บทที่ 36 – ความเศร้าของเจ้าหญิง (6)
ผมกระโดดลงบนระเบียง เมื่อถึงพื้นผมจ้ององค์หญิงลำดับสามผู้มีรหัสผ่าน เธอสะดุ้งและหันมาเหมือนตกใจกับเสียงที่ดังขึ้นกะทันหัน
หือ? หน้าคุ้นๆ เคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ?
“สวัสดี คุณผู้หญิง ยินดีที่ได้เจอกันอีก”
ผมจำไม่ได้แต่ก็ยิ้มทักทาย เคยเห็นหน้าเธอที่ไหนมาก่อนไม่สำคัญ เป้าหมายของผมคือทำให้เธอหลับ เอารหัสผ่านและตรงไปที่ห้องทำงานของจักรพรรดิ ผมใช้เวทสะกดให้เธอหลับ จากนั้นดีดนิ้วเพื่อดูว่าเวทมนตร์ได้ผลไหม
เป๊าะ!
องค์หญิงลำดับสามหันความสนใจมาที่ผมเมื่อได้ยินเสียงดัง จากนั้นโค้งน้อยๆเหมือนจิ้งจอกที่เจอได้ใน mid lane
“อ๊ะ สวัสดีค่ะ คุณลูแปง”
อะไร? เธอสลายเวทมนตร์ได้ยังไง? ต้องสลบไปแล้วสินอกจากว่าจะต้านเวทได้ มีของป้องกันเวทเหรอ? ไม่นะ ถ้ามีของแบบนั้นฉันก็ต้องเห็น
วัตถุเวทที่เจ้าหญิงมีคือสร้อยข้อมือมีรหัสผ่านที่อยู่บนแขนขวา สร้อยคอช่วยไม่ให้เหนื่อยล้า แหวนที่ทำให้สดชื่น ที่คาดผมป้องกันรังสียูวี และสร้อยข้อมือที่มีเวทมนตร์ป้องกันการโจมตีบนแขนซ้าย
แล้วเธอต้านทานเวทมนตร์ของฉันได้ยังไง?
ผมร่ายเวทใหม่ แต่ก็ยังไม่ได้ผล
เข้าใจล่ะ
เธอเป็นตัวต้านทานนักเวท ศัตรูตัวฉกาจของนักเวทนั่นเอง เธอมีร่างกายในตำนานที่ต้านทานเวทมนตร์ได้สูงมากซึ่งจะปรากฏเพียงหนึ่งในสิบล้านคน ผมไม่เคยเห็นกับตามาก่อน เคยอ่านในหนังสือว่าถ้าตัวต้านทานนักเวทเป็นนักรบก็จะกลายเป็นฝันร้ายของนักเวท
ผมปัดความสนใจเรื่องตัวต้านทานจอมเวทไปข้างๆ จับมือขวาของเจ้าหญิงที่มีผ้าคลุมไหล่คลุมและจูบหลังมือ
เป็นรหัสผ่านจริงๆด้วย!
ผมมองเจ้าหญิงอย่างสงบ จำได้แล้วว่าเคยเจอเธอที่ไหน ต้องเป็นคนที่ผมเจอตอนเข้ามาในวังครั้งแรกแน่
“ยินดีที่ได้เจอกันอีก อา...เรีย?”
ผมเกือบเรียกเธอว่าอารีเลียแต่เปลี่ยนทัน ตอนนั้นองค์หญิงสามบอกว่าเธอชื่ออาเรียแน่นอน
เจ้าหญิงของจักรวรรดิบอกชื่อจริงกับคนที่ไม่รู้จักเป็นเรื่องเสี่ยงอันตรายจริง เธอฉลาดน่าดู
“วันนี้เป็นวันที่งดงาม ว่าไหม?”
ผมเปลี่ยนเรื่องคุย จากนั้นจูงมือเธอมาที่ระเบียง จุดประสงค์คือปิดทางถอยและให้เธอรู้ว่ากำลังตกอยู่ในมือผม แบบนี้แล้วเจ้าหญิงจะได้ไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามอย่างกรีดร้อง
“ค่ะ”
องค์หญิงสามยิ้มตอบ
มั่นใจว่าอยู่ในวังไม่มีทางถูกทำร้ายเหรอ?
แต่ใบหน้าแดงน้อยๆของเธอบอกว่าในใจกำลังกระวนกระวาย คนธรรมดาถ้าทำร้ายเจ้าหญิงต้องไม่รอดแน่ แค่แตะต้องก็สามารถมองเป็นกบฏถูกประหารทั้งตระกูลได้แล้ว ด้วยเหตุนี้เธอจึงมั่นใจว่าไม่มีใครทำร้ายเธอได้และยิ้มและยืนอย่างมั่นใจต่อหน้าชายปริศนา
แต่จู่ๆสีหน้าเธอก็หม่นลง เรื่องนี้เข้าใจได้เพราะผมเก่งพอเข้าวังมาโดยไม่มีใครรู้ตัวและไม่มีคนอยู่แถวนี้
เสียงร้องของเธอจะทำให้พวกยามรู้ตัว ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันจะทำยังไง?
ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็แค่หนี แต่ไม่รู้ว่าเจ้าหญิงจะคิดเหมือนกันไหม บางทีเธออาจกังวลว่าพวกทหารและคนรับใช้จะบาดเจ็บ
“กังวลเหรอ?” ผมถาม
เธอมองอย่างประหลาดใจ แสดงว่าผมเดาถูก
“ไม่ต้องกังวล จะไม่มีใครถูกทำร้าย”
เจ้าหญิงถามกลับเหมือนไม่เชื่อ
“ไม่มีใคร...?”
สีหน้าเธอหม่นหมองลง ดูเหมือนจะไม่เชื่อผม
“เจ้าต้องมีเรื่องกังวลมากมายแน่”
ผมมั่นใจมากว่าสามารถหนีไปเงียบๆได้ แต่เจ้าหญิงส่ายหน้าและก้มมองไปที่วัง
“วังนี้คือกรงใหญ่ ใหญ่เกินกว่าจะหนีได้...”
กำลังจะบอกว่าฉันหนีไม่รอดหรอกเหรอ?
เจ้าหญิงดูมั่นใจในการรักษาความปลอดภัยของวังมาก เธอคิดว่าผมจะถูกจับได้อยู่ดี
“จริงเหรอ?”
ผมยิ้มซน
“มาดูกันไหมว่าจะหนีไม่ได้จริงๆ?”
ผมประคองเอวและมือเจ้าหญิง จากนั้นร่ายเวทมนตร์ลอยตัว เพราะเป็นตัวต้านทานเวทมนตร์ ผมต้องใช้พลังเวทมหาศาลเพื่อยกตัวเธอขึ้น แต่ก็ยังง่ายกว่าใช้เวทมนตร์ในป่าโอลิมปัส ที่จริงใช้เวทมนตร์ในหมู่บ้านของผมที่พลังเวทสงบยังยากกว่า
“ช้าๆ เจ้าแค่เดินทีละก้าว”
ผมประคองร่างเธอเพื่อไม่ให้ตกใจ เมื่อเธอก้าวเท้าผมก็ยกร่างเธอให้สูงขึ้น ไม่ลืมร่ายเวทล่องหนใส่พวกเรา
ท้องฟ้ากลางคืนแหวกออกขณะพวกเราลอยสูงขึ้น
ผมพูด กลั้นยิ้มไม่อยู่ “เป็นอย่างไร? ยังคิดว่าหนีไม่ได้อีกไหม?”
องค์หญิงสามตัวสั่นเหมือนกลัว
“ไม่?”
ยิ่งสูงขึ้นอุณหภูมิก็ต่ำลง ผมใช้เวทมนตร์ทำให้รอบตัวอบอุ่น
ว่าแต่ เธอตัวสั่นมากนะ เป็นปลาแซลมอนเหรอ?
ผมเทพลังเวทลงไปมากกว่าจะทำให้เจ้าหญิงหลับได้ เธอค่อยๆหลับไปสมเป็นตัวต้านทานนักเวท ถ้าเป็นคนปกติจะเหมือนถูกฉีดยาสลบและส่งเสียงเฮือกก่อนจะหลับไป
ผมกลับไปที่ระเบียงและดึงรหัสผ่านออกมาจากมือขวาของเจ้าหญิง สร้อยข้อมือมีเวทค่อนข้างซับซ้อนเกินกว่าจะเลียนแบบได้ทันที ดังนั้นผมจึงวางเธอให้พิงระเบียง ตั้งอุณหภูมิรอบๆที่ 25 องศาเซลเซียส ร่ายเวทรบกวนการมองเห็น เอาผ้าห่มจากกระเป๋ามิติมาห่มให้ และสุดท้ายก็กางบาเรีย แบบนี้เธอคงไม่เป็นหวัด
“ขอยืมก่อนนะ” ผมพูดกับเจ้าหญิงที่กำลังหลับและกระโดดกลับขึ้นไปบนหลังคา
ผมศึกษารหัสผ่านขณะมุ่งหน้าเข้าไปในวัง สิ่งนี้มีค่ากว่าที่ผมคิด มันสามารถถอดข้อห้ามเกือบทั้งหมดในวงเวท ถ้าให้ผมทำก่อนที่จะได้ศึกษามัน ผมคงต้องสร้างของที่ต้องห่อหุ้มทั้งตัวถึงจะมีความสามารถเท่าสร้อยข้อมือนี้
แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่สร้างสร้อยข้อมือเป็นนักเวทที่เก่งกว่าผม เวทมนตร์บนสร้อยมีก่อนวงเวทหลังเส้นดาบจะถูกแก้จนร้ายกาจ มันสงวนวงเวทตั้งต้นไว้ซึ่งแทบจะเรียกว่าเป็นโบราณวัตถุไปแล้ว ถ้านักเวทระดับผมได้ข้อมูลในสร้อยข้อมือนี้ก็สามารถลบวงเวททั้งวังได้อย่างเงียบเชียบ
แต่วงเวทมันเละเกินกว่าผมจะควบคุมมันได้อย่างใจ แน่นอนถ้าเป็นเผ่าผีเสื้อที่มีนักเวทเก่งกว่าผมอยู่เต็มคงทำได้ ถ้าสร้อยข้อมือตกอยู่ในมือของกลุ่มต่อต้านราชวงศ์ พวกเขาสามารถทำลายการป้องกันของวงเวทและโจมตีวัง มันเป็นของอันตราย แต่ผมสงสัยว่าจะมีกลุ่มที่มีอำนาจพอโจมตีวังได้ ถ้ามีพวกเขาคงมีอย่างน้อยนักเวทคนหนึ่งที่อยู่ระดับเดียวกับผม
ดูแผนที่ที่ได้จากการเจาะข้อมูลวงเวท ผมข้ามเส้นดาบและตรงไปที่ห้องทำงานจักรพรรดิ มีแผนที่นี่ดีจัง เมื่อย่องผ่านทหารยาม ผมเข้าไปในห้องทำงานและค้นโต๊ะ โชคดี คงเพราะมันถูกใช้บ่อยๆ ตราประทับอยู่ในลิ้นชักที่หยิบง่าย ผมเอาผงภูติออกมาและวางบนขี้ผึ้งที่อยู่กับตราประทับ
แสงอ่อนๆเรืองจากขี้ผึ้ง
ผมวางขี้ผึ้งบนช้อนที่ได้จากกองคลัง สร้างเปลวเทียนเพื่อละลายขี้ผึ้ง จากนั้นก็เอาซองเอกสารใส่ข้อสอบออกมาประทับใหม่
“เฮ่อ!”
ในที่สุดก็สบายใจได้เสียที ต่อไปก็กลับไปข้ามเส้นดาบ คืนสร้อยข้อมือให้เจ้าหญิง เอาซองข้อสอบไปคืนกองคลังก็จบ
ผมออกจากห้องทำงานจักรพรรดิไปเงียบๆ
***
♪ติ๊ง ติง ติง
กู๊ดมอนิ่ง
ติ๊ง ติง ติง
ปะ ปะ ป้าว ปาว ปะ ปะ ปะ ป้าว
กู๊ดมอนิ่ง
ปะ ปะ ป้าว ปาว ปะ ปะ ปะ ปาว
กู๊ดมอนิ่ง
ปะ ปะ ป้าว ปาว ปะ ปะ ปะ ป้าว
บิ๊วติฟูลเดย์
ปะ ปะ ปะ ปาว
อิทสะบิวติฟูลเดย์♪
อารีเลียตื่นเพราะเสียงประหลาด
เสียงน่าหนวกหูนี่มันอะไร?
เธอเตะผ้าห่มออกด้วยความรำคาญ
“หนวกหูจัง!”
บางอย่างลอยไปกับผ้าห่มและเสียงแตกดังขึ้น พร้อมกันนั้นเสียงเตือนก็หายไป
ว่าแต่ว่า ที่นี่ที่ไหน?
อารีเลียมองรอบๆอย่างง่วงๆ
ระเบียง? ทำไมข้ามานอนที่นี่?
อารีเลียสงสัยก่อนที่จะนึกขึ้นได้ถึงชายใส่หน้ากากเมื่อคืน
จริงด้วย ข้าเจอเขาอีกครั้งตอนมาที่ระเบียงเพราะความหงุดหงิด
อารีเลียรู้สึกดีใจ เธอหัวเราะเมื่อนึกถึงตอนลอยบนฟ้ากับเขา
แต่ผ้าห่มนี่คืออะไร ทำไมข้านอนที่นี่ ไม่ใช่ที่ห้องนอน?
อารีเลียพลันนึกได้ว่าความทรงจำของเธอหยุดตรงตอนพวกเขากำลังเต้นรำ
แปลว่าข้าหลับไปเหรอ?!
อารีเลียอายจนเอาผ้าห่มมาห่มแล้วกรี๊ด
“กรี๊ด ข้าจะทำยังไงดี!”
ข้าให้คนอื่นเห็นตอนหลับเหรอ?
“ข้าเป็นเจ้าสาวไม่ได้แล้ว!”
เธอตะโกนหน้าแดง
ผ้าห่มของลูแปงให้ความรู้สึกสาก เธอกอดผ้าห่มราคาถูกซื้อจากกรันเวลอย่างทะนุถนอม ของแข็งๆหล่นจากผ้าห่ม มันเหมือนกล่องที่พังแล้ว
มันเป็นของที่ถูกเตะไปกับผ้าห่ม
เมื่ออารีเลียเปิดกล่องก็เจอบัตรหนึ่งใบกับสร้อยคอทำจากพลอยสีม่วง
ข้าขอคืนสร้อยคอไพลินพันปีให้เจ้าของ บินออกจากกรงใหญ่...-ลูแปง
สร้อยคอเป็นของที่มาร์ควิสมากาเร็ตเสนอจะให้เป็นของขวัญของอารีเลียจริงๆ เธอแน่ใจเพราะไพลินพันปีไม่ใช่ของหาง่าย
ชายใส่หน้ากากรู้ตัวจริงของข้าอยู่แล้วเหรอ? ถึงอย่างนั้นก็ยังให้กำลังใจข้าให้ออกจากกรง?
เธอตื้นตันใจจนตาแดง เร็วไปหน่อยแต่เธอได้ของขวัญวันเกิดชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ไม่ใช่สร้อย แต่เธอได้รับความกล้าที่จะเดินไปข้างหน้า อารีเลียสวมสร้อยคอและกลับห้อง คิดในใจท่ามกลางหญิงรับใช้ที่กำลังวุ่นวายหลังจากเจอตัวเธอ...
ข้าจะบอกพ่อตอนกินอาหารเช้า ข้าจะเข้าโรงเรียนเวทมนตร์ตามที่นายพลวิลเลียมแนะนำ
ความเศร้าของเจ้าหญิงหายไปก่อนจะทันรู้ตัว อารีเลียเต็มไปด้วยความมั่นใจที่จะเดินไปข้างหน้า
เดนกับเจ้าหญิงคุยคนละเรื่องเดียวกันเลย...
LG Good morning ringtone ถ้าเราได้ฟังเพลงนี้ตอนตื่นนอนคง...ก็คงตื่นแหละ นอนต่อไม่ไหว
เอาล่ะ คู่จิ้น
ตอบลบ