วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เนโครแมนเซอร์แห่งสถานีกรุงโซล - บทที่ 37


บทที่ 37 – ตั้งกิลด์กันเถอะพวกเรา (2)

ณ โรงแรมที่กิลด์แฮมเมอร์ครอบครอง
ห้องโถงขนาดใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน
ดูเหมือนว่านอกจากคนที่มีต้องทำงานกะกลางคืนแล้วคนอื่นทุกคนจะมารวมกันที่นี่
“ตายห่า”
“หัว...หัวหน้าทีม ทำไงดีล่ะ”
“ฉันจะรู้เรอะ?”
นี่ไม่ใช้บรรยากาศที่เขาจะขอคุยแบบส่วนตัวได้เลย
ราวกับว่าเชฟของโรงแรมทุกคนกำลังเตรียมอาหารบุฟเฟต์ ทุกคนกำลังรื่นเริง แต่ยิ่งนานสีหน้าของจุงมินชานกับคิมเฮมินยิ่งมืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ
หัวหน้าแผนกสนับสนุนคนก่อนถูกย้าย มินชานได้เลื่อนตำแหน่งแทนที่เขา
ประธานกำลังนั่งตรงโต๊ะสำหรับผู้บริหาร มินชานถูกเพื่อนร่วมทีมห้อมล้อม คอยรับคำอวยพรที่ได้เลื่อนตำแหน่งไม่หยุดหย่อน
ตอนนั้นเอง คิมเฮมินยื่นซองจดหมายให้มินชาน
“ทำอะไร?”
“กรุณารับจดหมายลาออกของผมด้วยครับ”
“...”
“อย่างน้อยผมก็รอดไปคนนึงนะ”
“แต่เราจะไปที่เดียวกันนี่”
“ผมว่าจะไปก่อนแล้วขอตำแหน่งดีๆ ไม่แน่อาจจะได้ตำแหน่งสูงกว่าหัวหน้าทีมจุงก็ได้ใครจะรู้?”
สาด ปกติเจ้านี่ก็ห้าวอยู่แล้ว แต่ทำไมวันนี้ยิ่งลามปามนัก
“อ่า อยู่ที่แบบนี้แล้วตะครั่นตะครอตัวไงไม่รู้ กินอะไรไม่ลง งั้นผมไปก่อนนะ หัวหน้าทีมสู้ๆ!
“เฮ้ย”
เฮมินหายตัวไปอย่างรวดเร็วเหมือนไม่อยากถูกจับตัวไว้ มือของมินชานที่กำจดหมายลาออกไว้แน่นสั่นเทิ้ม
“หัวหน้าแผนก ให้ผมรินเหล้าให้นะครับ”
“อ๊ะ เอาสิ”
พนักงานเรียกเขาว่าหัวหน้าแผนกแล้ว และเข้ามาประจบเอาใจ มินชานรับการรินเหล้าจากพวกเขาแก้วแล้วแก้วเล่า เพราะเขารู้ว่าไม่ควรปฏิเสธ
ถ้าเขาลาออก มินชานอาจไม่ได้ไปไหนมาไหนกับคนในกิลด์อีก แต่สังคมกิลด์นั้นแคบมาก อย่างไรก็มีโอกาสเจอกัน ถ้าจะลาออกก็ควรจากไปด้วยดี ไม่อย่างนั้นมันจะกลับมาขัดขวางวูจินกับกิลด์ใหม่ของเขา
เขาไม่รู้ว่าดื่มไปกี่แก้วแล้ว
“อึก”
มินชานลุกจากโต๊ะ เดินไปทางโต๊ะของผู้บริหาร
“ฮะๆๆ ยินดีกับท่านประธานที่มีกิลด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเกาหลีด้วยนะครับ”
“ฮ่าๆๆ ทำไมพูดแบบนั้นเล่า ทั้งหมดก็เพราะความพยายามของพวกคุณนั่นล่ะ”
มินชานกระตุ้นเตือนตัวเองเมื่อเห็นปาร์คซังโอ เขามีท่าทางร่าเริงอย่างที่มินชานไม่เคยเห็นมาก่อน พูดดีให้ตายเขาทำปาร์คซังโอเสียหน้าก็คือทำปาร์คซังโอเสียหน้า จากกันด้วยดีอะไรนี่มันเป็นไปไม่ได้
“ขอโทษครับท่านประธาน”
“โอ๊ะโอ นี่มันดาวอันดับหนึ่งของกิลด์เรานี่นา หัวหน้าแผนกจุง มาๆ มานั่งนี่”
บรรดาผู้บริหารมองมินชาน
บางคนเป็นคนที่จุงมินชานดึงตัวเข้ามาเมื่อก่อน พวกเขาเป็นเราส์แรงค์ B ทั้งนั้น ระดับแรงค์และสถิติการโจมตีดันเจี้ยนทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับอย่างสูง
เพื่อนรุ่นเดียวกันได้รับการเลื่อนขั้นในเวลารวดเร็วเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นจึงมีเราส์ไม่กี่คนนักที่รู้สึกอิจฉาเมื่อคนอื่นเลื่อนขั้น
สำหรับเราส์ ขั้นหรือตำแหน่งเป็นเพียงคำที่ปรากฏบนนามบัตร กิลด์คือสถานที่ที่พวกเขารวมตัวกัน ร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ ถ้าเราส์ไม่ชอบกิลด์นี้ก็แค่ลาออกเมื่อหมดสัญญา
แต่ถึงขั้นตำแหน่งเป็นเพียงคำบนนามบัตร มันก็เป็นเป้าหมายอย่างหนึ่ง
“ท่านประธาน ผมมีเรื่องจะพูดด้วยครับ”
“โอ้ เราต้องตั้งใจฟังตำนานของหัวหน้าแผนกจุงให้ดี”
“ผมทำไม่สำเร็จ”
ปาร์คซังโอยิ้มค้าง
“ผมทำสัญญากับคุณคังวูจินไม่สำเร็จ”
“คุณว่าอะไรนะ?”
“ผมเสียใจจริงๆครับ”
“...”
สีหน้าท่านประธานยากบรรยาย ที่นี่คือที่ไหน คืองานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อฉลองจุงมินชานได้เลื่อนตำแหน่ง และฉลองที่เขาดึงตัวคังวูจินผู้เป็นเราส์แรงค์ A ค่อนข้างแน่เข้ากิลด์แฮมเมอร์ได้
“มาพูดอะไรตอนนี้”
“ผมขอโทษครับ”
“นี่มันเป็นเรื่องที่ขอโทษแล้วจบเหรอ คุณอยากถูกไล่ออกหรือไง?”
อื๋อ? ถ้าได้อย่างนั้นก็ขอบคุณ
“รู้หรือเปล่าว่าคุณใช้เงินกับคังวูจินไปเท่าไหร่ แค่ขอโทษมันพอเหรอ?”
มินชานให้วูจินใช้ดันเจี้ยนฟรีๆ และใช้เงินในการเปลี่ยนแรงค์ของวูจิน... ที่เสียก็เสียไปแล้ว
ใช่ เขาทำผิด เขาทำผิดไปมากๆ
“ผมยอมรับผิดทุกอย่างครับ”
“ยอมรับผิด? นี่น่ะเหรอที่คุณบอกว่าจะรับผิด... มันอะไร?”
“จดหมายลาออกของผมครับ ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ผมขอลาออกจากกิลด์แฮมเมอร์”
ปาร์คซังโอมองจดหมาย แล้วมองมินชานอย่างประหลาดใจ
“คุณบ้าเหรอ?”
“ครับ?”
“คุณไม่ใช่นักการเมืองนะ คิดว่าการลาออกเป็นการรับผิดชอบเหรอ มันก่อเรื่องแล้วหนีไม่ใช่เหรอ?”
“...”
เขาควรพูดอะไรดี?
ก็คนจะออก
“ผมขอตัว รักษาตัวด้วยนะครับ”
“...?”
เขาวางซองจดหมายทั้งสองซองลงบนโต๊ะ คำนับลา แล้วเผ่นออกจากห้องโถงไป
“ไอ้ ไอ้ชั่วเอ๊ย!
จุงมินชานได้ยินปาร์คซังโออาละวาดแต่เขาไม่หยุดไม่ฟัง หัวใจเขาเต้นแรง เขายังกังวลแต่บนหน้ามีรอยยิ้มบางๆ
สะใจดี และเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังในอนาคตข้างหน้า
เมื่อออกมาข้างนอก เฮมินรออยู่แล้วพร้อมกับรถของเขา
“หัวหน้าทีม ทางนี้ๆ”
อา นี่ล่ะเขาถึงชอบไอ้เวรนี่
***
สถานที่ ห้องส่วนตัวของคาเฟ่แองเจิล แองเจิล เวลา 20 นาฬิกา
“ยินดีต้อนรับสู่อลันดาล”
มินชานกับเฮมินยิ้มรับคำของวูจิน
“ต่อไปก็ขอฝากตัวด้วยครับ”
“ท่านประธาน ฝากตัวด้วย”
“แน่นอน”
วูจินมินชานจับมือกัน
“ใช้ผมได้ตามสบายเลยนะ ผมจะร่วมสร้างกิลด์อลันดาลอย่างสุดความสามารถ”
“งั้นเชียว? งั้นฉันจะเรียกนายว่ามินชานนะ?”
เอ๊ะ? กันเองมากไปหรือเปล่า (TN-ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาวูจินจะพูดสุภาพนอบน้อมกับมินชานนะคะ เพราะมินชานแก่กว่า แต่แปลจากภาษาอังกฤษมันดูไม่ออก เราเลยแปลซะห้าวเลย)
“เรียกหัวหน้าทีมจุงเถอะ”
“ก็ได้ หัวหน้าทีม ฉันฝากการตั้งกิลด์ให้เป็นหน้าที่ของนาย ทำตามที่เห็นว่าดีที่สุดเถอะ”
“...ได้”
ว่ากันว่านิสัยนอบน้อมของชาวเอเชียมันเป็นอดีตไปแล้ว แต่ว่า... จุงมินชานไม่ค่อยชินนัก
“วันนี้ดื่มกันไหม?”
“...”
วูจินนี่อยู่ง่ายดีนะ
ถ้าคนอื่นมาเห็นคงนึกว่าพวกเขาตั้งชมรมกันแทนที่จะเป็นกิลด์
“เอาไว้ก่อนนะ... มีเรื่องที่ท่านประธานต้องตัดสินใจก่อน”
“เรื่องอะไร”
“ต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 5 คนถึงจะตั้งกิลด์ได้”
พวกเขายังขาดอีก 1 คน
“เอาเจมินได้ไหม?”
“ผมแน่ใจว่าเอาเยาวชนเข้ากิลด์ไม่ได้นะครับ”
“ใช่ เยาวชนเป็นสมาชิกกิลด์ไม่ได้”
มินชานยืนยันคำพูดของซุงกู วูจินเปิดมือถือเนือยๆ
[แม่] [โดเจมิน] [เจมินตัวจริง] [4ล้าน] [คนขายโทรศัพท์] [คิมเฮมิน]
อา ฉันนี่เพื่อนน้อยจริง’ วูจินคิด
แม่คงไม่ได้
แม่ล้มป่วยหลังจากเห็นข่าววูจินพลัดตกลงไปในดันเจี้ยน จากนั้นนักข่าวก็มารบกวนนางถึงที่ทำงานจึงตัดสินใจออกจากงาน ตอนนี้นางอยู่บ้านเฉยๆ
ถ้าไม่รวมเจมินกับคนอื่นๆที่รวมกันที่นี่ เขาก็ไม่มีคนรู้จักแล้ว เบอร์หนึ่งก็โทรผิด... ถ้าอย่างนั้นก็เหลือคนเดียวคือคนขายโทรศัพท์
“เอาแค่ชื่อก็พอหรือเปล่า?”
“หืม? ใช่ แค่ต้องหามาให้ครบ 5 คน”
มินชานเดาว่าวูจินคิดจะใช้ชื่อคนในครอบครัว วูจินเลือกเบอร์โทรของคนขายโทรศัพท์แล้วกดโทรออก
ตู๊ดๆ
รออยู่นานก็มีคนรับสาย
[ฮะ ฮัลโหล]
“อ้า จำฉันได้ไหม คนเมื่อตอนนั้น?”
[แน่...แน่นอน ผมจำได้ดี]
วูจินลดมือถือลง มองมินชาน
“ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?”
“หืม? เอาแค่สำเนาบัตรประชาชน ถ้ามีตราประทับก็เอามาด้วย”
วูจินยกมือถือขึ้นมาแล้วพูดต่อ
“มาที่แองเจิลแองเจิลใกล้สถานี เอาบัตรประชาชนกับตรามาด้วย”
[...คุณจะให้ผมไปทำไม]
“อ้อ ฉันแค่จะขอยืมชื่อนายหน่อย...”
[…]
“ทำไมเงียบล่ะ?”
[ผมเห็นในทีวีแล้วนะ]
“ทีวี?”
[ตอนนี้คนทั้งประเทศรู้จักหน้าคุณแล้ว คิดว่าคุณจะสั่งให้ผมทำเรื่องผิดกฎหมายได้เหรอ?]
“ฮะ คิดว่าฉันเหมือนนายเหรอ? ไม่ผิดกฎหมายน่า มาตามที่บอก ฉันแค่จะยืมชื่อนายหน่อย”
[ผม...ผมจะเรียกตำรวจนะ...]
“นายจะเรียกหรือไม่ฉันไม่สน มาที่นี่ก่อนฉันจะโกรธ อยากให้ฉันไปหานายเหรอ?”
[ไม่ๆ ผมจะไปเอง]
มินชานถามขึ้นเมื่อวูจินคุยโทรศัพท์เสร็จ
“ใครรึ?”
“อ้อ คนรู้จัก”
“เขาจะมาที่นี่ใช่ไหม?”
“เดี๋ยวเขาก็มา”
“ยอด ผมจะเตรียมเอกสารไว้ แล้วพรุ่งนี้ผมจะไปยื่นเรื่องที่สำนักงาน”
มินชานเอาเอกสารที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วออกมาจากกระเป๋าเอกสาร
“แบบนี้มันดีจังแฮะ”
ถ้าคิดจะบริหาร ไม่ว่าจะเป็นกิลด์หรือประเทศ สิ่งที่ต้องมีคือผู้ช่วย ผู้ช่วยที่จะคอยรับงานจุกจิกน่ารำคาญทั้งหลายไปทำ วูจินยินดียิ่งที่ชวนมินชานเข้ากิลด์
“อ้อ มีเรื่องที่เราต้องรีบจัดการด้วย”
“เรื่องอะไร”
“เราต้องทำไกด์ของดันเจี้ยนสถานีมหาวิทยาลัยโซลทางออกที่ 6 การไม่มีข้อมูลทำให้มันเป็นดันเจี้ยนที่เคลียร์ลำบาก ถ้าไม่มีไกด์ล่ะก็จะให้คนมาเข้าก็ยากอยู่”
ทีมหรือกิลด์แรกที่พิชิตดันเจี้ยนได้จะได้ผลประโยชน์มหาศาล
ได้ค่านายหน้าเป็น 30% ของหินบลัดสโตนที่ตกทุกครั้งที่ดันเจี้ยนถูกเคลียร์ และยังค่าเข้าดันเจี้ยนอีก
ดังนั้นข้อมูลของดันเจี้ยนจึงเป็นสิ่งที่ต้องเปิดเผย เพื่อให้การเคลียร์ดันเจี้ยนง่ายขึ้น ทีมแรงค์ B สามารถเคลียร์ดันเจี้ยน 5 ดาวได้ง่ายขึ้น
กิลด์ขนาดค่อนข้างใหญ่ถึงขนาดใหญ่จะมีทีมแรงค์นี้อยู่เยอะ ดังนั้นดันเจี้ยนนี้ก็จะทำเงินได้เยอะเช่นกัน
“หืม จำเป็นต้องหาคนลงด้วยเหรอ แค่ให้ฉันใช้เฉยๆก็ได้”
“แต่ตอนที่ท่านประธานพัก ให้มีคนมาเข้าดันเจี้ยนดีกว่าปล่อยไว้ว่างๆใช่ไหมล่ะ”
“มีเหตุผล”
วูจินไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น
“งั้นเตรียมเอกสารเสร็จฉันจะลงดันเลย”
วูจินคิดแล้วทำทันที
“ไปกันเถอะซุงกู”
“ลูกพี่จะให้ผมไปด้วยเหรอ? ดัน 5 ดาวนะครับ...”
เขาขึ้นเป็นเราส์แรงค์ D แต่คิดว่าตัวเองไม่ได้เก่งขนาดนั้น ซุงกูกังวล
“นายไม่อยากไปเหรอ?”
“...ไม่ ผมจะไปครับ”
เขากลัว แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกคาดหวังแปลกๆด้วย
วูจินมองซุงกูแล้วยิ้ม
***
วูซุงฮุนเข้าไปในห้องส่วนตัวของคาเฟ่แองเจิลแองเจิล ดวงตาพร่ามัวมองคนที่อยู่ในนั้น พวกเขาคือตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดข่าว
คนนี้ด้วย คนนี้ก็ด้วย มาอยู่ที่นี่กันหมดเลย
วูซุงฮุนเห็นพวกเขาในข่าว คังวูจินเป็นผู้เคราะห์ร้ายที่พลัดเข้าไปในดันเจี้ยน ส่วนคนอื่นก็อยู่ในที่เกิดเหตุ
“อ้อ มาแล้วเรอะ?”
เขาตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงของวูจิน ผงะถอยราวกับเจอศัตรูตามธรรมชาติ
“เอาของที่สั่งไว้มาด้วยหรือเปล่า?”
“ผมเอามา แต่...”
“งั้นไปคุยกับหัวหน้าทีมจุง”
“อะไรนะ?”
วูจินซุงกูลุกขึ้น
“ทำงานดีๆล่ะหัวหน้าทีมจุง พรุ่งนี้ฉันคงเคลียร์ดันเสร็จ เสร็จแล้วไปดื่มกัน”
“ครับท่านประธาน ตามที่ผมบอก ผมจะเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย”
วูซุงฮุนหรี่ตา เกิดอะไรขึ้นกัน?
เมื่อวูจินซุงกูออกไปแล้ว จุงมินชานยื่นมือออกมาหาจับมือวูซุงฮุน
“ผมชื่อจุงมินชาน เคยเป็นหัวหน้าทีมของกิลด์แฮมเมอร์ ผมจะเข้ามาเริ่มงานที่กิลด์อลันดาลเช่นเดียวกับคุณ ยินดีที่ได้รู้จัก ฝากตัวด้วย”
กิลด์แฮมเมอร์? หนึ่งในกิลด์ที่ใหญ่ที่สุดสามกิลด์ของเกาหลีน่ะเหรอ?
หลังจากนั้นคิมเฮมินก็เข้ามาจับมือ วูซุงฮุนจับมือตอบอย่างสับสน
“ผมชื่อคิมเฮมิน เฮะๆ ฝากตัวด้วยนะครับ คุณเป็นคนรู้จักกับท่านประธาน เป็นเพื่อนเหรอ? หรือญาติ?”
เป็นอะไรกัน? ก็เคยหลอกต้มเขามาก่อนน่ะ
วูซุงฮุนเปลือกนอกฟังพวกเขาคุยกันแต่แอบเปิดโทรศัพท์ใต้โต๊ะค้นข้อมูลพวกเขา ก่อนนี้เขาหาข้อมูลโดยเน้นไปที่ข่าวของคังวูจินดังนั้นจึงไม่รู้เรื่องคนอื่นเท่าไหร่ แต่ในอินเตอร์เน็ตน่าจะมีข่าวของพวกเขาบ้าง
วูซุงฮุนหาบทความในอินเตอร์เน็ตอย่างตั้งใจ


รอใส่บทที่ 38



6 ความคิดเห็น: