บทที่ 199 – ทราห์เน็ต
“ทางไหน?”
“ผมจะลองเกลี้ยกล่อมแอดมินแห่งการลบล้าง”
“เขาเสียความทรงจำ คุณจะทำอะไรได้!”
มันเสี่ยงเกินไป ชายคนนั้นบ้าและไม่มีใครคาดเดาใจเขาได้
ท็อปเลอร์หว่านล้อมประธานสภาเชลท์อย่างใจเย็น
“ตอนนี้เขาได้กุญแจไปแล้ว เราไม่มีทางเลือกนอกจากเรียกเขามาที่นี่เพื่อทำการรีเซ็ท”
“เขาพยายามจะฆ่าพวกเราทุกคนที่เจอหน้า คุณจะไปเกลี้ยกล่อมเขาได้ยังไง! คำพูดใช้กับมันไม่ได้”
“ผมจะพยายาม”
“...”
เชลท์จ้องท็อปเลอร์เขม็ง ท็อปเลอร์ไม่กระพริบตา
“ผมเกลี้ยกล่อมเขาได้ ผมต้องไปที่โลก”
“...”
“หรือคุณมีทางเลือกอื่น?”
“อึก...”
เขาอาจเป็นฝ่ายถูก
“ผมต้องคุยกับสภา...”
“ประธาน!”
ท็อปเลอร์ตะโกนด้วยความโกรธ
“คุณพยายามจะฆ่าพวกเราอยู่เหรอ? นี่ไม่ใช่เวลาลังเลนะ
เราต้องเดินหน้าไปให้เร็วที่สุด”
พวกเขากำลังเข้าสู่ขอบเขตที่ไม่เคยเดินมาถึงมาก่อน
อิเอลโลปรากฏก่อนเวลาที่บันทึกไว้มาก
คังวูจินยังทำกุญแจไม่เสร็จแต่ไปสู้กับอิเอลโลแล้ว แล้วยังเอาชนะได้อีก
สาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้มีหลายข้อ
แต่ศาสตราจารย์ท็อปเลอร์ไปพบวูจินตามอำเภอใจอาจเป็นสาเหตุหนึ่ง
“คุณเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องนี้ คุณมีหน้าที่แก้ไข!”
“...เข้าใจแล้ว”
“เปิดประตู”
ประตูกระจกเปิดตามคำสั่งของประธานสภา ศาสตราจารย์ได้อิสระคืนมา
เขาเรียกร้องกับทหารที่ยืนเตรียมพร้อมทันที
“รบกวนเตรียมเรือให้ผมด้วย”
เขาต้องไปถึงโลกให้เร็วที่สุด ก่อนแอดมินแห่งห้วงมิติจะไปถึงโลก
***
แม่น้ำฮันที่กลายเป็นน้ำแข็งเริ่มละลาย
น้ำแข็งที่ปกคลุมต้นไม้หนามสูงเสียดฟ้ากำลังละลาย
แม้แต่ปราสาทน้ำแข็งก็ละลายเหมือนกำลังจะทลายลง
ไฮดร้ากำลังพ่นไฟอย่างบ้าคลั่งทำให้น้ำแข็งละลายเร็วขึ้นอีก
“ฮู่ว”
วูจินใช้พลังเวทไปหมด เขาจึงรวบรวมวิญญาณมอนสเตอร์ใหม่
เขาดูดซับวิญญาณทั้งหมดในทีเดียว พลังเวทของเขาค่อยๆฟื้นฟู
ร่างอิเอลโลละลายจนมองไม่เป็นรูปเป็นร่าง
สิ่งที่เหลือมีแต่รอยน้ำบนพื้น
วูจินเตะพื้นอย่างไม่จำเป็นเลย
“บอกแล้วใช่ไหมว่าฉันจะฆ่านาย”
เงื่อนไขการใช้อาจยุ่งยาก แต่การลงทัณฑ์ของทราชมีพลังมาก
ร่างกายธาตุจะหลีกหนีมันได้ยังไง?
มอนสเตอร์และลอร์ดมิติที่อยู่เต็มพื้นที่ก็ใกล้จะถูกกำราบหมดแล้ว
วูจินได้เลเวลเพิ่มเพราะมอนสเตอร์ถูกกำจัด
มันเพิ่มค่าประสบการณ์ให้เขาเรื่อยๆ
ฟู่ว
ควันดำลอยมาตรงข้างวูจินและกลายเป็นเจนิส
[เกิดอะไรขึ้นกับผู้ประหาร?]
“ไม่แน่ใจ”
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด
วูจินเปิดหน้าต่างสถานะและมองอย่างถี่ถ้วน เลเวลของเขาเปลี่ยนเป็น 99
แต่ที่เห็นได้ว่าเปลี่ยนไปก็มีแต่ค่าสถานะบางส่วนเพิ่มขึ้น
“คงไม่เกี่ยวกับเลเวล หรือฉันต้องรวบรวมเซ็ทไอเทมของทราชให้ครบ?”
วูจินล่ามอนสเตอร์เป็นจำนวนมากและได้ค่าความสำเร็จมาไม่น้อย
เขาเปิดร้านแลกเปลี่ยนความสำเร็จทันทีและซื้อไอเทมจำเป็นสำหรับสร้างเกียรติของทราชทั้งหมด
“น่าจะซื้อได้หมดนะ...”
ถ้าเขาซื้อได้โดยใช้แค่ค่าความสำเร็จก็ไม่ต้องทำงานหนักเก็บแต้มมิติ
เจมินยังสู้ในสงครามมิติและแต้มมิติก็ยังเพิ่มเรื่อยๆ...
“ไหนดูหน่อย”
วูจินวางวัตถุดิบที่ซื้อมาและไอเทมศักดิ์สิทธิ์ของอาเรียลงในกล่องผสมของ
เขากดปุ่มผสม วัตถุดิบผสมกันเป็นรัดเกล้า
มันเหมือนมงกุฎที่มีหัวกะโหลกอันหนึ่งฝังอยู่
“เกียรติของทราช”
เขาหยิบมันออกมาสวม
เกียรติของทราช การปกป้อง การลงทัณฑ์ ความภาคภูมิและการเดินทัพ
เขารวบรวมเครื่องป้องกันครบห้าอย่าง ผลของเซ็ทไอเทมจึงทำงาน
ความสามารถบงการของเขาเพิ่มขึ้น
และเขาสามารถควบคุมกองทัพใหญ่กว่าเดิม 5 เท่า
เขายังสามารถเรียกสนามแห่งความตายที่เป็นสนามรบหลักของผีดิบ
นอกจากนั้นแล้วทักษะที่เขามีตอนอยู่อัลเฟนก็ได้คืนมาทั้งหมด
ความรู้สึกร้อนใจที่มีหายไป แต่ไม่นานวูจินก็หน้าเครียดขึ้น
“ไม่ได้ผล”
[ผู้ประหาร...]
เขารวบรวมเซ็ทไอเทมครบแล้ว และเพิ่มเลเวลให้อาชีพสองอาชีพถึง 99
แต่ผู้ประหารของทราชก็ยังไม่ปรากฏ
[รหัสหลักของโลก...]
“หยุด”
วูจินไม่ให้เจนิสพูดต่อ
“อย่าพูดถึงมัน”
[…]
เจนิสเห็นสีหน้าไร้ความรู้สึกของวูจินแล้วไม่อาจพูดต่อ
มันรู้สึกว่าวูจินกำลังโกรธ
เจนิสเป็นครูของวูจิน และมันเห็นเขาตอนอยู่ในสนามรบ
ถ้าไม่เจนิสต้องเห็นความโกรธของวูจินด้วยตามันเอง
“ค่อยๆหามันเถอะ...”
[แล้วแต่ประสงค์ของท่านจ้าว]
เจนิสเปลี่ยนเป็นควันดำแล้วหายไป
วูจินหัวเราะแห้งเมื่อเห็นโซลที่ถูกทำลายราบ
นี่เป็นนรกในนรกสำหรับเขา
มีศพที่มองเหมือนเป็นของมนุษย์ปะปนอยู่ในศพมอนสเตอร์ ทุกที่มีแต่ศพ
มีเขาคนเดียวที่มีชีวิตอยู่
มันเป็นความรู้สึกแย่ แต่ก็เป็นความรู้สึกคุ้นเคยเช่นกัน
“ลุก”
ศพระเบิดและทหารโครงกระดูกออกมาตามคำสั่งวูจิน
ตอนนี้เขาบงการโครงกระดูกได้มากกว่าเดิม เขาจัดทหารโครงกระดูกไปอยู่ใต้การควบคุมของอัศวินมรณะแล้วเติมจำนวนกองทัพผีดิบใหม่
[ราชา]
คิบะมาใกล้เขา พวกเขามองหน้ากัน
ไฟสีแดงในดวงตามันเผยให้เห็นความเป็นห่วง
“ฉันจะเรียกนายคราวหน้า”
[แล้วแต่ประสงค์ของท่านจ้าว]
เริ่มจากคิบะ จากนั้นอัศวินมรณะตนอื่นก็กลายเป็นควันหายไป
กึง
เสียงกระแทกดังขึ้น ฟังยากว่ามันลงพื้นหรือกระแทกกับพื้น
เขามองมังกรโลหิต
[...]
มังกรโลหิตเงียบไม่เหมือนเคย วูจินให้มันกลับไป
วิ้ง
เลือดรอบตัวมังกรโลหิตหลุดออกมา
โดลเซในร่างดวงจิตโกเลมหมุนรอบตัววูจินก่อนจะหายไป
แม้แต่มังกรกระดูกก็กลายเป็นควันดำ ที่เหลืออยู่ข้างวูจินมีเพียงบิบิ
“เจ้านาย เราอยากกลับแล้ว”
“...อืม”
วูจินเรียกชิงชิงออกมา พวกเขาบินไปยังปราการลอยฟ้า
ร่องรอยของผู้ประหาร...
เขายังไม่เจอ
ไม่ ถึงเขาจะไม่ได้คำตอบก็ช่าง
***
เรือของท็อปเลอร์แยกจากบรรยากาศดำและจอดบนดินแดนร้าง
ตัวผลักดันดับไปเมื่อเรือลงถึงพื้น
พื้นยานเปิดออกและบันไดทอดลงมา
อากาศบนโลกหายใจไม่ได้อีกต่อไป
ศาสตราจารย์ท็อปเลอร์ใส่ชุดนักบินอวกาศลงบันได
เมื่อเขาเหยียบโลก ทหารประจำเรือเดินมาหาเขา
“ผมได้ข่าวแล้ว ศาสตราจารย์”
“เราไม่มีเวลามากนัก กัปตันลีโอเน่”
“เราเตรียมอุโมงค์ที่นำไปยังเป้าหมายไว้แล้ว”
กัปตันลีโอเน่เตรียมทุกอย่างพร้อม ศาสตราจารย์ท็อปเลอร์จึงพยักหน้า
“แผนเรียบง่าย ผมจะเข้าใกล้เขา ถ้าผมเกลี้ยกล่อมเขาสำเร็จ
กรุณาเตรียมพร้อมช่วยเหลือเขา”
“เราดึงเขาออกมาทันทีจะไม่ดีกว่าเหรอ?”
“เรายังพูดไม่ได้ว่าเขาเป็นมิตรกับเรา ผมไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร
ให้ผมคุยกับเขาก่อน”
“เอ่อ เข้าใจแล้ว กรุณารีบด้วย ความเข้มข้นของพลังงานมากขึ้นทุกที
ผมเชื่อว่าแอดมินแห่งห้วงมิติกำลังลงมา”
“เข้าใจแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”
กัปตันลีโอเน่กดแท็บเล็ทที่ติดข้อมือ แผนที่โฮโลแกรมปรากฏขึ้น
บนนั้นมีจุดสีแดง
“สถานีโซลทางออกที่หนึ่ง อัตราสูญเสียพลังงานคือ 28%”
“เข้าใจแล้ว”
“ถ้าคุณเกลี้ยกล่อมเขาไม่ได้ล่ะ?”
“...”
รหัสที่จำเป็นสำหรับการรีเซ็ทไม่อยู่กับอิเอลโลอีกต่อไป
คังวูจินเป็นผู้ครอบครองมัน ถ้าเขาต้องการย้อนโลกที่เสียหายกลับคืนสภาพเดิม
พวกเขาต้องการวูจิน
“เราต้องการเขาแม้ต้องบังคับ”
“อืม เข้าใจแล้ว”
“งั้นก็เริ่มกันเถอะ”
กัปตันจับมือท็อปเลอร์ก่อนจะไปทำธุระของตัวเอง
เรือลีโอเน่ล็อกเป้าหมาย ท็อปเลอร์ใช้ยานอวกาศเป็นตัวข้ามมิติ...
***
ปราการลอยฟ้า ปราสาทของบิบิ
บรรยากาศตึงเครียดรอบตัวคังวูจินทำให้จุงมินชานไม่เอ่ยปาก
เขาตัดสินใจรายงานทีหลัง
การรบระหว่างอิเอลโลและคังวูจินเพิ่งจบไปไม่นาน ญี่ปุ่นที่ประกาศอยู่ฝ่ายเดียวกับอิเอลโลแล้วจึงเรียกร้องคำอธิบายจากอลันดาล
จุงมินชานตกที่นั่งลำบาก เพราะญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่าจะเริ่มสงครามเพราะเรื่องนี้
เขาไม่มีทางเลือกได้แต่เมินเฉย
ถ้าเขารายงานผิดเวลา วูจินอาจบุกญี่ปุ่น
ถ้าเป็นอย่างนั้นคงยิ่งยุ่งยากไปใหญ่
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“ปล่อยเจ้านายไว้คนเดียวเถอะนะ”
“ครับ”
แม้แต่บิบิยังเคร่งเครียด มินชานจึงต้องยอมรับ
เมื่อวูจินมาถึงปราการลอยฟ้า คนแรกที่เขาไปหาไม่ใช่แม่หรือน้องแต่เป็นคิมคังชุลที่ถูกขัง
คิมคังชุลนั่งอยู่เฉยๆ แต่จู่ๆคังวูจินก็ต่อยหน้าเขา
“อั่ก”
คิมคังชุลล้มไม่เป็นท่า วูจินคว้าคอเขาแล้วกัดฟันถาม
“ฉันจะเจอพวกโลกพระจันทร์เวรนั่นได้ยังไง?”
“แค่ก ถึงคุณจะถามผมไป”
คิมคังชุลถูกโยนลงพื้นอีก วูจินคำรามใส่เขา
“เรียกพวกมันมา”
“คุณไปถามสตรีศักดิ์สิทธิ์ของโลกไม่ดีกว่าเหรอ?”
เมื่อพูดถึงสตรีศักดิ์สิทธิ์ของโลก วูจินคว้าคอของคิมคังชุลและยกขึ้น
คิมคังชุลปัดป่ายขาไปมาอย่างไร้ผล
“อยากตายเรอะ?”
“แค่ก ท...เทพของโลกอยู่บนโลกของพวกเขา...”
วูจินวางเขาลงเมื่อเห็นว่าใกล้จะขาดอากาศหายใจตายแล้ว
วูจินหรี่ตาลงเมื่อได้ยิน
“เทพของโลกอยู่ที่โลกพระจันทร์เหรอ?”
“แค่ก เท่าที่ผมรู้มา”
“...”
เขารู้ว่าผู้ประหารสามารถตัดการเชื่อมต่อระหว่างมิติต่างๆ
ถ้านี่เป็นวิธีแก้ปัญหาวิธีเดียว เขาต้องได้มัน
แต่ รหัสหลักของโลก... ถ้ามันต้องใช้น้องสาวเขาล่ะ?
ถ้ามีวิธีช่วยโลกและช่วยน้องสาวเขาด้วย...
“โลกพระจันทร์... ฉันจะไปที่นั่นได้ยังไง?”
เขาเปิดร้านขายของมิติเพื่อหาดันเจี้ยนบนโลกพระจันทร์ แต่ไม่พบ
ถ้าต้องการเชื่อมต่อไปยังที่หนึ่งก็จำเป็นต้องมีดันเจี้ยน
ตอนนั้นเอง ร่างที่คาดไม่ถึงเปิดประตูเข้ามา
“...?”
“เราเจอกันอีกแล้ว”
ศาสตราจารย์ท็อปเลอร์ทักทาย วูจินหน้าบึ้ง
“ฉันอยากให้นายพาไปที่โลกพระจันทร์”
ถ้าเทพของโลกอยู่ที่นั่น... เขาจะฆ่าเทพเพื่อน้องสาว
เขาจะเอารหัสหลักมา
“วิธีปกติพาคุณไปที่นั่นไม่ได้”
“ถ้านายรู้ว่าอะไรดีกับนาย นายควรนำทางฉันไปที่นั่น”
วูจินเดินออกมาหนึ่งก้าว แค่ก้าวเดียว
แต่ความรู้สึกอันตรายทำให้ศาสตราจารย์สะดุ้ง แต่เขายืนที่เดิม
ไม่ว่าเขาหรือโลกพระจันทร์ พวกเขาไม่เหลืออะไรให้ถอยอีกแล้ว
“ผมจะนำทางคุณไป แต่คุณต้องฟังผมก่อน”
“ฉันไม่จำเป็นต้องฟังนาย”
“มันเกี่ยวกับต้นกำเนิดของมิติต่างๆ
รวมถึงต้นกำเนิดดันเจี้ยนที่ทำให้มีการเดินทางระหว่างมิติ ทุกอย่างที่ผมกำลังบอกเป็นเรื่องจริง”
คิ้ววูจินกระตุก
“ต้นกำเนิดของทราห์เน็ต... คุณไม่อยากรู้เหรอ?”
“เลิกพูดไร้สาระ บอกฉันเรื่องดันเจี้ยนที่พาไปโลกพระจันทร์!”
“บนโลกพระจันทร์ไม่มีดันเจี้ยน”
วูจินหน้าบึ้งหนักขึ้นอีก
“นายอัญเชิญฉันไปได้!”
มันเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลบนอัลเฟน เขาแค่ต้องยอมรับการอัญเชิญ
แต่...
“น่าเสียดาย คุณไปที่นั่นด้วยการอัญเชิญไม่ได้ มันไม่มีอุโมงค์
และการเคลื่อนย้ายระหว่างมิติก็ใช้ไม่ได้ แต่ผมรู้วิธีหนึ่งที่จะได้ผล”
วูจินขมวดคิ้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีวิธี คิมคังชุลกับท็อปเลอร์ตายไปแล้ว
“วิธีอะไร?”
“คุณล็อกเอาท์ได้”
“...”
ท็อปเลอร์ยอมรับสายตาน่ากลัวของคังวูจินอย่างสงบ เขาภาวนาอยู่ในใจ
“กรุณาฟังที่ผมพูดก่อนจะทำอะไร...”
“...”
“ทราห์เน็ต นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับต้นกำเนิดของการเดินทางระหว่างดาวต่างๆ
และอนาคตของโลก”
วูจินเดินเข้าใกล้ท็อปเลอร์อีกก้าว
เบื่อนิสัยไม่ฟังใครของพระเอกมากกกก
ตอบลบ