บทที่ 31 – โดจีวอน
“สวัสดีครับพี่ นี่พี่สาวผม พี่
นี่พี่ชายที่ผมเคยพูดถึงไง พี่วูจิน”
“ไม่เจอกันตั้งนานนะจีวอน เธอยังสวยเหมือนเดิม”
จีวอนยิ้มใส่ความหน้าหนาของวูจิน เธอใส่หมวกมิดชิด
เขารู้ได้อย่างไรว่าเธอสวยเหมือนเดิมหรือไม่
“ไม่เจอกันนานเลย”
ครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นคังวูจินคือ 5
ปีก่อนที่เขาหายตัวไป เป็นเวลาเดียวกับที่ชีวิตเธอผกผัน
“เรากำลังจะไปกินเครื่องในวัวกัน
เธอจะไปดื่มด้วยกันไหม”
“เอ๊ะ เครื่องในเหรอ?”
โดจีวอนลังเล เมื่อก่อนเขารุกหนักขนาดนี้เลยเหรอ?
จีวอนพยายามนึกถึงอดีต แต่วูจินตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
ไม่สิ แต่แรกพวกเธอก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น
เธอคงไม่รู้เองว่าวูจินมีนิสัยอย่างไร
“เอ่อ ที่ๆมีคนเยอะๆมัน...”
“นั่นสิครับ พวกเราเพิ่งกินข้าวเย็นมา ยังอิ่มอยู่เลย”
เจมินก้าวแซงหน้าพี่สาวออกมาแล้วอ้าง
“กระเพาะกินข้าวกับกระเพาะกินเหล้ามันคนละอย่างกัน”
จีวอนฟังวูจินพูดแล้วมองเจมิน เธออยากคุยกับวูจิน
อยากขอบคุณที่ช่วยน้องชายของเธอ และเธอยังต้องคืนเงินที่เขาให้เจมินมามากเกินไป
“น้องฉันใส่ชุดนักเรียนอยู่จะเข้าร้านที่เสิร์ฟเหล้าได้ยังไง
กลับไปคุยกันที่บ้านเถอะ ฉันได้ฟังเรื่องที่นายช่วยน้องฉันมาหมดแล้ว”
“เฮอะ เจ้าหนูนี่กินเหล้าเก่งอยู่นา”
เมื่อวูจินพูดจบ เจมินทำหน้าละอายใจ
จีวอนหันขวับไปจ้องเจมินเขม็ง
“เดี๋ยวนี้ริดื่มเหล้าแล้วเหรอ?”
“เปล่านะ...”
วูจินเป็นคนสั่งให้เขาดื่ม ทำไมทำกันอย่างนี้ล่ะ ขี้โกง
เจมินมองวูจินเหมือนขอให้ช่วย วูจินยิ้ม
“ส่งเด็กนี่กลับบ้าน เราไปดื่มกันเอง”
“เอ๊ะ?”
“นี่เป็นครั้งแรกเลยตั้งแต่กลับมาที่ฉันเจอเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน
ฉันอยากฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
จริงด้วย วูจินหายตัวไป
ที่เธอจำวูจินได้ก็เพราะเขาหายตัวไปก่อนเกิดดันเจี้ยนช็อคไม่นาน
มันเคยเป็นข่าวใหญ่ในโรงเรียนเลย (ขอเปลี่ยนดันเจี้ยนระเบิดเป็นดันเจี้ยนช็อค
ทับศัพท์ไปเลยนะคะ ช็อคที่แปลว่าตกใจจนช็อค
ประมาณว่าเกิดดันเจี้ยนระเบิดครั้งแรกแล้วกลายเป็นเรื่องฝังใจของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์
– TN)
“ไปสิ”
“เธอชอบเครื่องในไหม?”
“อืม แล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับนายด้วย”
จีวอนจะไปแต่เจมินคว้าแขนเธอไว้
“พี่ อย่าดื่มมากไปนะ”
“รู้แล้ว เธอกลับบ้านก่อนนะ”
“พี่ ถ้ารู้สึกว่าเริ่มเมาแล้วโทรหาผมทันทีเลยนะ”
“แหม กลับบ้าน ตั้งใจเรียน เธอบอกว่าใกล้สอบแล้วนี่”
จีวอนส่งน้องขี้ห่วงกลับไป แล้วเดินตามวูจิน
“รถนายเหรอ”
“ไม่ใช่ นี่รถของน้องที่ทำงานกับฉัน”
ซุงกูเปิดหน้าต่างรถมองออกมาแล้วโค้งทัก
“สวัสดีครับคุณพี่”
“อะ ค่ะ สวัสดี”
จีวอนรีบก้มหัวทัก เธอกดหมวกให้แน่นขึ้นอีก
ปีกหมวกขนาดใหญ่ปิดทุกอย่างไปถึงปลายจมูกของเธอ
ถึงอย่างนั้นก็เห็นได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงสวยเพียงแค่ดูจากหน้าเรียวและปากสีแดง
เมื่อจีวอนนั่งที่นั่งข้างหลัง วูจินก็ตามเข้ามา
“ลูกพี่จะให้ผมพาไปไหนครับ?”
“จะที่ไหนล่ะ?
นายบอกจะพาฉันไปร้านเครื่องในอร่อยๆไม่ใช่เหรอ?”
พาผู้หญิงสวยๆไปร้านเครื่องในเนี่ยนะ?
แต่วูจินไม่สนว่าซุงกูคิดอย่างไร วันนี้เขาอยากกินเครื่องในวัว
“คุณพี่ กินเครื่องในวัวได้ไหมครับ?”
“ค่ะ แต่ช่วยพาไปร้านที่คนไม่เยอะนักได้ไหม...”
“พอดีเลยครับ ร้านที่ผมไปบ่อยๆขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่
คนเลยน้อย”
วูจินขมวดคิ้ว เขาอยากกินร้านอร่อยๆนะ
“...แบบนั้นก็แปลว่าไม่อร่อยสิ?”
“เปล่าครับ อร่อยมากผมรับรอง”
ภายในรถเงียบสงัด ซุงกูต้องขับรถเลยไม่ต่างจากคนขับรถ แต่สองคนข้างหลังจะไม่คุยกันเลยเหรอ?
“แล้วไหงเธอถึงไม่ถอดหมวกล่ะ ไม่ได้สระผมมาเหรอ?”
“...”
“...”
ซุงกูสูดลมหายใจเฮือกเมื่อวูจินพูดขึ้นมา
เขาก็รู้อยู่หรอกว่าวูจินเป็นคนแบบนี้ แต่ถามแบบนี้กับผู้หญิงได้ด้วยเหรอ?
หรือว่า ลูกพี่ผู้ยิ่งใหญ่ของเขาจะยังซิง...
ลูกพี่ทำตัวงุ่มง่ามกับผู้หญิงมาก
“ปละ...เปล่าค่ะ ฉันชอบใส่หมวกน่ะ”
“หืม งั้นเหรอ?”
วูจินพยายามนึกถึงเมื่อก่อน แต่นึกไม่ออก
เขาจำได้แค่ว่าจีวอนเป็นเด็กสาวที่น่ารักที่สุดในโรงเรียน เรื่องนิสัยเป็นอย่างไร
ท่าทางเป็นอย่างไรเขานึกไม่ออกเลย
“อ้อ งั้นเหรอ แต่ฉันดีใจที่ได้เจอเธอนะ
ตกใจเลยตอนที่ได้ยินจากเจมินว่าเธอเป็นพี่สาวเขา”
อะไรกัน ทำไมเขาถึงทำตัวสบายได้ขนาดนี้
จีวอนรู้สึกว่าเธอกำลังไหลไปตามกระแสของวูจิน
“ฉันก็ตกใจ เจมินไม่พูดถึงเรื่องที่โรงเรียนเท่าไหร่
ฉันเลยไม่รู้ว่าเขาถูกรังแก ขอบใจนายจริงๆ”
“อะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก
เจมินก็ช่วยฉันไว้เยอะเหมือนกัน...”
จีวอนนึกถึงที่เจมินพูด เธอถาม
“ได้ยินว่านายไปไถเงินเขา...”
“ฮะๆๆ แค่ขอยืมเอง ขอยืม ซุงกู นายขับช้าไปหน่อยไหม?”
“เราอยู่ในเขตโรงเรียนนะครับลูกพี่”
“...”
ไอ้เวรนี่ไม่รู้ใจกันเลย
จีวอนหัวเราะ รถของซุงกูหลุดจากถนนใหญ่เข้าไปในเขตก่อสร้างแห่งหนึ่ง
แสงป้ายนีออนกระพริบเตือน
“เชด เหมือนที่นี่จะเคยมีดันเจี้ยนระเบิด”
“ครับลูกพี่ เมื่อก่อนตรงนี้เป็นที่ว่าง
เริ่มมีการก่อสร้างเมื่อเดือนก่อนได้”
เมื่อดันเจี้ยนระเบิด
พื้นที่รอบๆสถานีจะกลายเป็นที่ร้างทันที
หลังจากได้รับการจัดการดูแลจนเรียบร้อยก็จะทำการก่อสร้าง
การพัฒนาพื้นที่จะวางแผนให้เข้ากับดันเจี้ยนแห่งนั้น
“ทำไมสถานีนี้ถึงเตรียมที่ก่อสร้างใหญ่จัง?”
“อ๋อ ตรงนี้จะเป็นบ้านจัดสรรที่คิมกังชุลจะย้ายเข้ามาอยู่ครับ”
“ใครเหรอ?”
“ครับ?”
“ถามว่าเขาเป็นใคร”
ลูกพี่ไม่รู้จักคิมกังชุล?
เขาเป็นเราส์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเกาหลีนะ
“ลูกพี่ไม่รู้จักคิมกังชุลหรือครับ?”
“ไม่รู้เลย”
“เขาเป็นเราส์แรงค์ A
คนแรกของเกาหลีครับ ถ้าลูกพี่ไปดูทำเนียบจัดลำดับเราส์ จะเห็นเขาอยู่ที่หนึ่ง”
“เขาจะสร้างคฤหาสน์หรือไง บ้านใหญ่ขนาดนี้?”
ลูกพี่อายุ 24 ปี
ทำไมถึงรู้เรื่องโลกภายนอกน้อยกว่าคนอายุ 21 ปีอย่างเราได้?
“นี่ไม่ใช่บ้านคิมกังชุลทั้งหมดนะครับ
มันเป็นบ้านจัดสรรที่โฆษณาว่าเป็นที่ๆคิมกังชุลอยู่”
พื้นที่รอบสถานีนั้นอันตราย
ถ้าดันเจี้ยนไม่ถูกพิชิตใน 30 วัน มันจะระเบิดออก มอนสเตอร์จะหลั่งไหลออกมา
นี่เป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดของคนที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ
มันเหมือนอาศัยอยู่ใกล้ระเบิดเวลา
แต่ ถ้ามีเราส์เก่งๆอยู่ใกล้ๆก็อีกเรื่อง
เราส์ที่มีบ้านอยู่ใกล้ๆย่อมช่วยพิชิตดันเจี้ยนเพราะไม่อยากให้บ้านตัวเองพัง
ด้วยเหตุนี้บริษัททำอสังหาริมทรัพย์จึงอยากให้โครงการที่ทำอยู่มีเราส์แรงค์สูงๆมาอยู่นัก
เพื่อจะได้เอาเราส์คนนั้นเป็นตัวโฆษณา
วูจินเข้าใจเมื่อฟังซุงกูอธิบาย
“สรุปว่า
ถ้าสามารถเพิ่มแรงค์ให้สูงขึ้นได้ก็จะได้บ้านอยู่ฟรี”
“...ใช่ครับ”
วูจินแตะบัตรประจำตัวเราส์ของตัวเอง
จุงมินชานทำงานรวดเร็ว เขาได้การ์ดแรงค์ C
ส่วนซุงกูได้แรงค์ D
‘แวะไปเลื่อนแรงค์ที่ที่ทำการดีไหมนะ?’
แรงค์ C
ทำให้เขาเข้าดันเจี้ยนดาวสูงได้ เท่านี้เขาก็ไม่สนใจเรื่องแรงค์แล้ว
แต่ผลประโยชน์จากการเป็นเราส์แรงค์สูงนี่ช่างยั่วใจ
โดจีวอนประหลาดใจเมื่อเห็นบัตรของวูจิน
“วูจิน นายเป็นเราส์แรงค์ C
เหรอ?”
“หืม ใช่”
“เจมินบอกว่านายอยู่แรงค์ F”
“อ้อ มันเลื่อนขึ้นน่ะ”
เขาไม่รู้เหรอว่าแรงค์ของเราส์ไม่ใช่ของที่จะเลื่อนขึ้นได้ง่ายๆ?
จีวอนต้องมองวูจินใหม่ เจมินเคยบอกว่าวูจินหาเงินได้เยอะมาก ถ้าเขาเป็นเราส์แรงค์ C
เธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไม
“ถามอะไรหน่อยสิ”
“เอ๊ะ”
จีวอนประหม่าเมื่อวูจินถาม
เธอหวังว่าเขาจะไม่ถามเรื่องเธอ ความกังวลใจทำให้หัวใจเธอเต้นเร็วขึ้น
“เมื่อก่อนฉันเป็นยังไง”
“เอ๊ะ?”
วูจินอยากรู้เรื่องตัวเขาในอดีตมากกว่า
เขาใช้ชีวิตหฤโหดในอัลเฟนมา 20 ปี
ทำให้เขาแทบจะลืมว่าตัวเองเมื่อก่อนเป็นคนแบบไหนไปเสียหมด
“เราไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ ฉันเลย...”
“อ้าวเหรอ? แล้วเธอจำได้ไหมว่าฉันสนิทกับใคร?”
“จำไม่ได้...”
วูจินนิ่งไป จีวอนเหลือบมองวูจิน
เธอเห็นเขาขมวดคิ้วมองไปนอกหน้าต่างรถ หัวใจเธอเต้นแรง แปลกไหม?
เธอไม่ได้เจอคนที่จำได้แต่ตัวเธอเมื่อ 5 ปีก่อนนานแล้ว
ตอนที่เธอยังสวยอยู่ ยิ่งกว่านั้นเขายังไม่มีทีท่าสงสารเห็นใจหรือรังเกียจ
เธอไม่ได้คุยกับคนอื่นแบบธรรมดาๆมานานแล้ว เธอดีใจ
ดังนั้นเธอจึงไม่อยากให้เขาเห็น
จีวอนกดหมวกให้แน่นกว่าเดิม
***
ซุงกูขับรถผ่านพื้นที่ก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรรแล้วไปหยุดตรงยอดเนินแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในย่านที่ไม่มีการพัฒนา
ที่นี่ไม่มีแม้แต่ทางเข้าสถานีใต้ดิน เป็นที่ๆอยู่ไม่สะดวกนัก
คนที่มีฐานะบ้างส่วนใหญ่อพยพออกจากโซลไป
คนที่ยากจนยังอยู่ที่เดิม ปกป้องที่ๆพวกเขาอยู่
“ไอ้หยา เจ้าหนูของย่ามาเหรอ”
“ย่าครับ!”
“ไอ้หยา พวกคุณเป็นเพื่อนของซุงกูเหรอ?”
“ไม่ใช่ครับ พวกเขาเป็นพี่ชายพี่สาวที่ผมรู้จัก”
“โอ้ พวกคุณเป็นรุ่นพี่ของซุงกู มาๆ นั่งก่อนๆ”
ร้านอาหารอยู่ในตึกโทรมๆแห่งหนึ่ง มีโต๊ะเพียง 5 ตัว
แถมภายในร้านยังว่างเปล่า ดูเหมือนพวกวูจินจะเป็นลูกค้ากลุ่มแรกของวันนี้
ที่นี่จะมีอาหารอร่อยจริงหรือ?
วูจินหวังไว้มากนะ...
“ร้านย่านายเหรอ?”
“เปล่าครับ นี่ร้านของย่าเพื่อนผม”
“นายพามาที่นี่เพราะจะช่วยหารายได้ให้เพื่อนนาย?”
“เฮะๆ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ
ร้านนี้ขายเครื่องในอร่อยที่สุดเท่าที่ผมรู้จักมาเลย”
วูจินทำหน้าไม่เชื่อจนกระทั่งอาหารถูกนำมาวาง
เขาจึงค่อยหายหน้าตึง
เครื่องในวัวอร่อยจริงๆ
ไม่สิ ดูเหมือนอาหารทุกอย่างจะอร่อยสำหรับวูจิน
ย่าเจ้าของร้านทำอาหารเก่งจริงๆ
“ผมเพิ่งได้ดื่มกับลูกพี่เป็นครั้งแรก
เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยครับ”
“เติมให้เต็มล่ะ”
ซุงกูรินโซจูใส่แก้วของวูจิน
“เป็นเกียรติที่ได้ดื่มกับเพื่อนร่วมรุ่นของลูกพี่ครับ”
“อ๊ะ ค่ะ...”
คนนี้เขาเป็นมาเฟียเหรอ เห็นเรียกลูกพี่ๆ
“ฮ้า อร่อย”
ชนแก้วเสร็จ เขาซดโซจูรวดเดียวหมด
จากนั้นคีบเครื่องในที่ปรุงอย่างดีขึ้นมา จุ่มซอสกิน โซจูเย็นๆกับความเหนียวสู้ฟันของเครื่องในอร่อยล้ำ
พอเหล้าหมดแก้ว ซุงกูจะเติมให้ทันที
วูจินสำราญกับอาหารมื้อนี้มาก
ดูท่าแล้ววูจินจะตั้งใจมากินอย่างเดียว
ทำเอาซุงกูกับจีวอนมองวูจินอึ้งๆ
“หืม ไม่กินกันล่ะ กินเลยๆ ฉันเลี้ยง”
“...”
ซุงกูแอบมองวูจินและจีวอนเพื่อประเมินสถานการณ์
ตอนแรกเขานึกว่าวูจินพาจีวอนมาด้วยเพราะทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน
แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ ฟังจากที่คุยกัน
ดูเหมือนพวกเขาจะเพิ่งพบกันครั้งแรกหลังจากผ่านไปห้าปี และเป็นแค่คนคุ้นหน้า
หวา ถ้าเป็นซุงกู เขาจะพูดคุยทักทายสักหน่อยแล้วบอกลา
ไม่ชวนมาให้อึดอัดอย่างนี้หรอก
‘ลูกพี่ หรือว่าจะไม่ค่อยได้คุยกับผู้หญิง?’
หรือลูกพี่จะชอบคุณพี่สาวคนสวยคนนี้? ก็เลยชวนมาด้วย?
วูจินกำลังคิดอะไรอยู่? ในฐานะผู้จัดการส่วนตัว เขามีหน้าที่อะไร?
‘เอาล่ะ
เราจะทำบรรยากาศให้ร่าเริงขึ้นหน่อยแล้วค่อยขอตัวกลับก่อน’
นี่อาจจะเป็นลูกพี่กำลังทดสอบความสามารถของเขา ชีวิตเด็กมหา’ลัยของเขาไม่นานนักเพราะออกมาเป็นเราส์เสียก่อน แต่เขามีประสบการณ์ดื่มเหล้ามาเยอะในฐานะเป็นน้องใหม่
ประสบการณ์รับน้องของเขาไม่เสียเปล่า
เขาจะพิสูจน์ให้เห็นตรงนี้ล่ะ
และแล้ววิธีทำลายบรรยากาศฝืดเฝื่อนก็ไหลเข้าหัวของเขาเป็นสิบๆวิธี
“ลูกพี่!
มาเล่นเกมกัน”
“หืม เกม?”
วูจินจากโลกไปตั้งแต่ตอนเขาอยู่ม.ปลายปี 3
แล้วเขาจะรู้ประเพณีรับน้องดื่มเหล้าเล่นเกมของนักศึกษาได้อย่างไร?
ซุงกูคว้าขวดเหล้าแล้วพูดสำเนียงท้องถิ่น
จากนั้นวูจินก็ได้พบโลกใหม่
เหตุการณ์ดำเนินไปรวดเร็วจนเขาตั้งตัวไม่ติด
วูจินได้เจอกับเกมสารพัดรูปแบบ
บนพื้น ขวดโซจูว่างเปล่า 12 ขวดตั้งเรียงเป็นแถว
จีวอนนอนนิ่งซบกับแขนทั้งสองข้างของตัวเองแทนหมอน
วูจินกำลังมองจีวอน ส่วนซุงกูหน้าแดงก่ำ
ลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้แล้วเริ่มเขย่าไหล่
“ดื่มเหล้า
เอ้าดื่มๆ กรึ๊บ เอื๊อก กรึ๊บ เอื๊อก เอ้าขยับไหล่ ดูไหล่ชั้นสิ ล้าๆๆ”
วูจินหน้าเครียด
เขามากินของอร่อยๆดื่มเหล้าเย็นๆ แต่ทำไมซุงกูถึงต้องพยายามให้เขาดื่มเหล้าขนาดนี้
“นั่ง
ก่อนที่ฉันจะดึงไหล่ของนายออกจากตัว”
เสียงของวูจินมีเจตนาฆ่าฟัน
ซุงกูหยุดเต้น นี่เป็นสัญชาติญาณเอาตัวรอด
ซุงกูคอหด
เขาสบตาวูจิน
“นั่ง”
“ครับผม”
ซุงกูหายเมา
นั่งที่อย่างรวดเร็ว ทั้งสองมองจีวอน เธอหลับไปหลังจากโดนกรอกเหล้าไปเยอะ
“อืม”
จีวอนขยับตัวเล็กน้อย
หมวกของเธอหล่น
“เอ๊ะ?”
ซุงกูขยี้ตาเหมือนนึกว่าตัวเองตาฝาด
แต่เขาไม่ได้ตาฝาดไป
ฝั่งซ้ายของศีรษะของจีวอนไร้เส้นผม
หนังศีรษะมีสะเก็ดแผลไม่น่ามอง รอยแผลยาวผ่านหน้าผากมาถึงตาซ้าย
“...”
----
ทำไมนิยายชอบเขียนถึงของกิน อยากกินต้มแซ่บอ่า
สงสารจีวอนอ่ะอยากได้นางเป็นนางเอกมากค่ะ
ตอบลบดูนางน้าจะนิสัยน่ารักนะ
#ขอบคุณค่ะ
สงสารจีวอนอ่ะอยากได้นางเป็นนางเอกมากค่ะ
ตอบลบดูนางน้าจะนิสัยน่ารักนะ
#ขอบคุณค่ะ
เป็นผู้หญิงที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงน้องค่ะ ยกนิ้วให้เลย
ลบ/หายไปนานก็ดีไปอย่างนะคะ ได้อ่านรวดเดียวหลายๆตอนเลย ^.^
อยากจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน ตอนทำแลปนี่อยากมากจินตนาการแต่ละฉากจนจะแต่งงานแล้วค่ะ 😂
ลบอยากจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน ตอนทำแลปนี่อยากมากจินตนาการแต่ละฉากจนจะแต่งงานแล้วค่ะ 😂
ลบโห ขนาดนั้นเลย O.o
ลบช่องนี้สีขาว?
ลบ