วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ชีวิตข้าฯ - บทที่ 38

บทที่ 38 – การสอบเข้า (2)


“ลุง?”

ยูเรียกางกระดาษบนพื้นเพื่อวาดวงเวท เมื่อเห็นวิลเลียมก็เข้ามากอด

“โอ้! เจ้าตัวหนักขึ้นเยอะ”

“ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าพูดกับสุภาพสตรีว่าเธอตัวหนัก?”

ยูเรียทำแก้มป่อง วิลเลียมยกตัวขึ้นมาสบตากัน

“ใช่ๆ เจ้ายังตัวเบามาก กินให้เยอะๆและตั้งใจเรียนล่ะ”

“ค่ะ”

“อะแฮ่ม! วิลเลียม ไม่เห็นหน้านานเลยนะ”

วิลเลียมยิ้มและวางยูเรียลง

“พ่อ สบายดีไหม?”

“สบายดี ต้องขอบใจเจ้า”

ระหว่างวิลเลียมทักทายกับพ่อของเขา ยูเรียก็สนใจบลัดดี้ที่ยืนหลังลุงของเธอ

“คุณลุงเป็นใครคะ?”

“ข้าเหรอ?”

อัลฟอนโซแนะนำบลัดดี้ก่อนเขาแนะนำตัวเอง “คุณลุงคนนี้เป็นอัศวิน!”

“อัศวิน?” ยูเรียไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน

บลัดดี้ลูบศีรษะอัลฟอนโซและหัวเราะ

“ใช่ คุณลุงคนนี้เป็นอัศวินผู้กล้าหาญ”

ผู้อาวุโสสูงสุดมองบลัดดี้อย่างขำๆ

“เจ้ามาจากเผ่ากาใช่ไหม?”

“ครับ ข้าชื่อบลัดดี้ เบลด”

“ลูกชายหัวหน้าเผ่ากานี่เอง พ่อแม่สบายดีไหม?”

“ฮ่าๆๆ พ่อของข้าให้พี่ชายข้าสืบทอดตำแหน่ง ส่วนตัวท่านกำลังเดินทางท่องเที่ยว”

ผู้อาวุโสสูงสุดถอนหายใจอย่างอิจฉา “ข้าไม่รู้ว่าจะได้ลาออกจากตำแหน่งน่ารำคาญนี่เมื่อไหร่ น่าอิจฉาพ่อเจ้า”

วิลเลียมยิ้มเจื่อน “ฮ่าๆ พ่อยังแข็งแรงดีอยู่เลย”

“หยุดเลยเจ้าหนุ่ม ลูกผู้ชายถึงเวลาถอยก็ต้องรู้ตัว แล้วยัยผู้หญิงอารมณ์ร้ายนั่นเป็นยังไงบ้าง?”

บลัดดี้ฝืนยิ้มเพราะรู้ว่า ‘ผู้หญิงอารมณ์ร้าย’หมายถึงใคร

“มาดามเมอร์ปายังแข็งแรงดีครับ”

“ฮึ่ม น่าเสียดาย” ผู้อาวุโสพูดอย่างนั้นแต่ดูแอบดีใจ

เมอร์ปาเป็นคู่แข่งที่ผู้อาวุโสสูงสุดมีอยู่น้อยนิด อายุปูนนี้แล้วยังมีคู่แข่งถือเป็นเรื่องน่ายินดี

วิลเลียมส่งยูเรียและอัลฟอนโซออกจากห้องขณะพ่อของเขากำลังอารมณ์ดี

“ยูเรีย อัลฟอนโซ ลุงมีเรื่องต้องคุยกับปู่ พวกเจ้าออกไปข้างนอกก่อนนะ”

ฝาแฝดพยักหน้าและเดินออกไป

“ออกมาทำไมจ๊ะ?”

เมื่อเลขานุการข้างนอกถาม ยูเรียส่ายศีรษะ

“ลุงบอกว่ามีเรื่องต้องคุยค่ะ”

“เหรอ? งั้นมาเล่นกันไหม?”

อัลฟอนโซพยักหน้าอย่างร่าเริงให้กับคำชวนของเลขานุการ

“ดี!”

เลขานุการเอาเก้าอี้มาให้เด็กๆนั่งและเริ่มพับกระดาษ ทันใดนั้น ประตูห้องทำงานของผู้อาวุโสสูงสุดก็ถูกกระแทกและบลัดดี้กลิ้งออกมา

***

ยูเรียหวนคิดถึงอดีตเสร็จก็ถามฝาแฝดของเธอ

“ว่าแต่ว่า เจ้ามาที่นี่เพื่อเรียกข้าใช่ไหม?”

“อ๊ะ จริงด้วย! ปู่เรียกพวกเราไปทำพิธีเข้าสู่วัยเป็นผู้ใหญ่”

ยูเรียดูนาฬิกาแล้วร้อง

“ป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย?”

ยูเรียดึงไม้เท้ายาวสองเมตรกับอานสำหรับขี่ออกมาจากกระเป๋ามิติ เธอติดอานกับไม้เท้าและบอกอัลฟอนโซพร้อมกับนั่งลง “ขึ้นมาสิ”

“เขาไม่ให้เราบินนอกหมู่บ้านเพราะอันตรายนะ”

เมื่ออัลฟอนโซลังเล ยูเรียก็ลากเขามานั่งและกลับไปนั่งข้างหน้าใหม่ “ข้าไม่บินไปถึงหมู่บ้านหรอก ‘บิน’”

เมื่อยูเรียตะโกน สัญลักษณ์เวทมนตร์บนไม้เท้าก็ส่องแสง ไม้เท้าลอยขึ้น พริบตาเดียวก็พุ่งไปทางหมู่บ้าน

อัลฟอนโซที่นั่งข้างหลังร้อง

“เร็ว...ไป...แล้ว!”

“อะไรนะ?”

“เร็ว!”

“เร็วอีก? ก็ได้?”

อัลฟอนโซรู้สึกเหมือนจะเป็นลมเมื่อยูเรียเร่งความเร็ว ฝาแฝดมาลงใกล้หมู่บ้าน เมื่อถึงพื้น อัลฟอนโซก็ทรุดลงอาเจียน

“แหวะ”

จากนั้นเขาเอาหิมะกลบรอยอาเจียนและใช้หิมะบ้วนปาก

“ฮ่าๆ ขอโทษ ข้าไม่ได้บินมานานแล้วเลยควบคุมความเร็วไม่ค่อยเก่ง”

เจ้าเพิ่งจะบินไปบนยอดเขาเอเวอเรสท์! อัลฟอนโซตัดพ้อฝาแฝดขี้โกหกของเขา

“เจ้านี่... แหวะ!” เขาอาเจียนอีกรอบแล้วยืนขึ้นอย่างหมดแรง

ยูเรียลูบศีรษะอัลฟอนโซด้วยสีหน้ารู้สึกผิดและร่ายเวทมนตร์รักษา

“ฟื้นสภาพ!”

เมื่อแสงเรืองขึ้น อัลฟอนโซก็รู้สึกว่าอาการเวียนศีรษะหายไป อัลฟอนโซจะเอ่ยปากแต่ยูเรียคว้ามือเขาและวิ่งเข้าหมู่บ้าน

“คนที่บ้านรอเราอยู่ไม่ใช่เหรอ? ไปกันได้แล้ว!”

“อ๊ะ อืม”

ระหว่างถูกลากเดินไป อัลฟอนโซก็ตั้งใจมั่น

พิธีเข้าสู่วัยเป็นผู้ใหญ่นี้ นอกจากจะเป็นการยืนยันว่าผู้เข้าพิธีได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังเป็นตัวตัดสินว่าคนๆนั้นจะได้รับอนุญาตให้ไปเมืองหลวงหรือไม่ด้วย เพราะเผ่าผีเสื้อใช้เวทมนตร์เป็นหลัก การทดสอบในพิธีจึงดูจากความสามารถด้านเวทมนตร์ เนื้อหาการทดสอบไม่เหมือนกันทุกครั้ง แต่จะเกี่ยวกับเวทมนตร์ที่ไม่สามารถใช้ได้หากไม่เชี่ยวชาญจริง

การทดสอบบางครั้งก็เป็นให้เรียกไฟโลกันตร์ บางครั้งก็ให้สร้างน้ำแข็งที่มีอุณหภูมิศูนย์องศาสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบครั้งไหนก็ไม่เคยง่ายทั้งนั้น บางคนอาจไม่ผ่านการทดสอบ และกว่าจะได้เป็นผู้ใหญ่ก็เมื่ออายุ 17 หรือ 18 ปีแทนที่จะเป็น 16 ปี

เทียบกับคนในเผ่าผีเสื้อ อัลฟอนโซไม่เก่งเวทมนตร์ ถึงอย่างนั้นเขาก็ตั้งใจมั่นที่จะผ่านการทดสอบและเข้าเรียนโรงเรียนอัศวินของเมืองหลวง

เมื่อเข้าหมู่บ้าน ฝาแฝดตรงไปที่สภาหมู่บ้านที่อยู่ใจกลางหมู่บ้าน เหมือนที่ในเผ่ากาจัดพิธีเข้าสู่วัยเป็นผู้ใหญ่หน้าศาลากลางหมู่บ้าน สถานที่ทำงานของหัวหน้าหมู่บ้านเผ่ากา เผ่าผีเสื้อก็จัดพิธีเข้าสู่วัยเป็นผู้ใหญ่ต่อหน้าสภาที่เหล่าผู้ปกครองทำงานอยู่

“ยูเรีย อัลฟอนโซ พวกเจ้ามาเกือบสายนะ”

ยูเรียและอัลฟอนโซค้อมศีรษะให้ผู้อาวุโสสูงสุดผู้เป็นหัวหน้าเผ่าผีเสื้อ

“ผู้อาวุโสสูงสุด ข้าขออภัย”

“ไม่เป็นไร ยูเรีย แล้วเรียกข้าว่าปู่เหมือนตอนอยู่บ้านก็ได้”

ผู้อาวุโสสูงสุดมองหลานสาวอย่างใจดี แต่ดูกังวลด้วย

ยูเรียนั้นไม่เป็นไรเพราะเธอแสดงว่ามีพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์สูงมากมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่หลานชายของเขา อัลฟอนโซมีความสามารถด้านนี้น้อยกว่าคนวัยเดียวกัน ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้น ตั้งแต่ได้ยินเจ้าหัวดำชื่อบลัดดี้อะไรนั่น อัลฟอนโซก็เริ่มฝึกฝนเป็นอัศวินด้วยการเหวี่ยงแท่งเหล็ก ละเลยการฝึกเวทมนตร์ไป จึงน่าเป็นห่วงมาก

ผู้อาวุโสสูงสุดเป็นห่วงอยู่ไม่นานก็เปลี่ยนความคิด

ถ้าอัลฟอนโซไม่ได้กลายเป็นผู้ใหญ่ ก็แปลว่าข้าไม่ต้องส่งทั้งคู่ไปเมืองหลวงไม่ใช่เหรอ?

ถึงจะไม่ชอบใจเสื้อสีดำ แต่อัลฟอนโซเป็นหลานชายที่เขาเอ็นดู ถ้าเป็นไปได้เขาอยากให้หลานชายอยู่ข้างกายจนกว่าจะลงโลง

อืม ข้าอยากให้เขาอยู่กับข้าอีกสัก 200 ปี

ผู้อาวุโสสูงสุดเพิ่งฝึกบรรลุไปอีกขั้น ทำให้อายุขัยยืนยาวขึ้นมาก ด้วยอายุขัยมากมายที่เหลืออยู่ แม้เขาจะไม่คิดว่าหลานชายจะตายก่อน แต่ก็หวังให้อัลฟอนโซทดสอบไม่ผ่าน

“เริ่มพิธีเข้าสู่วัยเป็นผู้ใหญ่ได้ บททดสอบคือ สร้างกระเป๋ามิติ”

“เอ๋? ผู้อาวุโสสูงสุด ทีแรก-”

“ชู่ว!”

ผู้อาวุโสสูงสุดถลึงตาใส่ผู้ช่วยให้หุบปาก

ตอนแรกบททดสอบคือให้บินสูงขึ้น 1,000 เมตร แต่ผู้อาวุโสสูงสุดเปลี่ยนเป็นให้สร้างกระเป๋ามิติที่ยากกว่าหลายเท่า การสร้างกระเป๋ามิติเป็นสัญลักษณ์ของนักเวทขั้นสูง แต่มันยากจนแม้แต่นักเวทขั้นสูงก็ทำได้อย่างยากลำบาก

ยูเรียเริ่มสร้างกระเป๋ามิติทันที สำหรับเธอที่สร้างกระเป๋ามิติไว้แล้ว การสร้างใบใหม่แทนที่จะขยายใบเดิมนั้นเป็นเรื่องยากพอดู แต่ในเวลาไม่นานเธอก็สร้างกระเป๋าขนาดหนึ่งเมตรได้สำเร็จ

“ฮ่าๆ สมเป็นยูเรีย เจ้าจะแสดงกระเป๋ามิติใบเก่าที่ทำไว้ก็ได้ นี่เจ้าเล่นสร้างใบใหม่ขึ้นมาเลย ผ่าน”

“งั้นข้าลบใบนี้ทิ้งเลยได้ไหมคะ กระเป๋าอีกใบกำลังสั่นเพราะข้าต้องประคองพวกมันไว้พร้อมกัน”

“ลบไปเลย”

ยูเรียลบกระเป๋าใบใหม่อย่างไม่ลังเล ขนาดของกระเป๋ามิติสามารถขยายออกได้ตามพลังเวท จึงไม่จำเป็นต้องสร้างใบใหม่

“ต่อไป อัลฟอนโซ”

“ครับ!”

อัลฟอนโซเริ่มสร้างกระเป๋ามิติด้วยสีหน้ากระวนกระวาย เขาเหงื่อแตกและใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการสร้าง

“อัลฟอนโซ ถ้ามันยากเกินไป ครั้งหน้าค่อยลองใหม่ก็ได้”

อัลฟอนโซเหมือนตั้งสมาธิจนไม่ได้ยินเสียงผู้อาสุโสสูงสุด ในที่สุดก็สร้างกระเป๋ามิติยาว 10 ซม.ได้

“ข้า...ข้าทำได้แล้ว?”

หลังจากใช้พลังเวทและพลังกายไปจนหมด อัลฟอนโซผู้มีเหงื่อชุ่มตัวก็ทรุดลง

ยูเรียที่คิดว่าอัลฟอนโซจะไม่ผ่านการทดสอบเสียแล้วก็ปรบมือให้กับความมุ่งมั่นของอัลฟอนโซ

“ยินดีด้วย!”

ผู้อาวุโสสูงสุดตกตะลึง เขาคิดว่าด้วยความสามารถตอนนี้ อัลฟอนโซจะไม่ผ่านการทดสอบแน่ ผู้อาวุโสสูงสุดเป็นนักเวทที่เก่งที่สุดในหมู่บ้านจึงรู้ว่าอัลฟอนโซสร้างกระเป๋ามิติด้วยตัวเองและไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใคร ด้วยเหตุนี้เขาจึงประทับใจที่หลานชายเติบใหญ่แล้ว แต่ก็หลั่งน้ำตาที่ต้องจากลาทั้งอัลฟอนโซและยูเรีย

“เก่ง...มาก อัลฟอนโซ...หลานข้า”

“ปู่ครับ?”

อัลฟอนโซกับผู้อาวุโสสูงสุดกอดกันร้องไห้

“แต่เจ้าไม่ไปเมืองหลวงไม่ได้เหรอ? ตาแก่คนนี้คงเหงาถ้าไม่มีเจ้ากับยูเรีย”

“แต่ว่า ข้าอยากเป็นอัศวิน”

“งั้นข้าแต่งตั้งให้เจ้าเป็น! อัศวินหนึ่งเดียวผู้คุ้มครองหมู่บ้าน!”

ผู้ช่วยกับยูเรียส่ายหน้าถอนหายใจ

จะโอ๋หลานก็ให้พอดีบ้าง ตั้งตำแหน่งลอยๆให้เขาไม่ไปไหนนี่มันใช่เหรอ?

“แต่ว่า...”

ยูเรียพูดขึ้นแทนอัลฟอนโซที่กำลังร้องไห้

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุดคะ ได้เวลาไปทำงานแล้ว! อัลฟอนโซก็ต้องกลับไปเตรียมเก็บของด้วยถ้าเขาจะออกเดินทางพรุ่งนี้”

เมื่อยูเรียดึงปู่ของเธอออกมาจากอัลฟอนโซ ผู้อาวุโสสูงสุดก็ยื่นมือไปหาอัลฟอนโซ

“อัล~ฟอน~โซ~”

“ปู่~คร้าบ~”

ดูละครที่ปู่หลานสร้าง ยูเรียส่งผู้อาวุโสสูงสุดให้ผู้ช่วย ดูเหมือนคืนนี้จะหนวกหูเพราะทั้งสองคนนี้

***

ผมรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยเมื่อออกจากห้องสอบคัดเลือกข้าราชการ คำถามง่ายกว่าที่คิดมาก

ฉันอุตส่าห์เสียแรงมากมายเพื่อแอบดูข้อสอบไปทำไมกันนี่?

กลับมาถึงหอพัก ลิสบอนกำลังเหวี่ยงดาบอยู่ในสวน

“โอ๊ะ กลับมาแล้วเหรอ? สอบเป็นยังไงบ้าง?”

“ข้าว่าข้าทำได้ดี”

“จริงเหรอ? ก็ดีสิ”

ลิสบอนเดินมาหา เช็ดเหงื่อไปพลาง

“แล้วเจ้าล่ะ? อีกสองวันจะสอบแล้ว คิดว่าจะทำได้ไหม?”

คราวนี้ผมถามลิสบอน

เพราะเขาย้ายมาเข้าโรงเรียนอัศวินขั้นกลางเนื่องจากเหตุผลทางครอบครัว ข้อสอบจึงยากขึ้นสำหรับเขา ถ้าสอบไม่ผ่าน ลิสบอนต้องสอบอีกครั้งครึ่งปีให้หลัง มันเป็นการสอบเลือกนักเรียนเข้าเรียนเพิ่ม แต่ก็มีบางปีที่ไม่รับนักเรียนเพิ่ม ถ้าเป็นอย่างนั้นลิสบอนต้องรอไปหนึ่งไป ถ้ายังไม่ผ่านอีกก็เหมือนเขาต้องตัดใจจากโรงเรียนอัศวินไปโดยปริยาย

การเข้าโรงเรียนอัศวินไม่ใช่ทางเดียวในการเป็นอัศวิน แต่มันเป็นทางที่สะดวกและดั้งเดิมที่สุด แม้ลิสบอนจะไม่พูดแต่การสอบครั้งนี้สำคัญสำหรับเขามาก



สารบัญ                                            บทที่ 39



อย่าไปเลยบางกอก 2 lol คุณปู่กะจะให้อัลฟอนโซสอบตกไปอีก 200 ปี

เงอะ ผู้เฒ่าเมอร์ปาเป็นผู้หญิงล่ะ ตอนแปลนึกว่าเป็นผู้ชาย...


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น