บทที่ 53 – หัวข้อ
สถานีจุกจุนทางออกที่ 3
“บาเรียหายไปแล้วแปลว่าปลอดภัยแล้วใช่ไหม? เราได้รับคำขออย่างเป็นทางการให้มาช่วยที่นี่ สมาชิกกิลด์อลันดาลมีสิทธิ์ผ่านไปได้ ขอผ่านไปล่ะ”
“แต่ว่า...”
จุงมินชานฝ่านายทหารที่ยืนลังเลมาได้ ซุงกูกับเฮมินฉวยโอกาสตามไป จากนั้นวูซุงฮุนก็ตามพวกเขาไปอีกที
“หลีกทาง”
ลีซังโฮสั่งพวกทหารอย่างโกรธเคือง พวกเขาถอยให้อย่างไม่ทันคิด จีวอนถือโอกาสนั้นเดินเข้าไปก่อน
“อา...”
น้ำตาไหลอาบหน้าจีวอน เธอมองร่างของวูจิน เขามีเลือดติดอยู่ตามร่างและที่หน้าก็มีรอยแผลลึกจากดาบ...
จีวอนออกวิ่งทั้งใบหน้านองน้ำตา
“ท่านประธาน!”
คังวูจินกระพริบตาเมื่อเห็นจุงมินชาน ฮงซุงกู คิมเฮมินและวูซูงฮุนวิ่งมาทางเขา
“เอ๊ะ? พวกนายมากันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“พอได้ข่าวเราก็รีบมาทันที”
“อ้าวเหรอ? ฉันทำมือถือหล่นแถวๆนี้ ช่วยหาหน่อย...”
อ้า ตอนนี้ทั้งประเทศกำลังวุ่นวายเพราะท่านประธาน แต่เขากลับ...
ก่อนคนทั้งกลุ่มจะหายอึ้ง จีวอนวิ่งไปกอดวูจิน วูจินผงะไปหนึ่งก้าวเมื่อถูกโผกอด
“ฮึกๆวูจิน”
“จีวอน?”
“ฮือ ฉันห่วงนายแทบแย่”
จีวอนเงยหน้านองน้ำมูกน้ำตามองเขา วูจินยิ้ม ยาได้ผลดีทีเดียว
“เธอสวยขึ้นนะ...”
“ฮือๆ”
น้ำตาเธอไหลอย่างห้ามไม่อยู่ ใช่ เธอสวยขึ้น เธอรู้สึกขอบคุณวูจินมาก มากๆจนห้ามใจตัวเองไม่ได้
เธอช็อกเมื่อเขาเข้าดันเจี้ยน 6 ดาว... เธอวุ่นวายใจเมื่อคิดว่าถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาด... เธอจะไม่มีโอกาสขอบคุณเขา ไม่มีโอกาสให้คำตอบเขา
“หน้านายเป็นอะไร? ฮึก บ้า ทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองเจ็บล่ะ?”
จีวอนลูบหน้าวูจิน
‘อ่า ถ้าเธอจับแบบนั้น ยาก็หลุดหมดสิ แผลแค่นี้พรุ่งนี้ก็หาย...’
“ฮึกๆ นายเป็นแผลแบบนี้แล้วจะทำยังไง?”
จีวอนร้องไห้ เธอได้ใบหน้าของเธอคืนมา แต่หน้าของวูจิน...
ไม่สิ เรื่องนี้ไม่สำคัญสำหรับเธอ
ต่อให้วูจินกลายเป็นสัตว์ประหลาดหน้าตาน่าเกลียด เธอไม่สนใจ
แค่เขารอดกลับมาเธอก็ดีใจแล้ว
เมื่อจีวอนได้แหวนเป็นของขวัญ เธอก็เลือกคำตอบไว้แล้ว
เธอไม่เหมาะสมกับวูจิน แต่ว่า... ถ้าเขารับเธอได้...
จีวอนกอดคอวูจินแล้วขโมยจูบ
“อุ๊บ”
วูจินตาโตอย่างแปลกใจ ทำไมจีวอนทำแบบนี้?
“อะไร?”
“ฮึก นี่คือคำตอบของฉัน”
เอ๋? เขาไม่เคยถามนี่ ตอบอะไร?
วูจินสับสน จีวอนยกนิ้วให้ดู
“นายให้แหวนฉัน ฉันก็ชอบนายเหมือนกัน”
“...”
วูจินไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไรเลยมองไปรอบๆ เขาเห็นวูซุงฮุนที่ยืนข้างจุงมินชานกำลังชูนิ้วโป้งให้ทั้งสองมือ
‘อ้อ ไอ้หมอนี่ ไอ้หมอนี่อีกแล้ว’
“วี้ดวิ้ว ท่านประธานเท่ไม่หยอก”
วูซุงฮุนพูดเบาๆแต่ทุกคนได้ยิน...
‘หมอนี่ไม่รู้จักกาลเทศะเลย ผิวปากทำบ้าอะไร’
จีวอนกอดวูจินแน่น เขาใช้หัวแม่โป้งดันหน้าผากเธอออก
“ไม่รู้จักกลัวเลยนะ คิดว่าจูบใครอยู่?”
“เอ๋?”
“เดี๋ยวผีก็สิงหรอก ปล่อย”
“เอ๋ อะไรกัน...”
จีวอนกำลังจะเถียง แต่นึกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เธอรีบผละจากตัวเขา วูจินเป็นคนที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจ เขาเป็นคนดัง...
‘ทำอะไรไม่คิดเลยฉัน...’
แม้แต่ตอนนี้ กล้องของนักข่าวก็ยังบันทึกภาพอยู่
เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ในสายตาเธอไม่เห็นใครนอกจากวูจิน ตอนนี้เมื่อได้สติเป็นรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป เธอทำให้เสียเรื่องหรือเปล่านะ...
จีวอนคิดในใจ ตอนนั้นเองลีซังโฮคว้าไหล่วูจิน
“เฮ้ย”
“...”
วูจินหันไปมองข้างหลังเงียบๆ
เขาเห็นใบหน้าโกรธเกรี้ยวของลีซังโฮ
“ทำไมน้องผมไม่ออกมา?”
น้อง? เขาเป็นพี่ของผู้หญิงน่ารำคาญที่ตามเขาเข้าไปเหรอ?
“นิสัยเสียแตะตัวคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ”
วูจินจ้องลีซังโฮ เขาผงะแล้วปล่อยมือจากวูจิน
‘ตาอะไรแบบนั้นวะ?’
เขาเกือบหลุดคำหยาบ แต่รอบๆมีคนหลายคนกำลังมองพวกเขาอยู่
“เกิดอะไรขึ้นกับน้องผม หรือว่า...”
“อา เธอตายแล้ว”
“เป็นไปได้ยังไง... ศพเธอล่ะ? ทำไมคุณไม่พาศพน้องผมออกมา? ปกติต้องให้เกียรติศพผู้ตายไม่ใช่เหรอ?”
คนที่เข้าดันเจี้ยนต้องให้เกียรติเพื่อนร่วมทีมเดียวกัน นี่เป็นกฎที่ต้องรักษา ถ้าวูจินไม่พาศพลียุนฮีออกมาเพราะตัวเองยังแทบเอาตัวไม่รอดก็ยังให้อภัยได้ แต่วูจินออกมาหลังจากเคลียร์ดันเจี้ยนเสร็จแล้ว
“ศพ...”
วูจินมองรอบๆ พวกพ้องกิลด์เดียวกัน ทหาร นักข่าว ลีซังโฮและสมาชิกกิลด์ฮวารางต่างอยู่ที่นี่
‘อืม ที่นี่ไม่ใช่อัลเฟน’
เขาไม่ควรทำให้เป็นเรื่องใหญ่
“เธอเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญ”
“...?”
“เธอสู้กับศัตรูที่เธอไม่ควรทำให้โกรธ เธอตายอย่างองอาจ”
“อะ อะไร? มอนสเตอร์ตัวไหนที่มันฆ่าน้องผม?”
มอนสเตอร์เหรอ...
“ผู้เป็นอมตะ”
“ผู้เป็นอมตะ...”
วูจินตบไหล่ลีซังโฮที่กำลังทวนชื่อนั้นไปมา เขากลับไปที่สมาชิกกิลด์ของเขา
“เจอมือถือแล้วยัง?”
“...ทางกองทัพน่าจะเก็บไว้ให้แล้วครับ”
วูจินกับสมาชิกกิลด์อลันดาลเดินไปทางศูนย์บัญชาการในโรงแรม
มือที่กำแน่นของลีซังโฮลสั่นเทิ้ม
“ใจเย็นๆเถอะครับ มีหลายคนกำลังมองอยู่”
“รวบรวมนักข่าวมา”
“อะไรนะครับ?”
“แม่งเอ๊ย คิดว่าฉันจะยอมอยู่เฉยๆเหรอ?”
ดันเจี้ยนไม่ระเบิด ลียุนฮีตาย
เลวร้ายที่สุด นี่เป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด
ลีซังโฮคำนวณในใจ สายตามองไปที่วูจินที่กำลังเดินห่างไป
“ไอ้ห่า...”
มาคิดดู ตั้งแต่ไอ้ห่านั้นโผล่มา ดูเหมือนวูจินจะขวางทางเขาเสมอ ขโมยดันเจี้ยน 5 ดาวไปได้ไม่นาน คราวนี้ก็ขโมยดันเจี้ยน 6 ดาวอีก
ลีซังโฮสะกดความโกรธไว้แล้วเข้าไปในรถเพื่อหลบสายตาสื่อมวลชน
ตรู๊ดๆๆ
เสียงโทรศัพท์ดัง ลีซังโฮมองชื่อคนโทรมาแล้วก็ความเครียดก็พุ่งสูง เขาต้องรับสายนี้
“ฮ้า แม่งเอ๊ย”
เขากดรับสาย
“ครับท่านประธาน ครับ.... ครับ ผมจะดำเนินแผนขั้นต่อไป ครับ ผมจะควบคุมความเสียหายให้น้อยที่สุดครับ...”
คุยสักครู่ลีซังโฮก็ตัดสาย เขาพยายามสงบสติอารมณ์
“เฮ้อ ไอ้สัตว์คังวูจิน”
ไอ้เราส์บ้าที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน แรงค์ A เรอะ ตอนนี้แรงค์นั่นคงเป็นของกระจอกไปแล้ว สื่อมวลชนเรียกเขาว่าเราส์แรงค์ AA ไปแล้ว
ถึงจะมียุนฮีช่วย แต่แค่สองคนเคลียร์ดันเจี้ยน 6 ดาวได้...
“คิดว่าตัวเองแน่มาก ไม่ต้องพึ่งใครแล้วสิ?”
ลีซังโฮกัดฟันกรอด ต่อให้วูจินเป็นเราส์เก่งแค่ไหนเขาก็ไม่สน สังคมคือองค์ประกอบที่ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวพันกันอย่างซับซ้อน
คิมกังชุลเป็นเราส์อันดับหนึ่งของเกาหลี ลีซังโฮยังไม่กลัว แค่คนๆเดียวจะทำอะไรได้
ทุกคนต้องอยู่ในกฎระเบียบ เมื่อคนๆหนึ่งแหกกฎครั้งแล้วครั้งเล่าก็เท่ากับจบ
ในทางตรงกันข้าม ลีซังโฮเป็นคนมีอิทธิพล
ฮวารางเป็นหนึ่งในสามกิลด์ใหญ่ของเกาหลี เขารู้จักกับนักการเมืองและพวกคนมีเงิน
ยุนฮีไม่ชอบวิธีนี้ แต่ฮวารางเติบโตมาขนาดนี้เพราะเขาใช้เส้นสายของคนพวกนี้เอง
เขาไม่เคยพลาด
“ฉันทนโดนคนอื่นขโมยของๆฉันไปไม่ได้ว่ะ”
วูจินกล้ามาขวางทางเขา?
ลีซังโฮหรี่ตา
“ชีวิตคือการต่อสู้”
เขาจะสอนบทเรียนชีวิตให้วูจินสักบท
***
“ฉันเพิ่งจะเคลียร์ดันเจี้ยนเสร็จ ทำไมต้องออกไปสัมภาษณ์อีก?”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะปฏิเสธไป ผมจะส่งข้อมูลที่ท่านประธานให้มาไปให้พวกสื่อมวลชนแทนแล้วกัน”
“เอาสิ”
“แล้วเรื่องเก็บอาร์ติแฟคล่ะครับ?”
“กะว่าพอเก็บได้ครบแล้วค่อยกลับบ้านน่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะจองโรงแรมนี่ให้ท่านประธานหนึ่งเดือน กรรมการฮงกับเฮมินจะอยู่ช่วยที่นี่ด้วย”
“ฝ่ายเก็บของหนึ่งคน ฝ่ายเบ็ดเตล็ดหนึ่งคนก็พอดีแล้ว”
ซุงกูกับเฮมินทำแก้มป่อง (TN-...น่ารัก?)
“อ้อ แม่ฉันว่าไง?”
วูจินกังวลเรื่องแม่ ทุกครั้งที่เขาเข้าดันเจี้ยนก็ต้องเป็นข่าว...
“เอ่อ... กรุณาฟังอย่างสงบนะท่านประธาน”
“ฮะ? เกิดอะไรขึ้น?”
นี่เป็นเรื่องของครอบครัวเขา วูจินย่อมกระวนกระวายใจ จุงมินชานพูดหน้าตาเฉย
“ท่านยังไม่ทราบเรื่อง”
“อ้าว?”
“ผมติดต่อท่านไป ท่านยังไม่ได้ดูข่าวจึงไม่ทราบเรื่อง”
“...”
วูจินเลิกคิ้ว แบบนี้คงดีกว่าให้แม่รู้ข่าวแล้วเป็นห่วงเขา แต่เขาก็ยังรู้สึกแปลกๆ
“ท่านบอกว่าท่านโทรหาท่านประธานไม่ได้ ผมเลยถือสิทธิ์บอกไปว่าท่านประธานลืมโทรศัพท์ไว้ที่ๆที่ทำงานส่วนท่านเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่อื่น...”
“...”
“เอ่อ แบบนี้ดีไหมครับ?”
“ฮะๆๆ แน่นอน แสดงว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยเป็นข่าวเท่าไหร่ใช่ไหม?”
“ตั้งแต่ข่าวด่วนออกมา รายการข่าวถ่ายทอดสดที่นี่ 24 ชั่วโมง”
“...”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ทีม 2 คนเข้าดันเจี้ยน 6 ดาว ขนาดสื่อต่างประเทศยังมาทำข่าวเลย”
“...”
แปลก...
“แม่ฉันทำอะไรอยู่”
“ใกล้กำหนดย้ายบ้านแล้ว ท่านเลยออกไปหาซื้อพวกเฟอร์นิเจอร์...”
“...”
แม่เขาต้องตื่นเต้นมากแน่ๆ ขนาดไม่มีเวลาดูข่าว...
แบบนี้อาจจะดีก็ได้?
เขาไม่อยากให้ครอบครัวของเขากังวลเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“ถ้าฉันรอเก็บอาร์ติแฟคแล้วค่อยกลับไป มันจะเลยวันย้ายบ้านหรือเปล่า?”
“คุณซุงฮุนกับผมจะจัดการเรื่องนี้เอง ท่านประธานควรตั้งสมาธิกับการเคลียร์ดันเจี้ยน”
“อืม โอเค ขอบใจ...”
“ไม่ต้องขอบใจครับ นี่เป็นงานของหน่วยสนับสนุนอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกผมฝากทางนี้ด้วย”
จุงมินชานลุกขึ้น คิมเฮมินกับวูซุงฮุนก็ลุกตาม
“คุยกันต่อเลยครับ”
คิมเฮมินดึงผม จากนั้นคว้าแขนฮงซุงกูที่กำลังนั่งอยู่อย่างไม่รู้จักอ่านบรรยากาศ
“กรรมการฮง เราไปคุยกันต่อเถอะครับ”
“ครับ? เรื่องอะไร?”
คิมเฮมินพยายามขยิบตาส่งสัญญาณให้ซุงกู แต่ซุงกูมองเขาเฉยๆพลางจิบกาแฟ
“ฮ่าๆๆ มาก่อนครับ ไปคุยกันตรงโน้น”
“หา?”
ซุงกูยังงง สุดท้ายเฮมินเลยลากซุงกูออกไป เหลือแต่วูจินกับจีวอน
จู่ๆจีวอนก็หน้าแดงขึ้นมา
“ทำไมเธอถึงมาที่นี่ได้ แล้วงานล่ะ?”
“เอ๊ะ? เอ่อ...”
เธอมาที่นี่โดยไม่วางแผนอะไรเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอขาดงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้านับแต่ทำงานมา 4 ปี
ไม่สิ วันก่อนเธอหยุดงานไปเพราะวูจิน ดังนั้นนี่เป็นครั้งที่สอง เธอไม่เคยทำแบบนี้เลยก่อนได้มาเจอกับวูจิน
วูจินยิ้ม
“เธอนี่แย่กว่าที่คิดนะ”
และเขาอาจจะแย่กว่าเธอ
“เธอชอบฉันเหรอ”
“เอ๊ะ? แหวนที่นายให้... ฉันคิดอยู่นานแล้วในใจฉัน...”
นั่นเป็นเรื่องที่วูซุงฮุนทำเลยเถิด แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้ว
“ยัยนี่หาเรื่องให้ตัวเองแท้ๆ”
“เอ๊ะ?”
“ชอบคนอย่างฉันมันอันตรายนะ”
“...”
จีวอนก้มหน้าลงเงียบๆ น้ำตาเอ่อขึ้นมาแล้วหยดลง
อย่างนี้นี่เอง วูจินมองเธอเป็นภาระ
วูจินสำคัญเกินไป สาวโรงงานไม่เหมาะสมกับเขา
วูจินมองจีวอนที่กำลังร้องไห้
วิญญาณของเธอบริสุทธิ์ไม่มีรอยแปดเปื้อน
พวกวิญญาณร้ายจะชอบเธอขนาดไหน? พวกนั้นจะตามทรมานและทำร้ายเธอขนาดไหน?
เขาควรให้เธออยู่ห่างๆเพื่อปกป้องเธอ แต่ใจของวูจิน...
วูจินจับแก้มจีวอนแล้วบังคับให้เงยหน้าขึ้น
“เธอชอบผีหรือเปล่า?”
“ถ้าเธอไม่กลัวผี งั้นก็ลองดู”
“...?”
จีวอนงงจนน้ำตาหยุดไหล วูจินหัวเราะ
“ฉันจะให้เธอใช้ชีวิตอย่างสนุกกับพวกผี”
“...”
ฉากนี้ถูกถ่ายจากที่ไกลๆโดยบุคคลท่าทางน่าสงสัยเกินกว่าจะเป็นนักข่าว
อะไรกันไอ้คำพูดอย่างกับพระเอกหนังยุค90นั่น(นึกภาพวูจินทำหน้าเก๊กๆแล้วพูด) 5555555 สรุปถ้าไม่กลัวผีก็ไม่มีปัญหาสินะวูจิน เรืือแล่นมาขนาดนี้อย่าล่มนะ(ไอ้ฉากซุงกูกะเฮมินขอdeleteมันออกไปจากเซลล์สมองนะ)
ตอบลบ555+ ซุงกูหรือเจมินก็โอเค โลลิบิบิก็ดีนะ
ลบบิบิให้อารมณ์ลูกน้องไปหน่อย(แน่ละ) ส่วนอีกสองหนอขอโนคอมเม้นเพราะผมชิบแต่คู่นอมอสายอื่นเราไม่ถนัด 555
ลบมาบ่อยๆก็ได้นะคิดถึง
ตอบลบนี่ก็มาทุกอาทิตย์แล้วนะ :D
ลบ