เฮลิคอปเตอร์สามลำของกิลด์ไททันลอยตัวขึ้น
มีเพียง คังวูจิน สตรีศักดิ์สิทธิ์ หัวหน้ากิลด์ไททันและอัศวินศักดิ์สิทธิ์ 10 นายที่ร่วมภารกิจนี้
เดคอนยังไม่หายกังวล
“ไม่มีกำลังสนับสนุนจะดีเหรอครับ?”
เขากระซิบถามสตรีศักดิ์สิทธิ์
“ไม่เป็นไรหรอก”
“แต่ อำนาจการยิงของพวกเรา...”
ทีมสนับสนุนเราส์ของอเมริกามีระบบที่ต่างจากของเกาหลีเล็กน้อย ทีมสนับสนุนของเกาหลีเหมือนทีมทหารรับจ้าง ส่วนทีมสนับสนุนในกิลด์ใหญ่อย่างไททันเหมือนกองทัพ
เนื่องจากมีเราส์จำนวนน้อย ทีมไททันจึงพึ่งพาอำนาจการยิงล้นเหลือในการรับมือดันเจี้ยนเบรก
“ถ้าเป็นอำนาจการยิง อสูรรับใช้ของชายคนนั้นก็เพียงพอแล้ว”
สตรีศักดิ์สิทธิ์ยังลืมวูจินที่ใช้ลิชกับพลังเวทย์ของนักเวทย์โครงกระดูกไม่ลง เวทย์ไฟตกจากท้องฟ้าเหมือนฝน ภาพที่เห็นมันโหดร้ายเกินกว่าจะเรียกว่าน่าตื่นตาตื่นใจ
“ฉันยังเรียกจานิซออกมาไม่ได้นะ”
วูจินเอ่ยลอยๆระหว่างมองออกไปนอกหน้าต่าง
“คะ?”
“ลิชก็ยังเรียกไม่ได้”
“เป็นไปได้ยังไง...”
“พวกนั้นถูกผนึกไว้น่ะ”
“...”
ดวงตาสตรีศักดิ์สิทธิ์สั่นสะท้านเมื่อได้ฟัง
ถูกผนึก? พลังของผู้ไม่ตายน่ะเหรอ? เวทย์บงการภูตผีหลายต่อหลายบท?
“อัศวินแห่งความตาย...”
“ผนึกจะถูกปลดเร็วๆนี้แหละ แต่ตอนนี้ยังเรียกออกมาไม่ได้”
เหล่านักสู้ผู้ไม่หลั่งเลือดหรือน้ำตา
แม่ทัพของทหารโครงกระดูก
หัวหอกของทัพผีดิบ
ถ้าพวกนั้นยังถูกผนึกไว้ อสูรที่อยู่กับเขาก็...
เมโลดี้แน่ใจว่าลูกบอลแสงที่ครองที่นั่งที่หนึ่งในเฮลิคอปเตอร์คือไททันแห่งการทำลาย มีพลังประหลาดแอบแฝงอยู่ในเงา และแม่มดมายาถูกรัชโมดจับตัวไว้...
‘ถ้าแค่นี้ล่ะก็...’
วูจินยิ้มเหมือนเดาใจเมโลดี้ได้
“อะไร? อยากลองสู้กับฉันเหรอ?”
สตรีศักดิ์สิทธิ์สะดุ้ง
รอยยิ้มของวูจินยิ่งทำให้เขาดูอันตราย
“พูดเรื่องอะไรเหรอคะ...”
“เห็นนะว่าเธอมองขึ้นมองลงเหมือนกำลังประเมินฉันอยู่”
“...”
“อยากลองเมื่อไหร่ก็มาเลย แต่ตอนนี้รอก่อน”
วูจินไม่สนใจหากสตรีศักดิ์สิทธิ์ทำตัวเป็นศัตรูกับเขา เขารู้ตัวว่าเมื่อก่อนตัวเองเป็นอย่างไร ถ้าจะหวังให้เธอมองเขาดีขึ้นคงเป็นเรื่องตลก เหตุผลเดียวที่สตรีศักดิ์สิทธิ์ระวังตัวก็เพราะความกลัวจากสมัยก่อนครอบงำเธออยู่
ถ้าเมโลดี้โจมตีเขา แม้วูจินจะมีเลเวลไม่เต็มแต่เขามีวิธีรับมือ
แต่ต้องช่วยบิบิก่อน
“ผู้น้อยแค่มองท่านจ้าวเท่านั้นค่ะ”
“ตลก”
วูจินยิ้ม
“ฐานพวกนั้นอยู่ข้างหน้าแล้วครับ”
“เอ๋”
คำพูดของคนขับเฮลิคอปเตอร์ทำให้เดคอนมองข้างหน้าอย่างแปลกใจ มันเป็นฟาร์มว่างเปล่า แต่อยู่ใกล้นิวยอร์คขนาดนี้เลยเหรอ?
วูจินมองหาร่องรอยที่บิบิทิ้งไว้
เขามองอาคารพังๆแล้วรู้สึกถึงพลังของบิบิ พร้อมกันนั้น เขาก็รู้สึกถึงพลังงานเหนียวหนืดน่ารังเกียจใกล้ๆ
“รัชโมด”
สายตาวูจินเปลี่ยนเป็นเย็นชา
***
ด้านในโรงนากว้างขวางมีเฮลิคอปเตอร์หนึ่งลำ ยานพาหนะที่เห็นในกองทัพ มีกระทั่งรถถัง...
มองเผินๆเหมือนของสะสมของคนบ้าทหารที่ร่ำรวย แต่ที่จริงแล้วมันคือคลังอาวุธของมาเฟีย
ในห้องหนึ่งที่อยู่ด้านในโรงนา เสียงชายคนหนึ่งพูดไปด่าไปดังลอดออกมา
“เมี้ยว”
บิบิกำลังซ่อนตัวในความมืด ย่องเงียบๆไปที่ชายคนนั้น หูเธอกระดิก
[หัวหน้า เขาทำงานพลาด เป้าหมายยังมีชีวิตอยู่]
“อะไรนะ!?”
[เป้าหมายยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้เรากำลังกลับ]
“รีบกลับมาเร็วๆ”
แจ็คคือหัวหน้าขององค์กรริเวอร์ หลังคุยกับคนสอดแนมที่เขาส่งเข้าเมือง เขาพ่นคำหยาบออกมายาวเหยียด
“หัวหน้า เกิดอะไรขึ้น”
“อัสสาดทำงานพลาด”
“อะไรกัน?”
นึกไม่ถึงว่าเรื่องแบบนี้จะเป็นไปได้ อัสสาดเป็นนักลอบสังหารที่เก่งที่สุดในตะวันออกกลาง แต่เขาทำงานไม่สำเร็จ
“แสดงว่าเจ้านั่นไม่ใช่เนโครแมนเซอร์ธรรมดา”
“ของมันก็เห็นชัดอยู่แล้วจะพูดทำไม?”
เราส์สายเวทย์ทั่วไปคงแทบฆ่าอัสสาดไม่ได้ การที่เนโครแมนเซอร์ออกมาจากดันเจี้ยนแสดงว่าเขาลงมือฆ่าอัสสาดด้วยตัวเอง
“พวกเราจะถูกค้นไหม?”
“อ๊าก... ว่าแล้วว่าไม่ควรยุ่งกับพวกตะวันออกกลางเลย”
ความเครียดของหัวหน้าองค์กรพุ่งสูงเมื่อนึกว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเป้าหมายยังมีชีวิต การตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนจะตามมาในไม่ช้า
“ไม่เป็นไร เราตัดสินใจจะทิ้งฐานนี้อยู่แล้ว”
“แต่ยังมีการทดลองต้องทำ...”
“...คงต้องเลื่อนกำหนดการเข้ามาหน่อย”
แจ็คสวมเสื้อเวสต์ เหน็บปืนพกสองกระบอก
“ฉันไปพบศาสตราจารย์แล้วจะกลับมา เพิ่มระดับรักษาความปลอดภัย เตรียมให้ออกจากที่นี่ได้ทันที”
“ครับ หัวหน้า แล้วเอาอะไรไปด้วยครับ?”
“เจ้าโง่! ทิ้งทั้งหมดนั่นแหละ เอาไปเฉพาะผลการทดลองที่เหลือเราจะระเบิดฐานทิ้ง”
“ครับ”
แม้จะเป็นอาวุธล้าสมัยแต่นี่ก็ถือว่าเสียไปมาก แต่ช่วยไม่ได้ ถ้าพวกเขาหอบทุกอย่างหนีไปด้วยย่อมโดดเด่นเกินไป
สมาชิกองค์กรอาชญากรรมรีบเร่งเก็บของและวางระเบิดตามที่ต่างๆ
แจ็คออกจากตึกแล้วเข้าไปในตึกคอนกรีตเล็กๆริมฟาร์ม
ครืด ครืด
ประตูเหล็กหนาเปิดออกเห็นบันไดทอดลงไปชั้นใต้ดิน
ถ้าโรงนาเป็นคลังเก็บอาวุธขององค์กรริเวอร์ หลุมหลบภัยใต้ดินคือแหล่งรายได้ของพวกเขา มันเป็นที่วิจัยดันเจี้ยน
องค์กรริเวอร์ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมของสหรัฐในการวิจัย พวกเขาหาสถานที่ๆเหมาะกับการวิจัยและคุ้มครองเจ้าหน้าที่วิจัย
ริเวอร์เดิมเป็นองค์กรขนาดเล็ก ที่กลายเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่แบบนี้เพราะการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมเป็นหลัก
เสียงฝีเท้าของแจ็คดังก้องทางใต้ดิน เขาหยุดเมื่อรู้สึกผิดปกติ
“ใคร!”
เขาชักปืนหันไปด้านหลัง
“เมี้ยว”
แจ็คเห็นแมวตัวหนึ่งเอียงคอ กำลังจะเดินลงมาแต่ชะงักไว้
“ชิ่ว”
เมื่อเห็นว่าเป็นแมวเขาก็เลิกระวังตัว แจ็คพยายามเดินดังๆให้แมวตกใจ มันนิ่งเพียงครู่เดียวแล้วก็ตามเขาลงมา แจ็คเลิกสนใจแล้วเดินต่อ
***
สถานที่วิจัยรกร้าง
ขั้นล่างสุดของบันไดเป็นพื้นที่สำหรับให้พนักงานวิจัยนอน นอกนั้นมีเพียงคอมพิวเตอร์สองสามตัวกับเครื่องจักรหน้าตาประหลาด
สิ่งน่าสนใจของหลุมหลบภัยใต้ดินนี้คือมันทอดตัวไปทุกทิศทางเหมือนรังมด และบลัดสโตนวางกองในอุโมงค์
“ศาสตราจารย์ริโอลา! เราต้องเปลี่ยนฐาน”
ริโอลาผู้เป็นหัวหน้างานวิจัยขมวดคิ้ว
“งานวิจัยใกล้เสร็จเต็มที ตอนนี้ผมไปไหนไม่ได้”
“ฐานของเราอาจถูกค้น...”
“เราวางแผนจะย้ายในอีกสองวันไม่ใช่เหรอ?”
ตามแผนก็เป็นเช่นนั้น พวกเขายิงจรวดในนิวยอร์ค ดังนั้นกระทรวงกลาโหมต้องหาผู้ลงมือ หลังจากผ่านไปสักพัก พวกเขาวางแผนให้ที่นี่ถูกพบ แต่ตอนนี้เป้าหมายยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาต้องเปลี่ยนแผน
พวกเขาอาจจะถูกจับเร็วกว่าเดิม
ผู้สนับสนุนของพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ถ้ารัฐบาลคิดจะตอบโต้ เบื้องหลังรัฐบาลคือประชาชนที่โกรธเกรี้ยวเมื่อเกิดการก่อการร้าย
พวกเขาต้องรีบหนีไปให้เร็วที่สุด
หลังจากถกเถียงกันนานริโอลาก็ยอมถอย
การคำนวณต่างๆเรียบร้อยไปแล้ว เหลือแต่ทดลองขั้นสุดท้ายกับรวบรวมข้อมูลที่ได้
“เข้าใจแล้ว ขอเวลาผม 3 ชั่วโมง เราจะออกจากที่นี่หลังจากทดลองครั้งสุดท้าย”
บิบิหลบในเงามืดพลางสำรวจเส้นทางใต้ดิน
‘มีอะไรแปลกๆ’
เธอรู้สึกถึงอันตรายเพิ่มขึ้นทุกทีๆ
เจ้าหน้าที่วิจัยวางบลัดสโตนตามจุดต่างๆอย่างวุ่นวาย ศาสตราจารย์ริโอลาเปิดกล่องสีดำแล้วหยิบพลอยสีม่วงจ้าออกมา
‘ชิ้นส่วนมิติ!’
บิบิตาวาว
ศาสตราจารย์ริโอลาจัดบลัดสโตนเป็นเหมือนวงเวทย์ วางพลอยสีม่วงลงตรงกลาง จากนั้นหันไปทางเจ้าหน้าที่คนอื่น
“ขึ้นไปได้เลย”
เวลารอน่าเบื่อของแจ็คสิ้นสุดลง เขาขึ้นบันไดไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่คนอื่น เมื่อทุกคนจากไป ชิ้นส่วนมิติลอยขึ้นกลางอากาศ
“เมี้ยว อะไรบางอย่างที่แย่มากๆกำลังจะเกิดขึ้นที่นี่เมี้ยว”
เหลือแต่บิบิอยู่ในหลุมหลบภัย เธอรู้สึกไม่ดีเมื่อพลังเวทย์หมุนวนรอบๆชิ้นส่วนมิติ
บลัดสโตนที่วางรอบๆส่งเสียงกระหึ่ม จากนั้นลอยขึ้นกลางอากาศทีละอันๆปล่อยพลังเวทย์ออกมา
“อึก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไม่ดีแน่เลยเมี้ยว”
บิบิวิ่งขึ้นบันได แต่ก่อนจะวิ่งขึ้นไปถึงขั้นบนสุดก็เกิดลำแสงจากใต้ดินพุ่งขึ้นฟ้า จากนั้นหลุมหลบภัยก็คืนสู่สภาพเดิม
“เอามันมาตรงนี้เร็วเข้า”
ศาสตราจารย์ริโอลาเดินเครื่องวัดพลังงานในดันเจี้ยนด้วยใจระทึก นักทดลองคนหนึ่งควบคุมการทำงานของเครื่องวัด ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“อ๋า? หรือเราจะทำสำเร็จ”
“วัดได้เท่าไหร่?”
“5 ดาว อา ถึง 6 ดาวแล้ว”
“เยี่ยม!”
ริโอลากำหมัด เขาจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งด้านดันเจี้ยนแทนท็อปเลอร์ (TN-ตามเนื้อเรื่องท็อปเลอร์เคยโผล่มาครั้งหนึ่ง ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับดันเจี้ยน)
เขาได้ทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
เขาสร้างดันเจี้ยนใหม่ที่ไม่มีในสถานีรถไฟใต้ดิน
“เอ๊ะ? ค่ายังเพิ่มขึ้นไม่หยุด ค่า... ดันเจี้ยน 7 ดาว...”
“อะไรนะ?”
ริโอลามองตัวเลขอย่างประหลาดใจ นี่เป็นค่าที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เปรี๊ยะ!
คลื่นกระแทกขนาดใหญ่แผ่ออกมาจากดันเจี้ยน เครื่องวัดพลังงานและหลังคาของโรงนาที่สร้างลวกๆพังครืน คลื่นกระแทกผลักบรรดารถถังออกไป รวมทั้งยานพาหนะต่างๆก็ถูกเหวี่ยงกระเด็นเหมือนทอร์นาโดลง
ริโอลากับแจ็คที่อยู่ใกล้ดันเจี้ยนถูกผลักล้มกลิ้ง คนที่โชคร้ายตายคาที่ คนที่โชคร้ายกว่าอยู่ในสภาพใกล้ตาย หายใจพะงาบๆ
“คึ ฮ่าๆๆๆ ใครอัญเชิญข้า รัชโมด?”
เสียงเยือกเย็นดังขึ้นขณะรัชโมดแทรกตัวผ่านประตูแคบๆของดันเจี้ยนออกมา ดวงตาเป็นประกายมองแมวในเงื้อมมือกำลังพองขนขู่
“โฮ่ พลังของซัคคิวบัสนี่ช่างคุ้นเคยนัก...”
“ฟ่อ”
บิบิจ้องรัชโมดเขม็ง แต่เธอทำอะไรไม่ได้ กาเกบิที่อยู่ในเงาของหน่วยสอดแนมคนหนึ่งผละไป
***
เฮลิคอปเตอร์จอดใกล้ฟาร์ม
วูจินเดินไปอย่างไม่ลังเลโดยมีโดลเซที่เป็นห่วงบิบิตามเขาไป
เดคอน สตรีศักดิ์สิทธิ์และอัศวินศักดิ์สิทธิ์ตามไป สายตามองทางขรุขระขณะมุ่งหน้าไปยังโรงนาที่ถล่มลงมา
วูจินเห็นกลุ่มคนไร้อาวุธที่หนีไปไม่ได้กำลังมองรัชโมด
“ฮ่าๆๆ เป็นซัคคิวบัสของผู้ไม่ตายจริงๆ”
รัชโมดจับบิบิห้อยไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง หัวเราะเสียงดัง วูจินหรี่ตา
“ท่าทางจะยังประสานไม่สำเร็จสินะ”
“คึๆ โลกยังไม่พร้อม ข้ามาเพราะความสนใจ ข้าอยากเห็นว่าใครเป็นคนสร้างวงเวทย์อัญเชิญ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นผู้ไม่ตาย!”
รัชโมดดูยินดีกับสถานการณ์ตอนนี้อย่างแท้จริง
“ผู้ไม่ตายหนีมาซ่อนตัวที่โลกนี่เองรึ?”
“คืนบิบิมา”
“ฮ่าๆ หนูน้อยนี่เหรอ?”
รัชโมดแกว่งแมวไปมา
“ข้ารู้ว่าอสูรของผู้ไม่ตายไม่อาจสังหารได้อย่างแท้จริง เรื่องนี้พวกมันเหมือนพวกเรา”
ใช่ แม่ทัพของทราห์เน็ตเหมือนพวกปลิง
“คึๆ ข้ารู้ดียิ่งกว่าใคร ความเจ็บปวดสิ้นหวังจากความตาย”
เมื่อคืนชีพ ประสบการณ์ที่เคยตายไปไม่ได้หายไป ความทรงจำของการผ่านความตายนั้นน่าหวาดหวั่น ความกลัวจะเพิ่มขึ้น วูจินไม่อยากให้บิบิต้องเจอกับความเจ็บปวดสิ้นหวังจากความตาย
“สงสัยนายจะสมองเสื่อมไปแล้ว? ไม่ใช่ว่าโดนฉันฆ่าไป 5 รอบเหรอ?”
“อ้อ ใช่ เป็นเช่นนั้นจริง”
รัชโมดหัวเราะ
“แต่ นั่นเป็นตอนที่เจ้ายังไม่ถูกเปลี่ยนมาเริ่มใหม่”
“...”
รัชโมดมองวูจินเหมือนจะอ่านใจ สีหน้าวูจินตึง
“มาดูสิว่าเจ้ายังมีความมั่นใจสู้กับข้าอีกรอบใหม่ คึๆ”
รัชโมดกวาดตาไปทางสตรีศักดิ์สิทธิ์แล้วหันไปทางดันเจี้ยนใต้ดิน
“ทิ้งพวกลูกน้องไว้ที่นี่ มาหาข้า สู้กันอย่างยุติธรรม”
รัชโมดหัวเราะจากนั้นเข้าไปในดันเจี้ยน
วูจินออกเดินแต่สตรีศักดิ์สิทธิ์รั้งเขาไว้
“มันเป็นกับดักนะคะ”
“ก็เป็นทุกที”
“...”
“ไม่มีกับดักที่ฉันผ่านไม่ได้”
ประวัติของผู้ไม่ตายเป็นสิ่งยืนยัน
วูจินจะเข้าไปในดันเจี้ยนเมื่อฝูงมอนสเตอร์หลุดออกมา
สมาชิกขององค์กรริเวอร์วิ่งหนีเมื่อเห็นมอนสเตอร์ออกมาไม่สิ้นสุด วูจินหัวเราะ
“ทิ้งลูกน้องทั้งหมดไว้เรอะ?”
รัชโมดส่งมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนออกมาทั้งหมด ดันเจี้ยนเบรกจะไม่เกิดหากเจ้าของไม่สั่ง พูดอีกอย่างคือเจ้าของสามารถสั่งให้เกิดดันเจี้ยนเบรกเมื่อไหร่ก็ได้
สตรีศักดิ์สิทธิ์มีสีหน้าตื่นกลัวเมื่อเห็นมอนสเตอร์นับร้อยออกมา
นี่เป็นทางเลือกของรัชโมด มันไม่อยากให้วูจินได้ศพไปจึงปล่อยลูกน้องออกมา
“โดลเซ”
วิ้ง
โดลเซสั่นไหวรุนแรงกว่าปกติด้วยความเป็นห่วงบิบิ
“ฉันจะไปช่วยบิบิ”
วิ้ง
เขารู้สึกได้ถึงความเศร้าของโดลเซ ความเป็นห่วงและความโกรธ
“ขยะพวกนี้...”
วูจินสกัดพลังเวทย์ของเขาทั้งหมดออกมาให้โดลเซ
“จัดการตามสบายเลย”
วิ้ง
วูจินเปิดคลังเก็บของ เอายาฟื้นพลังออกมา จากนั้นเดินไปทางมอนสเตอร์ เหมือนสุนัขที่ฝึกมาแล้ว พวกมันยั้งตัวเองไว้ไม่โจมตีขณะวูจินเดินผ่านไป พวกมอนสเตอร์ยืนนิ่งพลางปล่อยจิตมุ่งร้ายออกมา
วูจินเกิดความรู้สึกคุ้นเคย
‘นี่ไงล่ะ’
วูจินหัวเราะ ไร้เหตุผลจริงๆ เขาสู้กับทัพของทราห์เน็ตจนเอียน ตอนนี้ก็ต้องมาสู้กับพวกมันอีก แล้วทำไมเขาจึงตื่นเต้นนัก?
เมื่อวูจินเข้าดันเจี้ยนไปแล้ว พวกมอนสเตอร์ก็อาละวาดทันที
“ก๊าซ!”
“ทำ...ทำยังไงดี? เราน่าจะเอากำลังหนุนมา...”
เดคอนกำลังเสียใจทีหลังเมื่อพายุก่อตัวขึ้นรอบๆโดลเซ
รถถังที่กระจัดกระจายรอบๆถูกดึงเข้าหาโดลเซ เฮลิคอปเตอร์ รถ จรวดก็เช่นกัน แม้แต่วงกบของโรงนาที่เป็นเหล็กและประตูเหล็กหนาก็ถูกดึงเข้ามา
เฮลิคอปเตอร์ถูกขยี้ รถถังถูกแยกส่วน จากนั้นชิ้นส่วนต่างๆก็จัดเรียงตัวใหม่ จรวดติดบนไหล่โดลเซ ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ติดกับแขนของเขา
“โก!!!”
โกเลมเหล็กส่งเสียงคำราม มอนสเตอร์ผงะไปอย่างตกใจ
เมโลดี้กลืนน้ำลาย
“ไททันแห่งการทำลาย...”
อสูรตนนี้กล่าวกันว่าโหดเหี้ยมที่สุดในบรรดาอสูรของผู้ไม่ตาย
โกเลมเหล็กเริ่มออกอาละวาด
ขอบคุณครับ
ตอบลบ