วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 196


บทที่ 196 – ทราห์เน็ต

“มันจะไม่อันตรายเหรอ?”
“เพราะอย่างนั้นฉันถึงต้องทำลายพวกมันตั้งแต่เนิ่นๆ”
เขาต้องปกป้องโซอา เพื่อการนั้นต้องกำจัดศัตรูของเขา คังวูจินตัดสินใจแล้ว
“ไปโซลกัน”
“ทราบแล้ว”
มินชานรับคำและจัดเส้นทางใหม่
กึง
ปราสาทบิบิโคลงเคลงก่อนจะตั้งลำใหม่
“พวกนั้นคงกลับมาแล้ว”
แรงที่ทำให้ปราการใหญ่สะเทือน มีแต่หมายถึงรงรงบินลงมา
เมื่อวูจินออกมาที่ดาดฟ้าเรือก็ได้รับการต้อนรับจากกองทัพผีดิบ พวกมันกลับมาหลังจากล้มเหล่าลอร์ดมิติที่พยายามสร้างอาณานิคมในใต้หวัน
“เจ้านาย!
“บิบิเตรียมตัว เราจะไปจับอิเอลโล”
“โฮ่ มันเป็นเกรทลอร์ด...”
เกรทลอร์ดทั้ง 72 เป็นตัวตนที่ทรงพลังแม้แต่ในหมู่ลอร์ดมิติ บิบิดึงข้อมูลของอิเอลโลออกมา เธอขมวดคิ้ว
“มันเป็นตัวยุ่งยาก”
“ลีซังโฮไปเกาะเจ้านั่น เราต้องกำจัดพวกมันก่อนจะกลายเป็นตัวยุ่งยากกว่านี้”
ลีซังโฮตายไปครั้งหนึ่งแล้วและเสียรหัสของโลกไป ตอนนี้เขาก็เหมือนผู้อพยพมิติ
สิ่งเดียวที่เขามีคือเขาเรื่องที่เขาเป็นอดีตหัวหน้ากิลด์ฮวาราง เพราะเหตุนี้จึงมีความน่าเชื่อถือสูงในกลุ่มชาวโลก และเขาออกหน้ามาให้การรับรองอิเอลโล
ในช่วงเวลาอันสับสนวุ่นวายเช่นนี้ ชาวโลกจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับลอร์ดมิติที่เป็นมิตร?
ยังมีเรื่องที่ลีซังโฮช่วยอิเอลโลอยู่ข้างๆ ช่วยลดความรู้สึกเป็นศัตรูลงไปมาก
อีกอย่าง ตัวตนของคังวูจินก็มีส่วนช่วยอิเอลโลเช่นกัน
เขาบงการกองทัพผีดิบ
ลูกน้องของคังวูจินก็คือมอนสเตอร์ในสายตาชาวโลก ที่พวกมันได้รับการยอมรับเพราะคนของโลกเป็นหัวหน้าพวกมัน เขาควบคุมพวกมันและใช้สู้กับมอนสเตอร์ที่เป็นศัตรู
ถ้าอิเอลโลมุ่งหวังบทบาทคล้ายกันนั้น...
“มันจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก”
ถ้าชาวโลกที่ทำสัญญากับอิเอลโลมาขวางทางวูจิน...
เขาอาจต้องทำสงครามกับชาวโลกที่อยู่ฝ่ายเดียวกับลอร์ดมิติ
แต่สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายเกินไป
กองทัพผีดิบเพิ่มค่าความสำเร็จจำนวนมากด้วยการออกล่าอย่างขยันขันแข็ง และเขายังได้แต้มมาไม่น้อยจากสงครามมิติ
เขาซื้อวัตถุดิบสร้างเซ็ทไอเทมทราชจากทั้งร้านแลกเปลี่ยนค่าความสำเร็จและร้านค้าของมิติ
“ทำได้อีกชิ้นพอดี”
วูจินใส่ถุงมือสีดำ
<การลงทัณฑ์ของทราช>
สมบัติของเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ลีเซีย ซึมซับด้วยพลังเทพแห่งการทำลาย
ไอเทมศักดิ์สิทธิ์มีพลังทำให้เมล็ดพันธุ์ทุกชนิดงอกขึ้นมา แต่ตอนนี้มันถูกเปลี่ยนเป็นไอเทมหายนะ มันทำให้วูจินดึงวิญญาณออกจากสิ่งมีชีวิตทุกประเภท
ตอนนี้วูจินขาดแต่หมวกเกราะสำหรับป้องกัน
แต่เขาได้เครื่องป้องกันคืนมา 4 ชิ้น ทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นมาก
เจมินกำลังทำสงครามมิติ ไม่นานวูจินจะได้ใส่ไอเทมครบชุด กุญแจห้าดอกที่จะทำให้เขาได้เครื่องประหาร
อีกไม่นาน พลังของทราชจะถ่ายทอดลงมาที่เขา
“ฉันจะกลับมาก่อนถึงโซล รอด้วยล่ะ”
“ค่ะเจ้านาย”
“ถ้ามีอะไร ติดต่อฉัน”
“ค่ะ!
วูจินขยี้ผมบิบิหนึ่งทีแล้วใช้อุโมงค์ไปยังอาณาเขตมิติ
เขาต้องใช้เวลาทุกนาทีวินาทีเพื่อรวบรวมแต้ม บางทีอาจได้ไอเทมชิ้นสุดทาย เกียรติของทราชก่อนถึงโซล
***
เกาะบัม แม่น้ำฮัน
ต้นไม้หนามเติบโตเหนือเกาะ น้ำแข็งคลุมต้นไม้ทั้งต้นไว้ ปราสาทน้ำแข็งสร้างเหนือต้นไม้เหมือนรังนก อิเอลโล อยู่ข้างในและกำลังโกรธจัด
“เลว!
“...”
ความโกรธของมันทำให้ปราสาทสั่น ลีซังโฮหมอบกราบบนพื้นรอให้ความโกรธของอิเอลโลลดลง
“คังวูจินกำลังมาที่นี่?”
“ครับ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะโจมตีพวกเราอย่างไม่มีเหตุผลได้”
“ทำไม?”
“ถึงจะยังไม่มีประกาศเป็นทางการ แต่พวกเราตกลงทำสัญญาป้องกันกับญี่ปุ่นแล้ว นี่จะลดทางเลือกของมันลงอย่างมาก”
สนธิสัญญาระหว่างอิเอลโลกับญี่ปุ่นสำเร็จผลแล้ว เพียงยังไม่ประกาศออกมาเป็นทางการ
ญี่ปุ่นอิจฉาเกาหลีที่ผูกมิตรกับประเทศตั้งใหม่อลันดาลอยู่ก่อนแล้ว เพราะเหตุนี้การทำความตกลงกับญี่ปุ่นจึงง่ายเกินคาด
“พวกเรายังได้ฟังคำพูดด้านบวกจากเกาหลี แค่รออีกหน่อย”
อลันดาลของคังวูจินไม่มีทางถูกควบคุมได้ บางคนในรัฐบาลเกาหลีจึงมองการปรากฏตัวของอิเอลโลในแง่ดี ลีซังโฮกำลังพูดให้คนในรัฐบาลเชื่อเขา
แต่ไม่ว่าเขาจะทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่ช่วยลดความโกรธของอิเอลโลลง
ต้นเหตุของปัญหาคือคังวูจิน
“เจ้าคิดว่ามันจะคิดแบบนั้นเหรอ?”
“นั่น...”
ลีซังโฮถูกคังวูจินทำร้ายอย่างไม่ปราณีขณะที่กล้องกำลังถ่ายทอดอยู่ คังวูจินเป็นผู้ก่อการร้ายประเภทเลวร้ายที่สุด และเพียงถูกยุแหย่เล็กน้อยก็ลุกมาทำสงครามแล้ว
มันเป็นคนแบบนั้น...
สีหน้าลีซังโฮมืดครึ้มลง เห็นแล้วอิเอลโลยิ่งเครียดขึ้น
แผนของอิเอลโลผิดไป และมันไม่คิดว่าจะแก้ไขได้
มันควรรออีกหน่อย มันคาดไม่ถึงว่าไอบริทจะด้อยกว่าคังวูจินขนาดนั้น ยิ่งกว่านั้นมันยังปรากฏตัวอย่างโจ่งแจ้งหลังจากคังวูจินไปจากโซลแล้ว...
ลีซังโฮทำได้ดีที่ทำให้สถานการณ์วุ่นวายเพราะลอร์ดมิติตนใหม่ปรากฏตัวสงบลง
แต่นี่ก็เป็นปัญหาเช่นกัน
อิเอลโลปรากฏตัวผิดเวลา ตอนนี้มันกลับไปซ่อนตัวไม่ได้แล้ว
และที่เลวร้ายกว่านั้น คังวูจินกำลังเดินทางมาหาพวกมัน
“เรา...เราต้องสร้างเกราะป้องกัน”
“พูด”
“มีหลายๆกลุ่มในเกาหลีที่มองพวกเราในด้านดี ถ้าเราเอาพวกนั้นมาอยู่ฝ่ายเดียวกัน คังวูจินจะไม่กล้าโจมตี...”
“หุบปาก!
เสียงตะโกนของมันทำให้เกิดคลื่นกระแทก ลีซังโฮกระเด็นเข้าไปฝังในกำแพงน้ำแข็ง
“ไอ้ตัวไร้ประโยชน์”
ดูเหมือนประโยชน์ของการมีข้ารับใช้เป็นคนจากโลกจะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
ศัตรูของมันเลวร้ายเกินกว่าจะใช้สามัญสำนึกคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของมันได้
มันควรหาวิธีแก้อย่างสันติไหม?
แต่การต่อสู้กับไอ้คังวูจินไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ที่น่าเสียดายคือชัยชนะที่ควรได้มาง่ายๆ กลับเริ่มซับซ้อนขึ้นเรื่อยจนตอนนี้ไม่อาจเลี่ยงการเผชิญหน้ากันตรงๆแล้ว
มันรอให้คนอื่นสู้กันและฉวยโอกาสซ้ำเติม แต่ตอนนี้มันต้องสู้เอง
“ถ้าข้าต้องสู้ ข้าต้องทำให้แน่ใจ”
เกรทลอร์ดอิเอลโล
มันรวบรวมรหัสมิติได้เพียง 20 รหัส แต่มันมีสิ่งที่เกรทลอร์ดลำดับสูงคนอื่นไม่มี
มันรวบรวมลอร์ดมิติลำดับต่ำเป็นลูกน้อง ภายใต้คำอ้างว่าเป็นพันธมิตร
“ข้าจะเรียกพวกมันทั้งหมดมา”
อิเอลโลเริ่มรวบรวมนักรบของมันทั้งหมดมา มันจะเข้าสู่สงครามเพื่อชิงรหัสมิติที่สำคัญที่สุด
ราชาคุยของสหพันธ์กิ้งก่าเหลืองจากดาวจาคุ สหพันธ์อิซัวรัลจากดาวลิทาน สหพันธ์จากดาวจูจูโร...
แล้วยังมีลอร์ดมิตินากามูระจากโลกที่แสดงความภักดีกับมัน...
ไม่สำคัญว่าพวกมันมีพลังระดับไหน อิเอลโลเรียกลอร์ดมิติทั้งหมดมา
***
ตึกรัฐสภาใหม่ เมืองเซจง
“พ...พวกเราจะทำยังไงดี”
หัวหน้าเลขาธิการกระซิบที่หูคิมบยองแมน เสียงเขาเต็มไปด้วยความกังวล คิมบยองแมนกลืนเสียงครางกลับไป
หรือว่าเขาจะเป็นประธานาธิบดีคนสุดท้ายของเกาหลีที่มาถึงจุดจบพร้อมกับประเทศ?
ตอนนี้ สถานการณ์ในเกาหลีเหมือนกำลังเดินบนเส้นด้ายเหนือหุบเหวไม่มีก้น มันเป็นสถานการณ์ที่เปราะบางมาก
“อย่างน้อยเราควรเจรจากับอิเอลโลไหม? ตอนนี้ประชาชนกำลังวิตกกังวลมาก”
“ไม่มีทาง จู่ๆเขาก็โผล่มา พยายามหว่านล้อมให้พวกเรายอมรับข้อตกลง เราไม่ควรฟังเขา”
สมาชิกสภานิติบัญญัติกำลังออกความเห็นของตัวเอง
เมื่อกาอมตะ ไอบริท มาถึงโลก โซลต้องเจอกับดันเจี้ยนเบรกเป็นวงกว้าง แต่คังวูจินโผล่มาจากที่ไหนไม่รู้และปกป้องโซลไว้ได้
แต่หลังจากคังวูจินจากไป อิเอลโลก็โผล่มาทันที
อิเอลโลพิเศษกว่าลอร์ดมิติตนอื่นเพราะใช้อดีตหัวหน้ากิลด์ฮวารางเป็นตัวแทน การเจรจากับอิเอลโลเป็นเรื่องที่เป็นไปได้
รัฐสภากำลังถกเถียงกันเรื่องการสร้างพันธมิตร...
ขณะต่างฝ่ายถกเถียงกันไม่มีใครยอมใคร จู่ๆเหล่ามอนสเตอร์ก็ปรากฏตัวอีกครั้ง
มังกรราชาคุย ที่เคยบุกโซลกลับมาอีกครั้ง...
ยิ่งกว่านั้น ลอร์ดมิติยังตั้งอาณานิคมไปทั่วโซล... ถ้าทั้งหมดนั่นประสานเสร็จ...
“เราจะเสียโซลไปในคืนเดียว เราต้องตัดสินใจ”
“พวกนั้นเสนอความร่วมมือก่อนและเราตกหลุมมันแล้ว ตอนที่เรากำลังปรึกษากัน พวกมันฉวยโอกาสที่เราลังเลสร้างฐานทัพขึ้นมา”
บางคนเชื่อว่าการเสนอให้ความร่วมมือเป็นอุบายถ่วงเวลาสำหรับสร้างอาณานิคม
“ในเมื่อมันกลายเป็นแบบนี้ เราควรร่วมมือกับอิเอลโล”
สถานการณ์ทั้งหมดเป็นผลเสียกับพวกเขา บางคนจึงผลักดันให้รับข้อเสนอ
“เราจะไปเชื่อใจเขาได้ยังไง? เขาไม่ใช่มนุษย์ เป็นแค่ก้อนน้ำแข็ง”
“ญี่ปุ่นร่วมมือกับเขาแล้วนะ! ถ้าเราตัดสินใจสู้อิเอลโลเท่ากับเป็นศัตรูกับญี่ปุ่น”
“อิเอลโลคงกลัวที่จะโจมตีญี่ปุ่นถึงคิดยึดโซลแทน เราจะยอมให้มันเป็นแบบนั้นเหรอ?”
สมาชิกรัฐสภาตะโกนใส่กันสุดเสียง ประธานาธิบดียิ่งกังวลหนักขึ้นอีกเมื่อเห็น อิเอลโลโผล่มาจากที่ไหนไม่รู้และเสนอความร่วมมือ ตอนนี้เขาอยู่ในโซลเหมือนแขกที่ยึดห้องนอนหลักของบ้านไป
การกระทำของอิเอลโลไม่ต่างจากการบุกยึดเกาหลี แต่พวกเขาต้องให้ความร่วมมือ... ตอนนี้อิเอลโลกำลังขยายฐานกำลัง การกระทำของเขาเชื่อถือไม่ได้
เมื่อวุฒิสมาชิกคนหนึ่งเห็นประธานาธิบดีเงียบ เขาก็พูดถ้อยคำทิ่มแทง
“อย่างน้อยก็บอกวิธีการอะไรให้พวกเราหน่อยสิครับ”
“ความร่วมมือไม่สำคัญแล้ว เพราะโซลล่มไปแล้ว”
ประธานาธิบดีโต้กลับทันที
“นี่คือท่าทีอย่างเป็นทางการของท่านเหรอ? ท่านกำลังประกาศว่าลอร์ดมิติอิเอลโลเป็นศัตรู?”
“ลดเสียงหน่อย ผมแค่พูดความจริง”
ประธานาธิบดีพูดเสียงดังขึ้น
ตอนนี้ไม่สำคัญแล้วว่ามันคือการเสนอความร่วมมือหรือการบุกรุก ฝ่ายตรงข้ามได้เปรียบทุกด้าน ในสถานการณ์ไม่แน่นอนแบบนี้ คำพูดเสนอความร่วมมือของอิเอลโลก็แค่คำหวานเลื่อนลอย
“เราเป็นพันธมิตรกับอลันดาลอยู่แล้ว ถ้าอลันดาลกับอิเอลโลเคยเป็นศัตรูกันพวกคุณจะทำยังไง?”
ประธานาธิบดีถาม วุฒิสภาคนหนึ่งที่ทำตัวต่อต้านมาแต่แรกตะโกนอย่างไม่ต้องคิด
“ราชาของอลันดาลเอาแต่ทำตามใจชอบ เราเชื่ออิเอลโลไม่ดีกว่าเหรอ? อย่างน้อยเขาก็ไม่หลุดจากการควบคุม”
ประธานาธิบดีคิมบยองแมนหัวเราะขื่น
“ก็อย่างที่ผมพูด เราไม่มีอะไรไปต่อรองกับเขา”
มันทำให้เขาอยากร้องไห้ แต่มันคือความจริง
“ปราการลอยฟ้าของอลันดาลกำลังใกล้เข้ามา”
ปราการลอยฟ้าหันหัวที่ไต้หวันและมุ่งไปทางเหนือ รัฐบาลเกาหลีส่งคำถามแต่อลันดาลยังไม่ตอบ
นี่เป็นแค่การคาดเดา แต่ทุกคนเชื่อว่าปราการลอยฟ้ากำลังเดินทางกลับมาเริ่มสงครามครั้งใหญ่
“สงครามระหว่างอลันดาลกับอิเอลโล...”
สงครามกำลังจะเกิดบนแผ่นดินเกาหลี แต่พวกเขาคิดไปทางอื่น
รัฐบาลเกาหลีไม่มีพลังหยุดการต่อสู้ กระทั่งการเลือกข้างพวกเขายังไม่เป็นหนึ่งเดียวกันพอจะเลือกได้ สิ่งที่พวกเขาทำได้มีไม่มากนัก
“เราต้องมุ่งไปที่การอพยพพลเมืองออกจากโซล”
คำพูดของประธานาธิบดีทำให้สมาชิกรัฐสภาประท้วง
“ท่านกำลังจะบอกให้เราทิ้งโซล?”
“ในฐานะประธานาธิบดี นี่เป็นคำที่ท่านควรพูดเหรอ?”
คิมบยองแมนยืนขึ้นมองพวกเขา เส้นเลือดที่คอปูดโปน
“ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน?”
“...”
พวกเขาจากอาคารรัฐสภาเก่ามาแล้ว สิ่งเดียวที่ถูกทิ้งไว้ในโซลคือผู้คนที่ไม่มีกำลังจะหนีออกมา กลุ่มผู้นำประเทศและบุคคลชั้นนำล้วนแต่ดึงครอบครัวของพวกเขาออกจากโซลไปหมดไปนานแล้ว  
“ผมไม่ได้บอกให้เราทิ้งโซล”
น้ำตาที่เขากลั้นไว้ร่วงลงมาจากตาคิมบยองแมน
“ผมบอกให้เราช่วยประชาชนของเรา”



สารบัญ                                           บทที่ 197



2 ความคิดเห็น:

  1. โซลไม่ใช่สถานที่ แต่คือผู้คน....

    ตอบลบ
  2. รัฐควรย้ายคนออกตั้งแต่ดันเจี้ยนเบรกหนแรกๆแล้ว นี่ดันให้คนมีเงินหนีเอง คนไม่มีเงินย้ายอยู่ต่อไป = ="

    ตอบลบ