชาของผู้ตายเป็นเทพองค์หนึ่ง]

การต่อสู้กำลังเริ่มขึ้น

[ถ้าเขาชนะ ผมจะนับถือเขาเป็นเทพ]

จบคำ น้ำตาของทอมก็ไหล

***

 วูจินขี่ชิงชิงให้มันวิ่งตามสบาย อัศวินมรณะอยู่ล้อมรอบเขา พาหนะของคิบะใหญ่กว่าม้าปีศาจตัวอื่นราวครึ่งตัว มันเป็นหมาป่า

[ข้าไม่นึกเลยว่าจะได้วิ่งไปกับราชาอีกครั้ง!]

แม้แต่ในหมู่ออร์คซึ่งชื่นชอบสงคราม คิบะก็ยังเป็นนักรบที่เก่งกล้าที่สุด เขาสู้ในสงครามนับไม่ถ้วน เขาตื่นเต้นนักกับสงครามเบื้องหน้าที่จะได้สู้อยู่แนวหน้ากับผู้ไม่ตาย

“อา นายเตรียมรอได้เลย”

วูจินยิ้มน้อยๆ

หลังจากได้อาชีพวอริเออร์ วูจินต้องอยู่ข้างหลังอีกต่อไป หน้าที่หลักของเขายังเป็นสร้างกองทัพแต่คราวนี้เขาไม่อ่อนแออีกแล้ว

[วะฮ่าๆๆ ท่านจ้าวของเรากลายเป็นราชาตัวจริงแล้ว]

แรนซัมยินดีกับอาชีพสองอาชีพของวูจินที่สุด อัศวินมรณะตนอื่นก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน

พวกมันกำลังกวาดล้างฐานทัพของกลุ่มกบฏ ตอนนี้เลเวลเฉลี่ยจึงเพิ่มเป็น 20 อัศวินมรณะแต่ละตนบังคับทหารโครงกระดูกประมาณ 200 ตัว วูจินส่งทหารโครงกระดูกเกือบหมื่นให้

วูจินต้องการค่าบงการเพียง 1 แต้มสำหรับอัศวินมรณะแต่ละตน ค่าบงการอีกส่วนใช้บงการกาเกบิ โดลเซ ชิงชิงและบิบิ ส่วนที่เหลือใช้เรียกนักเวทย์โครงกระดูก

ตอนนี้นักเวทย์โครงกระดูกมี 1,200 ตัว

ถ้าเขาได้ชุดเซ็ททราช เขาจะเรียกนักเวทย์โครงกระดูกเพิ่มได้อีกหลายเท่า แต่เท่านี้ก็ไม่แย่แล้ว

“เสียดายเจนิสไม่อยู่ด้วย”

ถ้าลิช เจนิส อยู่ที่นี่ การสู้ศึกขนาดใหญ่ก็ยิ่งง่าย แต่ไม่เป็นไร หลังจากกลับเกาหลี วูจินจะเพิ่มเลเวลเป็น 80 ในเวลาไม่นานโดยเข้าดันเจี้ยนกับซุงกูและเฮซอล

“ดูเหมือนพวกมันจะออกมาแล้วนะ”

วูจินรู้สึกว่าพลังงานของกาเกบิเข้มข้นขึ้น เขาจึงรู้ว่าหัวหน้ากลุ่มกบฏออกมาจากที่ซ่อนใต้ดินแล้ว

“ไปหาพวกมันกันเถอะ“

วูจินเรียกอาวุธแล้วเปลี่ยนเป็นค้อน

ชิงชิงพ่นลมหายใจแล้ววิ่งไปข้างหน้า ทหารโครงกระดูกเริ่มครอบคลุมพื้นที่

[ข้าอดใจไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ข้าวิ่งเคียงข้างราชา!]

[มันคือเทศกาล เทศกาลแห่งเลือด!]

วูจินยิ้มใส่พวกอัศวินมรณะที่กำลังคุยกันอย่างตื่นเต้น กองทัพผีดิบมากกว่า 10,000 ตนทำให้เขาเกือบคิดไปว่าตัวเองอยู่ที่อัลเฟน

บรรดาอสูรของเขาคิดถึงวูจินบนโลก ในขณะเดียวกัน พวกมันไม่อาจลืมผู้ไม่ตายของอัลเฟน

สำหรับวูจินนี่เหมือนความทรงจำที่ห่างไกล เขาเคยอยู่อย่างชั่วร้าย นี่เป็นเรื่องสิ่งที่เขาไม่อาจทำได้อีก นรกยังไม่จบ ยิ่งกว่านั้นเขากำลังจะเปิดทางสู่นรกกับมือเขาเอง และไม่รู้ว่าเส้นทางนี้จะจบตรงไหน

“กวาดล้างพวกมันให้หมด!”

ชิงชิงวิ่งเต็มแรง

[ตามราชาไป!]

หมาป่าของคิบะตามหลังวูจิน ตามด้วยรัคโตและแรมซัน อัศวินมรณะเร่งม้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ห่ากระสุนไร้ประโยชน์สาดใส่พวกมัน จรวดยิงใส่พวกมันอย่างอันตรายขึ้นมาบ้าง

อัศวินมรณะแต่ละตนมีทักษะเฉพาะที่มีประโยชน์ พวกมันจึงไม่ตายแค่จากจรวด แต่ระเบิดกำจัดทหารโครงกระดูกไปได้บ้าง

รถถังเล็งแล้วยิง

ม้าปีศาจเคลื่อนที่อย่างลึกลับซับซ้อน ขัดกับกฎฟิสิกส์ทั้งหมด พวกมันหลบกระสุน พอเข้าไปใกล้รถถังได้ก็ไม่มีปัญหาอีกต่อไป

เฮลิคอปเตอร์ 5 ลำกลางอากาศน่าเป็นห่วงกว่า

เฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดไปทางทหารโครงกระดูกด้านหลัง วูจินใช้ทักษะควบวิญญาณ

เหล่าผีปรากฏขึ้นกลางอากาศ ชิงชิงเหยียบพวกมันขึ้นไป เมื่อเข้าไปใกล้เฮลิคอปเตอร์ วูจินเรียกหอกกระดูกแล้วขว้าง

กระจกหน้าแตก หอกกระดูกพุ่งเสียบหัวใจคนขับเฮลิคอปเตอร์ มันหมุนอย่างเสียการควบคุม วูจินเรียกโดลเซมาดูดมันเข้าไป

เหล็กถูกบดขยี้ คนข้างในถูกผลักออกมา ใบพัดยังหมุนไม่หยุด เอียงไปทางเฮลิคอปเตอร์ลำอื่น

มันชนกับเฮลิคอปเตอร์ลำอื่น ลำตัวถูกบดเหมือนลำแรกแล้วถูกโดลเซดูดเข้าไป

[โก!]

โดลเซคำราม ดูดพลังเวทย์ของไปทีเดียว พลังงานตรงกลางของโดลเซดึงเฮลิคอปเตอร์ที่เหลือไปสร้างเป็นร่างกายของโกเลม

โกเลมเหล็กติดใบพัด เหมือนนักดาบที่ติดดาบหลายเล่ม

โดลเซหล่นลงพื้นแล้วออกวิ่งอย่างบ้าคลั่ง จรวดรอบเอวของเขายิงใส่ศัตรู

ถูกอาวุธหนักยิงใส่อย่างคาดไม่ถึงทำให้ศัตรูปั่นป่วน

อย่าคิดว่าม้าปีศาจมีไว้ขี่อย่างเดียว พวกมันวิ่งเร็วกว่ารถสปอร์ตและเหยียบรถถังแหลกได้

ขณะด้านหน้าทำลายล้าง นักเวทย์โครงกระดูกก็เข้ามาใกล้แล้วยิงเวทย์

บอลไฟเป็นร้อยๆทำให้ที่ๆมีกบฏอยู่กลายเป็นทะเลเพลิง อัศวินมรณะฟาดฟันในสนามรบ สร้างนรกบนดิน

***

ผู้ต่อต้านที่กำลังยิงปืนไรเฟิลเริ่มตัวสั่นเทา

“นี่...ต้องเป็นฝันร้ายแน่ๆ”

“ฝันร้ายน่ารักอย่างเราหาไม่ง่ายนะเมี้ยว”

“อ๊าก”

ผู้ต่อต้านขวัญเสียเมื่อเห็นแมวพูดได้ พอสบตากับแมวตัวนั้นก็สลบไป

“ขอให้ฝันร้ายน่ารักๆนะเมี้ยว”

ความกลัวที่เขารู้สึกอยู่จะกลายเป็นความฝัน

คงอีก 100 ปี? กว่าจะรู้ตัวว่าฝันไปเขาก็ตายไปแล้ว...

“เมี้ยว”

บิบิหันไปหาเหยื่อรายต่อไป

***

“บ้าชัดๆ”

หัวหน้ากลุ่มกบฏ คาริม หยุดสั่น ความจริงตรงหน้ามันบ้าเกินไปจนเขาไม่รู้สึกกลัว

พวกเขาทำลายโครงกระดูกไป 2,000 ตัว

แต่พวกเขาทำลายไอ้พวกที่ขี่ม้าได้เลย โครงกระดูกที่ถูกทำลายไปก็เกิดใหม่อีกครั้งด้วยศพของฝ่ายเขา
สนามรบค่อยๆสงบลง

มีแต่เสียงปืนไกลๆ เสียงกรีดร้อง เสียงหัวเราะของพวกผีดิบ โครงกระดูกสังหารทุกคนไม่เหลือ

คังวูจินเข้าใกล้คาริมช้าๆ

‘มันนี่เอง’

เจ้าของกองทัพผีดิบ เนโครแมนเซอร์ที่ไม่เคยมีมาก่อนและทรงพลัง

เขาหนี เขาซ่อนไม่รู้กี่ครั้ง แต่มันตามเขาไม่หยุด

“พระเจ้าต้องโกรธแน่!”

คาริมตะโกนเหมือนสิ้นหวัง

“พระเจ้าจะโกรธทำไม ฉันแค่เก็บกวาดขยะ”

“...พระเจ้าจะลงโทษพวกแก...”

ค้อนในมือวูจินกระแทกหัวคาริม

หัวหน้ากลุ่มกบฏไม่มีค่าเป็นตัวประกัน ชายคนนี้เปลี่ยนความเชื่อให้เข้ากับความคิดตัวเอง วูจินไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องคุยด้วย

เขาฆ่าคนที่สมควรตาย ง่ายๆแค่นั้น

เลือดจากค้อนหยดลงพื้น

“ออกมา”

กาเกบิออกมาจากศพของคาริมแล้วกลับไปที่วูจิน เขาฟังรายงานจากกาเกบิ แล้วประสบการณ์ต่างๆที่กาเกบิรวบรวมตอนตามคาริมก็ถูกวูจินกลืนเข้าไป

มีผู้ก่อการร้ายที่อื่นนอกจากในอัฟกานิสถาน

“โลกนี้มีขยะเยอะจริง”

วูจินหัวเราะขมแล้วสะสางสนามรบต่อ


สารบัญ                                                  บทที่ 96

3 ความคิดเห็น:

  1. บรรยากาศช่วงแรกๆกลับมาแล้ว นี่สิวูจินที่เรารู้จัก หลังจากปั้นเด็กมานานก็ได้ลุยแบบเดือดๆซักที

    ตอบลบ