บทที่ 180 – ป้องกัน (4)
เสียงข่มขู่ของการเคลื่อนทัพมอนสเตอร์ดังผ่านยอดแหลม
ที่เดินมามีมอนสเตอร์เหมือนแรด ในกองทัพยังมีมิโนทอร์หลายพัน
มอนสเตอร์แรดบางตัวใหญ่กว่าช้าง
ด้วยร่างกายใหญ่เช่นนี้จึงมีสัมภาระมากมายแขวนบนตัวมัน
บนตัวมอนสเตอร์แรดที่ใหญ่เป็นพิเศษมีแท่นไม้ผูกอยู่บนหลัง
ชายหน้าตาหล่อเหลาไม่เข้ากับกองทัพมอนสเตอร์กำลังนอนบนแท่นนั้น
เมื่อมอนสเตอร์เดินหนึ่งก้าว แท่นไม้จะเอียงไปมาเหมือนกำลังโต้คลื่น
ชายคนนั้นนอนเหม่อมองฟ้า
แท่นไม้ไม่มีที่กั้นแต่ไม่มีใครห่วงว่าเขาจะตก
เขามีผมยาวดำ ปากบาง เขาคืออูนอน บัลลังก์ที่ 36
เขาใช้สองแขนแทนหมอน นอนไขว้ขา
ถ้าไม่ใช่ภาพรอบตัวแล้วเขาเหมือนชาวนากำลังนอนพักหลังกินข้าวข้างนอก
จุดเล็กบนท้องฟ้าขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บางอย่างกำลังเข้าใกล้เขา
มันคือราชินีฮาร์ปี้ ชิราโอ เธอมีปีกสีดำ หน้าคม
เธอลงมา ใช้เท้าอย่างนกเกาะขอบแท่นไม้
“ชิราโอ?”
“นี่ไม่ใช่เวลามานอนเล่นนะ อูนอน”
อูนอนลืมตามองชิราโออย่างระมัดระวัง จากนั้นหลับตาลงใหม่
ราชินีฮาร์ปี้ทำแก้มป่องอย่างไม่พอใจ
“พวกมันทำลายถนนอีกแล้ว อูนอน”
“เจ้าไม่เห็นต้องรีบนักเลย ยังไงพวกมันก็ตายอยู่ดี”
“ผู้ไม่ตายกำลังใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว!”
อูนอนคลายแขนที่ใช้รองศีรษะออกแล้วลุกขึ้น แท่นไม้ทำจากต้นแอช
เขามีนิสัยชอบดมกลิ่นไม้ขณะที่กำลังนอนบนมันมานานแล้ว
“เราต้องสู้กับเจ้านั่นไม่ช้าก็เร็ว”
“ถ้ามันกลับโลกไปล่ะ?”
“มันทำไม่ได้หรอก มันยังไม่มีกุญแจ”
“ฮึ่ม ทำไมเจ้าแน่ใจนัก?”
“ถ้ามันมี จะมาถึงที่นี่คงไม่ใช้เวลานานนักหรอก”
ผลจากเซ็ทไอเทมทราชใหญ่มาก มันเพิ่มพลังให้กองทัพผีดิบเป็นหลายเท่า
ตอนที่ผู้ไม่ตายมีเซ็ทของทราช
ลอร์ดมิติได้แต่ยอมปล่อยพื้นที่ขนาดใหญ่ส่วนหนึ่งของอัลเฟนให้กองทัพของผู้ไม่ตาย
เซ็ทไอเทมของทราชมีพลังขนาดนั้น
แม้ลอร์ดมิติจะร่วมมือกันโจมตีเขา
ถ้าผู้ไม่ตายมีไอเทมเหล่านั้นเขาจะยับยั้งแผนการไปแล้ว
ด้วยเหตุนี้จึงหมายความว่าผู้ไม่ตายยังไม่มีคุณสมบัตินั้น
“เจ้าไม่กังวลเหรอ อูนอน?”
“แน่นอน ข้ากังวล”
“ข้าคงไม่มีวันเดาได้ว่ามันเป็นมนุษย์จากโลก”
อูนอนกระตุกยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของชิราโอ
“จริง”
ถ้าเขารู้ว่าผู้ไม่ตายมาจากโลก เขาจะกำจัดผู้ไม่ตายทันที
เนโครแมนเซอร์มากมายตามหาไอเทมของทราชและอูนอนนึกว่าผู้ไม่ตายเป็นหนึ่งในนั้น
ถ้าผู้ไม่ตายเป็นคนของอัลเฟนเขาจะไม่มีทางได้ชิ้นส่วนสำคัญที่สุดของเซ็ทไอเทม
ผู้ประหารของทราช
“เจ้าอยู่มานานมากน่าจะรู้
เจ้าอยู่ที่นั่นด้วยหรือเปล่าตอนทราชถูกผนึก?”
“ไม่ ตอนนั้นข้ายังไม่เกิด”
“ข้าว่ามันคงเป็นเรื่องในอดีตไกลโพ้น”
ชิราโอหุบปีกและนั่งตรงด้านหนึ่งของแท่นไม้
“ไม่ไปแล้วเหรอ?”
“หลังคุยกับเจ้าข้าก็สงบใจได้ อูนอน พวกเราเพียงต้องป้องกันไม่ให้ผู้ไม่ตายกลับโลก”
“ใช่แล้ว”
ต่อให้ถูกฆ่า ผู้ไม่ตายก็ฟื้นคืนชีพได้ ตอนนี้เขาเป็นลอร์ดมิติ
ความเป็นอมตะเป็นกฎและสัญญาต่อทุกคนที่มีชิ้นส่วนมิติ
มันเหมือนผู้ไม่ตายใช้วิธีเจ้าเล่ห์ป้องกันตัวเองโดยใช้ประโยชน์จากระบบ
เหมือนเขากำลังหลอกลวงลอร์ดมิติทั้งหมด
ถ้าพวกมันสังหารเขาไม่ได้ก็ต้องตัดโอกาสไม่ให้เขาทำได้ตามเป้าหมาย
อัลเฟนจะเป็นคุกขังเจ้านั่น
“แล้วเจ้าจะไปที่โลกเมื่อไหร่ อูนอน?”
“โลกมีแค่รหัสเดียว ข้าไม่สนใจ”
“เจ้าจะอยู่ที่อัลเฟนต่อเหรอ?”
“ที่นี่ก็ไม่เลว”
อัลเฟนยังมีรหัสหลืออีก 4 อัน
“อืม ข้าควรจะอยู่ที่นี่ด้วยไหม?”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น”
“ฮึ่ม กระทั่งเจ้ายังเลิกราจากโลก ข้าจะไปแข่งขันที่นั่นได้ยังไง?
อีกอย่างที่นั่นยังไม่ผ่านการประสานดี”
“อืม ถ้าเจ้าอยากอยู่ที่นี่ก็อยู่สิ”
“ฮึ่ม”
ชิราโอทำเสียงไม่พอใจเมื่อเห็นอูนอนตอบเนือยๆ
“ข้าขอถาม อูนอน เจ้าคิดว่ามันจะได้ผู้ประหารของทราชมาจริงๆเหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้”
“...?”
ชิราโอทำตาโต ถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมลอร์ดมิติต้องลงทุนฆ่าเขาให้ได้
ต้องเสียแต้มไปมากมาย
ชิราโอมองสีหน้าอูนอนเคร่งขรึมเป็นครั้งแรกในการสนทนานี้
“ถึงอย่างนั้นมันก็ยังอันตราย เราต้องให้ทราชหลับต่อไป”
“อูนอน...”
“เราต้องไม่ปล่อยให้เทพแห่งการทำลายปรากฏตัวอีกครั้ง”
“...”
เธอรู้สึกถึงความหวาดกลัวที่หลบอยู่ข้างใต้ เธอตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว
เกรทลอร์ดอูนอนที่มี 36 รหัสหลัก พูดด้วยท่าทางแบบนี้
มันเหมือนตำนานเก่าแก่ เธอรู้สึกถึงความน่ากลัวของเทพแห่งการทำลายผ่านทางเขา
***
แกว๊ก!
“ป้องกันมันไว้!
เล็งไปที่ตา!”
อาณานิคมเซารุสกำลังลุกเป็นไฟ
ทหารกำลังต่อสู้อย่างเต็มที่แต่ศัตรูถูกส่งมาทางพวกเขาเหมือนคลื่น
เครื่องมือสำหรับตีปราสาทไม่จำเป็นด้วยซ้ำ
ศพทับถมกันเป็นภูเขาทำหน้าที่เป็นบันได
ฝ่ายป้องกันไม่อาจหยุดศัตรูที่ข้ามกำแพงเข้ามา ก่อนอาวุธตีปราสาทจะเข้าที่
ฝ่ายป้องกันก็ตายไปนับร้อยแล้ว
“ไม่ดีแล้ว”
“กำแพงส่วนนอกใกล้พังแล้ว เราต้องถอยไปยังกำแพงส่วนใน”
ศัตรูกำลังใช้จำนวนที่เหนือกว่ามากโจมตีเข้ามาไม่หยุดยั้ง
“ถ้าเราถอยเข้าไปจะไม่มีทางหนีแล้วนะ ยังไม่สายเกินไป ฝ่าออกไปเถอะ
เราต้องไปจากที่นี่”
ความเห็นแตกแยกเป็นสองอย่าง ทัวริคจึงตามหาโดเจมิน
เขาเป็นคนเดียวที่สามารถติดต่อกับคังวูจิน
“เขาใกล้มาถึงแล้ว รออีกหน่อยเถอะ...”
“...เขาช้ากว่าที่สัญญาไว้มาสองววันแล้ว”
“ใช่แล้ว เราไม่เชื่อเขาอีกต่อไปแล้ว”
กราแฮมและผู้กล้าคนอื่นแสดงความไม่พอใจ
พวกเขาเชื่อคำพูดของคังวูจินอย่างไม่สงสัยและเตรียมทัพสำหรับป้องกันการโจมตี
แต่วันที่วูจินสัญญาว่าจะกลับมาผ่านไปสองวันแล้ว
ศัตรูแข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคาดและคนตายไปมากมายแล้ว พวกเขาต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงจึงไม่แปลกที่จะแสดงความไม่พอใจ
“...แต่เขาใกล้มาถึงจริงๆนะครับ”
โดเจมินพูดได้เท่านี้ วูจินสัญญาว่าจะกลับมาภายในหนึ่งสัปดาห์
แต่มันช้าไปสองวันแล้ว
โชคดีที่ซุงกูถ่วงเวลาไว้ได้มากกว่าหนึ่งวัน
ศัตรูเริ่มโจมตีเมื่อ 5 ชั่วโมงก่อนเท่านั้น
แค่ห้าชั่วโมงกำแพงปราสาทด้านนอกก็แทบถูกทำลาย
และลอร์ดมิติยังไม่ตั้งใจโจมตีจริงๆ
เท่ากับว่าไม่มีอะไรยืนยันได้เลยว่าพวกเขาจะทนได้ถึงหนึ่งวัน
“พระแห่งสเกีย!
ถ้าเราไม่หนีตอนนี้เราจะตายกันหมด”
ทัวริคมีสีหน้าเจ็บปวดกับคำพูดของจอมเวทกราแฮม
ชีวิตคนนับร้อยนับพันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจครั้งนี้ แน่นอน
เขารู้สึกกลัวและทุกข์ทรมาน
ตอนนั้นเอง เปลวไฟลุกโพลงจากใจกลางภูเขาอันเป็นที่ตั้งของห้องทดลอง
เปลวไฟพุ่งขึ้นฟ้าเหมือนแล้วระเบิดออกเหมือนดอกไม้ไฟ ฝนไฟเริ่มหล่นลงมายังพื้น
เหมือนนักธนูยิงศรไฟนับพันดอก เมื่อเวทหล่นใส่ศัตรูก็ส่งผลรุนแรง
“...”
ทัวริคกัดฟันมองภาพตรงหน้า
ฮงซุงกู
หากไม่ใช่เพราะราชาภูติไฟจากโลก
พวกเขาคงไม่สามารถต้านทานการโจมตีของศัตรูได้ ไม่มีแม้แต่โอกาสต่อสู้
พวกเขาคงผลัดการต่อสู้ไปยังอนาคตและวิ่งหนี...
ทัวริคอ้าปาก
“ถึงพวกเราจะหนีไปได้ก็ไม่มีอนาคตอีกแล้ว ถ้าเราแตกแยกกันตอนนี้
เส้นทางข้างหน้าก็มีแต่หนทางนำไปสู่การทำลาย”
บางคนจะหนี บางคนจะอยู่สู้...
แต่เขาไม่อาจสั่งการคนของเขาได้แล้ว
“ทิ้งกำแพงด้านนอกแล้วถอยเข้าไปข้างในเถอะ ตั้งเป้าไปที่การป้องกัน”
คนส่วนหนึ่งบ่นแต่ไม่มีใครต่อต้านเขา
“กราแฮม ข้าต้องการให้ท่านสร้างบาเรียขึ้นให้พวกเราถอยไปได้”
“เข้าใจแล้ว”
เวทของจอมเวทกราแฮมเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าไม่ใช่เพราะเขา
พวกเขาคงแพ้ตั้งแต่มอนสเตอร์รูปร่างเหมือนแมลงปอโจมตีจากทางอากาศ
ทัวริคหันไปมองเจมิน
“ท่านเคาท์ ท่านควรถ่ายทอดถึงผู้กล้าทุกคนให้ถอย”
“ครับ”
เจมินสะบัดมือ
ฝูงค้างคาวออกมาจากแขนเสื้อของเขาและบินไปทุกทางเพื่อส่งข่าว
“ให้ที่มั่นสุดท้ายของเราเป็นห้องทดลองและบาเรียรอบอาณานิคม”
มีบาเรียที่ต้นไม้โลกสร้างขึ้น
และห้องทดลองมีเครื่องขยายพลังเวทที่ซุงกูใช้อยู่
พวกเขาจะสามารถยันไว้ได้นานอีกหน่อย
นี่เป็นการต่อสู้ที่พวกเขาไม่สามารถชนะได้ สิ่งสำคัญตอนนี้คือให้คังวูจินกลับมาก่อนพวกเขาจะสูญเสียมากเกินไป
‘รีบกลับมาเถอะ’
เจมินส่งความคิดหาวูจิน
***
หอกวิญญาณจากร่างวูจินกำลังลอยไปทั่ว เสียบทะลุร่างของศัตรู
พริบตาเดียวศัตรูก็กลายเป็นศพ และศพระเบิดต่อเนื่องเป็นปฎิกิริยาลูกโซ่อย่างไม่จบสิ้น
การรุกรานของผู้ไม่ตายตามมาด้วยเลือด ชิ้นส่วนเลือดเนื้อ
เสียงกรีดร้องและเสียงหัวเราะบ้าคลั่งของกองทัพผีดิบ
“โอเทพี...”
เมโลดี้ตามหลังเขาและได้เห็นภาพลักษณ์ของผู้ไม่ตายในสายตาของสหพันธ์
เขาโหดเหี้ยม โอหังและแข็งแกร่ง
กองทัพของเขาแสดงความโกรธเกรี้ยวใส่สิ่งมีชีวิตตามสัญชาติญาณ กระทั่งทำให้เธอรู้สึกเวทนามอนสเตอร์ที่ถูกสังหาร
ขณะเธอตามเขา เธอรู้สึกห่างไกลจากคังวูจินที่เธอเคยรู้จัก เธอไม่แน่ใจว่าจะคุยกับเขาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การเดินทัพที่เต็มไปด้วยพิษ ศพและเสียงคร่ำครวญของวิญญาณหยุดลง
อีกเพียงหนึ่งวันพวกเธอก็จะถึงอาณานิคม
มีแถวมอนสเตอร์ตรงหน้า และมีชายผมแดงยืนเบื้องหน้า
“คึๆๆ ใครกันนี่? ผู้-ไม่-ตาย! ราชาของคนตาย!”
เขาพูดด้วยเสียงเสียดสี เมโลดี้เดินช้าๆไปทางวูจิน
วูจินรู้สึกขอบคุณที่มันสมัครใจมาหาเขาเอง มันตายเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกพอใจ
“เซลรัค”
บัลลังก์ที่ 27 ของทราห์เน็ต
ไอ้เวรนี่เคลียร์ดันเจี้ยนของเขา วิหารของราห์ทได้สำเร็จเมื่อสองวันก่อน
คิบะไม่สามารถหยุดยั้งได้
เซลรัคยิ้มเยาะขณะมองสีหน้าโกรธของวูจิน
“โมโหทำไม? เจ้าผิดเองไม่ใช่เหรอที่ทิ้งอาณาเขตไว้?”
“...”
วูจินเข้าใจขึ้นบ้าง
ทำไมลอร์ดมิติแทบไม่ออกจากดันเจี้ยนของตัวเอง
ทำไมการสำรวจและการล่าพื้นที่รอบๆจึงทำโดยประชากรและกองกำลังในอาณาเขต
โดยเฉพาะบนดาวที่ไม่ได้มีแค่รหัสเดียว ลอร์ดมิติไม่สามารถใช้อุโมงค์กลับ
จึงต้องอยู่ใกล้ๆอาณาเขตมิติเพื่อปกป้องดันเจี้ยนและอาณานิคม
หรือใช้คนที่เชื่อใจได้ปกป้องที่นั่น
ในเมื่อคิบะล้มไปแล้ว ดูเหมือนเขาจะใช้แต้มของอลันดาลเพื่อป้องกันอาณาเขตจนหมด
“ข้าไม่เข้าใจ ทำไมถึงตามหาเทพแห่งการทำลายที่ถูกลืม?
เจ้ามีทางกลายเป็นเทพ มันคือชีวิตอมตะนะ”
วูจินเปลี่ยนอาวุธเป็นขวาน เขาอยากฟาดหัวของเซลรัคให้แตก
เซลรัคยิ้ม
“ดูเหมือนเจ้าต้องการปกป้องดาวบ้านเกิดจริงๆ”
“มันแน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“วิธีปกป้องมีหลายวิธี เจ้าสามารถเป็นเทพของดาวบ้านเกิดได้”
“อะไร?”
“วันที่ดาวบ้านเกิดของข้าถูกประสาน
สิ่งแรกที่ข้าทำคือสังหารเทพของข้า และกลายเป็นเทพเสียเอง คึๆ”
“...”
“ลืมเรื่องเทพแห่งการทำลายซะ แค่เปลี่ยนเป็นเทพ
นี่เป็นวิธีที่เร็วที่สุด คนบนโลกของข้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
การเสียสละเป็นเพียงชั่วคราวแต่ได้ความสงบสุขตลอดกาล"
“...”
“ตอนนี้เจ้าไม่ฟังข้า แต่ควรจำคำแนะนำของข้าไว้
สักวันเจ้าจะขอบคุณข้า”
วูจินคลายสีหน้าเคร่งขรึมแต่แรกลงแล้วยิ้มกว้าง
ขอบคุณมากๆค่ะ สนุกมากตอนนี้
ตอบลบ