วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2565

ชีวิตข้าฯ - บทที่ 73.1

 บทที่ 73.1 – แลนซีลอตผจญภัย


“หยุดนะ! ทำอะไรกันน่ะ?” เสียงแหลมสูงดังทั้งชั้นล่างของโรงแรม บังคับให้เหล่าพาลาดินกดพลังของพวกตนลง

พลังงานปริศนาในเสียงดูเหมือนจะควบคุมเหล่าพาลาดินเอาไว้ เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเดินลงบันไดมา เหล่าพาลาดินคุกเข่าข้างหนึ่งเพื่อทำความเคารพพร้อมกัน

นี่คือคนที่พวกเขาเคารพยกย่อง เซนต์ฮิลลิส

ฮิลลิสผ่านเหล่าพาลาดินที่กำลังคุกเข่าไปหากลุ่มของแลนซีลอตที่อยู่กลางห้อง

“ท่านเซนต์! อันตราย!” พาลาดินคนหนึ่งท้วงขึ้น

“เงียบ!” เซนต์พูด

และอีกครั้ง เหล่าพาลาดินไม่สามารถเงยหน้าขึ้นเหมือนมีแรงกดดันพวกเขาเอาไว้

เซนต์หญิงก้มศีรษะขอโทษแมค “คนของข้าเสียมารยาทไป”

ในสายตาฮิลลิส ลูกน้องของเธอล้อมและข่มขู่พลเมืองที่ไม่มีความผิด แต่ที่จริงแล้วแมคจงใจยั่วยุเหล่าพาลาดินโดยไม่มีใครรู้ และในเมื่อขนาดพวกพาลาดินเองยังไม่รู้ ฮิลลิสที่ลงมาทีหลังยิ่งไม่รู้

เมื่อฮิลลิสก้มหัวขอโทษ เหล่าพาลาดินก็คราง พวกเขาโทษตัวเองที่ทำให้เซนต์ผู้สูงส่งต้องก้มหัว แต่พวกเขาถูกคำสั่งของฮิลลิสควบคุมและเปิดปากพูดไม่ได้

แมคเลียริมฝีปากเมื่อเห็นสถานการณ์เปลี่ยน ที่จริงแล้วในฐานะเป็นผู้คุ้มกัน ไม่เกิดการต่อสู้ย่อมดีกว่า แต่เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายขึ้นมาเล็กน้อย

“ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ช่วยอธิบายให้ฟังได้ไหม?” ฮิลลิสถามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

แมคยักไหล่แล้วดันหลังแลนซีลอตเบาๆ “ข้าเป็นแค่คนคุ้มกัน หัวหน้าของเราควรเป็นคนตอบคำถามยากๆ”

จู่ๆก็ถูกผลัก แลนซีลอตมองแมคด้วยความตกใจ แต่แมคตอบด้วยการยิ้มหล่อ แลนซีลอตอยากถามว่าทำไมเขาต้องเป็นคนรับมือในเรื่องที่เขาไม่ได้ก่อ แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่เหมาะกับการโต้เถียง

แลนซีลอตหยุดแล้วคิดถึงคำสอนของเดนเบอร์ก ถ้าอีกฝ่ายไม่รู้ตัวว่าทำผิดอะไรและไม่ขอโทษ เราเองก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษ

เมื่อสถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ แลนซีลอตตัดสินว่าจะเชื่อมั่นในฝ่ายเขา อย่างไรเสีย ระดับของอีกฝ่ายก็ดูต่ำต้อยมากจนไม่รู้ตัวว่าถูกแมคยั่วยุ

“คือว่า บางทีพวกเราควรจะได้พักที่โรงแรมด้วย ฮึก!” แลนซีลอตมองฮิลลิสด้วยดวงตามีน้ำตาคลอ

มันคือคำสอนของเดนเบอร์กว่าคนที่ร้องไห้ก่อนย่อมรอดแน่ ขณะที่น้ำตาไหลตามแก้มแลนซีลอต ฮิลลิสก็เข้าใจทุกอย่าง

เมื่อพวกเขาพยายามขอห้องแต่ไม่ได้เพราะโรงแรมถูกจองเต็มแล้ว พวกพาลาดินก็ไล่พวกเขาไปด้วยการปล่อยเจตนาต่อสู้ขนาดทำให้โรงแรมสั่นสะเทือน

ความเข้าใจของเธอไม่ผิดนัก แม้แต่เจ้าของโรงแรมที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็เข้าใจอย่างนั้น

ความจริงต่างไปเล็กน้อย แต่มันกลายเป็นจริงด้วยการแสดงของแลนซีลอต สายตาเหมือนจะบริสุทธิ์ของเขาหลอกได้กระทั่งฮิลลิสผู้ชินกับการจัดการเหล่าแรคคูนเฒ่าในวิหาร

“พวกเจ้ามีอะไรจะพูดไหม?” ฮิลลิสถาม

เหล่าพาลาดินไม่โต้ตอบความโกรธของฮิลลิส พูดให้ชัดคือ พวกเขาตกอยู่ใต้คำสั่งให้ ‘เงียบ’ และเอ่ยปากไม่ได้

พาลาดินนิ่งเงียบ ฮิลลิสก็ตำหนิด้วยสายตาเย็นชา “พวกเจ้าเป็นนักบวช แน่นอน ข้ารู้ว่าเจ้ามีหน้าที่ต้องถือดาบ เป็นโล่ให้พระเจ้า และทำลายศัตรูของพระเจ้า แต่ก่อนหน้านั้น นักบวชต้องแบ่งปันความเมตตาของพระเจ้า แต่พวกเจ้ากลับข่มขู่ผู้บริสุทธิ์ ในฐานะนักบวชแล้วนั่นเป็นสิ่งสมควรทำเหรอ?”

เหล่าพาลาดินยังเงียบ ฮิลลิสสวดต่ออย่างไม่สนใจ

“พวกเจ้าได้คิดไหมว่าการกระทำแต่ละอย่างของเจ้าสามารถทำให้นามของพระเจ้าแปดเปื้อน? คนจน คนรวย คนดี คนชั่ว ต่างเท่าเทียมกันต่อหน้าพระเจ้า ในฐานะเซนต์ ข้าผิดหวังในสิ่งที่พวกเจ้าแสดงออกมา ดังนั้น-”

ฮิลลิส ผู้หยุดบทพูดเหมือนหัวหน้ากองทหาร สูดลมหายใจลึกแล้วตะโกน “ปักหัวลง เจ้าพวกบ้า!”

เหล่าพาลาดินกดหัวลงกับพื้น จับมือพักไว้ที่หลัง

แลนซีลอตเห็นแล้วตกใจ “เอ่อ รุนแรงไปหรือเปล่า...”

มองเหล่าพาลาดินที่เส้นกล้ามเนื้อที่คอบวมขึ้นเพราะใช้ศีรษะยันพื้น แลนซีลอตขอความเห็นใจจากฮิลลิส

จุดประสงค์ของแลนซีลอตคือให้เลชาได้พักโรงแรม ไม่ใช่ให้เหล่าพาลาดินถูกทำโทษ

“ไม่ นี่คือการลงโทษจากพระเจ้า เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก” ฮิลลิสเอ่ย

ไม่ใช่พระเจ้าเสียหน่อย มันเป็นการลงโทษจากเจ้าไม่ใช่เหรอ?

แลนซีลอตคิดแต่พูดไม่ออกเมื่อเห็นรอยยิ้มเมตตาแต่เหมือนได้ปลดปล่อยด้วยของฮิลลิส

ฮิลลิสค่อยๆนั่งบนหลังพาลาดินที่ใกล้เธอที่สุดแล้วพูดต่อ “ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวเลย ข้าฮิลลิส เป็นเซนต์หญิงของวิหาร ข้าอาศัยอยู่ที่วิหารหลัก เพอซิวาล”

“เอ่อ ขอโทษครับ เขาจะไม่รู้สึกหนักไปเหรอ?” แลนซีลอตถาม

เมื่อฮิลลิสแสดงความเป็นห่วงพาลาดินที่ฮิลลิสใช้เป็นเก้าอี้ เธอดูช็อก “โอ้! ข้าดูหนักมากเลยเหรอ?”

“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น” แลนซีลอตตอบ

ฮิลลิสยิ้ม จากนั้นก็ตบหลังพาลาดินที่เธอนั่งอยู่และถาม “ข้าตัวหนักไหม?”

พาลาดินเกือบจะตอบว่า “หนัก!” ไปแล้ว แต่โชคดี เขายังถูกคำสั่ง’เงียบ’ สะกดอยู่และตอบไม่ได้

เมื่อไม่มีคำตอบ ฮิลลิสขมวดคิ้วและนึกขึ้นได้ว่าเขาตอบไม่ได้เพราะคำสั่งจากพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอ

“ตอบ! ข้าตัวหนักไหม?” ฮิลลิสถามใหม่

พาลาดินตะโกนตอบ “ไม่! ท่านเซนต์ตัวเบาเหมือนขนนกครับ!”

ที่ฮิลลิสสั่งคือให้ตอบ ไม่ได้ให้บอกความจริง

ฮิลลิสมองแลนซีลอตและยิ้ม “เขาว่าอย่างนั้น ทีนี้ เจ้าบอกได้ไหมว่าเจ้าเป็นใคร?”

แลนซีลอตนึกได้ว่าเขายังไม่ได้แนะนำตัว “โอ้! ขอโทษ ข้าคือแลนซีลอตจากทีม 3 ของกระทรวงการต่างประเทศแห่งเผ่ากา ข้าถูกส่งไปทำหน้าที่พิเศษในเมืองหลวง ข้าได้ยินเรื่องของเซนต์หญิงมามาก”

แลนซีลอตทักทายเซนต์หญิงตามที่ฝึกในกระทรวงต่างประเทศ

ฮิลลิสอดประหลาดใจไม่ได้ นอกจากบลัดดี้ หัวหน้ากองทหารหลวงแล้ว เผ่ากาก็ปิดตัวจากโลกภายนอก การติดต่อกับภายนอกมีเพียงขายชิ้นส่วนของปีศาจในวาแรนท์เท่านั้น

นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะเจอกันในซาฮาราม ห่างจากป่าโอลิมปัสมาก

ตามในข่าวลือ เขามีผมสีดำและตาสีดำ คนผมสีดำมีค่อนข้างเยอะ แต่เธอไม่เคยเห็นตาสีดำมาก่อน

“นึกไม่ถึงว่าเรื่องของข้าจะไปถึงเผ่ากา ถือเป็นเกียรติ” ฮิลลิสพูด

“ไม่หรอก ขนาดหัวหน้าหมู่บ้านและผู้นำทหารก็สนใจฟังเรื่องเซนต์หญิง ก็ไม่เคยมีใครได้เป็นมาเกิน 80 ปีแล้วนี่ครับ”

8 ปีก่อน ในวันเกิดครบ 10 ปี ฮิลลิสได้รับเทพยากรณ์และกลายเป็นเซนต์หญิง

กำเนิดของเซนต์ใหม่มาหลังการตายของเซนต์คนก่อน 80 ปี กลายเป็นข่าวใหญ่ และตัวตนของฮิลลิสกลายเป็นที่รู้จักทั่วทั้งจักรวรรดิและกระทั่งทั่วโลก

“ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็เป็นกาเหมือนกันเหรอ?” ฮิลลิสถาม

แลนซีลอตพยักหน้า “ใช่ คนนั้นที่ถือไม้เท้าเวทมนตร์อยู่คือเลชา เบลด ลูกสาวของดูมสโตน เบลด หรือหัวหน้าหมู่บ้าน”

“อา! ตำนานนั่น!” ฮิลลิสร้อง

ตำนานของดูมสโตน ที่ทำลายจักรวรรดิไปครึ่งหนึ่ง ยังคงมีการบอกเล่ากันอยู่

หลักๆแล้วมันถูกใช้บอกเด็กที่กำลังร้องไห้ว่าดูมสโตนจะมาถ้าไม่ยอมหยุดร้อง ที่จริง บางคนคิดว่าดูมสโตนเป็นมังกรหรือสัตว์ในตำนานแทนที่จะเป็นคนจริงๆ

ฮิลลิสก็เหมือนกัน ได้ยินเรื่องของเขาจากพี่สาวของเธอ วิบริโอ สมัยเด็กๆที่พวกเธอไม่ยอมนอนจนดึก

“ไม่น่าเชื่อ ข้าคิดว่าลูกสาวคง ยังไงดีล่ะ บึกบึน แต่เธอดูผอมเพรียว แถมยังเป็นนักเวทอีก”

แทบนึกไม่ออกว่าจะมีนักเวทในเผ่ากา แต่ตรงข้ามกับที่เธอคิด ในเผ่ากามีนักเวทอยู่หลายคน

แม้จำนวนจะน้อยเมื่อเทียบกับเผ่าผีเสื้อ แต่คนในหมู่บ้านมากกว่าครึ่งใช้เวทมนตร์พื้นฐานเป็น เปอร์เซ็นต์ของนักเวทที่เน้นการค้นคว้าทางเวทมนตร์ยังสูงกว่าในจักรวรรดิและอาณาจักรอื่นหลายเท่า แน่นอน ส่วนใหญ่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ในระดับสร้างแสงสว่างเท่าไฟฉาย

ภาพลักษณ์ของเผ่ากาว่าไม่คุ้นเคยกับเวทมนตร์ไม่ใช่แค่เพราะสภาพแวดล้อมของป่าโอลิมปัส แต่เป็นเพราะดูมสโตนกับบลัดดี้ด้วย แม้ดูมสโตนจะออกมานอกหมู่บ้านเพียงช่วงสั้นๆ เขาสามารถทำในสิ่งที่เวทมนตร์ทรงพลังทำไม่ได้โดยใช้แค่มือเปล่า

บลัดดี้มักจะทำตัวไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้เวทมนตร์ จึงทำให้เกิดความประทับใจว่าเผ่ากาไม่ชอบเวทมนตร์นัก

เลชาโบกมือปฏิเสธ “มีพี่ชายของข้าแค่คนเดียวที่แข็งแกร่งเท่าพ่อ คนอื่นก็ปกตินะ”

“มาคิดดูแล้ว นายน้อยผอมกว่าคุณหนูอีก” แมคพูด

แลนซีลอตโกรธ “ไม่ใช่นะ! เดน! เดน... ตัวไม่ใหญ่ แต่ไม่ได้ผอมกว่าพี่เลชา หรือเปล่า?”

แลนซีลอตพูดไม่ได้ว่าเดนมีหุ่นบึกบึน

“เดี๋ยว! หุ่นข้าหนากว่าเดนเหรอ?! แลนซีลอต! เจ้าต้องพูดความจริงนะ!” จู่ๆเลชาก็รู้สึกเหมือนถูกด่า

ต่อให้จริง ได้ยินคนพูดว่าเธอตัวหนากว่าผู้ชายก็ฟังเฉยๆไม่ไหวหรอก

แลนซีลอตไม่มองเลชาที่เหมือนจะร้องไห้และกระแอม แนะนำแมคให้ฮิลลิสรู้จัก “อะแฮ่ม! นี่คือรองกัปตันของหน่วยนักรบ กลุ่มติดอาวุธกลุ่มหลักกลุ่มหนึ่งของเผ่ากา”

“ข้าแมค” แมคพูด

“ยินดีที่ได้รู้จัก” ฮิลลิสยิ้มตอบ

มองผ่านรอยยิ้มสง่างามของฮิลลิส แลนซีลอตขอโทษแทนพาลาดินอีกครั้งเมื่อเห็นเหล่าพาลาดินยังเอาศีรษะกดพื้น เหงื่อท่วมตัว

“แค่นี้พอแล้วดีไหม?” แลนซีลอตถาม

เห็นกลยุทธ์ร้องไห้ก่อนได้เปรียบของเขาทำให้กลายเป็นแบบนี้ เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นต้นเหตุ

ฮิลลิสส่ายหน้า “ไม่ พวกเขาข่มขู่ผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่พวกเขารับใช้ข้า ถ้าทำผิด ก็ต้องถูกลงโทษ”

“แต่พวกเราเป็นกา ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร”

เห็นแลนซีลอตเกลี้ยกล่อมฮิลลิสไม่หยุดแล้วเหล่าพาลาดินก็รู้สึกประทับใจและทำให้รู้สึกผิดด้วย เพราะฮิลลิสพูดไม่ผิด แม้พวกเขาจะไม่รู้ตัวว่าถูกยุให้โจมตีก่อน

“พวกเจ้าบอกก่อนว่าเป็นกาเหรอ?” ฮิลลิสถาม

แลนซีลอตอยากตอบว่าใช่ แต่มองตาของฮิลลิสแล้วเขารู้สึกว่าโกหกไม่ได้

แลนซีลอตนิ่ง

“ถ้าเจ้าไม่บอกก่อน แปลว่าพวกเขาพยายามข่มขู่คนบริสุทธิ์ ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้พวกเขารู้ ก็ไม่ควรเร่งเจตนาต่อสู้ถึงขั้นนั้น”

ฮิลลิสยืนยัน เจ้าของโรงแรมกำลังยืนกลั้นหายใจในมุมหนึ่งเมื่อฮิลลิสเดินไปหาเขา เจ้าของโรงแรมกำลังตัวสั่นเพราะเจตนาต่อสู้ของพาลาดิน พลังของพาลาดินรุนแรงเกินไปสำหรับคนธรรมดา และเขาถูกผลกระทบจากมัน

“คนที่มีพลังแข็งแกร่งมักจะลืมสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ง่ายๆ แต่ไม่เป็นไรแล้วนะ”

ฮิลลิสกอดเจ้าของโรงแรม เธอปล่อยพลังอบอุ่นจากมือที่ลูบหลังเขาเพื่อทำให้เจ้าของโรงแรมที่กำลังตัวสั่นสงบลง

ทุกคนเพิ่งรู้ตัวตอนนั้นว่าพวกเขาเพิกเฉยต่อเจ้าของโรงแรม

สัมผัสของฮิลลิสดูสูงส่ง น่าศรัทธาและอบอุ่น



สารบัญ                                                  บทที่ 73.2


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น