วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2562

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 121

บทที่ 121 – ผู้มาเยือนจากจาคุ


<คุณได้รับดันเจี้ยน เสานีเซีย เป็นรางวัลจากการดวล>

<คุณได้รับ 30,000 แต้มเป็นรางวัลจากการดวล>

<คุณเริ่มการลงโทษของผู้แก้แค้น>

<คุณได้ 10,000 แต้มที่เสียไปคืนมา>

<คุณได้ไอเทมที่ถูกปล้นไปคืนมา>

วูจินยิ้มให้กับประกาศที่ขึ้นมาเรื่อยๆ

ดวลกับสงครามมิติมีเดิมพันขั้นต่ำที่ 10,000 แต้ม ต่างกันแค่จะสู้ด้วยพลังของอาณาเขตหรือพลังส่วนตัว
เขาได้ 20,000 แต้มเพิ่มจากที่ลงเดิมพันไป และได้ 10,000 แต้มที่เสียไปตอนแพ้สงครามคืนมา

<คุณเริ่มใช้สิทธิ์ของผู้ชนะ>

<กรุณาเลือกระหว่างปล้นห้องเก็บของหรือปล้นอาณาเขต>

การปล้นมี 2 แบบ วูจินเลือกปล้นอาณาเขต

<คุณยึดบึงของโคโมดได้ 5%>

<คุณได้เชลยศึก 17 คน>

<คุณยึดบลัดสโตน 700 แต้ม>

<คุณยึดกระท่อมสองหลังและลานฝึกหมาป่าหนึ่งแห่ง>

ของที่ยึดได้ถูกเก็บไว้ในคลังและสามารถเอาออกมาได้ด้วยเมนูจัดการไอเทมที่ถูกปล้น ไม่นานก็มีประกาศจบการดวล วูจินรู้สึกตัวลอยและภาพเบื้องหน้าก็เบลอไป

“ฮู่ว”

เมื่อภาพเบื้องหน้ากลับมาชัดเจนอีกครั้ง วูจินก็กลับมาที่บัลลังก์

“อ๊ะ เจ้านาย อยู่ๆก็หายไปอยู่ๆก็หวนมา”

ในการดวล ไม่แค่สติที่ถูกเรียกไป ร่างกายของวูจินก็ถูกย้ายไปด้วย

“อืม รอเดี๋ยว”

หน้าต่างจัดการไอเทมที่ถูกปล้นไม่หายไปจากเบื้องหน้าวูจิน เขาจึงดึงไอเทมออกมา

<อาณาเขตอลันดาลขยายเพิ่ม 4%>

เขามองแผนที่ใหญ่ของอลันดาล ส่วนตะวันตกมีบึงเพิ่มเข้ามา ดินแดนของเขาขยายใหญ่ขึ้น วูจินหยิบสิ่งก่อสร้างที่ปล้นมา มันเหมือนตอนสร้างร้าน เขาเลือกได้ว่าจะวางสิ่งก่อสร้างไว้ตรงไหนโดยเลือกจากแผนที่

วูจินวางลานฝึกหมาป่าไว้ใกล้ลานฝึกทหารแบบอื่นๆ ส่วนกระท่อมค่อนข้างแปลกตาถูกวางตรงเขตที่พักอาศัย

เมื่อหยิบบลัดสโตนออกมา มันก็ถูกเพิ่มไปในแต้มพลังงานของดันเจี้ยน จากนั้นเขาเรียกเชลยศึกออกมา

“อืม”

วูจินคิดว่าจะทำอย่างไรดีกับโทรล 17 ตนตรงหน้า

พวกเขามองรอบๆอย่างวิตกและหวาดกลัว แต่ไม่ประหลาดใจ ประชากรในอาณาเขตถูกแย่งชิงเป็นเรื่องธรรมดา

หนึ่งในเชลยศึกคุกเข่าลงแล้วพูด

“โอ ลอร์ด พวกเราจะกลับไปยังบ้านเกิดของเราหลังจากไถ่ค่าตัวแล้ว”

ประชากรในอาณาเขตไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อลอร์ดกันทุกคน

ไม่ว่าจะถูกใช้งานในฐานะนักโทษหรือถูกเอามาเป็นประชากร สักวันพวกเขาจะสร้างปัญหา บ้างก็ตั้งกลุ่มเป็นนักรบรับจ้างเร่ร่อนไปตามมิติต่างๆ

บางครั้ง ประชากรและผู้เร่ร่อนจ้องจะเอาชีวิตของลอร์ด เพราะเหตุนี้อาณาเขตจึงต้องมีกองทหาร ป้องกันการโจมตีจากผู้มาเยือน ผู้บุกรุกและกบฏ

วูจินมีประชากรเพียง 100 คนเขาจึงเก็บนักโทษ 17 คนนี้ไว้ไม่ได้ เขาไม่อยากเอามาเป็นประชากรด้วย

วูจินไม่คิดต่อ เขายอมรับข้อเสนออย่างเต็มใจ

“ได้ มีเท่าไหร่ส่งมาให้หมด”

พวกเขาส่งบลัดสโตนราว 300-400 ก้อนแล้วออกจากอาณาเขตไป

“เขาเป็นไงมั่งเจ้านาย?”

“ใคร?”

“ลอร์ดที่เจ้านายท้าดวลน่ะค่ะ”

“อ่อนมาก”

“งืม”

เธอแพ้ให้กับคนพรรค์นั้น บิบิไหล่ตกหน้าเศร้า

“บิบิ เธอทำได้ดีแล้ว”

“เราแพ้...”

“ไม่เป็นไร เธอทำได้ดี ฉันจะให้เธอใช้ 2,000 แต้มแล้วกัน”

“จริงเหรอ? เจ้านายดีที่สุดเลย!”

วูจินยิ้มกว้างขณะแบ่งพลังงาน 2,000 แต้มให้บิบิ บิบิกระโดดไปรอบๆอย่างดีใจ เธอทำหน้าประสงค์ร้ายและกำหมัดแน่น

“คราวหน้าเราจะชนะ! พรุ่งนี้เอาอีกไหมคะ?”

“ไม่ ตอนนี้ยังมีเวลาเราจะอยู่เฉยๆก่อน”

ช่วงคุ้มครองมีระยะ 12 วัน หรือ 3 วันตามเวลาข้างนอก ถ้าเขาท้ารบช่วงคุ้มครองจะหายไป แม้จะทำได้แต่เขาไม่อยากสู้ในสงครามไม่มีจบสิ้น

อันดับอาณาเขตขึ้นอยู่กับจำนวนพลังงานที่มี การเพิ่มอันดับจึงไม่ยากนัก เรื่องด่วนที่สุดสำหรับวูจินคือเพิ่มเลเวลให้ตัวเอง

เมื่อเขาสู้กับบัลลังก์ทั้ง 72 อย่างน้อยเขาก็อยากให้พลังคืนมาเท่าสมัยก่อน

โลกยังถูกเชื่อมต่อไม่สมบูรณ์ พลังของพวกมันจึงมีจำกัด แต่พวกมันในสงครามมิติคงสามารถใช้พลังได้เต็ม 100%

ดังนั้นวูจินต้องการพลังคืนมา ตั้งแต่ลิชเจนิซถึงมังกรกระดูกรงรง วูจินต้องการทั้งหมด ยิ่งกว่านั้นเขายังต้องเพิ่มเลเวลให้อัศวินมรณะและเพิ่มจำนวนโครงกระดูก

“ไหนดูซิ...”

วูจินมองดันเจี้ยนที่เพิ่งได้มา

เสานีเซียของโลกจาคุ

บนโลก วูจินสามารถใช้อิทธิพลห้ามไม่ให้ใครเข้าดันเจี้ยนของเขา แต่ที่จาคุเขาทำแบบนั้นไม่ได้

จะมีเราส์นับไม่ถ้วนเข้ามาในดันเจี้ยนของเขาเพื่อเคลียร์ เขาต้องเตรียมตัวเอาไว้

วูจินใส่พลังงานให้ดันเจี้ยนอย่างรวดเร็ว จากนั้นเปลี่ยนรีเซ็ทมอนสเตอร์เป็นทหารโครงกระดูกกับนักเวทย์โครงกระดูก จำนวนโครงกระดูกที่ส่งไปแค่พอให้จัดการกับผู้บุกรุก เขาต้องจำกัดพลังงานสำหรับฟื้นจำนวนมอนสเตอร์ลง

“ไหนดูซิว่าไอ้เวรที่ไหนจะเข้ามา”

วูจินเคยแต่เคลียร์ดันเจี้ยน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะถูกท้าทายในฐานะเจ้าของดันเจี้ยน ผ่านไปครู่หนึ่ง เราส์ของโลกจาคุก็เหยียบย่างเข้ามาในดันเจี้ยนเสานีเซีย

<’เสานีเซีย’กำลังถูกโจมตี>

<โลกจาคุกับอาณาเขตมิติเริ่มการประสานกัน คุณเหลือเวลาอีก 30 วัน>

หลักฐานมิติสีม่วงชิ้นหนึ่งถูกวางบนแท่นบูชาหลังบัลลังก์ หินรีเทิร์นสโตนสีเขียวก่อตัวขึ้นข้างๆกัน

***

พวกเขามีร่างสูงยาว หูกว้าง เป็นเผ่าพันธุ์มีสองเท้าผิวสีน้ำเงิน

พวกเขาห่มหนังสัตว์แค่พอปิดร่างกาย เผ่าราติค 7 ตนเข้ามาในดันเจี้ยน

“พวกศพหุ่นเชิด ทุบหัวมันพอ”

รีลิค หัวหน้ากลุ่ม เป็นนักรบที่โดดเด่นของเผ่า

เขาเข้าร่วมสงครามเมื่อเดินได้ เขาเป็นนักรบมากประสบการณ์ รู้ว่าจะกำจัดพวกโครงกระดูกได้อย่างไร

ลูกน้องของเขาล้วนเป็นนักรบมีประสบการณ์ของเผ่า

เสานีเซียมีรูปทรงเหมือนถ้ำกลม ดังนั้นจึงใช้เวลาเพียง 30 นาทีในการกวาดล้างดันเจี้ยน

รีลิคพึมพำขึ้นมาเมื่อเห็นอุโมงค์สีแดงก่อตัวขึ้น

“มันเป็นดันเจี้ยนสวรรค์ เตรียมตัวกันให้ดีก่อนเข้าไป”

เผ่าราติค 7 คนเตรียมตัวเต็มที่เมื่อผ่านอุโมงค์สีแดงไป หลังความมึนงง พวกเขามาถึงดินแดนรกร้างแห่งหนึ่ง ไม่มีมอนสเตอร์อยู่รอบๆ

“ระวังตัว”

ในดันเจี้ยนสวรรค์ไม่อาจทำนายได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และดันเจี้ยนนี้เพิ่งถูกรีเซ็ท พวกเขาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับมัน ถ้าพวกเขาพิชิตมันได้ ที่นี่จะกลายเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญสำหรับการอยู่รอดของเผ่าพวกเขา

โลกจาคุไม่เหลือแหล่งพลังงานอะไรที่มีค่าเท่าบลัดสโตนแล้ว

“มีริโนเซรอสหุ้มเกราะ”

รีลิคเห็นฝูงริโนเซรอสอยู่ไกลๆ เขาส่งสัญญาณให้นักรบเผ่าราติค สัตว์ชนิดนี้ก็มีในโลกจาคุเช่นกัน

เหล่านักรบมุ่งหน้าไปทางริโนเซรอสแต่แล้วพวกเขาก็หยุดชะงัก

เสียงร้องที่ทำให้หนาวเยือกแล้วพวกไวเวิร์นก็ปรากฏบนท้องฟ้า พวกมันคือความน่ากลัวของท้องฟ้า

“มังกร!”

เหล่านักรบรีบหาที่กำบัง ที่นี่เป็นทุ่งร้างแต่ยังพอมีต้นไม้และหินใหญ่ให้พวกเขาหลบ

“รัคชา!”

รีลิคตะโกน นักเวทย์รัคชาเตรียมตัวเสร็จแล้ว เธอขยับนิ้วเหมือนกำลังดีดเครื่องดนตรี สายฟ้าปรากฎขึ้นแล้วพุ่งใส่ไวเวิร์น

สายฟ้าระเบิดเมื่อโจมตีถูกไวเวิร์น มันตาเหลือกแล้วร่วงลงมา แต่ยังเหลือพวกมันอีก 8 ตัว ฝูงไวเวิร์นต้องโจมตีเธอก่อนจะใช้เวทย์ครั้งถัดไปแน่

“เอ๊ะ? มีคนขี่ เตรียมตอบโต้คนขี่!”

บนไวเวิร์นตัวหนึ่งมีอานและมีคนนั่ง มังกรป่าอันตราย แต่หากมีคนขี่จะยิ่งอันตรายกว่าเดิม

ถ้าคนขี่เป็นนักเวทย์ ไม่มีอะไรน่าอึดอัดไปกว่าการถูกเวทย์ยิงใส่จากบนฟ้าอีกแล้ว

แต่ คนขี่ไวเวิร์นหล่นลงมา

พื้นดินสั่นสะเทือน ฝุ่นลอยขึ้นมา คนที่กระโดดลงมาคือเจ้าของอาณาเขต คังวูจิน

“พวกนายมาจากโลกจาคุงั้นสิ”

คังวูจินซื้อยาเรียนภาษาของโลกจาคุ เขากินไป 7 เม็ดและภาษาของเผ่าราติคก็เป็นหนึ่งในนั้น

“ยินดีต้อนรับสู่อลันดาล”

รีลิคเดินออกมาจากด้านหลังก้อนหิน

“บอกฐานะของเจ้ามา มนุษย์”

เขาถามเพราะดันเจี้ยนสวรรค์มีเจ้าของหลากหลายเผ่าพันธุ์ มนุษย์,โทรล,ออเกอร์,ฯลฯ

“ฉันเป็นบอสของที่นี่”

วูจินลดมือที่กอดอกลงแล้วชี้ที่พื้น

รีลิคฉวยโอกาสที่ศัตรูทำตัวตามสบาย ถ้าเขาสังหารบอสได้ ดันเจี้ยนก็จะเคลียร์ โดยธรรมชาติแล้วเมื่อการเชื่อมโยงระหว่างดันเจี้ยนและเจ้าของถูกตัดขาด ดันเจี้ยนจะกลายเป็นเหมืองบลัดสโตน

“ฉันมีหลายเรื่องเกี่ยวกับโลกจาคุที่อยากรู้”

ฟังคำพูดของวูจิน รีลิคกระชับดาบในมือ มันเหมือนคูคริ ใบดาบโค้งเหมือนจันทร์เสี้ยว

“เชื่อว่าเจ้าไม่อยากคุยกับข้าดีๆ”

วูจินยิ้ม

“ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าจะคุยกับนาย?”

“...!”

ควันดำก่อตัวรอบวูจิน อัศวินมรณะถูกเรียกออกมาทั้งหมด

“มันเป็นซัมมอนเนอร์!”

อสูรอัญเชิญเหล่านี้ปล่อยพลังมืดออกมารุนแรง

ผีดิบแต่ละตัวเปล่งรังสีของนักรบกล้า การปรากฏตัวของอัศวินมรณะทำให้นักรบเผ่าราติคช็อก พวกเขามีเพียง 7 คน ระดับความยากของดันเจี้ยนนี้สูงเกินไป

อัศวินมรณะมีมากกว่า 50 ตน

“ถอย!”

รีลิคตัดสินใจอย่างรวดเร็วและนักรบเผ่าราทิควิ่งหนีไปทันที พวกเขาต้องทิ้งระยะห่างก่อนใช้หินรีเทิร์น

“เอามาให้ฉันให้ได้สักคน”

[นี่คือการล่า!]

อัศวินมรณะเรียกม้าปีศาจออกมาทันที

[เจ้าจะพนันกับข้าไหม คิบะ?]

แรมสันพูดอย่างหนักแน่น คิบะที่นั่งบนหมาป่าปีศาจบ่น

[เล่นเป็นเด็กไปได้]

นักรบเผ่าราทิคหนีเร็ว แต่ไม่นานก็ถูกอัศวินมรณะล้อม รีลิคเหวี่ยงอาวุธในมือแต่มันไม่พอ อัศวินมรณะกดดันพวกเขาเหมือนกำลังล่ากวาง

‘ไม่จริง’

รีลิคเป็นนักรบกล้าของเผ่า ทั้งชีวิตอยู่แต่ในสนามรบ เขาพิชิตดันเจี้ยนมานับไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจออะไรแบบนี้

บ้าสิ้นดี

ดันเจี้ยนมีเจ้าของมีบนโลกจาคุ เจ้าของปรากฏตัวบนโลกเป็นครั้งคราว พลังของเจ้าของดันเจี้ยนแข็งแกร่งมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะสู้ไม่ได้

แต่นี่... พวกเขาไม่นับเป็นศัตรูด้วยซ้ำ

“...วิญญาณ...ราติ”

รีลิคคว้าหอกแทงเข้าหัวใจเขาพร้อมตะโกนคาถาครั้งสุดท้าย มันเป็นคาถาลับที่ทำให้เขารวบรวมพลังชีวิตทั้งหมดแล้วระเบิดตัวเอง

ดาบของอัล อัสสาดตัดศีรษะของรีลิคลงมา

วูจินใส่วิญญาณของรีลิคลงไปในหินกักอสูร มองอัล อัสสาดพลางหัวเราะ

“เตรียมรับน้องใหม่ได้”

อัล อัสสาดตัวสั่นเมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเจอมา ความเจ็บซึมลึกเข้าไปในกระดูก แน่นอน สิ่งเดียวที่เขามีคือกระดูก...

“เอ๋? ทำไมมีแค่ 6 ล่ะ”

วูจินนับจำนวนศพแล้วมองรอบๆ อุโมงค์หนึ่งเปิดอยู่ตรงที่ๆไวเวิร์นหล่นลงมา

วูจินขมวดคิ้ว

“เชด หลบอยู่สินะ”

รัคชาใช้คาถาอำพรางตัวเธอแล้วผ่านอุโมงค์หนีออกจากดันเจี้ยนไป

เขาเสียไปคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่

วูจินได้วัตถุดิบทำอัศวินมรณะได้หนึ่งคน และจะมาเป็นไกด์ของโลกจาคุได้อย่างดี





                                   สารบัญ                                              บทที่ 122

1 ความคิดเห็น: